แชร์วนไป 5 น้ำตบหน้าเด้ง ที่เคยใช้ work work work

สวัสดีค่ะสาวๆจีบัน วันนี้จะขอมารีวิว Essence หรือ น้ำตบ 5 ตัวที่เราเคยใช้มาค่ะว่าตัวไหนดียังไง จุดเด่นมีอะไรบ้าง แล้วตอนนี้ติดใจตัวไหนมากที่สุด บอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนผิวธรรมดา ค่อนๆไปทางแห้งนิดหน่อย แล้วก็เป็นผิวแพ้ง่ายด้วย เผื่อว่าใครกำลังมองหาน้ำตบอยู่ อาจจะช่วยตัดสินใจได้ ^^และนี่คือ Essence 5 ตัวที่เราเคยใช้ค่ะ1. Hada Labo Arbutin Whitening Lotion2. Shiseido Aqualabel White Up Lotion3. Bebiana Facial Skinperf Essence4. Sena Marine Plankton Water Serum Concentrate5. Biotherm Life Plankton Essenceเริ่มจากตัวแรก ที่ใครๆก็น่าจะรู้จัก คือแบรนด์ ‘Hada Labo’

ที่เราใช้คือ Hada Labo Arbutin Whitening Lotion ขวดฟ้าๆตัวนี้ฉลากด้านหลังบอกว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว และไม่มีแอลกอล์ฮอล์คุณสมบัติเ เป็นโลชั่นบำรุงผิวหน้า ช่วยปรับสมดุลผิวให้พร้อมรับการบำรุงด้วย Essence และ Moisturizer สูตรอ่อนโยน เพิ่มความกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ลดเลือนจุดด่างดำ ให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น มีสารสกัดธรรมชาติอาร์บูติน และวิตามินC และเทคโนโลยี HPP&M ที่เพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงจาก Hyaluronic Acid ด้วยราคา 520 บาท (170 ml.) ซึ่งถือว่าโอเคนะ ไม่แพง มันก็เลยเป็นตัวแรกที่เราเลือกมาลองใช้เนื้อสัมผัส เป็นน้ำเหลวๆ สีขุ่นๆหน่อยแล้วก็หนืดกว่าน้ำเปล่านิดนึง มันจะมีกลิ่นหอมนิดๆ แต่ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมนะ บอกไม่ถูกว่ากลิ่นอะไรความรู้สึกหลังใช้ ก็รู้สึกได้ว่าหน้ามันชุ่มชื้นขึ้นนะ มีฟิลหน้าหนึบหนับนิดๆ ต้องตบๆแปะๆหน้าหลายๆทีหน่อย พอทิ้งไว้สักแปปตอนมันซึมเข้าผิวหมดก็ไม่ได้รู้สึก ว่ามันเหนอะหนะผลลัพธ์ที่ได้ อันนี้ใช้หมดขวดนึงละก็รู้สึกว่าโอเคในเรื่องที่ทำให้หน้ามันชุ่มชื้น ไม่แห้ง แต่เรื่องจุดด่างดำหรือความใส ไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากเดิมสรุป ให้คะแนน 7/10 ถือว่าดีในราคานี้ ใครที่งบไม่เยอะ แนะนำว่าตัวนี้โอเคเลย หาซื้อได้ตามร้าน Drug store ทั่วไปตัวต่อไปเป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นเหมือนกัน คือ ‘Shiseido’

Shiseido Aqualabel White Up Lotionตัวนี้ตามด้านหลังขวดเค้าบอกว่า เป็นโลชั่นปรับสมดุลผิวสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง มีส่วนผสม M-Tranexamic Acid ที่ช่วยให้ผิวที่มีริ้วรอยฝ้าแดด กระ จุดด่างดำ และผิวหมองคล้ำจากรังสี UV ดูจางลง กักเก็บความชุ่มชื้นระหว่างวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึมซาบสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมบำรุงผิวในขั้นต่อไปราคา 590 บาท (200 ml.)เนื้อสัมผัส เป็นน้ำเหลวๆใสๆ เหมือนน้ำเปล่าความรู้สึกหลังใช้ ก่อนอื่นเลยคือ ‘กลิ่น’ เราว่ามันเหมือนยาหน่อยๆอ่ะ เราเลยไม่ค่อยชอบตัวนี้ สักเท่าไหร่ เรื่องการซึมเข้าสู่ผิว ตัวนี้ซึมเร็วดีเหมือนน้ำอ่ะ ไม่เหนียวเหนอะหนะผลลัพธ์ที่ได้ เรื่องจุดด่างดำ สำหรับเราไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่นะ แต่หน้าดูชุ่มชื้นทั้งวันไม่แห้งเลย พอๆกับ Hada Labo ถ้าใครเน้นเรื่องความชุ่มชื้นอย่างเดียว แล้วไม่ติดเรื่องกลิ่น ตัวนี้ก้โอเคสรุป ให้คะแนน 5/10 มันก้โอเค ราคาก็เป็นมิตรดี แต่เราติดตรงกลิ่นนี่แหล่ะ เลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ตัวต่อมา คือ แบรนด์ ‘Bebiana’

Bebiana Facial Skinperf Essenceอันนี้คือมีเพื่อนใช้แล้วบอกโอเค เลยสั่งมาลองใช้มั่งตัวนี้เค้าบอกว่าเป็น ผลิตภัณ์บำรุงผิวหน้า และผลัดเซลล์ผิว ให้สว่างกระจ่างใสช่วยผลัดเซลล์ผิวจากธรรมชาติ ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง ช่วยกระชับรูขุมขน และเรียบเนียนขึ้น มีวิตามิน B3 บำรุงผิวให้ขาวใส ลดจุดด่างดำ และมี Hyaluronic Acid ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำด้วยราคา 1,280 บาท (100 ml.)เนื้อสัมผัส เป็นน้ำเหลวๆใสๆ เหมือนน้ำเปล่าความรู้สึกหลังใช้  ตัวนี้ชอบนะ ซึมเร็วมากๆ ไม่เหนอะเลย แล้วก็ไม่มีกลิ่นด้วย (เลิฟตรงนี้แหล่ะ) ตบๆแปะๆไม่กี่ทีก็ซึมหมด ตอนนี้คือติดใจมากผลลัพธ์ที่ได้ รู้สึกว่าหน้ามันชุ่มชื้นแบบทั้งวัน หน้าไม่แห้งเลย ใช้แล้วไม่แพ้ด้วยแล้วก็ใสขึ้น แบบมีคนทักอ่ะว่าไปทำไรมา หน้าตาดูดีขึ้นนะ  พอลูบๆแล้วก็รู้สึกว่ามันเนียนขึ้นด้วย รูขุมขนก็น่าจะเล็กลงด้วยล่ะ แต่งหน้าง่ายเลยสรูป ตัวนี้ขอให้คะแนน 9/10 ขอหักตรงราคานิดนึง บางคนอาจจะมองว่าราคาสูงไปหน่อย แต่ถ้าเทียบราคากับผลลัพธ์ที่ได้เราว่ามันก็คุ้มอยู่นะ

ถัดมาคือแบรนด์สัญชาติเกาหลี ‘Sena’

Sena Marine Plankton Water Serum Concentrateอันนี้เค้าบอกว่ามันเป็นเซรั่มเนื้อน้ำเข้มข้นบำรุงผิวหน้า มีสารสกัดจากแพลงก์ตอนและสาหร่าย ที่ทรงคุณค่าแห่งการบำรุงผิวหน้าให้เกิดความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และคงความอ่อนเยาว์ ฟังดูเลอค่าเลยใช่มั้ยล่ะราคา 1,490 บาท (150 ml.)เนื้อสัมผัส จะเป็นน้ำเหลวๆใสๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนว่าจะมีน้ำหอมผสมอยู่ด้วยความรู้สึกหลังใช้ ตัวนี้เนื้อบางเบาและซึมเร็วมากเหมือนกัน แบบพอทาลงไปแล้วมันจะซึม เข้าผิวเลย ไม่เหนียวหรือหนักหน้า ช่วงอากาศร้อนๆชื้นๆก็ใช้ได้ผลลัพธ์ที่ได้ ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งตึง และดูอิ่มน้ำอย่างที่เค้าบอกเลยค่ะ รอยแดงก็จางลงนิดนึงแต่ไม่ได้ถึงกับหายไปเลย พอใช้แล้วผิวเนียนๆขึ้น แต่งหน้าง่ายดีสรูป ตัวนี้ให้คะแนน 9/10 ค่ะ  ดีงามนะ แต่ราคาก็ประมาณนึง แต่มีส่วนผสมของแพลงก์ตอนคุณภาพสูงด้วย ก็ถือว่าสมเหตุสมผลอยู่

ตัวสุดท้ายเป็นน้ำตบที่ผสมแพลงก์ตอนเหมือนกัน คือ ‘Biotherm’Biotherm Life Plankton Essence

เป็นแบรนด์จากทางฝรั่งเศส เป็นน้ำแพลงก์ตอนเจ้าแรกๆเลยก็ว่าได้ เอสเซนส์ตัวนี้มีความเข้มข้น และมีส่วนผสมของ Life Plankton ถึง 5% ช่วยฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดีและอ่อนเยาว์ และช่วยลดรอยแดงจากสิวราคา 2,300 บาท (125 ml.)เนื้อสัมผัส เป็นน้ำเหลวๆสีขุ่นนิดนึง เนื้อสัมผัสมีความหนืดกว่าน้ำธรรมดาทั่วไปความรู้สึกหลังใช้ ตัวนี้มันไม่ได้ซึมเร็วเหมือนตัวอื่น ทาเสร็จจะรู้สึกหน้าหนึบๆนิดนึง เหมือนมันเคลือบผิวเราไว้ คนที่หน้าแห้งใช้แล้วโอเคเลย แต่ถ้าใครหน้ามันตัวนี้ไม่แนะนำ อ้อ! ตัวนี้ใส่น้ำหอมนะ หอมๆดี แต่ถ้าใครแพ้ก็ต้องระวังนิดนึงผลลัพธ์ที่ได้ ความชุ่มชื้นอันนี้เต็มที่เลย เพราะมันเข้มข้น ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบ ไม่แห้ง หน้าจะนุ่มๆ แล้วก็รอยแดงดูจางลงนะสรุป  ให้ 7.5/10 คะแนน จริงๆใช้แล้วมันดีนะ แต่มันจะเหนอะๆนิดนึง แล้วก็ใส่น้ำหอม ที่สำคัญราคาสูงด้วย จะซื้อทีต้องคิดนิดนึงเลยล่ะ หาซื้อไม่ยากที่เคาน์เตอร์ หรือทาง online ก็มี

สรุปรวบยอดจาก 5 ตัวที่เราใช้มา เราว่าทุกตัวมันให้ความชุ่มชื่นเหมือนกันหมดแหล่ะ แต่ว่าตัวที่เราใช้แล้วชอบสุดก็คือตัวสุดท้ายของ Bebiana เพราะว่าโดยรวมทุกอย่างแล้วโอเคสุด ราคากับคุณภาพสมเหตุสมผล การซึมเข้าสู่ผิวอันนี้ก็รู้สึกว่ามันซึมเร็วทำให้ไม่รู้สึกเหนอะหนะ กลิ่นก้ไม่มี แล้วก็ซื้อง่าย สะดวกอ่ะ สั่งจากเว็บเอาแต่ว่าผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนอื่นจะใช้แล้วเห็นผลเท่าเรามั้ยอันนี้ต้องบอกว่ามันแล้วแต่ สภาพผิวด้วยนะ บางคนอาจจะใช้ตัวอื่นแล้วรู้สึกว่ามันดีกว่า เหมาะกับสภาพผิวมากกว่าก็ได้จบแล้วค่าาาา หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้ข้อมูลกับสาวๆที่กำลังมองหาน้ำตบอยู่ได้บ้างนะคะ ^^

Discussion (3)

มีอยู่ในคลังน้ำตบทุกตัวเลยค่ะ ยกเว้นตัวที่สาม ไม่เคยเห็นเลย คือเราเป็นคนชอบใช้น้ำตบมากสุดในสกินแคร์ไม่รู้ทำไม สลับๆกันใช้แล้วแต่โอกาส แต่ถ้าใช้บ่อยสุดจะเป็นตัว Iris extract ของคีลส์ค่ะ  ไม่รู้เหมือนกันทำไม แต่แบบใช้ได้ทุกวันทุกโอกาสจริงๆ ซึมดี ใช้แล้วผิวนุ่มๆ ดูกระจ่างขึ้นค่ะ