review 4 สิ่งที่ได้มาจาก ' Charlotte Tilbury ' ลอนดอนค่ะ
bt.pandanus 29 5สวัสดีค่ะ วันนี้เตยจะมารีวิวเครื่องสำอางที่สาวๆกำลังกรีดร้องกับมันกันมากมาย ^____^
เนื่องจากเดือนมีนาที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปดูฟุตบอลเป็นเพื่อนคุณพ่อที่ลอนดอน เลยแอบแวะเคาท์เตอร์ Charllotte Tilbury ที่นู่นมาด้วยเลย
แล้วก็ได้ของติดไม้ติดมือมาตามประสาสาวๆ (โดยมีคุณพ่อเป็นสปอนเซอร์หลัก แฮ่ๆ)
มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเราได้อะไรกันมาบ้าง
อ่อ บางคนอาจรู้สึกๆคุ้นๆกระทู้นี้ เตยเคยเอาไปลงในพันทิปแล้วนะคะ แต่วันนี้จะเอามาลงจีบันอีกที ^^
เนื่องจากเดือนมีนาที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปดูฟุตบอลเป็นเพื่อนคุณพ่อที่ลอนดอน เลยแอบแวะเคาท์เตอร์ Charllotte Tilbury ที่นู่นมาด้วยเลย
แล้วก็ได้ของติดไม้ติดมือมาตามประสาสาวๆ (โดยมีคุณพ่อเป็นสปอนเซอร์หลัก แฮ่ๆ)
มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเราได้อะไรกันมาบ้าง
อ่อ บางคนอาจรู้สึกๆคุ้นๆกระทู้นี้ เตยเคยเอาไปลงในพันทิปแล้วนะคะ แต่วันนี้จะเอามาลงจีบันอีกที ^^
มาดูภาพหมู่ 4 สาวกันก่อน มีใครหมายตาตัวไหนไว้บ้างมั้ยคะ ^^ ?
เริ่มกันที่ตัวแรกเลยนะคะ
FILMSTAR BRONZE & GLOW
ตัวนี้เป็นตัวแรกเลยที่ได้ใช้ก่อนที่จะมาลอนดอนด้วยตัวเอง เพราะกรีดร้องตามบล็อกเกอร์หลายๆท่าน
เรามันก็เป็นพวกแพ้แพคเกจ คลั่งในความงามก็เลยฝากญาติที่อยู่นู่นซื้อแล้วส่งมาไทย
แพคเกจสวยงามตามคำล่ำลือค่ะ เป็นสีทองแดง และตลับค่อนข้างแข็งแรงเลย ประทับใจตรงนี้
มาดูด้านในกันค่ะ เปิดออกมาเป็นแบบนี้
ฝั่งซ้ายจะเป็นตัวบรอนเซอร์ และฝั่งขวาจะเป็นตัวไฮไลท์เตอร์ค่ะ
มาดูฝั่งบรอนเซอร์กันก่อน
สีของบรอนเซอร์เราว่าคล้ายกับนาร์ส ลากูล่ามากๆค่ะ แต่ต่างกันตรงที่เนื้อสัมผัส
โดยชาลอตจะให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มมากกกกกกกก
คือพอแตะลงไปปุ๊ป มันจะติดนิ้วนวลๆขึ้นมาเลย ไม่ต้องขูด ไม่ต้องถู คือมันนิ่มนวลดีมาก
ข้อดีคือมันทำให้สีติดง่ายดี และสีนางไม่ดรอประหว่างวันค่ะ
ส่วนข้อแตกต่างอีกอย่างคือนางมีชิมเมอร์ค่ะ เป็นสีทองละเอียดสุดๆ
ตัวนี้ปัดออกมาจะได้สีน้ำตาลทองบ่มแดดนวลๆ
แต่แน่นอนว่านางก็มีข้อเสีย คือเลือนหายไประหว่างวัน หน้ามันๆครึ่งวัน ดั้งหายไปแล้ว TT
ต่อมามาดูกันที่ฝั่งไฮไลท์เตอร์กันนะคะ
โอเคในรูปสีเข้มมาก ของจริงไม่เข้มขนาดนี้ แต่ก็เข้มกว่าไฮไลท์ปกติเยอะเลยค่ะ
เปิดมาครั้งแรกนี่ตกใจว่า เฮ้ย .. ไฮไลท์จริงหรอ
แต่มันก็มีข้อดีของมันคือมันเล่นไฟสุดยอดมาก
หน้าเราเวลาปัดเจ้านี่ลงไปแล้วกระทบแสงคือมันจะไม่มีมุมที่เป็นกากเพชร
แต่จะให้ลุคหน้ามันๆ โกลว์ๆ งานละเอียดแบบเจนี่ เทียน ที่จะทองๆวาวๆ บ่มแดดๆ
คือสวยงามค่ะถ้าคุณชอบลุคแบบนั้น
แต่ก็มีปัญหาที่พบคือ
1. มันเปนบรอนเซอร์และไฮไลท์ที่มีประกายที่ละเอียดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ทำให้ปาดนิดเดียวหน้าจะดูมันแผล่บ(แต่สวย)
ซึ่งคนที่หน้ามันอยู่แล้วหน้าจะยิ่งเลื่อมหนักเข้าไปอีกค่ะ
อาจจะทำให้ผู้ชายที่ไม่ get การแต่งหน้าตกใจมาก (ส่วนตัวเคยมาแล้ว)
ปัญหาประการที่ 2 คือ โทนสีมันไม่เหมาะกับหน้าเราซึ่งขาวจีนขาวจัด
เพราะสีมันค่อยข้างจะ sun kiss คือจะเจือน้ำตาล ทองแดงนิดๆ
แม้แต่กับตัวไฮไลท์เองด้วยก็ยังเจือน้ำตาล เราใช้แล้วหมอง
แต่ก็ทำให้เรารู้สึกว่ามันจะเสริมบารมีมากๆกับคนผิวคล้ำถึงสองสีค่ะ
จะได้หน้าเจนี่ คือโกลว์ ทอง แบบไม่ใช่ทองเกาหลีวิ๊งงานปิดทองลูกนิมิต
คือสวยมาก สวยจริงๆ ใครผิวสองสีแนะนำให้ไปฟาดค่ะ
ดูสวอชสีกันสักหน่อยค่ะ
ข้างบนเป็นไฮท์ไลท์ ข้างล่างเป็นบรอนเซอร์ จะเห็นว่าปาดนิดเดียวไฮไลท์ก็เล่นแสงได้อย่างงามงด
_____________________________________
ตัวต่อมานะคะ
บลัชออน CHEEK TO CHIC สี LOVE GLOW
มาในตลับสี ... สีอะไรไม่รู้ น้ำตาล ม่วงๆ อะไรไม่รู้แหละค่ะ
แต่ผิดหวังมากตรงที่ .. ตลับเป็นพลาสติกเบาๆ ไม่แข็งแรงเหมือนตัวบรอนเซอร์
เลยดูไม่หรูหราสักเท่าไหร่
มาดูข้างในกันค่ะ
ชะแว๊งงง ... เปิดออกมาแล้วเป็นแบบนี้ มีกระจกน้อยๆให้หนึ่งบาน และบลัชออนอีก 2 สีในหนึ่งตลับ
ตรงขอบบลัชออนเป็นสีทองปั้มคำว่าชาลอตทิวเบอรี่และมีดาวเล็กๆหนึ่งดวง
ซึ่งก็แอบเห็นมีที่กล่องอายไลเนอร์ด้วย
ไม่รู้ว่าเป็นกิมมิกอะไรของแบรนด์รึเปล่า แต่ก็ช่างมันเถอะค่ะ เรื่องของเค้า 5555
มาดูเนื้อกันซูมๆ ชัดๆ
นื้อบลัชออนจะแข็งกว่าตัวบรอนเซอร์สักนิดหน่อยในความรู้สึกเรา
แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปนุ่มนวลเหมือนเดิมถ้าไปเทียบกับยี่ห้ออื่นๆแล้ว
สีติดง่ายม๊ากกกกกกกกกกกก ค่ะ ใช้แปรงเรียลเท็กนิคซึ่งเป็นขนสังเคราะห์ปัดสีก็ติดกันมา
ทะลักทะเลือกแล้ว เวลาปัดให้ระวังค่ะ
บลัชออนเค้าก็มีกิมมิกอีกเช่นกันคือมีสองสีนะ เค้าก็บอกว่านี่ยูนะ ยูปัดสีนี้ก่อนนะ
(คุยกับบีเอผิวสีคนสวยรูปแรกนั่นแหละค่ะ)
โดยการวนแป้งที่วงกลมรอบนอกก่อนนะยู แล้วก็ปัดที่ชีคโบนนะ
แล้วยูก็แตะที่สีตรงกลาง แล้วก็แตะไปที่แอปเปิ้ลชีค แล้วเนี้ยนะยู แก้มก็จะโกลว์เปล่งปลั่ง
เอาจริงๆก้อยากจะอวยว่ามันเปล่งปลั่งดีเลิศนะคะ
แต่ว่า ก็แยกไม่ออกอยู่ดีว่าที่หน้านี่ปัด 2 สีแล้ว มันก็ดูเหมือนๆกันไปหมด
ไม่เชื่อดูสวอชกันค่ะ
เรียงจากซ้ายไปขวานะคะ สองสีผสมกัน > สีวงนอก > สีวงใน
เห็นความต่างมั้ยคะ ... เตยก็ไม่เห็นค่ะ 555555
แต่ที่เห็นก็คือมันก็สวยดีค่ะ เป็นสีชมพูเจือวิ๊งทองละเอียดๆที่สวยมาก
แล้วก็โกลว์อย่างที่เจ๊แกบอกค่ะ
อย่างไรก็ตามก็ต้องใช้กันแบบพอดีๆเหมือนกันค่ะ เพราะถ้าบลัชก็โกลว์
บรอนเซอร์ก็โกลว์ ไฮไลท์ก็โกลว์ ชีวิตคงดูน่ากลัวค่ะ
ผู้ชายจะคิดว่าเราไปปิดทองฝังลูกนิมิตมา
(เคยโดนผู้ชายทักจริงๆแต่ไม่ใช่กับบลัช เราจะเล่าในตัวถัดไป)
ข้อเสียคืออยู่ไม่ทนอีกแล้วค่ะ ครึ่งวันก็หาย ไม่เป็นลูกรักเท่าไหร่
(โดยส่วนตัวเตยชอบคสอ.ที่ทนๆค่ะ แต่งครั้งเดียวแล้วจบ)
______________________________
อายไลน์เนอร์ ROCK 'N' KOHL สี BEDROOM BLACK
ตัวนี้เป็นตัวที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อค่ะ แต่ตอนเดินอยู่ที่selfridgesเพื่อนสาวไลน์มาบอกว่าซื้ออันนี้ให้หน่อย
นี่เค้าบอกกันว่ามันดีมากกก มันทนมากกกกเลยนะเตย บลาๆ
ตัวเตยเองก็บ้าจี้ สงสัยต้องดีมากแน่ๆ ไปลองดีกว่า
ไปถึงเคาท์เตอร์ก็บอกให้บีเอช่วยลองให้หน่อย บีเอก็น่ารักมากค่ะ เชียร์เก่งที่สุดในโลก
เนี้ยนะยู จะลองตรงไหนดี เปลือกตารึใต้ตา ด้วยความมั่นใจในประสิทธิภาพ บอกนางไปเลย ใต้ตาค่ะ
ระหว่างลองไปนางก็กล่อมไปว่า นี่นะยู ดินสอของเราเนื้อนิ่มมาก
ไม่เจ็บเวลาเขียน ลื่น แล้วก็สีติดง่ายคมชัด
ติดทนมาก รับประกันเลยค่าาาาาาาาายู
ยอมรับว่าเคลิ้มค่ะ ตอนลองก็เฮ้ย สวยอ่ะะะ นิ่มมากไม่เจ็บไม่เคืองตาเลยเวลาเขียน เหมือนนางบอกเป๊ะ!
เรียกพ่อมาช่วยชื่นชมอีกคน พ่อก็ชมไปตามมารยาท (จริงๆแกคงรำคาญว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ)
ก็ได้มาแท่งนึงสบายใจ
แต่หายนะมันมาหลังออกจากselfridgesแล้ว
ในขณะนั้นลอนดอน 6 องศาค่ะ แต่ผ่านไปแค่ 3 ชม.นี่พ่อนึกว่าอยู่สวนสัตว์เชียงใหม่ แพนด้ามากกก
แพนด้าไม่พอ ไหลเข้าตาอีก แสบแบบจะตาย ทรมานมากๆค่ะ TT
สวอชนางค่ะ สีเข้ม เนื้อนุ่มดีไม่มีปัญหา ติดแต่ว่าไม่เห็นจะทนเลยอ่ะ หลอกดาวชัดๆ
แต่ว่าถ้าใครไม่มีปัญหาหน้ามัน ก็น่าสนใจค่ะเพราะว่ามันลื่นเขียนง่ายไม่เจ็บตา
เป็นคุณสมบัติที่อายไลเนอร์ที่ดีควรมี
ปล. แต่บอกก่อนว่าเตยเป็นคนที่อะไรก็อยู่ไม่ทนนะคะ ทั้ง in2it, urban decay, catrice, mei linda
อะไรที่เค้าว่าอึดเจอแล้วจอดหมด
ต้องไลเนอร์แบบฟิล์มเท่านั้น อ่อ มีตัวนึงรอดค่ะแบบดินสอ ของsephora 350 บาท
ซื้อมาลองขำๆแต่ดีซะงั้น
________________________
ตัวสุดท้ายที่เราประทับใจที่สุด
ไฮไลท์ทองคำ BAR OF GOLD
สิ่งนี้เห็นครั้งแรกจากบล็อกเกอร์คนสวยพี่ทราย feonalita ค่ะ
ตอนแรกไม่คิดจะซื้อเพราะว่าคิดว่าคงจะชนกับตัว FILMSTAR BRONZE & GLOW ตัวแรกที่รีวิวไป
แต่ก็ .. ยอมรับว่าชอบแพคเกจค่ะ เลยขอบีเอดูสักหน่อยนึง >,<
หน้าตานางเปิดก็เป็นแบบนี้
สวยจางงงงงงงงงง ดูเผินๆสวยจางเลยยยยย
แต่ !!! ท่านผู้ชมดูตรงส่วนข้อต่อดีๆ เห็นอะไรมั้ยคะ ?
คือแพคเกจมันเหมือน กระดาษ .. แล้วเอาฟลอยด์ๆมาหุ้มอีกทีค่ะ
เลยจะเห็นว่าตรงข้อต่อเหมือนรอยกระดาษพับ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น
เสียใจมาก รูปภาพที่เห็นในเน็ทดูแข็งแรงหลอกตาสุดๆ
แต่ก็ทำใจเพราะเราไม่ได้ใช้กล่องทาหน้าอยู่แล้ว มองข้ามไปก็ได้ (แม้จะเจ็บปวด)
บ่นเสร็จแล้วมาดูกันต่อค่ะ สีนางแตกต่างกับ FILMSTAR BRONZE & GLOW โดยสิ้นเชิง
อย่างที่บอกในตอนแรกค่ะว่าตัว FILMSTAR BRONZE & GLOW สีมันเข้มไปสำหรับเราซึ่งขาว
แต่ตัวนี้ตอบโจทย์มาก
สีมันจะเป็นทองขาวๆเลย ไม่บรอนซ์ เป็นไฮไลท์ที่สวยมากๆเลยค่ะ
เหมาะกับคนผิวขาวจีนๆที่ไม่ชอบให้ดูผิวคล้ำ
แต่ติดนิดหน่อยตรงที่มันจะเห็นเป็นกากเพชรมากกว่าตัว FILMSTAR BRONZE & GLOW
ที่จะให้ลักษณะเป็นชิมเมอร์ละเอียดๆ
ดูสวอชกันค่ะ
ดูในแสงไฟสีขาวกันบ้าง
จะเห็นว่าตัว BAR OF GOLD จะมีเม็ดสีที่ไม่ชัดเท่าตัวแรก เนื้อจะโปร่งกว่า แต่เล่นแสงได้ดีกว่า
ระยิบระยับกว่า เพราะชิมเมอร์มีขนาดใหญ่กว่านั่นเองค่ะ
ข้อดีของมันคือปัดได้ทั้งตัวค่ะ เล่นแสงสวยมากดี แล้วก็หน้าจะไม่ดูมันเลื่อมเท่าตัวแรกเพราะอย่างที่บอก ชิมเมอร์ละเอียดไม่เท่า
แต่เพราะมันนี่แหละ ทำให้ผู้ชายทักว่าก่อนมาหาเราเธอไปวัดมาหรอ
.. ทองๆติดแก้ม
แต่สาวๆบอกว่าสวย เราเชื่อสาวๆของเราค่ะ 55
และอีกอย่างคือ ติดทนมากจนงง เช้ายันเย็นยังอยู่ครบสภาพเดิม หน้าโกลว์สวยงาม
เหมาะกับสาวๆที่ชอบไปปาร์ตี้หรือบ้ากล้องค่ะ ถ่ายรูปออกมาสวยงามนักแล
____________________________________________
1. เนื้อสัมผัสผลิตภัณฑ์ทุกตัวเป็นที่ประทับใจค่ะ นุ่ม และติดผิวง่ายแม้จะใช้แปรงขนสังเคราะห์ปัดก็ตาม
2. เลือนง่ายไปสำหรับเรา เพราะราคาขนาดนี้ เราคาดหวังที่จะเห็นประสิทธิภาพความคงทนมากกว่านี้
แต่ไม่เลย อยู่ได้เท่ากับเครื่องสำอางทั่วๆไป แถมอาจแพ้หลายๆยี่ห้อ
3. แพคเกจดีบ้างไม่ดีบ้าง สำหรับเรามีโอกาสใช้เครื่องสำอาง hi-end หลายๆแบรนด์
ยกตัวอย่างชัดๆอย่างชาแนลและเบอเบอรี่
สองสาวนี่แพคเกจเค้าจะสวยและแข็งแรงมากทั้งคู่ ไม่มีที่ติทุกชิ้นเลยสำหรับผลิตภัณฑ์ของเค้า
แต่ชาลอตซึ่งราคาจัดว่าสูสีกับสองแบรนด์นี้กลับมีบางอันห่วยแตก เลยเซ็งๆค่ะ
4. ต้องยอมรับว่าสีของเครื่องสำอางเค้าสวยจริงๆค่ะ ชิมเมอร์ทำออกมาสวยละเอียดนุ่มนวลมากๆ
5. ราคาสูงค่ะ ถึงเราจะไปซื้อถึงถิ่นก็ยังว่าแพงมากอยู่ดี คิดดีๆก่อนซื้อเพราะว่ายี่ห้ออื่นที่สีแบบนี้ก็ยังมี
ไม่ได้unique ทน ดีเว่อร์อะไรขนาดนั้น
สำหรับวันนี้ หมดแล้วจริงๆค่ะ ขอบคุณที่ติดตามชม
ยังไงก็เลือกดูตามวิจารณญาณแล้วกันนะคะ หน้าแต่ละคน ผิวแต่ละคนต่างกัน ผลที่ได้อาจจะต่างกันออกไปค่ะ
สวัสดีค่า ^_______^