3 อปป้า พา ฟิน อิน เกาหลี
Lathae 34 9สวัสดีครับ เต้นะครับ คุ้นหน้าบ้าง ไม่คุ้นหน้าบ้าง ไม่เป็นไร วันนี้ขนเพื่อนมาด้วยอีก2 จะพาไปฟินอินเกาหลี แบบถึงใจ ถึงอารมณ์ งานนี้บอกเลยว่า วัดจะไม่เจอ งานตื่นเช้าใดๆจะไม่มี ทริปนี้เน้นหาที่ถ่ายรูป(ตัวเอง) เที่ยวกลางคืน ช้อปปิ้งแน่น กินไม่หยุด 28-31 มกราคม อากาศ -6 ถึง 2 องศา เรียกว่าหนาวแบบฟินสุดๆครับ เต้ได้ค่าตั๋วเครื่องบิน(รวมน้ำหนักกระเป๋า)+ที่พัก3คืน ในราคา 10,500 บาท จองที่ AirAsiaGo ครับ
แนะนำตัวละครเรานิดนึง
อปป้าเต้ ผู้บิ้วทุกคนให้จองตั๋วตาม เต้คือคนที่เคยไปเกาหลีมาแล้ว 3 รอบ แต่ๆๆ พาเพื่อนหลงทุกที่เลยยยย ความแน่นของอปป้าเต้นั้น นอกจากคอสตูม ก็คือความเป๊ะเรื่องของกิน และรถไฟฟ้า นั่งถูกลงถูก ไม่มีหลง เพราะตอนอยู่ไทยคือใช้ชีวิตด้วยรถไฟฟ้าล้วน แนะนำให้โหลดแอพฯ Korea subway ใช้ง่าย เวลาเป๊ะ
คนที่สอง อปป้าบิว ผู้จองตั๋วไปด้วยอย่าง งงๆ เนื่องจากถูกบิ้วว่า นี่แกๆไปสิ ไปเจอหิมะในราคาแค่หมื่นห้า และตลอดทริปนั้น บิวไม่เจอหิมะเลยยยยย (ไหว้ขออภัยมา ณ ที่นี้) ความดีงามของอปป้าบิว คือมันถ่ายรูปสวยมาก ดังนั้น ทริปนี้ทุกคนจะมีรูปที่ดีที่สุด
คนที่สาม อปป้าพงษ์ นี่ก็ถูกบิ้วด้วยซีรี่ย์จำนวนมากที่เราส่งให้ไม่หยุด เราจะกินนู่นนี่นั่น เราจะแต่งตัวแบบนี้ๆๆๆ คืออปป้าพงษ์นั้นจองตั๋วทีหลังเพื่อน จึงแพงกว่าเพื่อน และเค้าคือผู้มาช่วยให้เราไปไหนมาไหนถูก เนื่องจากอปป้าพงษ์นั้นดูแผนที่เป็น ไม่มีพี่ไม่รู้จะใช้ชีวิตอย่างไร
ทั้ง 3 อปป้านั้น พวกเราชอบออกกำลังกายครับ อปป้าบิวนี่กล้ามอย่างแน่น ไปส่องไอจีกันได้ เซิร์ชแฮชแท็ก #SeoulSatSeoulSay ใบ้แค่นี้
คือไปเกาหลีรอบนี้ อากาศมันติดลบ ถือว่าพวกเราโชคดี ที่ทุกคนร่างกายพร้อมมาก บ้าเข้าฟิตเนสกันทุกคน จึงไม่มีใครป่วย ก่อนไปเที่ยวในที่ๆอากาศต่างกันมากๆ เตรียมพร้อมร่างกายกันดีๆนะครับ พกยากันไปด้วย ยาแก้แพ้ แพ้ท้องเสีย แก้ปวด พกยาพร้อมฉลากใส่กระเป๋าไปด้วย ทริปจะไม่สะดุดแน่นอน
เอาหละ เกริ่นยาว เดี๋ยวคนอ่านหาย มากันที่ Day 1 วันแรกไม่มีไรมาก เพราะถึงก็เย็นแล้ว กว่าจะหาที่พักต่างๆ แต่ๆๆ ของกินเราพีคทุกวันนะ เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องกิน
เราข้ามวิธีขึ้นเครื่อง วิธีเข้าตม. ไปแล้วกัน เพราะมีคนรีวิวเยอะแล้ว ขอบอกว่าผ่านตม.สบายมาก แค่เรามีเจตนาที่ดี ยิ้มแย้ม มีตั๋วไปกลับ ชื่อที่พักชัดเจน และแต่งตัวให้แฟชั่นวีคที่สุด
ข้ามมาที่ลงเครื่องเลย ลงเครื่องปุ๊ป ก็เอาบัตร T-money ไปเติมเงินครับ ซื้อบัตรได้ที่ร้านมินิมาร์ท ตลอดทริปใช้ค่าเดิมทางรถไฟฟ้าราวๆ 20,000วอน หรือ 600บาท บัตรนี้ใช้ได้ยันรถเมล์ ร้านสะดวกซื้อ คุ้มครับ เต้ขึ้นรถไฟฟ้าจากสนามบินไปลงสถานีฮงอิกเลย ใครที่คิดจะนั่งรถไฟฟ้า กระเป๋าเดินทางต้องขนาดกำลังดี ลากได้แบบหมุน360องศาได้ คล่องตัวดีครับ ระยะเวลาประมาณชั่วโมงนึงจากสนามบิน ชอบเกาหลีที่รถไฟฟ้าไปถึงทุกที่ หลายร้อยสถานีมากๆ ชีวิตดี
เราพักกันที่ Jam Guesthouse ย่านฮงแด ราคาแสนถูก แต่เกสเฮ้าส์เราต้องทำใจว่ามันจะห้องเล็ก ใหญ่กว่าห้องน้ำที่บ้านนิดนึง คือเล็กมาก แถมห้องน้ำเป็นกระจก เห็นกันและกันไปอีก 5555 แต่เดินทางสะดวกแน่นอนครับ ใกล้รถไฟฟ้า Hongik ทางออก8 ใกล้ที่กิน ใกล้ผับ ใกล้ไปหมด
ย่านฮงอิกหรือฮงแดนี้ เหมาะกับคนชอบเที่ยวชอบกินในราคาย่อมเยาว์ครับ เพราะเป็นย่านมหาลัย ทุกอย่างจึงราคานักศึกษา
ลงเครื่องมาคือหิวกันมาก มื้อแรกตอนเย็นของเรา จัดไปบุฟเฟ่ต์แซลม่อน ย่านฮงแด หัวละ 14,900วอน หรือประมาณสี่ร้อยกว่าบาท คือมันดีมาก สดมาก ชิ้นใหญ่มาก มีเครื่องเคียงเป็นสลัดผัก ปลาหมึกทอด และพิซซ่าเกาหลี พนักงานหน้าตาดี เทคแคร์ดี ต้องรอคิวนิดนึง แต่คุ้มค่ามาก
ร้านหน้าตาแบบนี้ อยู่ข้างล่าง Beer works ตรงวงเวียนเลยครับ หาไม่ยาก หาวงเวียนเจอเป็นอันว่าเจอ
เสร็จแล้วก็เดินเล่นครับ นั่งรถไฟฟ้าไปลงเมียงดง ที่ๆทุกคนก็งง เวลาไม่รู้จะไปไหน ก็ไปเมียงดงก่อน คือของกินของขายแน่น คนเดินเยอะ ไปดรอปตัวเองที่นั่น แฟชั่นต่างๆก็ที่นี่แหละ ลงสถานีเมียงดงแล้วเดินตามคนหมู่มากไป ถึงแน่นอน
รองเท้าก็จะมีช้อปที่รวบรวมหลายแบรนด์ไว้ ของที่เมียงดงเยอะมาก มีครบแทบทุกแบบ มีไซส์ อยู่นานอาจจะเสียสติได้ ราคาไม่ได้ถูกกว่าครับ แต่เรียกว่ามีครบ ไม่ต้องแย่งกันแบบบ้านเรา
หอยอบชีส สตอเบอรี่สด รวมถึงของเสียบไม้ต่างๆ หาได้ทั่วไปที่เมียงดง สตอเบอรี่เกาหลีคือดี ต้องกิน มันใหญ่มากกกกก ใหญ่แล้วหวานด้วย ไม่หลอกดาวแบบบ้านเรา กินทุกวันจนสาแก่ใจ สิ่งที่ไม่แนะนำคือช็อกโกแลต พออากาศมันหนาวมากๆ ช็อคโกแลตฟีลลิ่งคล้ายก้อนหิน บาย 5555
ใครคิดว่ามาเกาหลี เครื่องสำอางต้องซื้อที่เมียงดงเท่านั้น ที่เมียงดงของแถมเยอะนู่นนี่ ตรงนี้บอกเลยว่าไม่ใช่อีกต่อไปแล้วครับ จากการไปเมียงดงทุกวัน และซื้อกันทุกที่ ที่ๆแถมเยอะและราคาถูก เดี๋ยวมาบอกใน Day 3 นะครัช
ขณะเดินเล่น อยากแนะนำให้ซื้อไอติม แล้วเดินเล่น คืออากาศมันหนาวมาก หนาวจนไอติมไม่ละลาย แล้วยังค่อยๆแข็งกลายเป็นแคร็กเกอร์ คือเดินๆไปหันมากิน อ้าวววว ไอติมมีความกรอบหวะ ฟีลลิ่งนี้จะไม่สามารถพบได้ในประเทศไทยแน่นอน
เดินรอเวลา ใกล้ๆเที่ยงคืนก็กลับ เพราะรถไฟฟ้าหมดเที่ยงคืนครับ และคืนนี้เราจะไปแดนซ์กัน!! เราจะสู้!!
กลับสู่ที่พัก เปลี่ยนชุดเล็กน้อย แล้วเข้าร้านสะดวกซื้อ ซื้อโซจูกรอกปากกันเลยยยย ขวดขวาสีฟ้าอร่อยดีครับ รสชาติคือคาลพิสแล็กโตะโซดาที่มีแอลกอฮอล์เบาๆ ผสมกับโซจูรสส้ม คือพีค มันดี มันเมาแบบนุ่มนวล(คิดเอง) โซจูที่นี่มีหลายรสมาก ส่วนตัวชอบพีชและส้ม ราคาก็ขวดละ45บาทเท่านั้น โซจูนี่ขอเตือนว่ากินคนเดียวอย่าเกิน3ขวด มิเช่นนั้นคุณอาจจะไม่ใช่คนเดิม
วันแรก เราไปกันที่ Cocoon ผับที่ดังเหลือเกินในไทย พิกัดคือรถไฟฟ้าสถานีฮงอิก ทางออก 9 แถวๆสนามเด็กเล่น ขึ้นเนินไปครับ เดินตามชาวบ้านไป จริงๆเต้เห็นผับอื่นที่วัยรุ่นเกาหลีต่อแถวยาวมาก ยาวกว่าโคคูนอีก เดี๋ยวมาบอกใน Day3 ขอให้ทุกคนดื่มไปให้เรียบร้อยครับ เพราะในผับนั้นเค้าไม่ค่อยถือแก้วถือขวดดื่มกันแบบบ้านเรา ทุกคนไปเพื่อเต้น
มีทริกสำหรับคนชอบเที่ยวกลางคืนครับ
ถ้ามีการยิงเปเปอร์ชู๊ท แปลว่าตี4แล้ว ผับที่นี่ปิด6โมง คนเยอะสุดช่วงตี3เป้นต้นไป และช่วงตี4จะมีการเปลี่ยนดีเจให้มันส์ขึ้น ทำนองนั้น(เดาเอา) โคคูนผับ เต้ว่าเหมาะกับผู้หญิงมากกว่าNB2นะ เพราช่วงตีสามตีสี่จะมีอปป้าที่ตอนแรกขายเหล้าที่เคาว์เตอร์ จะพากันถอดเสื้อ(ขาว เนียน ซิกแพคแน่น) ขึ้นมาเต้นตามเสา พร้อมถือขวดเหล้าไปกรอกปากคนในผับให้พีคยิ่งขึ้น นี่ก็วิ่งไปจะกินเหล้าฟรี พี่พงษ์สะกิดแรง"เค้ากรอกแต่ปากผู้หญิงอ่ะเต้" -"- เออ จำไว้
ท่าเต้นอปป้านี่ฮาน่ารักกันเหลือเกิน โซคิ้วเว่อร์ ท่าเต้นเรานี่ถือว่าฮิปแร็พโย่มาก พอรู้สึกว่าไม่เมาก็เชิญเดินไปมินิมาร์ท ซื้อเบียร์ป๋อง โซจู มาเติมเข้าร่างเลยจ่ะ
หน้าหนาวก็เอาเสื้อโค้ทไปฝากได้ที่ชั้นล่างของผับ ไม่หายไม่เกะกะด้วยครับ ค่าฝาก90บาท
ใครนึกภาพการยิงเปเปอร์ชู๊ทไม่ออก ดูคลิปนี้ เพลงก็แนวนี้เลย มุมกล้องอาจจะงงๆ เพราะ....เมาครัช 55555
ใครขาแดนซ์แบบเรา แนะนำว่าให้จองตั๋วไปช่วงสิ้นเดือน เพราะทุกศุกร์หรือเสาร์สุดท้ายของเดือน เค้าจะมีวัน Club tour หรือวัน Club day คือปกติค่าเข้า300บาท/ผับ แต่วันนี้นั้น ซื้อตั๋ว 600บาท แต่เข้าได้ร่วม10ผับ คือทัวร์ทุกผับไปเล๊ยยย แถมมีวัน Lady day ผู้หญิงเข้าฟรี แถมฟรีดริ้งด้วยยยย เกิดเป็นสตรีที่เป็นประชากรส่วนน้อยของเกาหลีนี่มันดีเนอะ
และๆๆ ตอนรอเข้าผับ ให้พกแบงค์หมื่นวอนไว้พอ เตรียมเงินให้พอดี อย่าหยิบออกมาเกิน คืออีคนเก็บค่าบัตรพอนางเห็นเราเป็นนักท่องเที่ยว มันเอาตังเราไปหมดเลยจ้าาา แล้วบอกแบบมึนๆว่าที่เหลือค่าทิป ^&*()_+!":><?/;
ออกจากผับกันมาตี 5 เมากันกำลังดี หิวสิครับ หน้าผับจะมีร้านเต๊นแดงๆอาจุมม่าอยู่ ไม้ละ30บาท ความพีคอยู่ตรงน้ำซุปร้อนๆ กินตอนเมาและอากาศติดลบนี่มันอร่อยมากกกก เติมได้เรื่อยๆ เดินกลับที่พักแบบพริ้วๆ
นมเกาหลีตัวนี้แนะนำ เป็นนมโยเกิร์ตมะม่วงวานิลลา คือประเทศที่ปลูกมะม่วงได้แบบไทยเราควรทำบ้าง อร่อยมาก เพื่อนเกาหลีแนะนำให้กินนมก่อนนอน ตื่นมาจะไม่แฮงค์มาก นี่ก็ทำไปงั้นๆ เออมันไม่แฮงค์หวะ จบวันนี้ไปด้วยอาการมึนและมึน
..................................................
Day 2
เนื่องจากทริปนี้เราต้องมีรูปที่ดีที่สุด แต่เมื่อวานเพลียจากการนั่งเครื่อง ไม่มีใครเล่นด้วย เอาหละ วันนี้จัดเต็ม แน่นทุกโปรแกรม
เช้านี้เริ่มที่อาหาร อาหารง่ายๆ ราคาถูก แล้วอร่อย หาได้ตาม subway ครับ ข้าวห่อสาหร่าย หรือคิมบับ เป็นอาหารราคาถูก อร่อย แล้วมีขายทั่วไป 30 บาทเท่านั้น น้ำซุปฟรี หรือจะเป็นแซลม่อนห่อข้าวก็แค่60บาทเท่านั้น อิ่มชัวร์ ที่นี่เค้าเน้นข้าวกันครับ กาแฟตาม Subway ก็แก้วละประมาณ 60 บาท การใช้ชีวิตที่เกาหลีถือว่าถูกครับ
ทานเสร็จเราก็มุ่งหน้าไปที่โซลทาวเวอร์ เพื่อขึ้นไปชมวิวสวยๆกัน
ขึ้นรถไฟฟ้าไปกันเลย
นี่ท่ายืนรอรถไฟฟ้า เว่อร์อะไรเบอร์นี้ หากคิดว่าเรานั้นแต่งตัวเว่อร์ บอกเลยว่าเค้าเว่อร์กันทั้งประเทศ อปป้าแม้บางคนแต่หน้าไม่ดี แต่แต่งตัวดีและหุ่นดีมาก
มาที่นี่ถ้าอยากเนียนเป็นอปป้า แนะนำให้ใส่โทนสีขาว/เทา/ดำ/ครีม/น้ำเงิน/น้ำตาล ไอ้บิวเดินถนนอยู่หันมาถาม"เค้าไปงานศพกันหรอวะพี่" 55555 คือทั้งถนนทุกคนใส่สีดำ ใครใส่สีๆจะโดดเด่นสุด เราเป็นตัวแทนจากประเทศไทย เราจะไม่ยอมแพ้ เราต้องแน่น ต้องเป๊ะ
การไปโซลทาวเวอร์นั้นง่ายมาก นั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีเมียงดง ทางออก 3 แล้วเข้ามาทางซอย Pacific Hotel มาเรื่อยๆเลย จะมีป้ายบอก จริงๆไปโดยรถเมล์ก็สะดวกครับ แต่รอบนี้เต้อยากนั่งกระเช้า กระเช้าไป-กลับ ราคา 8,000 วอน หรือ 240 บาทเท่านั้น
ระหว่างทางเดินมาก็สวยงาม อากาศดีมากๆ เดินได้ทั้งวัน
มาถึงข้างบน แน่นอน ต้องถ่ายรูป ภาพนี่เต้ไม่แต่งสีแต่งแสงเลยครับ บรรยากาศ แสงต่างๆ มันดีมากๆ แม้จะเป็นเวลาเที่ยง มีความละมุนโดยธรรมชาติ
วิวที่นี่สวยมาก คู่รักมากันแน่น
มาต่อกันที่ Line cafe หรือ ไลน์คาเฟ่ มาเกาหลีแล้วไม่มาเหมือนมาไม่ถึง เต้มาที่สาขา สถานีรถไฟฟ้า Sinsa ออกทางออกที่ 8 เดินตรงไปเรื่อยๆ มองชื่อซอย Garosu-gil หัวมุมเป็นร้าน It's skin เลี้ยวไปโลด (ตอนนี้มีเปิดสาขาที่เมียงดงแล้ว)
ร้านน่ารักมากกกกกกก สามารถหลงอยู่ในนี้ได้เป็นชั่วโมง มันน่ารักไปหมด
สิ่งที่อยากแนะนำให้ซื้อ คือปากกาครับ เขียนดีมาก ราคาเบาๆ ร้อยเดียวเท่านั้น ซื้อมาฝากเพื่อนตรึม
ในส่วนของขนมก็ทำออกมาได้น่ารัก เรียกว่าซื้อมาถ่ายรูปก็คุ้มเว้ย 5555 ไม่ใช่แค่เราที่เห่อ คนเกาหลีเองก็ต่อแถวถ่ายรูปไม่แพ้กัน
ออกมาจากร้านแบบหมดไปหลายตัง เราต้องหยุด เพราะเราตังหมด เพราะเราหิว และฟ้ามืดแล้ว
ตอนเดินกลับ ฟ้าเข้าข้างเราอีกแล้ว แบรนด์ it's skin ที่ใช้อยู่ ลด 20%-50% เอ้ามันต้องซื้อ ไลน์ที่สกัดจากยีสและพิษงู ใช้ดีมากครับ แนะนำเลย ไปเกาหลีนี่ถูกแบบซื้อยกแพคไปเหอะ ขวดละ300บาทโดยประมาณ ได้น้ำตบยีสแบบลด 50% มา ฟินมาก เครื่องสำอางเกาหลีผู้ชายควรซื้ออะไร เดี๋ยวมาบอก
กลับมาสู่ที่พัก และ บุฟเฟ่ต์!! เต้แนะนำร้านนี้มากๆ มากแบบมากที่สุด
บุฟเฟ่ต์หมูย่าง คนละ 10,000 วอน หรือ 300บาท!! เธ๊อออ สยามก็ทำไม่ได้ ชื่อร้านนางเป็นภาษาเกาหลี แต่หาไม่ยากครับ เต้ตามรอยจากหลายๆเพจมา อยู่ข้างๆร้านเจมส์(ซี่โครงหมูจิ้มชีส) มันดีงามมากในราคาแค่นี้ ฟรีผักเครื่องเคียงต่างๆครบ อาจุมม่าคอยเปลี่ยนกระทะให้ตลอด มีซุปให้ด้วย1ถ้วย ผักที่เกาหลีนี่สดและฟรีทุกร้าน คนชอบกินพืชแบบเรานี่ฟินสุดๆ
เก้าอี้ร้านนี้ดี สามารถเปิดฝาเก้าอี้ ยัดเสื้อโค้ทกระเป๋าลงไปได้เลย
รอบแรกเค้าจะเอาเนื้อมาให้ทุกแบบ เราเลือกแพคเกจราคาได้ ทีนี้ต้องเอาถาดเนื้อไปขอเติมเอง บริการผักเอง ทำตามชาวบ้านไป คือพอเค้ามาเสิร์ฟ เต้แนะนำให้เราถ่ายรูปทุกถาดที่เค้าเสิร์ฟไว้ อันไหนอร่อย เวลาไปเติมก็เปิดรูปเนื้อตัวนั้นให้เค้าดู แล้วชี้ๆๆ จะได้ไม่ใบ้กินเวลาสั่ง
จบจากหมู ไปเปลี่ยนชุด เคลียร์กลิ่นหมู แล้วเที่ยวต่อสิครัช
ขณะเดินหาผับ เจอไก่ทอด มาเกาหลีไม่กินไก่ทอดเหมือนมาไม่ถึง ร้านนี้มีคนแนะนำในเพจ เป็นไก่ทอดราดชีส มี3ไซส์ S M L เต้สั่งไซส์ M ราดชีส ราคาไม่แน่ใจ แต่พี่แกราดชีสมาแบบแน่นมาก กำลังสงสัยว่าชีสที่เกาหลีมันถูกหรือไงฟะ ทุกร้านคือราดแบบท่วม ไก่กรอบๆ เอาลงมาผัดซอสให้ใหม่ๆ มีต๊อกด้วย ถ้วยนึงกินคนเดียวไม่หมดแน่นอน เดินไปกินไป แล้วแวะซื้อเบียร์มาจิบ ฟินระดับ10
เดินเล่นจนสาแก่ใจ ได้เวลาเข้าผับแล้วววว สายปาร์ตี้สุดสตรองอย่างเรา แนะนำให้เข้าช่วงเที่ยงคืน จะไม่เหงา นี่เคยไปตอนสี่ทุ่ม ผีหลอกมากๆเธอ
คืนนี้มาที่ NB2 ใกล้ๆโคคูนผับนั่นแหละ อยู่ข้างล่างสนามเด็กเล่นเลย ข้างๆมีมินิมาร์ท ไปซดโซจูรอได้
ขอบอกว่าส่วนตัวชอบ NB2มากกว่า ด้วยดนตรีต่างๆ รูปแบบสถานที่ แถวอาจจะยาวไปนิด แต่รันคิวเร็วกว่าไปต่อแถวแทรชเชอร์แน่นอน ทุกคนล้วนดื่มมาแล้ว หน้าแดงเสียงดังกันเป้นปกติ ที่นี่ไม่มีการโกงค่าบัตร มีริชแบนให้ที่ข้อมือ ระบบการฝากกระเป่าต่างๆก็รัดกุม เพลงนี่แนวเรามากๆ พื้นที่มีประมาณสามชั้น จะแดนซ์ชั้นไหนจัดเลย บอกไม่ถูก แต่ชอบกว่าโคคูนมาก ออกมาจากผับมีกลิ่นบุหรี่ติดตัวเหมือนสูบเอง
เต้นๆไปสักพัก แอลกอฮอล์หมดร่าง วิ่งออกมาร้านมินิมาร์ทข้างๆผับ เติมแอลฯกันหน่อย ออกมาแบบไม่ได้เอาเสื้อโค้ทออกมา คุณเอ้ยยยย หนาวถึงใจ กรอกโซจูเข้าปาก พร้อมซื้อบะหมี่มา1ถ้วย
บะหมี่นั้นไม่ควรซื้อมากๆ เนื่องจากอากาศติดลบ พอเอาออกมาจากร้าน บะหมี่ทั้งถ้วยจะถูกสต๊าฟทันที และไม่ร้อนอีกต่อไปปปป 555555
เบียร์เกาหลี เต้แนะนำตัวนี้ พึ่งออกใหม่ หลังจากลองมาครึ่งตู้ มันมีความละมุนแบบครีมมี่เบาๆ นุ่มลื้มมม เป็น malt beer ที่โอเคมาก กระป๋องยาวไซส์500ml. ราคา 2,500วอน หรือราวๆ75บาท เขาเครมว่าเป็นเบียร์ระดับพรีเมี่ยมด้วย ความพีคคือมันมีไซส์ลิตรครึ่งด้วยนะ บรรจุขวดพาสติกแบบขวดโค้กลิตรบ้านเรานั่นแหละ ดื่มแกล้มกับช็อกโกแลตละมุนหอมดีมาก อร่อยอ่าาาา ขาดื่มต้องลอง
เอาหละ วันนี้ขอพอแค่นี้ มันยาวมาก เดี๋ยวมาต่อ Day3 และ Day4 ซึ่งพีคไม่แพ้กัน
สิ่งที่จะได้พบในตอนหน้า
- แหล่งช้อปเครื่องสำอางราคาถูก
- เคล็ดลับหน้าใสของคนเกาหลี มาร์กหน้าที่ควรซื้อ
- ฮานึลปาร์ค สวนดอกหญ้าในตำนาน
- วิธีดูแลผิวท่ามกลางอากาศติดลบ
- ถนนคนเดินคืนวันศุกร์เสาร์ที่ฮงแด