Review: Bioderma Cleaning Water ทุกสูตร เหตุเกิดจากการตามหาว่าแพ้สูตรไหน
BeautyPacky1610Hi everyone!!! วันนี้มากับกระทู้รีวิวอันเเรกของแพ็ก นั้นคือ Bioderma Cleaning Water ทั้ง 3 สูตรเหตุเกิดจากแพ็กซื้อ โปร 1แถม1 ของ Watson ขวดขนาด 250 ml เเต่เนื่องจากวันนั้นสาขาที่ไปซื้อขวดฝาชมพู Sensibio H2O หมด ซึ่งเป็นสูตรที่แพ็กใช้ประจำ เเต่วันนั้นมันมีเเค่สูตรฟ้า Hydrabio H2O เเละเขียว Sebium H2O เหลืออยู่เลยอยากจะลองใช้โดยที่ลืมตัวว่าตัวเองแพ้ง่ายเเต่ด้วยความที่คิดว่าแบรนด์นี้น่าจะอ่อนโยนทุกสูตร เลยจัดมาลองดูสักหน่อยมาดูกันเลยดีกว่าว่าเเต่ละสูตรหน้าตาเป็นยังไงบ้าง
มาเริ่มกันที่สูตรเเรกกันเลยนั้นคือ Sensibio H2O เป็นสูตรยอดนิยมเเละเคลมกันว่าอ่อนโยนสำหรับผิวเเพ้ง่าย ผิวเเห้ง-ธรรมดา เเละผิวที่มีการอักเสบหรือรอยเเดง เพราะมีสาร Laminiaria และ Enoxoloneที่ช่วยต้านเเละยับยั้งการอักเสบ เเละลดอาการแดงของผิวแพ็กจะใช้ตัวนี้เช็ดในช่วงที่ไปกดสิวและหลังยิงเลเซอร์ ไม่แสบ ไม่แพ้คะเป็นสูตร Non-rinse, Paraben free และ Hypoallergenicและที่สำคัญที่แบรนด์เคลมอีกว่า อ่อนโยน ไม่ต้องล้างซ้ำด้วยน้ำ เนื่องจากเป็น Makeup remeving micelle solutionสามารถเช็ดทำความสะอาดรอบดวงตาได้ ไม่แสบค่ะเเต่ยังไม่เคยเช็ดแล้วนอนนะค่ะ ยังรู้สึกว่ายังไงก็ไม่สะอาดเท่ากับการล้างหน้าซ้ำอีกรอบ
ให้คะเเนน 4.5 หักที่ราคา เเละจะซื้อใช้ต่อเนื่องคะไม่กล้าเปลี่ยนเเล้ว
ต่อไปเป็นสูตร Sebium H2O ฝาสีเขียว เคลมกันว่าเหมาะสำหรับคนเป็นสิว, ผิวผสม-ผิวมัน รูขุมขนกว้าง เป็นสูตร Non-rinse, Paraben free,และ Hypoallergenic สามารถขจัดน้ำมันส่วนเกินไม่ทำให้ผิวเเห้งตึงที่สำคัญเป็นสูตร Non-comedogenic ไม่ทำให้อุดตันเพิ่มและลดการสะสมของไขมัน นอกจากนั้นมีส่วนประสมจากGinko biloba leaf extractหรือใบแป๊ะก๊วยอีกด้วย สูตรนี้ไม่เหมาะกับการนำมาเช็ดรอบดวงตาเพราะจะทำให้เเสบเเละไม่อ่อนโยนเท่าฝาชมพู แพ็กเคยใช้ตอนเป็นสิวและหลังกดสิว จะรู้สึกแสบนิดหน่อยเเต่ไม่มากจนเกินไป สำหรับสูตรนี้แพ็กไม่แพ้นะ ใช้ได้ตอนเป็นสิว
ให้คะเเนน 3/5 หักที่ไม่สามารถเช็ดรอบดวงตาได้
และสูตรสุดท้าย สูตรต้นเรื่องรีวิวครั้งนี้ นั้นก็คือสูตร Hydrabio H2O ฝาฟ้านี้เอง สูตรนี้เหมาะกับผิวบอบบางเเละเเห้ง เช่นเคย Non-rinse, Paraben free,และ Hypoallergenic สามารถนำมาเช็ดรอบดวงตาได้ โดยรวมคล้ายกับสีชมพูเป็นสูตร Micelle solution เช่นกัน เเต่จะเหมาะกับผิวที่ต้องการความชุ่มชื่น ขาดน้ำผิวเเห้งเนื่องจากมีส่วนประสบของ Moisturizer อยู่ด้วย ตอนเริ่มใช้รู้สึกได้ว่าเช็ดออกไม่สะอาดเท่ากับรุ่นอื่นๆ หลังจากใช้ไปได้สักวันสองวัน ปรากฎว่ามีผื่นขึ้นบริเวณหน้าฝาก เเต่ตอนเเรกคิดว่าแพ้เหงื่อเลยใช้ต่อไป หลังจากนั้นมันกลายเป็นสิวผด เลยไปหาหมอก็เลยทราบว่าแพ้สูตรนี้ สรุปต้องเลิกใช้โดยด่วนเเละไม่กล้าเปลี่ยนใจอีก
ให้คะเเนน 1/5 เพราะเสียดายเงินที่ซื้อไปแถมแพ้เเละเช็ดไม่สะอาดอีกด้วย
ต่อไปจะเป็นการรีวิวประสิทธิภาพในการทำความสะอาด เรียงจาก สูตร ชมพูม เขียว และฟ้าตามลำดับ โดยใช้เครื่องสำอางค์สามชนิดมาทดลอง
หลังจากการเช็ดทั้งสามสูตรครั้งเเรกโดยใช้เเรงเท่ากันเช็ดโดยชุบบนสำลีเเล้วเช็ดผ่านเครื่องสำอางค์ทั้งสามชนิด ผลที่ได้ก็คือ จะเห็นได้ชัดว่า สูตรสีชมพู มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดมากที่สุด รองลงมาคือสีเขียว เเละฟ้าลำดับสุดท้าย
ในครั้งที่สอง จะเห็นได้ว่าสูตรสีชมพูทำความสะอาดค่อนข้างสะอาดที่สุด รองลงมาคือสีเขียว เเละฟ้าเช่นเคย
เเละสุดท้ายในครั้งที่ 3-4 ปรากฎว่า สีชมพู สามารถ เช็ดทำความสะอาดได้หมดเเม้กระทั้ง waterproof gel liner ส่วน ฝาเขียวยังมีหลงเหลืออยู่บ้างเเต่สีฟ้ายังเหลืออยู่อย่างเห็นได้ชัดซึ่งถ้านำมาใช้กับใบหน้า เราอาจจะต้องเช็ดเป็นเวลานาน อาจจะทำให้ผิวได้รับการเสียดสี เป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยได้ ที่สำคัญทำให้ต้องใช้ในปริมาณที่เยอะขึ้น เปลืองไปอีก
สรุปนะค่ะ ตามความคิดเห็นส่วนตัว สีชมพูชนะเลิศคะส่วนสีเขียวอาจจะหยิบมาใช้ในวันที่เป็นสิว เเละสีฟ้า say bye คะไม่เอาเเล้วไม่สะอาดเเล้วยังแพ้อีก สุดท้ายนี้คนที่แพ้ง่ายอย่าไปงกกลัวเสียดายโปรโมชั่นจนไม่คิดถึงสภาพผิวหน้าตัวเอง เอามาลองมั่วๆจนเเพ้เเละอาจจะทำยิ่งเปลืองเงินค่ารักษาอีกตอนหลัง
Discussion (10)
สีเขียวแสบหน้า
สีฟ้าเหมือนไม่สะอาดเลย
นี่เค้าออกตัวใหม่มา สีขาว ว่าจะไปลองอยู่จ้า