[Face] Review : รีวิวแป้งฝุ่น 5 แบรนด์ที่ใช้ประจำ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
Bucciime 43 18สวัสดีค่า ทุกคน ตังเมจ้า
นึกขึ้นได้ว่าสิ่งนึงที่เราใช้ตลอดเวลาแต่งหน้าคือ แป้งฝุ่น
แล้วทำไมเมแทบไม่ได้รีวิวเลย -O- วันนี้เลยมาตอบโจทย์ตรงนั้นเลยฮะ
สำหรับแป้งฝุ่นเนี้ยเรียกได้ว่าตั้งแต่มือใหม่หัดแต่งไปจนถึงช่างแต่งหน้ามืออาชีพ
ยังไงก็ขาดนางไม่ได้เนอะ หน้าที่หลักๆของเค้าก็คือ
ช่วยเซตและล็อคเบสเมคอัพที่เราลงไว้ต่างๆมากมาย
ให้อยู่กับไม่เลือน หลุด เลอะระหว่างวัน โดยที่ไม่ไปกลบหรือรบกวนงานผิวที่เราทำไว้ก่อนหน้านี้
หรือจริงๆถ้าไม่ได้แต่งหน้าอะไรแน่น วันไหนอยากพักหน้าการลงแป้งฝุ่นบางๆ
ก็ทำให้หน้าเราดูนวลเนียน ปรับผิวให้ดูสดใสขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติฮะ
จริงๆในกรุเมมีแป้งเยอะมากนะ ใช้สลับกันไปมาให้วุ่น แต่วันนี้ขอดึงเฉพาะบางตัวที่น่าสนใจ
ใช้แล้วชอบ ใช้พรุน ใช้จนพัง และทุกตัวมีคุณสมบัติเหมือนหรือต่างกันชัดเจนมาพูดก่อนละกันนะฮะ
เป็นคนผิวผสมค่อนแห้งนะ เลยจะใช้หลายๆแบบสลับผสมกันบ้าง ไปฮะ!!!
LAURA MERCIER LOOSE SETTING POWDER #TRANSLUCENT
แป้งตัวนี้แน่นอนว่าดังมากกก เป็น Must Have ของใครหลายๆคน
มาในลักษณะกระปุกที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป กำลังดี แต่ก็ยังไม่เหมาะกับการพกพานะ
ปริมาณที่ให้มา 29g ถือว่าเยอะมากเลย ใช้ได้นานสุดๆ
ราคา 1,950 บาท จะว่าแพงก็แแพงฮะ แต่ด้วยคุณสมบัติต่างๆของเค้าเมว่าคุ้มอยู่
ราคาก็อาจจะมีเปลี่ยนแปลงบ้างแล้วแต่โปรโมชั่น หรือช่วงไหนเค้าจัดเซ็ตเมว่ามันก็น่าลงทุน
เปิดมาก็จะเจอกับตัวกรองเลย ไม่มีพัฟมาให้ในตัวส่วนตัวแล้วเมมักใช้คู่กับแปรง
หรือขโมยพัฟจากกระปุกอื่นมา ฮ่าๆๆ ตัวนี้ตามที่เค้าเคลมคือเป็น Translucent Powder
คือเป็นแป้งที่โปร่งแสง ไม่มีสี สามารถใช้ได้ทุกสีผิว สำหรับใครที่กังวลเรื่องสีก็หมดห่วงได้เลย
โคลสอัพบนผิวกันอีกที เม Swatch เลียนแบบลักษณะการใช้จริงของเม
ด้านซ้ายคือ Swatch ทาแป้งแบบแพ็คเยอะๆแน่นๆนะฮะ (คล้ายการใช้พัฟกด)
ส่วนพื้นที่ด้านขวาคือเมื่อเมปล่อยให้มันเซ็ตแล้วใช้แปรงปัดส่วนเกินออก
เนื้อแป้งมีความละเอียดดี สีแป้งจะออกอมเบจนิดหน่อย
ไม่มีกลิ่น ไม่มีชิมเมอร์ สามารถปรับสีผิวให้สว่างขึ้นได้
ช่วยเซ็ตผิวให้ดูแมต ดูดซับความมันได้ดี เหมาะสำหรับใครที่อยากได้ลุคแมตๆ ผิวค่อนข้างมัน
ตัวนี้ก็จะตอบโจทย์ ส่วนตัวเมชอบนะถ้าวันไหนต้องการความทนหน่อยก็จะใช้ตัวนี้
แต่ถ้าใช้ปริมาณเยอะเกินไป เมว่ามันดูด้านๆและตกร่องง่ายนิดนึง ใช้แปรงจะเป็นปริมาณที่เหมาะที่สุดฮะ
SRICHAND POWDER แป้งศรีจันทร์
ตัวนี้เข้ามาอยู่ใน Routine การแต่งหน้าได้แบบงงๆฮะ
เริ่มใช้เพราะการรีแบรนด์ใหม่ของเค้าและโฆษณาล้วนๆ
หน้าตามาเป็นแบบกระปุกเช่นเดียวกัน ดีไซน์แบบไทยๆที่เมว่าสวยดี
ขนาดกะทัดรัดไม่เล็กไม่ใหญ่ พกพาง่าย
ปริมาณที่ให้มา 10g ราคา 280 บาท ทั้งหมดทั้งมวลมาแบบเป็นมิตรมาก จับต้องได้สบายกระเป๋า
เปิดก็จะเจอพัฟและตัวกรองฮะ แต่ต่างจากแบรนด์อื่นตรงที่
ตัวกรองสามารถหมุนล็อคเปิดปิดควบคุมปริมาณได้
ส่วนพัฟเค้าก็จะค่อนข้างบางและแน่น เมว่าขนาดเล็กไปนิดนึงแต่ก็ใช้งานระหว่างวันได้ดีพอใช้ฮะ
ถ้าพูดถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เมว่าทำได้ดีมากเลยดูมีอะไรน่าสนใจ
เนื้อแป้งตัวนี้เป็น Translucent Powder เหมือนกัน
แป้งมีสีขาวอมเหลืองอ่อนๆ ไม่มีชิมเมอร์ ไม่มีกลิ่น
ความละเอียดตัวนี้ก็ถือว่าใช้ได้ฮะ Swatch แล้วก็จะเห็นได้ชัดเลยว่าสีค่อนข้างสว่าง
ทาแล้วปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้นได้ (สว่างกว่าลอร่าด้วยฮะ) เนื้อแมต คุมมัน ดูดซับความมันได้ดี
ตัวนี้ถือว่าเป็นตัวตายตัวแทนของลอร่าได้เลยนะ ให้ความรู้สึกที่คล้ายกัน
ถ้าแพ็คแน่นมากไปเมว่าก็อาจจะดูด้านๆและตกร่องได้บ้างฮะ เหมาะกับคนผิวมัน
ต้องความเป๊ะแน่น และสีผิวขาวหน่อย ก็จะกลืนกับผิวไปมากกว่าคนผิวเข้มๆฮะ
ลองเปรียบเทียบบนหน้าบ้าง (ทั้ง 5 ตัวที่ทาเซ็ตบนหน้าให้ดู
คือ เมลงบีบีครีมก่อนลงแป้ง เหมือนกันทุกตัวฮะ)
ซ้าย – ลอร่า/ ขวา – ศรีจันทร์ ทั้ง 2 ตัวเคลมว่าเป็น Translucent Powder เป็นแป้งไม่สีนะฮะ
แต่เมทาแล้วทั้ง2รีเฟคแสงได้สว่างมากเลย แนะนำให้ใช้ปริมาณที่ไม่เยอะมาก
และไม่แนะนำให้ใช้กับงานกลางคืน หรืองานไหนที่เจอแฟลชแรงๆ
มันอาจะสะท้อนให้เห็นคราบแป้งขาวๆได้ฮะ
ทั้ง 2 ตัวไม่ใช่ไม่ดีซะทีเดียวนะ แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและมีข้อจำกัดอยู่บ้างฮะ
กระจายแสงปรับผิวให้นวลเสมอกัน คุมมันระหว่างได้ดีทั้งคู่ฮะ
THREE DIAPHANOUS LOOSE POWDER #1 TRANSLUCENT
แบรนด์ทรีเป็นหนึ่งแบรนด์ที่เมชอบเป็นการส่วนตัว เบสเมคอัพเค้าดีหลายตัว
รวมถึงแป้งฝุ่นเช่นเดียวกันจ้า หน้าตามาในลักษณะกระปุกเหมือนกัน
ลักษณะแบนแต่หน้าตลับค่อนข้างใหญ่ เลยยังไม่เหมาะกับการพกพา
ดีไซน์เรียบง่ายตามแบบทรี ปริมาณที่ให้มา 17g ราคา 1,950 บาท ตัวนี้ถือว่าโหดทีเดียวฮะ
แต่นางก็มีข้อดีของนางที่ไม่เหมือนตัวอื่นๆอยู่ฮะ
เปิดมาเค้าก็จะมีพัฟมาให้ด้วย ขนาดใหญ่กำลังดีและนุ่มมาก
ตัวกรองก็จะต่างจากแบรนด์อื่นๆคือเป็นตาข่ายละเอียดๆ
ทำให้ปริมาณเนื้อแป้งออกมาแต่ละครั้งไม่เยอะมาก และได้เนื้อแป้งที่ละเอียดกว่าแบรนด์อื่นๆฮะ
เนื้อแป้งเป็นเบจปนชมพูอ่อนนิดๆ เบอร์นี้เป็นแป้งโปร่งแสง Translucent เหมือนกัน
ไม่มีชิมเมอร์ ไม่มีกลิ่น ที่ชอบคือเนื้อแป้งละเอียดมากกกกกก ละมุน ไม่มีการเกาะตัวกันเลย
Swatch ออกมาก็จะเห็นเลยการเป็นก้อนถือว่าน้อยมากฮะ เนื้อละเอียด สีสว่างไปซักหน่อยสำหรับเม
แต่ตัวนี้ถือว่าเป็นแป้งที่กลืนไปกับผิวมากที่สุดในบรรดาทุกตัว ไม่มีอาการตกร่อง
เซ็ตบนผิวได้แบบเนื้อซาติน คือมีความเงาบ้างเล็กน้อย
แต่ก็เซ็ตเมคอัพได้ดีเหมือนมัน melt กลืนไปกับผิว
แต่ถ้าพูดถึงการคุมมันระหว่างวัน ตัวนี้ก็จะด้อยกว่า 2 ตัวก่อนหน้านี้ฮะ
จะมีความเงาและฉ่ำเกิดขึ้นระหว่างวัน แต่ไม่มากเกิน
เมว่าเหมาะสำหรับคนผิวแห้ง และผิวผสมแบบเม มันกำลังดีไม่มากไม่น้อยไป
RIMMEL STAY MATTE PRESSED POWDER #1 TRANSLUCENT
อันนี้เป็นอีกตัวที่ดังมากมายว่าเป็นถูกและดี เป็นแบรนด์ฝั่งอังกฤษที่ยังไม่เข้ามาในไทย
แต่ก็หาซื้อได้ในเน็ตเนอะ หน้าตาตัวนี้เมต้องขอยืมภาพจาก Rimmel London เค้ามานิดนึงฮะ
เป็นแป้งฝุ่นเหมือนกัน แต่มาแบบแพ็คมาเรียบร้อย คิดว่าเพื่อให้สะดวกใช้ แบนๆพกพาได้ง่ายมากขึ้น
ปริมาณที่ให้มา 14g ราคา 3.99 ปอนด์ หรือประมาณ 200 กว่าบาท
ก็ถูกไปอีก แต่เอาจริงๆ ทั้งหมดที่พูดมาตัวนี้เป็นถูกและดีอีกตัวนะ ถ้า ….
แพ็คเกจจิ้งนางไม่พังไม่เป็นท่าขนาดนี้
เคยพกแค่ครั้งเดียวหลังจากนั้นนางก็ค่อยๆทำลายตัวเองมาเรื่อยๆ
จนเป็นสภาพอย่างที่เห็นฮะ ราคาเท่านี้ศรีจันทร์บ้านเราถือว่าทำดีกว่าเยอะ แต่ก็อย่างที่เห็น
เมก็ใช้แป้งเค้าจน Hit Pan
รุ่นนี้จริงๆมีหลายเบอร์หลายสีฮะ แต่ด้วยความที่เมสั่งทางเน็ตเมก็เลือกแบบ
Translucent มาแบบเซฟๆ แป้งมีลักษณะเป็นสีเนื้อ ความละเอียดกลางๆ มีชิมเมอร์เล็กน้อย
ไม่มีกลิ่น กลืนกับสีผิวเมได้ดีพอๆกับทรี
ใช้คู่กับแปรงตลอดตัวนี้เซ็ตเมคอัพได้ดีเหมือนกัน แมตแต่ไม่เท่าศรีจันทร์และลอร่า
กลืนกับผิวมากกว่า การคุมมันระหว่างวันก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี
แต่ยังไม่เท่าศรีจันทร์และลอร่าเช่นเดียวกันฮะ
เหมาะสำหรับทุกสีผิว และคนที่ผิวแห้ง ผิวหสม จนถึงผิวธรรมดา จริงๆผิวมันก็พอใช้ได้ฮะ
เป็นแป้งเซฟอีกตัวที่เวิร์ค ถ้ามองข้ามเรื่องแพ็คเกจจิ้งกันไปได้นะฮะ แต่เมว่าตลับมันก็แย่เกินไปจริงๆ
เปรียบเทียบ 2 ตัวกันนิดนึง จริงๆนางไม่เหมือนกันหรอกนะ แต่เมลองเทสวันละ 2 ตัวฮะ ไวดี ฮี่ๆ
ซ้าย – ริมเมล/ ขวา – ทรี ริมเมลก็จะดูแมตกว่าแต่ยังดูธรรมชาติ ส่วนทรีจะเห็นถึงความเงาบ้าง
ตามจุดกระทบแสง เมว่ามันเป็นตัวที่เหมือนผิวที่สุดตัวนึงเลย ส่วนสีแป้งโปร่งแสงแบบนี้
ยังไงก็สว่างกว่าผิวเมอยู่ดีจะมากจะน้อยก็ลดหลั่นกันไป ปกติเมจะมีการใช้บรอนเซอร์เสริมอยู่แล้ว
มันจะกลืนกันมากขึ้นฮะ
มาถึงตัวสุดท้ายฮะ
MILLE TRANSLUCENT LOOSED POWDER #2 NATURAL BEIGE
อันนี้เป็นแป้งที่เพิ่งออกมาได้ไม่นาน เลยหยิบมาลองใช้ซักหน่อย ดีไซน์ก็ตามแบบฉบับมิลเล่ มุ้งมิ้ง
มาในลักษณะกระปุกเช่นเดียวกัน แต่เป็นตลับที่หนาใหญ่ที่สุดในบรรดาที่พูดถึงมาฮะ เท่าฝ่ามือเลย
ปริมาณที่ให้มา 20g ราคา 795 บาท ปริมาณก็ถือว่าเยอะกับราคากลางๆ จับต้องได้
ถ้าใครสายสาวหวาน ต้องการแบบตลับเอาประดับบนโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย เมว่าก็คุ้มค่าสวยๆฮะ
เปิดมาก็จะพัฟซึ่งอันใหญ่และน่ารักดี ส่วนตัวกรองก็ถือว่าค่อนข้างธรรมดานะ
เมว่าถ้าละเอียดกว่านี้อีกนิด จะเลอค่ามากเลย
เนื้อแป้งตัวนี้จริงๆเค้าจะมีเบอร์สีชมพูอีกสีนะ แต่เมเลือกสีเบจเนื้อๆเพราะน่าจะกลืนกับผิวมากกว่า
ความละเอียดใช้ได้เลยฮะ ในตัวเนื้อแป้งมีผสมชิมเมอร์ละเอียดๆ แล้วก็มีกลิ่นหอมชัดเจน
Swatch ให้ชมกันจะเห็นได้ว่าสีแป้งจะดูสว่างกว่าในตลับนิดนึง
ปรับผิวให้ดูไบร์ทได้แต่ก็ยังกลืนกับผิวได้ดีอยู่ฮะ finish หลังทาก็ไม่ได้แมตไปซะทีเดียว
ด้วยความที่มีวิ้งๆชิมเมอร์เลยให้รีเฟคที่ดูค่อนข้างโกล์วมากกว่าทรีนะฮะ
อันนั้นเค้าไม่มีวิ้งด้วยฮะ ในแสงธรรมชาติวิ้งจะมองไม่ค่อยเห็นฮะ แต่กระทบแสงหลอดไฟ
ก็จะเห็นประกายเลย เมเลยว่าเหมาะกับคนที่ผิวแห้ง ชอบความวิ้ง โกล์ว ฉ่ำ ระหว่างวัน
ตัวนี้ไม่ค่อยคุมมันเท่าไหร่ แล้วก็สำหรับที่จะไปงานกลางคืนตัวนี้เมว่าทาตัวให้วิ้งๆก็สวยกำลังดีฮะ
ลองทาบนหน้าให้ดูนิดนึง ตัวนี้ไม่ได้เทียบกับตัวอื่นเพราะเป็นตัวสุดท้ายละ พูดถึงการช่วยเซ็ตและ
ดูดซับความมันส่วนเกินทันทีหลังทาตัวนี้ก็ทำได้ดี หลังทาทันทีก็แมตใช้ได้ฮะ เพียงแต่ระหว่างวัน
แต่ส่วนตัวเมตัวนี้จะฉ่ำไปซักหน่อย เพราะเมผิวผสมจะมีช่วงทีโซนที่มัน
บางทีเลยจะต้องแมชรวมกับตัวอื่น ประสิทธิภาพการคุมมันอาจจะไม่เท่าตัวอื่นๆ
แต่ก็ถือว่าเป็นช้อยส์ให้กับคนที่ผิวค่อนข้างแห้งหน่อย
แอบ Recap นิดนึง กับ Swatch เนื้อแป้งทั้ง 5 ตัวนะฮะ จากซ้ายไปขวานะฮะ
SRICHAND – LAURA MERCIER – MILLE – THREE – RIMMEL
เป็นยังไงกันบ้างฮะ จัดเต็มมากเลยกับแป้งฝุ่นที่เมเอามารีวิว
เชื่อว่าตอบโจทย์กับทุกสภาพผิวแน่นอน ส่วนเรื่องของการติดทนระหว่างวันของแป้งฝุ่น
ส่วนตัวเมไม่ค่อยได้คาดหวังเท่าไหร่นะ เพราะทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับ
เบสเมคอัพส่วนอื่นๆที่เราใช้ด้วย ซึ่งแน่นอนแป้งฝุ่นมันเกาะผิวเราไม่อึดเท่า แป้งผสมรองพื้น
รองพื้น หรือบีบีครีมอยู่แล้ว point หลักๆที่ดูก็จะเป็นเรื่องการเซ็ตหลังทา
กับการคุมมันบ้างนิดหน่อยซะมากกว่า
อีกอย่างเนื้อแป้งฝุ่นมันบางเบาอยู่แล้วจะเติมจะซับเพิ่มหน่อยก็ไม่มีปัญหา
แถมเป็นแป้งชนิดที่ซับระหว่างวันได้เซฟที่สุดด้วย
คิดว่าน่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้กับเพื่อนๆได้นะฮะ
ไว้เดี๋ยวเมฮึดๆ จะทยอยหยิบตัวอื่นๆมารีวิวแบบนี้กันอีกน้า
…………………………………………………………………….
xoxo, Bucciime
TM