รีวิวของดีเมืองกิมจิ!!! (Part 1)

12 2

안녕하세요!~ อันนยองงง สวัสดีค่า หลังจากห่างหายจากการรีวิวไปนาน

เนื่องจากเรียนหนักมากกกกก~ก ตอนนี้ได้ฤกษ์ปิดเทอม เลยมาปัดฝุ่นรีวิวคสอ.เกาหลีกันสักหน่อย

วันนี้เลือกมาแต่เครื่องสำอางค์เกาหลีล้วนๆเลยค่ะ ลองผิดลองถูกมาเยอะ!

จริงๆก่อนหน้าที่จะมาเกาหลี แทบจะไม่ได้ใช้เครื่องสำอางค์เกาหลีเลยค่ะ

จะเน้นไปทางญี่ปุ่นกับตะวันตกซะมากกว่า แต่พอมาปุ๊บ โอ้แม่เจ้า

ร้านเครื่องสำอางค์มีเกลื่อนกลาด เดือนไปไม่กี่ blocks ก็เจอ แถมถูก และมีให้เลือกหลากหลายมาก

ตั้งแต่มาเรียนที่เกาหลี ก็เกือบจะ 2 ปีแล้ว อันไหนออกใหม่ beauty blogger ของเกาหลีว่าอันไหนดี

นี่ก็แทบจะสอยตามมาทดลองใช้เกือบทุกอย่างค่ะ เอ้า ไม่รอช้า มาดูภาพรวมกันก่อนเลยดีก่า...

สิ่งที่จะรีวิวในวันนี้ จะเน้นไปทางแนะนำ จัดอันดับ และบอกคุณสมบัติเบื้องต้น

และผลลัพธ์จากการใช้นะคะ (ไม่มีการโฆษณา และการทดลองต่างๆให้ดูค่ะ)

มาเริ่มที่กลุ่มแรกกันเลย นั่นก็คือ...

รองพื้น (Foundation), ไฮไลท์เตอร์ (Highlighter) และไพรเมอร์ (Primer Base) ค่ะ

เนื่องจากเราเป็นคนที่ผิวแห้ง ค่อนข้างแพ้ง่าย และมีรอยแผลเป็นจากสิวเล็กน้อยค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เลยเน้นไปในทางที่ให้ความชุ่มชื้น ปกปิด และไม่หนักหน้าจนเกินไปค่ะ

เหมาะแก่การแต่งหน้าไปเรียน และเที่ยวเล่นทั่วไปค่ะ ถ้าออกงานต้องใช้อีกเซทนึง :D

สำหรับรองพื้นมี 2 ตัวที่อยากแนะนำค่ะ

1. 3CE Liquid Foundation SPF 20 PA++ (23,000 Won)

ยี่ห้อนี้สาวไทยคงรู้จักดี เพราะเป็น product ด้าน cosmetics ของ Stylenanda ค่ะ

เป็นแบรนด์ที่ดังเรื่องรองพื้น และลิปสติก ราคาอยู่ในระดับกลางๆ shop หาได้ตามห้างสรรพสินค้า

ในเครือ Lotte ยังไม่เคยเห็น store ตามท้องถนนค่ะ ตัวนี้ปกปิดระดับกลางค่ะ เนื้อดี ใช้แล้วชุ่มชื้น

ชอบใช้ตัวนี้สลับกับ Chanel ค่ะ ให้ความรู้สึกไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นะ ^_^

แต่สีมีให้เลือกน้อยค่ะ แค่สองสีคือ Lace Beige (โทนชมพู) กับ Ivory Beige (โทนเหลือง)

ทั้งสองสีค่อนข้างขาว ไม่เหมาะกับสาวผิวสองสีนะคะ อาจจะต้องใช้เทคนิคผสมกับตัวอื่นซะหน่อย

2. Innisfree Mineral Moisture Foundation SPF 34 PA++ (18,000 Won)

แบรนด์ที่เพิ่งเปิด shop ที่เมืองไทยล่าสุดค่ะ ที่สยาม เป็นแบรนด์ที่เน้น eco-friendly ค่ะ

ส่วนผสมส่วนใหญ่สกัดจากธรรมชาติจากเกาะเจจูค่ะ ตัวนี้เน้นให้ความชุ่มชื้น และติดทนนาน 16 ชม.

ปกปิดปานกลาง และให้ความเป็นธรรมชาติสุดๆค่ะ กันแดดสูงกว่าตัว 3ce ข้างบน

และมีสีให้เลือกเยอะ เหมาะกับสาวไทยสุดๆค่ะ

W1-W3 เป็นโทนเหลือง ไล่จากขาวเหลือง (W1) ไปถึงเหลืองเข้ม (W3)

C1-C3 เป็นโทนชมพู ไล่จากชมพูอ่อน (C1) ไปถึงเข้มสุด (C3)

สำหรับ Highlighter ใช้อยู่ตัวเดียวค่ะ และรักสุดๆเลย ก็คือ

3CE Highlight Beam #Pink (16,000 Won)

เราใช้ลงตรงสันจมูก โหนกแก้ม เหนือริมฝีปากบน และแท๊บๆ ตรงหน้าผากนิดหน่อย

หลังจากแต่งหน้าเสร็จค่ะ ให้ลุคดิวอี้ๆแบบสาวเกาหลี อิอิ ไม่เป็นคราบ และไม่ดูมันค่ะ

Base ก็เช่นกันค่ะ ตัวเดียวเลย คือ

Innisfree Moisture Fitting Base (12,000 Won)

ใช้หลังจากบำรุงหน้าแล้ว ช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนนานขึ้น และให้ความชุ่มชื้นค่ะ

เคยถาม ba คนเกาหลีว่าอยากได้หน้าลุคใสๆดิวอี้เหมือนสาวเกาหลี ต้องใช้ตัวไหน 555

นางเลยแนะนำตัวนี้ค่ะ ใช้ผสมกับ bb หรือรองพื้นในอัตราส่วน 50:50 ไปเลยค่ะ ;)

ถ้าพูดถึงเกาหลี สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคงเป็น BB Cream ใช่มั๊ยคะ

ซึ่งเดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมใหม่ที่ทุกคนรู้จักกันแล้วก็คือ Cushion นั่นเอง

Cushion มีคุณสมบัติเหมือน BB+Foundation แบบบางเบา ใช้ง่ายมากๆ

เค้าจะมีฟองน้ำเฉพาะมาให้ ก็แท๊บๆ กับตัวฟองน้ำที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยเนื้อบีบีเหลวๆ

บางคนที่ไม่เคยใช้อาจจะนึกภาพไม่ออก ดูจากภาพข้างล่างเลยค่ะ

ตัวที่ใช้แล้วปลาบปลื้มมว๊ากกกกมีอยู่ 3 ตัวค่ะ

1. Etude House Precious Mineral Any Cushion SPF50+ PA+++ (18,000 Won Refill 10,000 Won)

ตัวนี้เลยค่ะ ออกมาน่าจะประมาณครึ่งปีได้ ที่แปลกจาก Cushion ตัวอื่น

เห็นวงกลมสีขาว 6 วงมั๊ยคะ ตรงนั้นเป็นส่วน Brightener ช่วยให้หน้าสว่างออร่าค่ะ

แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ คือเริ่ดมว๊ากกกกก แต่ยังมีสีน้อยไปหน่อย มีแค่ 2 สีคือ

Light Beige กับ Natural Beige ค่ะ เราผิวขาวเหลืองใช้ Light Beige ค่ะ

และคิดว่าคนผิวสองสีน่าจะใช้ Natural Beige ได้ เพราะค่อนข้างเข้มค่ะ ไม่วอก

ใช้สะดวก ปกปิดดีมากกกก เวลาใช้ตัวนี้ก็จะไม่ใช้รองพื้นค่ะ ตบด้วยแป้งฝุ่นเลย

รวดเร็วทันใจ ติดทน ตบเพิ่มระหว่างวันได้ค่ะ แต่เราชอบใช้แป้งผสมรองพื้นระหว่างวันมากกว่า

โดยรวมคือให้ 100/10 เลยค่ะ ด้วยราคาเท่านี้ เทียบกับคุณสมบัติต่างๆ แถมไม่แพ้ด้วยค่ะ ^_^

เช็ด และล้างสะอาดๆ (จากประสบการณ์เรา) ไม่ทำให้เกิดสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบค่ะ

2. Sulwhasoo Perfecting Cushion SPF50+ PA+++ (ุ60,000 Won (ตลับจริง+Refill 1) Refill ประมาณ 30,000 Won ไม่แน่ใจราคา Counter นะคะ ราคานี้ซื้อจาก Online Shopping)

ไม่มีรูปข้างบนค่ะ เพราะเราซื้อเป็นตัว Refill ใช้ พอเห็นตัว Limited Edition ออกมา อยากซื้อเลยค่ะ

เพราะตลับเป็นลายดอกไม้สวยเลอค่ามว๊ากกก >,<

จากที่ใช้ไป 1 ตลับ ปกปิดดีปานกลาง และติดทนมว๊ากกกกกก เช้ายันเย็น สีก็มีให้เลือกหลากหลาย

มีส่วนผสมของโสมและตัวบำรุงอื่นๆ ช่วยบำรุงผิวหน้าไปในตัวค่ะ มีกลิ่นโสมแต่ไม่แรงมาก

ที่ชอบน้อยกว่า Etude เพราะเค้าใช้แล้วเกิดสิวค่ะ อุดตันประปราย T_T เลยไม่ได้ซื้อใช้ต่อ

แต่อย่างอื่นคือ ประทับใจมากกกค่ะ สำหรับคนที่ไม่ค่อยแพ้ แนะนำเลยค่ะ ดีเลิศ

Tip* Cushion หรือเครื่องสำอางค์ที่มี Refill สำหรับคนกลัวแพ้ หรือไม่ถูกใจ แนะนำให้ซื้อแค่ Refill มาใช้ก่อนค่ะ ถ้าไม่ถูกใจ จะได้ไม่เสียดาย เพราะราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง

3. Clio Kill Cover Liquid Foundwear Cushion SPF50+ PA+++ (32,000 Won with liquid foundation refill and primer)

ตัวนี้เป็นรองพื้นในรูปแบบ Cushion ค่ะ ดีงามมากกก ตามที่แบรนด์เคลมเลย คือปกปิด และติดทน

นาน 24 ชั่วโมง!!!! (แต่ยังไม่เคยลองโบกบนหน้าครบ 24 ชม.นะคะ) ถึงจะเป็นรองพื้นแต่ก็ไม่หนัก

หน้า ตามสไตล์รองพื้นเกาหลีเลยค่ะ ให้ลุคดิวอี้ๆ งานผิวต้องมา ที่สำคัญชุ่มชื้นค่ะ เหมาะกับคนผิว

แห้ง และอากาศแห้งๆที่นี่มาก ส่วนที่มากับตัวแพคเกจก็จะเป็น ตัวรองพื้นแบบน้ำ เวลาเติมก็แงะดึง

ฟองน้ำขึ้นมาแล้วเหยาะๆ รองพื้นรีฟิลลงไปค่ะ เริ่ดๆ ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งตลับ แต่มีฟองน้ำมันให้เพิ่มอัน

นึงด้วย ที่เด็ดกว่านั้นคือมี ไพรเมอร์แถมมาอีกขวดนึงด้วย เนื้อไพรเมอร์ชมพูๆ ทาแล้วโอเคเลยค่ะ

ปรับสีผิว และช่วยให้รองพื้นอันนี้ติดทนนานด้วย ส่วนสีมี 4 สีก็คือ Lingeri (สำหรับผิวขาวอมชมพู),

Linen (ผิวขาวเหลือง เราใช้อันนี้ค่ะ), Ginger (ผิวขาวปานกลาง-สองสี), Sand (ผิวคล้ำ)

งานผิวแบบเกาหลีๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ ^_^

ไว้จะมาต่องานคิ้ว ตา แก้ม ฯลฯ นะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับคนกำลังมองหา

เครื่องสำอางค์เกาหลี มีข้อสงสัย หรือติชม คอมเม้นได้เลยน้า อันนยองงง~~


bewitch.bewty

bewitch.bewty

Business inquiry please add line: buta_beauty

FULL PROFILE