รีวิว 13 "ของมัน" ที่คนผิวมันใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า :D

50 11

ถ้าพูดถึง "ของมัน" สำหรับความงาม หลายคนคงทำหน้ายี้... เนื่องจากสยองในความเหนอะหนะที่มาพร้อมกับอากาศร้อนๆ ของบ้านเรา โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน เสี่ยงเป็นสิว และแพ้ง่าย(แบบเรา) ยิ่งเบือนหน้าหนี ชาตินี้ไม่ขอข้องเกี่ยวจริงมะ?

แต่ตามความเชื่อของเราแล้ว "การที่เราผิวมัน ไม่ได้หมายความว่าผิวเราชุ่มชื้นเพียงพอ" ดังนั้นการที่คนผิวมัน ยิ่งหลีกเลี่ยงการมอบความชุ่มชื้นให้ผิวมากเท่าไหร่ กลไกลใต้ผิวก็ยิ่งผลิตน้ำมันเพื่อมาทดแทนความชุ่มชื้นที่ขาดหายมากเท่านั้น จากที่เราทดลองกับตัวเองง่ายๆ คือ ยิ่งซับมัน... ผิวยิ่งมัน

ซึ่งความเชื่อนี้มันทำให้เรากล้าที่จะลองใช้สารพัด "ของมัน" มาเรื่อยๆ เป็นเวลามากกว่า 6 เดือนแล้ว และเนื่องจากผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจมากๆ ปัจจุบันเลยใช้ของมันตั้งแต่เส้นผม ผิวหน้า ยันผิวกาย!

งั้นอย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้ เราไปดูมหากาพย์รีวิว 13 ไอเทมของมัน แบบมันส์ๆ กันเลยค่า :D

อ่านก่อนกันดราม่า

1. ไม่การันตีว่าทุกคนใช้แล้วจะออกมาดี ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวแต่ละคนนะคะ

2. วัตถุประสงค์ของการรีวิว คือเพื่อแชร์ประสบการณ์การใช้ของเรา สำหรับช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเพื่อนๆนะคะ

ปล. อาจไม่ได้ลงลึกรายละเอียดผลิตภัณฑ์มากนะคะ ใครมีคำถามเพิ่มเติมคอมเม้นมาได้เลย ยินดีตอบทุกคำถามค่า ^^

L'OREAL PARIS: TOTAL REPAIR 5 Leave on oil serum

ขนาด 80 ml. ราคา 199 บาท

ใช้หลังสระผม โดยเทใส่ฝ่ามือ กะปริมาณเอาจากความยาว/ หนา ของเส้นผม (ตอนผมยาวเราใช้เท่าเหรียญ 50 สต.) ถูๆ กับฝ่ามือแล้วชโลมเฉพาะปลาย ตัวนี้จะช่วยเคลือบปกป้องเส้นผมจากความร้อนจากการทำผม แถมยังทำให้ผมนุ่มลื่นไม่พันกันด้วย...

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 3.5/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 5/5

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 4.5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 5/5

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 5/5

LUCIDO-L: Treatment Oil สูตรผมตรง

ขนาด 50 ml. ราคา 325 บาท

ตัวนี้จะเป็นทรีทเม้นท์ผมสำหรับใช้ตอนกลางคืน ใช่แล้ว "กลางคืน" คือฟีลแบบทาครีมก่อนนอนไรงิ ก็เทใส่ฝ่ามือ ปริมาณเอาจากความยาว/ หนา ของเส้นผม (ตอนผมยาวเราใช้เท่าเหรียญ 50 สต.) ถูๆ กับฝ่ามือแล้วชโลมเฉพาะปลาย จะช่วยให้ตื่นเช้ามาผมไม่ชี้ฟู นุ่มลื่น ดูเป็นทรงแถมผมดูเงางามแบบไม่มันด้วยนะ

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 2/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 5/5

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 3.5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 3.5/5

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 5/5

DHC: Deep Cleansing Oil

ขนาด 70 ml. ราคาประมาณ 500-600 บาท *ซื้อจากญี่ปุ่นจำราคาไม่ได้*

กรี๊ดดดดดด นี่คือน้ำมันมะกอกสำหรับใช้ล้างเครื่องสำอางที่ดีที่สุดในชีวิต! 555 เนื่องจากราคานางถูก (เมื่อเทียบกับงาน Shu Uemura) และคุณภาพดีมากกกก ก.ไก่ล้านตัว (เมื่อเทียบกับแบรนด์แมสทั่วไปเช่น Biore) คือตัวนี้จริงๆ เคยใช้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว และแอบปันใจไปให้ Cleaning Water พักนึงช่วงที่มันบูมๆ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาตายรัง คือวิธีใช้ก็นวดๆ บนเมคอัพ เสร็จก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่า นางจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม แล้วก็ล้างเมคอัพได้เกลี้ยง สะอาดหมดจด (เคยทดสอบด้วยการใช้ Cleansing Water เช็ดซ้ำอีกครั้งแต่สำลียังคงขาว!) ที่สำคัญผิวหน้าจะนุ่มมมมมมมากๆ ด้วยหล่ะ!

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ใช้ง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ : 4.5/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 3.5/5 *กลิ่นน้ำมันธรรมชาติ*

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 5/5

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 5/5

Bio-Oil

ขนาด 4.2 fl oz (124 ml.) ราคา 16$ (ประมาณ 543 บาท)

*ซื้อที่ Walmart, USA ตอนลดราคา*

นี่คือออยล์บำรุงผิวหน้าตัวแรกในชีวิตที่เคยใช้! และดีงาม และใช้มาตลอด... วิธีใช้คือใช้หลังล้างหน้าหมาดๆ 2-3 หยด นวดให้ทั่วหน้าแล้วตามด้วยครีมบำรุง ใช้มันทั้งเช้าทั้งเย็น ใช้ตั้งแต่หน้าลามมาถึงลำตัวและรักแร้ ที่เห็นผลชัดเจนมากคือความชุ่นชื้นและความเรียบเนียนของผิว ส่วนรอยแผลเป็นจากสิวก็จากลงค่อนข้างไว ขวดนึงใช้ได้นานมากกกก (ในรูปคือใช้มาเกือบปีแล้ว)

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 3/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 3.5/5

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 4/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 5/5

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 5/5

The Body Shop: Oils of Life Intensely Revitalising Facial Oil

ขนาด 30ml. ราคา 2,690 บาท

ขวดนี้... ขอยกให้เป็นสุดยอดออยล์ชุบชีวิตผิวหน้าช่วงโคม่าของข้าพเจ้า!!!!! จริงๆเคยใช้ออยล์ของ The Body Shop ก่อนหน้านี้คือตัว Vitamin E Overnight Serum-In-Oil แต่ผลลัพธ์เฉยๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่ตัวนี้นี่สุดมากจริงๆ ค่ะ ก็นะ... ราคาก็แรงสมคุณภาพเลย 555

ชอบตัวนี้เพราะช่วยเรื่องริ้วรอยตื้นๆ ให้ดูจางลง แล้วก็ทำให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นขึ้น มันแบบตื่นมาตึงๆ เด้งๆ เลยอ่ะ แถมเรียบเนียนขึ้นด้วย ยิ่งตอนไปญี่ปุ่นแล้วเจออากาศแห้งๆ หนาวๆ คือตัวนี้เอาอยู่! ในขณะที่ Bio Oil ไม่ค่อยช่วย... เลยแบบเออยอมใจ คงไม่ต้องบอกว่ารักแค่ไหน ดูจากปริมาณก้นขวดในรูปเอาแล้วกัน ><

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 4/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 4/5 *กลิ่นเหมือนอยู่สปาอ่ะ บางคนอาจไม่ชอบนะ*

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 3.5/5 *เหลือซัก 1,800.- จะดีกว่านี้ T_T*

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 4/5 *เป็นขวดแก้ว ถึงแข็งแรง แต่ก็ต้องระวังแตก*

tarte: Pure Maracuja Oil

ขนาด 12 ml. ราคา 15$ (ประมาณ 450 บาท)

นี่คือสุดยอดออยล์ที่กลิ่นทรงพลังมากที่สุด... แรกๆ อาจจะมึนๆ นิดนึง แต่ใช้ไปเรื่อยๆ แล้วจะชินเอง 555 สำหรับผลลัพธ์ก็โอเคเลยนะ รู้สึกหน้ากระจ่างใสขึ้น ให้ความชุ่มชื้นได้ดีพอสมควร ส่วนตัวรู้สึกว่ามันหนืดไปนิดอ่ะ เลยไม่แน่ใจว่ามันซึมลงผิวเท่ากับตัวเหลวๆ ด้านบนรึป่าว สรุปว่าใช้ก็ดี ไม่มีก็ Bio Oil เอาละกันนะ

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 3/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 1.5/5 *กลิ่นน้ำมันธรรมชาติ*

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 3.5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 3.5/5

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 4/5 *เป็นขวดแก้ว ถึงแข็งแรง แต่ก็ต้องระวังแตก*

Innisfree: The Green Tea Seed Oil

ขนาดจริง 30 ml. ราคาประมาณไม่เกิน 1,200 บาท (มั้ง)

ชอบจังเลยยยยยยยยย เห็นจิ๋วๆ แบบนี้ใช้ได้ซองละ 4 วันนะ! หลังจากใช้ไปได้ 2 ซองติดต่อกันอาทิตย์นึง เฉพาะตอนเช้าก่อนลงครีมบำรุงก็ฟินเลยอ่ะ >< ชอบกลิ่นหอมชาเขียวอ่อนๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น แถมซึบซาบไวไม่เหนอะหนะ ใช้แล้วรู้สึกชุ่มชื้นแต่สบายผิวมากๆ บางทีเราก็แอบเทบางๆ เอามาตบๆ หลังลงรองพื้นให้ผิวดูดิวอี้ฉ่ำน้ำด้วยนะ เดี๋ยวจะไปซื้อไซส์จริงมาใช้ต่อแน่นอน!!

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 5/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 5/5 *กลิ่นชาเขียวอ่อนๆ*

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 3.5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 4/5 (ลองเทียบจากขนาด ราคา และผลลัพธ์/ 30ml. > 1,200 บาท)

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 3.5/5 *ขนาดจริงเป็นขวดแก้ว ไม่แน่ใจความหนา ต้องระวังแตก*

EGYPTIAN MAGIC

ขนาดจริง 118 ml. ราคา 1,800 บาท

และแล้วก็ได้ลองใช้ครีมโบราณในตำนานกับเค้าซักที! นางมีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก ขี้ผึ้ง น้ำผึ้ง นมผึ้ง และส่วนผสมอื่นๆจากธรรมชาติ เวลาใช้ก็บีบขี้ผึ้งออกมานิดนึง แล้วก็วอร์มๆ นวดๆ กับฝ่ามือจนเนื้อขี้ผึ้งละลายเป็นน้ำมัน (เหมือนในภาพ) จากนั้นก็นวดให้ทั่วหน้าก่อนนอนได้เลย ทาปากได้ด้วยนะ สำหรับเรา เราใช้ไป 3 คืน รู้สึกไม่ค่อยฟิน มันหนักๆ หน้าบอกไม่ถูก แต่พอตื่นนอนก็ไม่เหลือความมันบนหน้าละ จะเหลือแต่ความเนียนนุ่มของหน้าแทน แต่ก็นะ... ยังคงชอบแบบออยล์ๆ เหลวๆ มากกว่าอยู่ดี

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 1/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 2.5/5 *กลิ่นขี้ผึ้ง กึ่งหืน กึ่งหอมบอกไม่ถูก*

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 3.5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 5/5 *กระปุกนึงน่าจะได้เกิน 1 ปี*

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 3.5/5 *ขนาดจริงเป็นกระปุกใหญ่ ต้องแบ่งใส่ตลับเล็กๆ เวลาพกพา*

SHISEIDO: Moilip

ขนาด 8 g. ราคาประมาณ 300-400 บาท *ซื้อจากญี่ปุ่น จำราคาเป๊ะๆ ไม่ได้*

ตัวนี้พึ่งได้มาไม่นาน เนื่องจากไปเห็นบทความว่าลิปมันตัวนี้เป็น 1 ใน 10 สิ่งที่ไปญี่ปุ่นแล้วต้องซื้อ!! คือลิปที่บิวตี้บล๊อกเกอร์เชิดชูว่านางเป็นลิปมันที่ใช้ดีที่สุดในชีวิต! เอ้าซี้... โดนมาสิคะ!

หน้าตานางก็เป็นหลอดๆ หยิบมาใช้ง่ายๆ เหมือนในภาพ เนื้อลิปจะเป็นฟีลวาสลีนปิโตรเลียมเจลลี่ แต่ว่าข้นกว่านิดหน่อย พูดง่ายๆ คือเนื้อหนักมากๆ ทาแล้วเหมือนมีริมฝีปากปลอมมาเคลือบไว้อีกชั้น ให้ความเย็นนิดๆ จากมิ้นต์ แล้วก็มีวิตามิน E และ A บำรุงริมฝีปาก ผลคือ... ชอบมากนะ ดีสมคำล่ำลือ ถ้ามีใครไปญี่ปุ่นก็ลองฝากซื้อมาได้ หาได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปเลย :D

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 1/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 5/5 *ไม่มีกลิ่น*

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 4.5/5

5. พกพาสะดวก ใช้ง่าย : 5/5

VASELINE: Petroleum Jelly

ขนาด 50 ml. ราคา 99 บาท

สำหรับตัวนี้คงไม่ต้องพูดบรรยายอะไรมาก เชื่อว่ามีติดบ้านกันทุกคน ก็... ตามนั้นค่ะ! ใช้ดียังไง ก็ใช้กันต่อไปนะคะ 555

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 2/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 5/5 *ไม่มีกลิ่น*

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 4.5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 5/5

5. พกพาสะดวก ใช้ง่าย : 4/5 *กระปุกใหญ่ไป แบ่งใส่ตลับพกง่ายกว่า*

Bio-Oil

ขนาด 4.2 fl oz (124 ml.) ราคา 16$ (ประมาณ 543 บาท)

*ซื้อที่ Walmart, USA ตอนลดราคา*

แน่นอนว่าต้องเป็นพี่ส้มขวดนี้ วิธีใช้ก็หยดผสมกับโลชั่นทาผิวสัดส่วนประมาณ 60:40 (ครีม 60%/ Bio-Oil 40%) จะทำให้ครีมลื่นและทาง่ายขึ้น แถมผิวยังเนียนนุ่มสุดๆ ไปเลย ><

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 3/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 3.5/5

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 4/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 5/5

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 5/5

Nail Nail Botanical: Nail Treatment Oil

ขนาด 10 ml. ราคา 378 บาท ณ ร้าน EVEANDBOY

หลังจากอยู่ในช่วงที่ติดทำเล็บเจลจัดๆ หน้าเล็บเริ่มพัง เปราะง่าย ฉีกง่าย เลยหันมาใช้น้ำมันบำรุงเล็บเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้เล็บซะหน่อย เพราะในขวดนี้มีสารพัดน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อเล็บถึง 9 ชนิด เช่น น้ำมันจากเมล็ดอัลมอนด์ น้ำมันจากอโวคาโด แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นกุหลาบด้วย ชอบมากเลย ใช้ทุกวันเช้า-เย็น โดยหยดนิดเดียวที่โคนเล็บ แล้วก็นวดๆ แป๊บเดียวก็ซึมเข้าโคนเล็บและขอบเล็บละ

มาดูคะแนนจากความเห็นส่วนตัวเรากันค่ะ! (5 = ดีมากที่สุด)

1. ซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะ : 3.5/5

2. กลิ่นหอมน่าใช้ : 4/5

3. พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ : 3.5/5

4. คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย : 4/5

5. พกพาสะดวก ใช้งานง่าย : 5/5

หมดแล้วค่า!!!

หลายคนอาจคิดว่าของมัน ใช้ในชีวิตจริงแล้วจะออกมามันย่อง เยิ้มๆ รึป่าวนะ?

เรามีรูปมายืนยัน ว่านี่ใช้ของมันทั้งเช้า-เย็น หัวจรดเท้า แต่ก็ไม่ได้ดูมันย่องอย่างที่หลายคนกลัวนะ

สำหรับกระทู้นี้เราต้องขอลาก่อย ขอล่ำลากันด้วยภาพเบื้องหลังของผู้ก่อกวนขณะถ่ายทำรีวิว -.,-

แล้วพบกันกระทู้หน้านะคะ บ้ายบายค่า


WthoutQuote

WthoutQuote

FULL PROFILE