สาวออฟฟิต ออกตามฝันเป็น Makeup Artist ณ London ตอนที่ 3
ZeppBeautyDiary 33 9สาวออฟฟิต ออกตามฝันเป็น Makeup Artist ณ London ตอนที่ 3
สวัสดีค่ะทุกคน สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านครั้งแรก ลองติดตามตอนที่ 1 และ 2 จาก link ด้านล่างนะคะ
สาวออฟฟิต ออกตามฝันเป็น Makeup Artist ณ London ตอนที่1
สาวออฟฟิต ออกตามฝันเป็น Makeup Artist ณ London ตอนที่2
ไปต่อกันกับอาทิตย์ที่ 2 ของการเรียน อาทิตย์นี้จะต่างกับอาทิตย์แรก ตรงที่การแต่งหน้าจะเป็นด้านแฟชั่นมากขึ้น เซ็ปได้ลองทำอะไรแปลกๆเยอะเลยค่ะ แปลกแค่ไหน ไปดูกันเลย!
วันที่ 7 Body Painting เอาสีทาตัวมาสาดหน้าเลยจ้าาา
เช้าวันนี้ ทุกคนได้เตรียมตัวเตรียมใจและเสื้อแขนกุด มาเปลือยผิวให้เพิ่อนเพ้นกันเต็มที่ ครูวันนี้นางเป็นแชมป์การเพ้นตัวต่างๆมากมาย แต่มาสอนเบสิกมากๆ ตั้งแต่การเบลนสีโน่นนี่ ซึ่งบอกเลย ความสามารถด้านศิลปะเซ็ปเป็นศูนย์ Skillวาดรูปเซ็ปแย่มาก แม้กระทั่งลายมือเซ็ปก็เป็นที่ล่ำลือว่าน่าเกลียดสุดๆ แล้วจะให้มาวาดรูปบนตัว ไม่มีทางงง
หลังจากครูสอน ก็ให้จับคู่ เซ็ปให้เพื่อนวาดที่แขนเซ็ปก่อน พอเริ่มลงแปรงจิง เห้ย หนาวอ่ะ เพราะถอดเหลือแต่เสื้อกล้าม อิน้ำที่จุ่มก็เย็นเกิน นางก็เริ่มละเลงตั้งแต่ข้อมือ อะขึ้นมาเรื่อยๆ อะขึ้นมาถึงไหล่ อีกนิดนึงจะลงมาที่หน้าอกละ ดีนะหมดเวลาก่อน เซ็ปแบบ หึหึ จะให้ไปล้างที่ไหนนน ไม่แค่นั้น ตอนล้างจิงๆ ล้างไม่ออกจ้าาา ต้องขัดๆๆ ขัดไปก็คิดไป "เด่วรอก่อนๆ อย่าให้ถึงตาชั้น หึหึ"
อันนี้ดอกไม้ฝีมือเพื่อนค่ะ
แต่พอถึงตาตัวเองเปนคนวาด มันยากมากเลยอ่ะ เซ็ปวาดไม่สวยเลยยย ตอนแรกตั้งใจจะละเลงเต็มที่ สุดท้ายมัวแต่เฟวลายเส้นสุดน่าเกลียดของตัวเองอยุ่
อันนี้ฝีมือเซ็ป ชัดเลย...พัง...555555
ทั้งหมดนี่คือแค่ช่วงเช้า ช่วงบ่ายหนักกว่าอีก ครูให้เอาสีทาตัวมาทาหน้าาา เอาแปรงที่ทาตัวคนมาร้อยคนมาทาหน้า คุณพระะะะะ ในเมื่อไม่ทางเลือก ก้อต้องก้มหน้าก้มตารับความจริงไป
และนางคนเก่าก็ไม่เบาอีกแล้วจ้า เอาแปรงมากรีดขอบตาเลยยย ฟาดตาเซ็ปเป็นสีเหลือง ล้างไม่ออกไปวันนึง สวยๆ!
พอถึงตาตัวเองต้องวาดบ้าง วันนี้ค่อนข้างตันๆนะ อย่างที่บอกว่าไม่ถนัดแนวนี้ แต่ก้อต้องเปิดใจ ลองทำดู เลยลองทานางเป็นเสือแบบเบาๆ
และรูปผลงานเพื่อนบนหน้าเซ็ป จัดเต็มยั่งกะนกในป่าเขตร้อน -*-
วันนี้หลังจากที่ปฎิบัติเสร็จ นักเรียนทุกคนถูกเรียกมานั่งรวมกัน ดูซีเรียตมาก ครูเริ่มเล่าถึงกติกามารยาท การเป็นช่างแต่งหน้า การเริ่มสร้าง Portfolio การติดต่อกับช่างภาพ บราๆๆ ซึ่งทำให้เซ็ปช็อคมากกก นี่อารายย นี่ชั้นเพิ่งเรียน จะไล่ชั้นไปสู่โลกแห่งความจริงแล้วหรอออ
ครูบอกว่า ช่วงแรกที่เราทำ Port ต้องยอมทำงานไม่ได้ตัง ต้องยอมไปเปนผู้ช่วยช่างแต่งหน้าแบบไม่ได้ตัง แล้วมีคนถามว่า "นานแค่ไหนกว่าจะหาเงินได้จริงๆจากอาชีพนี้" "ครูตอบ 2 ปีค่ะ ระหว่าง 2 ปีนั้นก็กินแกลบไป" เซ็ปได้ยินละแบบ โคดดดหมดกำลังใจ 2 ปีบ้าหรออออ
ความจริงแล้ว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการมาเรียนที่นี่ครั้งนี้ ไม่ใช่การตัดสินใจออกจากงานมาเรียน แต่คือหลังเรียนจบ จะทำยังไงต่อ จะไปทางไหน จะหาเงินจากอาชีพนี้ได้มั้ย นี่ต่างหากที่น่ากลัวสุดๆ
แต่ในเมื่อเซ็ปเลือกที่จะก้าวมาแล้ว ถึงจะกลัวแค่ไหน ก็ต้องลองแหละโน๊ะ
วันที่ 8 Create look for runway กันเถอะ
วันนี้เริ่มวันแบบงงๆ เพราะครูสอนเป็นผู้ชาย มาถึงพูดอิลาเลี่ยนโน้แบบเบาๆ ฟังไม่รู้เรื่องเลยจ้าาา แต่นางมีเทคนิกการแต่งหน้าที่แปลกมาก ให้สก็อตเทปแปะแล้ววาดคิ้ว ใช้นิ้วทาสีต่างๆบนหน้าได้สวยมาก นางบอกว่าการแต่งหน้ามี 2 แบบ แบบเลอะไปเลย กับแบบเนี๊ยบไปเลย อย่าทำกลางๆ เพราะการแต่งหน้าคุณจะ Look Cheap! แรงปะหละะ
เครื่องสำอางที่ได้เล่นวันนี้ เป็นของ Dior ค่ะ :)
แล้วนางก็โยนกระดาษรูปแฟชั่นต่างๆให้ ส่วนมากเป็นรูปชุดขาว กับแฟชั่นแปลกประหลาดน่ากลัวเบาๆ แล้วบอกว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ Designer ส่งมาให้ ให้Create look ให้โชว์ชุดนี้ แล้วก็โยน face chart ให้ลองเอง
เซ็ปแบบยืนงงงันอยุ่สามนาที อารายยังไง face chart ระบายยังงายย แล้วจะเอารูปที่ครูให้มา มาสร้างlook ยังไง ก้อคิดๆๆ
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น วันนี้นางแบบชั้นเป็นคนดำ ผสมสีรองพื้นให้นางนานมากกก กว่าจะได้สีที่ถูกต้อง
จังหวะที่สนุกที่สุดน่าจะเป็นตอนทากรอสที่เปลือกตานาง แบบคิดอยุ่ว่า จะเข้าตามั้ยนะ แต่สิ่งนี้เห็นในนิตยสารมาหลายทีละอะ อยากทำบ้าง ชีวิตนี้คงไม่มีใครยอมให้ทำอย่างงี้ใส่ละ เลยฟาดกรอสลงตานางไปเบาๆ 555
สุดท้ายออกมาเงางามถูกใจ และไม่ไหลเข้าตา ต้องยกความดีความชอบให้ลิปกรอส Dior นะ
วันที่ 9 แต่งหน้าตามโจทย์ที่จับฉลากได้ในเวลา 1 ชม เริ่ม!
วันนี้ครูเริ่มด้วยการสอนแต่งหน้าผู้ชาย หลักการคือการแต่งให้ธรรมชาติที่สุด ปกปิดแค่จุดที่จำเป็น ปัดคิ้ว ดัดขาตาด้วยนะ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา โรงเรียนเพิ่งพานักเรียนไปแต่งหน้า Milan’s Mens Fashion Week ครูบอกว่า "ความจิงนายแบบก็ไม่ต้องปกปิดอะไรมากหรอก พวกเขาอายุแค่ 18 หน้าใสกิ๊ง" ฟังแล้ว อ่อยยยยย อยากไปปปป 5555
ต่อด้วยการแต่งหน้าผู้ใหญ่ ที่มีริ้วรอย ซึ่งที่ผ่านมาเข้าใจว่าตลอดว่าต้องใช้รองพื้นน้ำๆ จะไม่ไม่ตกร่อง แต่จริงๆแล้ว ใช้แบบครีมจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้ไหล แต่ต้องใช้คู่กับแปรง ปัดให้เบาบางที่สุด สิ่งที่ครูใช้คือ bobbi brown stick foundation ใช้ 3 สีเพื่อ Highlight และ contour ไปเลยทีเดียว ไม่แห้งไป ไม่มันไป ดูดีมาก แต่ต้องใช้กับแปรงเท่านั้นนะ ดูเป็นธรรมชาติมากจิงๆ
แต่สิ่งที่ชอบที่สุดคือ ครูโชว์การใช้แปรง รูปร่างเหมือนพัด แต่ปลายขนแข็งๆหน่อย ทามาสคาร่า! ซึ่งมันเหมาะกับคนมีปัญหาขนตาสั้น ขนตาบางมากก เอาไว้กดลงไปที่โคนขนตาให้ดูหนา แล้วค่อยปัดแบบปรกติ ดูหนาขึ้นมาทันทีเลย
อีกสิ่งที่ชอบมาก คือการเอาแปรงที่ใช้เบลนอายเชโด หัวฟุ้งๆ ไปทา concealor ใต้ตา ความจิงเคยเห็นคนทำแบบนี้แล้ว แต่ไม่ยอมลองเองสะที วันนี้ลองแล้วเห็นเลยว่า มันทำให้ concealor ไม่หนาเกินไป ที่ปัดเข้ากับรอยย่นใต้ตาได้ดีมาก ให้ผลที่แตกต่างกับการใช้แปรงหัวแบนๆทาโดยสิ้นเชิงเลย ต้องลองใช้นะ มันเลิศจิงๆ
วันนี้ช่วงบ่าย ครูให้จับฉลากโจทย์แล้วไป Create look ตามโจทย์ในเวลา 1 ชม เซ็ปจับได้ Dior Makeup campaign ก็คือแต่งหน้าสไตล์โฆษณาเครื่องสำอางดิออร์
นางแบบที่เซ็ปได้วันนี้ เป็นที่เลื่องลือว่านางร้ายและเรื่องมาก อาจจะเป็นเพราะนางอายุมากที่สุด นางชอบชี้นิ้วสั่งคนนั้นคนนี้ comment ทุกคนที่แต่งหน้าให้นาง จนบางทีนางไม่พอใน หยิบแปรงมาแต่งเองก็มี
วันนี้เซ็ปอยากได้ look ตาม่วงๆชมพูๆ กับผิว glow แบบมีชาติตระกูล ตอนแต่งไปนางก็บ่น เบ่ปากใส่ตลอดเวลา เซ็ปก้อพยายามยิ้มหวานๆ แล้วบอกนางว่าไม่เปนไร ชั้นขอลองดูหน่อยยนะ ยิ่งตอนจะลงไลเนอร์สีทองที่ตา นางจับมือห้ามเลย บอกยังไงก็ไม่เข้ากัน ไม่มีทาง พูดภาษาอังกฤษที่มี ร เรือ ใส่ตลอดเวลา เซ็ปก็ทำเป็นเบลอๆ ฟังไม่รุเรื่อง เพราะเซ็ปคิดว่า ยังไงก็ต้องออกมาสวย! ออกมามันก็ดูดีนะ แต่นางไม่วายเบ่ปากใส่อีก 1 ที
แต่จังหวะเด็ดคือตอนเก็บแปรง นางเคลมว่าแปรงอันนี้ยังไงก็เป็นของนาง เซ็ปแบบเห็นๆอยู่ว่าหยิบจากของชั้นมา นางก้อรัวภาษาอังกิด ร เรือกระดกลิ้นเร็วๆใส่ ก้อเถียงกันไปมาซักพัก สุดท้ายเซ็ปไม่อยากมาทะเลาะเรื่องแค่นี้ เลยพูดว่า "นี่เห็นอยุ่ชัดๆว่าเป็นของชั้น แต่ถ้าอยากได้ก็เอาไปเถอะ" นางก้อตอบว่า ไม่อยากได้ที่บ้านมีเยอะ บลาๆ แล้วหยิบใส่กระเป๋า สวัสดี…
ตอนจบของclass ครูให้นักเรียนมายินเรียงกัน แล้วถามว่าที่แต่งหน้านางแบบแบบนี้เพราะอะไร เซ็ปเลยตอบสั้นๆ ว่า "I want her to look more EXPENSIVE!!"
วันที่ 10 Glitter and texture
วันนี้ครูสอนการใช้กากเพชรแต่งหน้า ในห้องเรียนมีกากเพชร ขนนก ลูกปัด หลากสีหลายแบบมากก ให้ทุกคนลอง create look เอง
เซ็ปลองผสมกริตเตอร์สองสี ออกมาเป็นตาเงินๆม่วงๆ บวกกับเส้นไลเนอร์สองชั้น หางตาใส่เพชรเม็ดเล็กๆ ต่อขนตาที่ปลายตา กับสีปากที่มาจากกลิตเตอร์สีชมพู จัดเต็มสุดๆ
แต่ดูที่นางแต่งเซ็ปสะก่อน Colorful มากกกพูดเลย ไม่ต้องถามถึงตอนล้าง สนุกทีเดียวเชียวแล
วันที่ 11 แต่งหน้า look 1960s กันเถอะ และ มหากาพย์ shopping day
เช้าวันนี้ครูพานักเรียนทุกคนไปช็อปปิ้ง MAC, Benefit, Bare Mineral โดยที่นักเรียนทุกคนจะได้ส่วนลด 35% เพื่อสร้าง Starter Kit ของตัวเอง แต่เวลาที่ให้น้อยมากค่ะ แค่หนึ่งชมใน Mac Pro Shop เราเลยต้องทำ list ไปก่อน เพื่อความรวดเร็ว หลักๆที่เซ็ปซื้อก้อเปนพวกลิปสติก (สี signature ทั้งหมด ทุกวันนี้ยังโกดตัวเองอยุ่ ว่าซื้อมาทำมายยย) บรัช รองพื้น แป้ง ก้อหลายอย่างอยู่นะ เดินออกมามึนเลย เหมือนโดนไรตีหัว ตัวลีบแบน และยังขาดอีกหลายอย่าง ที่แหละที่ทำให้มึนหนัก เครื่องสำอางที่ลอนดอนไม่ถูกเลยเมื่อเทียบกับบ้านเรา บางอย่างแพงกว่าอีก ที่ซื้ออะไรจากอังกฤษ ลองเทียบราคาก่อนนะคะ
ทั้งหมดที่ได้จาก shopping day กรุณาอย่านับและประเมินราคา 555 จะเป็นลม
หลังจากซื้อของเสร็จ นักเรียนมีเวลา 10 นาที หาไรยัดปาก แล้วเข้าเรียนต่อ บางทีก้ออยากถามคนจัดคอร์สว่า รีบอารายทุกสิ่งในชีวิตเนี้ยย ชั้นเหนื่อยยย
บ่ายวันนี้เราเรียนแต่งหน้าตามยุคต่างๆ เซ็ปเลือกแต่งตามยุค 1960s เพราะเห็นในหนังสือเขียนไลน์เนอร์สองชั้นมานานแล้ว อยากทำมั้งงง 555 ผลที่ออกมาก็พอใจนะ ต้องยกความดีความชอบให้ Bobbi Brown Stick Foundation ผิวออกมาธรรมชาติสวยมากจิงๆ
ส่วนเพื่อนวันนี้เเต่งเซ็ปเป็นยุค 80s สาดสียังกะนีออน เซ็ปแบบ เคยซักวันมั้ยที่ชั้นจะได้เดินออกโรงเรียนแบบคนปรกติ
วันที่ 12 The Shooting day! วันนี้ชั้นได้เป็น Makeup Artist จริงๆ และได้รู้ว่ายิ่งโตชีวิตก็ยิ่งยาก
วันนี้เป็นวันที่ตื่นเต้นที่สุดวันหนึ่งเลยค่ะ หลังจากเรียนมา 2 อาทิตย์ โรงเรียนก็จ้างนางแบบจริง ช่างภาพจริง มาให้นักเรียนทุกคนแต่งหน้าเพื่อเก็บไว้เป็น Portfolio พูดเลยว่ากดดันมาก กลัวออกมาไม่ดี เพราะเซ็ปต้องใช้ภาพนี้ในการหางานต่อไป
ซึ่งโรงเรียนได้บอกไว้ก่อนแล้ว ว่าบังคับให้ทำ 2 looks คือ Makeup no makeup ( เป็นเหมือนLookพื้นฐานที่ Makeup Artist ทุกคนต้องทำเป็น ) และFashion Editorial( Look แบบที่เห็นในนิตยสารอะค่ะ )
นักเรียนทุกคนถูกสั่งให้ไปทำการบ้านมาก่อนวันจริง ทุกคนต้องทำ Mood board รวบรวมสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจ Look ที่อยากทำ
อันนี้ mood board เซ็ปค่ะ
แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ โรงเรียนไม่บอกเราก่อนว่าเราจะได้นางแบบหน้าตาแบบไหน ซึ่งอาจจะได้คนดำก็ได้!
เซ็ปพูดจริงๆ ว่าโรงเรียนนี้ไม่ใช่แค่โรงเรียนสอนแต่งหน้า แต่เป็นโรงเรียนดัดนิสัย! เขาพูดเสมอว่าห้ามสาย ห้ามตาย ห้ามขาด นี่คือการเป็น Makeup Artist
ก่อนเซ็ปมาที่นี่ เซ็ปเป็นคนเลทตลอดค่ะ สิบนาทีสวยๆ แต่พอมาที่นี่รู้เลยว่าความรับผิดชอบ อนาคตทุกอย่างอยุ่กับมือเรา ไม่มีใครเห็นใจกับข้ออ้างใดๆของเรา คนที่สายจะได้สิ่งที่แย่ที่สุดเสมอ!!
เซ็ปก้อแหกขี้ตาตื่นแต่เช้า หน้าไม่แต่ง พุ่งตัวออกจากบ้าน แบกกระเป๋าเครื่องสำอางที่หนักว่าถุงข้าวสาร3ถุง ผ่าฝนและอากาศหนาว เวลาที่ฟ้ายังไม่สว่างเลยไปโรงเรียน พอไปถึง ก้อมีนางแบบมารอกับเพื่อนสองคน เซ็ปเลยบอกเพื่อนว่า ขอนางแบบเอเชียนะ ซึ่งความซวยตกอยู่กับเพื่อนอีกคน ซึ่งนางมาสาย แค่ 10 นาทีนะ แต่ก้อคือสาย ไม่มีทางเลือก นางเลยต้องเอานางแบบคนดำไป
คือเห็นเลยว่านางเฟวมาก เรื่องนี้ยิ่งย้ำว่าการออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ความรับผิดชอบและเวลา สำคัญจริงๆ เซ็ปก็ไม่รู้จะทำยังไง เซ็ปไม่สามารถเปลี่ยนนางแบบกับเพื่อนได้จริงๆ เพราะเซ็ปไม่รู้จะเอารูปคนดำกลับมาใช้งานที่บ้านเราได้ยังไง...
แต่เมื่อเวลาวิ่งไปทุกนาที เราก็ต้องยอมตัดทุกอย่างออก และโฟกัส!! เซ็ปต้องตัดความคิดว่าเขาเป็นนางแบบออกไปด้วย เพราะไม่งั้นมือสั่น ทำไรไม่ถูก 555
Look 1 Makeup no Makeup
เซ็ปต้องการให้ผิวออกมาฉ่ำๆ เกาหลีๆ ด้วยความที่หน้านางแบบเป็นผื่นแดงๆ และแห้งมากกก ต้องย้ำรองพื้น และตบให้เข้าผิวกันอยู่นาน รองพื้นที่ใช้คือ face and body ของ mac ตัวนี้เคยบอกแล้วว่าเวลาทา มันดูเป็นผิวเราจริงๆ เวลาถ่ายรูปยิ่งสวยเลย
Look 2 Fashion Editorial
จาก Mood board เซ็ปต้องการให้ Look ออกมาเป็นตาแดงผสมดำ วาวๆด้วยลิปกรอสบนเปลือกตา ปากแดงๆดำๆ เซ็ปก้อฟาดลงไปอย่างสนุกสนาน พอเส็ดลงไปหาช่างผม เขาด่าเลยจ้าว่าเยอะไป จะให้ลบปาก เซ็ปแบบ บ้าหรอลบปากแดง เละแน่ไม่ต้องสืบ เซ็ปก้อใช้ Mood board ยันว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องการจริงๆ เซ็ปให้ใช้วิธีแก้ด้วยการทำให้หน้า Matt และปาก Matt กว่าเดิม ให้ไปฉ่ำแค่ที่ตา ซึ่งออกมาเซ็ปชอบนะ
รูปพวกนี้เป็นรูปที่ยังไม่ได้ retouch นะคะ คืออย่างที่เห็น การแต่งหน้ากลบสีที่เราไม่ต้องการได้ แต่กลบรอยนูนไม่ได้ค่ะ เซ็ปต้องจ่ายตังเพิ่มเพื่อเอารูปเป๊ะๆแบบในนิตยสาร ภาพละเกือบ 3000 เลยว่าจะทำเอง แต่ยังทำไม่เป็น 555
สัปดาห์หน้าคอร์สจะเป็นเรื่องทำผมละค่ะ นี่แค่ 2 อาทิตย์นะ แต่มีอะไรเกิดขึ้นเยอะมากกก 555
ตอนต่อไปสัปดาห์หน้า อย่าลืมติดตามนะคะ :)
https://www.facebook.com/ZeppBeautyDiary