Review; L'Oreal True Match Lumi Cushion ราคาสบายกระเป๋า

สวัสดีคะชาวจีบันทุก ๆ คน

ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ แมนดี้ เพิ่งจะได้มีโอกาสเข้ามารีวิวก็ครั้งนี้แหละคะ วันนี้เลยถือโอกาสมารีวิว Cushion ของ L'oreal Lumi กันนะคะ คือจะบอกว่าตอนที่เห็น L'oreal cushion ใน Drugstore นี้แทบจะคว้าเอาไปหมดเลย แต่คว้าไม่ได้นะคะ เพราะมีเฉดสีให้เลือกถึง 16 สีด้วยกัน เอาหละคะที่นี้จะทำอย่างไร มีสีให้เลือกมากเกิ้น ทันใดนั้นแมนดี้ก็เหลือบไปเห็นแผ่นขนาดเล็ก ๆ ตั้งอยู่ตรงข้าง cushion มันเป็นใบสำหรับการเลือกระดับสีผิวของเรา และจะทำให้เรานั้นเลือกสีครีมรองพื้นได้ใกล้เคียงกับสีผิวมากที่สุด

แมนดี้เลยหยิบมาหนึ่งแผ่น และเดินตรงไปยังกระจกและแปะทดลองเลยจ้า ตัวแมนดี้ชอบสีรองพื้นที่ใกล้เคียงกับผิวมากที่สุด ไม่ชอบขาวมากไป เพราะจะทำให้หน้าเราออกเทา ๆ และไม่เลือกคล้ำมากไปจะทำให้ดูผิวไม่มีสุขภาพ แมนดี้เลยลองแบบ Neutrual กับ Warm Tone ด้วยนะคะ เพราะว่าเวลาไปซื้อตาม Sephora หรือ Counter เครื่องสำอางใหญ่ๆ ในห้าง ทาง BA จะบอกเลยว่าเราสามารถใช้ warm หรือ Neutral ได้ แต่ต้องเลือกให้ใกล้เคียงกับผิวมากที่สุด (จะบอกว่าครีมรองพื้นแต่ละแบรนด์ จะมีสีและชื่อเรียกที่แตกต่างกันนะคะ ทางเลือกที่ดีที่สุดควรปรึกษา BA และให้ลองกับหน้าเราเลย อย่าลองตรงแขนนะคะ เพราะเวลาเราทาเราทาที่หน้า และอยากจะขอแนะนำเวลาไปเลือกซื้อครีมรองพื้น อยากจะให้ทาครีมและครีมกันแดดเท่านั้นนะคะ เพราะ BA จะสามารถเลือกและดูผิวได้ง่ายและเวลาซื้อเราจะได้ไม่ผิดหวัง) แมนดี้เลยดึงแผ่นออกมาสองแผ่นและแปะบนใบหน้านะคะ

อย่างที่เห็นในภาพนะคะ ผิวแมนดี้สามารถใช้ได้ทั้ง Neutral และ Warm ซึ่งจะเป็นเฉด W3 และ N3.5 คือไม่ขาวเกินไป และไม่คล้ำจนเกินไป และทีนี้ถ้าลองมองจากภาพนะคะ สีW3 จะเป็นสีที่กลมกลืนกับสีผิวเรามากที่สุด (ครั้งหน้าจะลองเลือก N3.5 มาลองใช้) ดังนั้นไม่รอช้าเลยคะ จัดการสอยมาจนได้ โดยเสียค่าเสียหายอยู่ที่ 665 บาท ($19) เลยมองว่าถ้ามันโอเคกับแบรนด์นี้และราคาจัดได้ว่าไม่หนักมาก ก็ถือว่าโอนะคะ

พอแมนดี้เปิดตลับดูแล้วนะคะ คือประมาณว่าให้มาเต็มๆ คะ คือประมาณว่าเนื้อครีมรองพื้นให้มาเยอะมาก คือคุ้มกับค่าเสียหายที่จ่ายไป ตัวฟองน้ำจะเป็นพื้นสีขาวนะคะ ถ้าเป็นของเกาหลีจะเป็นสีน้ำเงิน (ขอเม้าท์นิดนึง ฝรั่งที่นี้ก็ชอบcushionและเครื่องสำอางเกาหลีไม่แพ้กับคนไทยนะคะ) แมนดี้จะทาแค่ครึ่งหน้านะคะ จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่าง (ต้องขอโทษนะคะ หน้าเปลือยมาก) ข้างที่แมนดี้ทาจะเป็นด้านซ้าย จะปกปิดในระดับที่ดีนะคะ ไม่มัน และไม่เงาจนเกินไป รอยสิว (จากการแพ้น้ำ) ก็ดูจางลงอีกด้วย

หลังจากที่ได้ลองนะคะ ทางด้านขวาคือยังไม่ได้ลง cushion อะไรใด ๆ จะเห็นว่ามีสิว และรอยแดง ส่วนของด้านซ้ายคือสีรองพื้นกลืนเข้ากับผิว (เลือกสีไม่ผิด) และเดี๊ยวลองมาดูกันนะคะว่าถ้าลงทั้งหน้าแล้ว รอยแดง ๆ ทางขวาจะลดลงด้วยไหมนะคะ

อย่าเพิ่งตกใจหนังหน้ากันไปก่อนนะคะ :P ถ้าลองสังเกตุดูตรงบริเวณคางที่เป็นสิวหัวช้าง จะไม่สามารถปกปิดได้ขนาดนั้น ควรที่จะต้องใช้ Concealer มาช่วยในส่วนบริเวณนี้ แต่ถ้าเป็นรอยแดงต่าง ๆ อันนี้บอกเลยคะว่าช่วยได้เยอะเลย แถมดูเข้ากับผิวหน้ามาก ๆ ไม่วอก ไม่มัน ดูผิวเป็นธรรมชาติมาก ๆ

สรุปเลยนะคะ (ผ่านมา 5 ชั่วโมง)

ปริมาณครีมรองพื้น 4/5 (ต้องค่อยๆ ทา เพราะเนื้อครีมรองพื้นมาแบบฉ่ำและจนล้นมากในตลับ )

การปกปิด 4.5/5 (ให้เท่านี้หละกันนะคะ ช่วยปกปิดในระดับหนึ่ง แต่ถือว่าดีเลยทีเดียว)

ควบคุมความมัน 5/5 (ให้ไปเลยจ้า เพราะเป็นคนผิวผสม นี้ผ่านไป 5ชม. ยังคงไม่เกิดความมัน)

สุขภาพผิว 4.5/5 (คุ้มเกินคุ้มนะคะ พอทาและรอสักพักผิวกลับดูมีสุขภาพดีขึ้นมาเลย Magical)

ราคา 5/5 (ถือว่าสบายกระเป๋ามากๆ เพราะขึ้นว่า L'oreal แล้วเพื่อนๆ จะนึกถึงคุณภาพและความคุ้มค่ามาก่อนเลยทีเดียว)

แพคเกจ 5/5 (ถ้าเทียบกับราคาถือว่าเลอค่ามาก ตลับสี RoseGold ดูปังและแพงมาก)

ผิวที่เหมาะสม - เหมาะกับคนผิวธรรมดา ไปถึงผิวมันนะคะ เพราะสามารถควบคุมความมันได้ดี (สำหรับความคิดของแมนดี้) แต่ถ้าคนผิวแห้งอยากจะลอง ก็น่าได้อยู่นะคะ ถ้าอยากให้ผิวดูฉ่ำ โกวๆๆ ก็ขอบอกว่าลองผสมกับน้ำมันมะพร้าว หรือ rosehip สัก 1 หยดและผสมกันข้างนอกดูนะคะ จะทำให้ผิวดูมีสุขภาพดียิ่งขึ้น

ในที่สุดก็เล่าเรื่องจนจบแล้วนะคะ ขอบคุณเพื่อน ๆ ชาวจีบันด้วยนะคะ มีอะไรช่วยติและชมกันด้วยนะคะ ขอบคุณนะคะ