Christmas Gifts 2015 ที่สุดของชีวิต
Maesabai 14 6สวัสดีค่ะทุกคน สวัสดีปีใหม่นะคะ ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างคะเนี่ย ช่วงนี้มีคอนเท้นต์บิวตี้ให้อ่านมากมายเลย หลายท่านทำบล็อก ทำรีวิว ของที่ใช้ดี Favourite ปี2015 เมเองงานยุ่งมาก รู้ตัวอีกทีก็เลยปีใหม่แล้ว เลยคิดว่าเอาของขวัญคริสต์มาสมาเห่อให้ดูก็แล้วกันค่ะ
คิดอยู่หลายตลบว่าเห่อดีไม่เห่อดี จนล่วงเลยมาก็สรุปว่า เอาน่า อยากจะแชร์เรื่องดีๆ ที่มีคนที่น่ารักและใจดี ทำให้คริสต์มาส2015 ของเม ช่างแสนพิเศษจริงๆ
ต้องเล่าก่อนว่าเมกับแฟนอยู่ไกลกันมาก เค้าทำงานอยู่ในที่ที่เมไม่สามารถไปหาได้ ไม่มีวันหยุดระหว่างสัปดาห์ ทำงานทุกวัน และอันตรายมาก เป็นเขตสงคราม เมื่อเราได้เจอกันทั้งที เหตุผลของเค้าคืออยากทำให้เมมีความสุข และเมก็มีความสุขมากจริงๆ
เรื่องราวมันเริ่มมาจากโลชั่นชิมเมอร์แค่ขวดเดียวค่ะ
ตั้งใจจะเอาขนมไปฝากน้องๆ ที่ร้าน และตั้งใจจะไปซื้อโลชั่นชิมเมอร์แค่นั้น แต่คนข้างๆ บอกว่าโลชั่นมะม่วงหอมดีนะ อยากซื้อให้ เมหยิบมาดูราคา ก็เลยตกลงว่า เอาก็ได้ค่ะ ฮีก็เลยหยิบมา
แล้วเมหันมาเจอสีทาเล็บรุ่นใหม่ที่พี่น้องเค้าเอามาโชว์ไว้สำหรับถ่ายรูป Gelly Look Nail Enamel เมเลยไปหยิบดู ตัวนี้เป็นสีทาเล็บเนื้อเจล ซึ่งเมมีอยู่แล้วสองสามขวด มันแห้งช้า แต่สีสวยดีค่ะ แต่บอกตัวเองว่ามีหลายขวดยังไม่ได้ใช้ อย่าซื้อเลย แต่คนข้างๆ ก็กวาดมาทุกสีที่วางอยู่
สี My Cappuccino
สี Pastel Green
สี Milky Pinky
สี Light Grey
สี Soft Cloud
สี Tender Lilac
จากนั้นเมหันไปเห็นอีกรุ่นนึงที่ออกใหม่ Full Color Nail Enamel เป็นสีนู้ดสุดโปรด ก็เลยไปลองเลือกดู ว่าจะเอาแค่ขวดเดียว หยิบมาถือไว้ห้าขวดเพื่อตัดสินใจ เลือกอยู่นาน ตัดใจไม่ได้ จนโดนแงะทั้งห้าขวดลงตะกร้า สรุปว่าสีทาเล็บก็เลยงอกเพ่ิมมาอีก 5 ขวดทันที
สี Teddy Always with Me
สี Pepples on The Beach
สี Go Nude
สี Time Saver
สี Rode I Hold
ได้รับส่วนลด สำหรับน้ำยาล้างด้วย ก็เลยโดนมาซะหนึ่งขวด
ตอนไปยืนรอคิดเงิน เมก็แอบเห็นสีชมพูแว้บๆ ในตะกร้า ปรากฎว่าแฟนซื้อลิปกลอสให้ด้วย Long Wearing Lip Gloss สี Expressive Pink ไปหยิบมาตอนไหนไม่รู้ สงสัยตอนที่เมเลือกสีทาเล็บ เมก็เถียงไปว่าไม่ชอบใช้กลอส อย่าซื้อเลย แต่ฮีบอกฮีชอบ เะร้อมทำตาปริบๆ อ๊ะ! มันชักยังไงๆ
แล้วเราได้รับสิทธิพิเศษค่ะ แถมลิปสติกฟรีอีกแท่งนึง เมเลยยกให้เป็นหน้าที่ของแฟนไปเลือกสีมา ก็ได้มาเป็นอันนี้ค่ะ Super Shine Lipstick สี Absolute Fuchsia ชมพูไปอีกกกกกกกกกกก
จากนั้นมีดราม่ากันนิดหน่อย เนื่องจากโดนบังคับให้เลือกลิปสติก Dior หนึ่งแท่ง แต่เมไม่ยอม เถียงกันไปมา บีเอที่พารากอนก็คงจะเบื่ออยู่บ้าง ยืนเถียงกันอยู่นั่น แต่ในที่สุด พอเจอหน้าอ้อนๆ ที่บอกว่า ก็อยากซื้อให้ค่ะ แพ้ใจค่ะแพ้ใจ เมก็เลยยอม ปล่อยให้ฮีเลือกสีให้ด้วย ก็ได้มาเป็นแท่งนี้ Diorific Mat สี Fantastique
จากนั้นฮีพาไป Sephora เพราะเมตั้งใจจะไปซื้อเฉดดิ้ง โดยที่ฮีมีความสุขกับการเดินถือตะกร้าแล้วเลือกของโน่นนี่มาก เราก็เข้าใจว่าคงจะเลือกไปฝากคุณแม่ แต่ปัญหาคือเมหยิบอะไรฮีก็คิดว่าอยากได้ไปหมด บางทีแค่เอามาลองเฉยๆ ฮีก็กวาดมา เมเอาใส่ชั้นคืน ฮีก็เอามาใส่ตะกร้าใหม่ โอเค ยอม! เหนืื่อยเถียงแล้วค่ะ
Nail inc. London เป็นตัวเคลือบแบบ Floral เป็นดอกไม้ทาแล้วฟรุ้งฟริ้งมาก มีสามสีค่ะ
จากซ้ายไปขวา Chelsea Embankment Garden - Daisy Lane - Rishmond Garden
ยังไม่จบกับสีทาเล็บ เพราะฮีไปหยิบยาทาเล็บสีชมพูมา แล้วมาถามว่าอันนี้มีหรือยัง เมก็บอกไปว่ามีแล้วยี่ห้อนี้ แต่สีนี้ไม่มี
สีชมพูที่ว่านั้นคือ Sephora Nail Lacquer 5 day shine สี Dinner for 2 อันนี้ฮีบอกว่าซื้อเพราะสีและชื่อสีค่ะ
อีกสองชวดเป็นตัวเคลือบ
It's Friday Night - ตัวเคลือบสีใส มีเกล็ดสีทองเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด พร้อมกับกลิตเตอร์สำดำเล็กๆ
Graffiti Story - มีเกล็ดๆ สีด้าน ขาว ดำ แดง ดูเท่ๆ ดีค่ะ
ต่อมาเป็นเจลอาบน้ำค่ะ Hydrating and Energizing Shower Gel หอมมากกกกกกก กลิ่นสดชื่น ไม่ได้เลือกเองอีกเหมือนกัน
ฮีหยิบตัวนี้มาพรีเซนต์ให้เมฟังว่ามันดี แม่ฮีก็ใช้ Cleansing Conditioner Wen by Chaz Dean หอมกลิ่น Sweet Almond Mint ลองใช้หลังสระผมไปแล้วครั้งนึง ใช้ดีจริงอย่างที่เค้าบอกจริงๆ ด้วยค่ะ
เนื่องจากเมอยากได้สลีปปิ้งมาสค์ ของ Sephora อยู่แล้ว เพราะเห็นมาจาก IG ของแบรนด์ ว่าจะเอาแบบเทสเตอร์เล็กๆ มาลองหลายๆ กลิ่น คนข้างๆ บอกว่าให้เอาอันเดียวพอแต่เป็นกระปุกใหญ่ เมเลยเลือก Rose มาค่ะ โดยตัวนี้จะช่วยเรื่อง Hydrating & Luminizing
ชิ้นที่รักที่สุดของถุงนี้ และเป็นชิ้นที่เลือกเอง และราคาถูกที่สุด คือ Gold Shimmering Oil เพราะเมชอบทาผิวด้วยออยล์หลังอาบน้ำค่ะ ตัวนี้มีชิมเมอร์ ทาแล้ววิ้งมาก เอามาผสมกับโลชั่นแล้วค่อยทาก็ได้ หอมมากด้วยค่ะ หอมหวานๆ เหมือนกลิ่นมะลิกับกลิ่นขนม ถูกใจมาก
อีกสองชิ้นที่เมแค่หยิบมาลองเปรียบเทียบกัน เพราะจริงๆ มีขวดซ้ายมืออยู่แล้ว แต่สุดท้ายเจ้าสองตัวนี้ก็มานอนแอ้งแม้งในตะกร้าด้วย ฮีบอกว่าให้เอาไปสต็อคไว้
Sephora Smoothing Primer
Sephora Prep & Perfect - Pore & Fine Line Filler Blurring Effect
ยังอยู่กันที่หน้าเคาน์เตอร์ Sephora ฮีก็เลยคว้าสองพาเลทนี้มา เนื่องจากถามเมว่ามีสีอะไรแล้ว เมเลยชี้ว่ามีโทนน้ำตาลแล้ว เข้าใจว่าฮีจะได้ไม่หยิบ แต่ฮีก็หยิบโทนพลัมกับเขียวมาแทน โธ่วววววว
Sephora Colorful 5 - Mild to Wild Kaki เป็นอายแชโดวโทนเขียวทอง ที่เมไม่เคยคิดจะลอง เพราะไม่ชอบสีเขียวเลย เสื้อผ้ายังแทบไม่มีสีเขียว แต่คนเลือกให้เค้าบอกว่า เชื่อเหอะ ผิวแทนกับสีเขียวมันเข้ากัน เมได้ลองทาตอนไปทะเล ปรากฎว่ากลายเป็นอะไรที่เลิฟมากไปแล้ว
Sephora Colorful 5 - Serene to Majestic Plum นี่ก็อีกโทรสีที่ไม่ชอบ เมคิดว่าตาม่วงๆ แต่งยาก แต่ม่วงพลัมนี่ลองทาแล้วดูลึกลับดีค่ะ
และเนื่องจากเป็นช่วงก่อนปีใหม่ Sephora มีภูเขาของคอลเลคชั่นปีใหม่ เมได้เจ้านี่มาด้วย เป็น Cult make up set จาก Make Up Forever มีเบส แป้ง HD อายไลเนอร์ ลิปไลเนอร์ และมาสคาร่าค่ะ
ยังไม่หมดกับความชอบที่มีต่อสีชมพู ฮีหยิบตัวนี้มาให้ Stila Vinyl Lip Gloss เมพยายามขอต่อรองเป็นลิปแมตต์ แต่ฮีทำหน้าเศร้าๆ แล้วบอกว่า ก็เค้าอยากให้ทาอันนี้อ่ะ โอเค! ได้! ยอม!
นอกจากสีเขียว สีชมพู ฮีก็คลั่งการได้เห็นเมปัดขนตามาก ฮีบอกว่ามาสคาร่าคือความเซ็กซี่ จริงอ่ะ? ไม่เห็นรู้เลย ฮีเลือกให้อีกเหมือนกันค่ะ Sephora Roller Lash
ยังค่ะ ไม่จบแค่ตัวเดียว ฮีเห็นสาวๆ ยืนรุมเทสต์มาสคาร่าตัวนี้ ฮีเลยหยิบมาด้วย Outrageous Volume จาก Sephora อันนี้เมได้ลองปัดแล้ว เฮ้ยยย มันสะพรึงดีจริงๆ
ตรงภูเขาคอลเลคชั่นปีใหม่ ฮีแวะรับน้อง Tartalette Amazonia Clay Matte Palette ให้มาอยู่กับเมด้วย ดีใจน้ำตาจะไหล เพราะความตั้งใจแรกตอนเดินเข้าร้าน อยากได้แค่เฉดดิ้งสติักอะไรสักอันเดียวจริงๆ
เช่นเดียวกันกับน้อง Nars Steven Klein One Shocking Moment Cheek Studio Palette กลับบ้านมาด้วยกัน มาอยู่เป็นเพื่อนกันกับน้อง Tartalette
สุดท้ายท้ายสุด เจ้าสิ่งนี้วางอยู่ตรงเคาน์เตอร์คิดเงิน ฮีเลยถามว่าเมมีหรือยัง โธ่วววว มีแค่ 10 กล่องในไทย ชั้นจะมีได้ยังไงวะ เมก็บอกไปว่า มีแล้วไงคะอันนึง Naked 3 อันนี้ๆ ก้ชี้ให้ดู ฮีก็บอกว่าแสดงว่าอันอื่นยังไม่มี แล้วฮีก็บอกบีเอว่าเอากล่องนี้กล่องนึง กล่องที่ว่านี้คือ Urban Decay Naked Vault ที่รวม 6 พาเลตไว้ในกล่่องเดียว คือพอซื้อแล้วมีพนักงานปรบมือด้วย งงเลย ถือกลับบ้านมาแบบงงๆ มาหน้าบานเอาที่บ้านค่ะ
ถ้าคุณอ่านถึงตรงนี้ เมอยากบอกว่ามูลค่าและจำนวนนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งค่ะ เมประหยัดไปได้ทั้งปีเลยเนี่ย 555
แต่ที่สำคัญคือ การที่เค้าใส่ใจ เลือกให้ เช่น จดจำว่าเมบ่นผมแห้ง ก็เลือกคอนดิชันเนอร์ให้ ไม่ใช่เพียงแค่จ่ายเงิน ความเอาใจใส่ตรงนี้ทำให้เมมีความสุขมากค่ะ ที่เมอยากฝากไว้คือ ดูแลเอาใจใส่ใครก็ตามที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก ให้ที่ที่สุดในตอนที่ยังมีเวลานะคะ
ขอลาไปเพียงเท่านี้ก่อน ขอให้ทุกคนมีความสุขในปี 2016 นี้นะคะ สุขภาพแข็งแรง และประสบความสำเร็จทุกท่านเลยค่ะ
Happy New Year ค่ะ