รีวิว สารพัดน้ำมันทาหน้า จากสาวหน้ามัน ที่บ้าน้ำมัน อาร์แกนออยล์ โรสฮิปออยล์ โมริงก้าออยล์ แครนเบอรี่ออยล์ และอีกเพียบ

สวัสดีจ้า

เป็นการเปิดกรุครั้งแรก เริ่มที่ Facial oil หรือน้ำมันบำรุงผิวหน้านะคะ , 7 ขวดนี้ เพิ่งซื้อภายในปีนี้ค่ะ  ไม่ได้เป็นการจัดอันดับใดๆ แต่ก็แอบมีขวดที่ชอบเป็นพิเศษ ลองมาดูกันนะคะว่าขวดไหน ดี เด่น ด้อย ยังไง :)

เพิ่งมาสังเกตุตัวเองว่าครอบครองน้ำมันทาหน้าหลากหลายยี่ห้อมาก โดยสภาพผิวของพี่ คืออายุ 46 เกิดมาพร้อมผิวมัน รูขุมขนกว้าง เป็นสิวมาโชกโชน ผ่านมาทุกสนามสิว รอยแผลเป็นจากสิวเพียบ ผิวมีริ้วรอยก่อนวัย หาหมอสิวมาทุกสถาบัน ใช้ยารักษาสิวแทบทุกแบบที่เค้าฮิตกันค่ะ เงินที่ใช้รักษาสิวเนี่ย คิดว่าสามารถเอามาเรียงต่อกันจากเชียงใหม่ ไปถึงสุไหงโกลกได้เลยค่ะ   แต่ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นสิวแล้วค่ะ

ตอนนี้หันมาศึกษาเรื่อง facial oil ค่ะ เพราะหาอ่านจาก article เมืองนอกค่อนข้างเยอะ ฝรั่งเค้าฮิตผสมน้ำมันทาผิวหน้ากันค่ะ บ้านเค้าเมืองหนาวผิวจะแห้งๆ น้ำมันจึงมอบความชุ่มชื้นแก่ผิวมาก  แต่พี่เป็นคนผิวมันและมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย จึงต้องหาน้ำมันที่เหมาะกับเราโดยเฉพาะ เลยเริ่มสั่งน้ำมันบำรุงผิวหน้ามาลองที่ล่ะอย่าง

คือคนที่มีผิวมันอย่างพี่  แค่คิดว่าจะต้องใช้น้ำมันก็สยองแล้วค่ะ  แต่เราศึกษาอย่างละเอียดแล้วไงคะว่าจริงๆ น้ำมันสกัดเหล่านี้ ไม่ได้เพิ่ม "ความมัน" ให้ใบหน้า แต่เค้าเพิ่ม "ความชุ่มชื้น" ต่างหาก    มันต่างกันนะคะ  ความมัน กับความชุ่มชื้น เนี่ย ^^  พอเริ่มหันมาใช้น้ำมันครั้งแรก เลยรู้เลยว่า พวกครีมต่างๆ นี่สู้ไม่ได้เลยค่ะ  น้ำมันมันซึมลึกกว่า  ให้ความชุ่มชื้นจริงๆ ไม่ได้ทิ้งความเหนียวเหนอะแบบพวกครีม  

1. อาร์แกนออยล์ ยี่ห้อ PURE สั่งจาก Ali Express ราคา $12 เห็นว่าปริมาณ 100 ml คุ้มดี  แต่ยี่ห้อนี้เนื้อน้ำมันเป็นเหมือน silky ใส่ผมอ่ะค่ะ ไม่ชอบเลย  ทาหน้าไปครั้งเดียว แล้วไม่กล้าเอามาทาหน้าอีก  แถมข้างหลังขวดไม่แจ้งส่วนผสมว่ามีอะไรบ้าง เลยลังเลที่จะใช้กับผิวหน้า ตอนนี้เอามาใส่ผมแทน

ส่วนตัวไม่ชอบค่ะ  มันไม่ต่างอะไรกับ silky ใส่ผมเลย  แต่ตอนซื้อร้านค้าอธิบายว่าใ้ช้กับผิวหน้า  บอกเลยค่ะว่าไม่กล้าทาหน้าอีกแน่ๆ 

2) Dessert Essence Moringa+JoJoba+Rosehip oil 60 ml. ราคาประมาณ 500 กว่าบาท  กลิ่นคล้ายมะกรูด ขวดนี้ซื้อเพราะเห็นส่วนผสมแล้วชอบ เพราะมี Moringa หรือน้ำมันมะรุม ที่เค้าว่ากันว่าช่วยลดเลือนริ้วรอย  เนื้อน้ำมันจะลื่นๆ แต่ไม่เหลวมาก ถ้าหาข้อมูลเรื่องน้ำมันมะรุมจะพบว่าเทพมากรักษาได้แม้กระทั่ง โรคผิวหนังบางชนิด กรากเกลื้อน และโรคสะเก็ดเงิน  อ่านแล้วร้องโอ้โหเลยใช่ไม๊คะ 55555  แต่พี่ใช้มันในแง่ลดริ้วรอยค่ะ เพราะอายุก็ปาไปขนาดนี้แระ ^^

ใช้มา 2 เดือนแล้วค่ะ ส่วนตัวก็ชอบนะคะ แต่ยังไม่เห็นผลว่าลดเลือนริ้วรอยชัดเจนนัก และทิ้งความมันมากไปนิดนึง ( หลังทายังรู้สึกว่าความมันมันยังเคลือบหน้านิดนึง)  คือไม่ค่อยบรรลุจุดประสงค์  หรือมันต้องใช้เวลานานกว่านี้หว่า?  แต่ว่าก็โอเคอะค่ะ ไม่แพ้เลย ถ้าใครชอบกลิ่นหอมๆ เย็นๆ แบบมะกรูดแนะนำตัวนี้เลยค่ะ 

3) NatureMix Argan oil 30 ml.  ขวดนี้คือขวดล่าสุดที่เพิ่งสั่งจาก ig ของแบรนด์เค้าค่ะ ราคา 650 บาท  (เจ้าของร้านให้คำปรึกษาและข้อมูลดีมากค่ะ) บอกเลยค่ะว่าเห่อขวดนี้มาก เป็นอันที่ชอบที่สุดในทั้งหมด  ^^     เท่าที่ศึกษาจากข้อมูลในเน็ต อาร์แกนออยล์นี่เหมาะกับผิวทุกแบบเลยค่ะ  ฝรั่งเค้ารีวิวกันเยอะมาก มีทุกสภาพผิวที่ใช้แล้วมารีวิว  พี่เลยสนใจน้ำมันตัวนี้เป็นพิเศษ

แบรนด์นี้เคลมว่าส่วนผสมคืออาร์แกนออยล์ 100% และนำเข้าตรงจากโมรอคโค  (บางแบรนด์เช่นขวดเบอร์ 1 ที่พี่สั่งจาก Ali Express ก็ไม่ได้แจ้งว่ามาจากไหนและส่วนผสมมีอะไรบ้าง )   แบรนด์นี้ทำ ad โฆษณาแตกต่างจากเจ้าอื่นมาก คือดูสวย ดูเก๋ๆ ให้อารมณ์ฝรั่งๆหน่อย  เห็น ad แล้วจำได้ในครั้งเดียว เลยถูกชะตามาก ต้องสั่งมาลองเลยค่ะ  น้ำมันมีกลิ่นคล้ายถั่ว  แต่เพราะเค้าไม่ผสมกลิ่นอะไรเลย นี่คือกลิ่นธรรมชาติล้วนๆ  ไปอ่านในเน็ตเจอว่าน้ำมันอาร์แกนออยล์แท้ๆ จะกลิ่นแบบนี้แร่ะ

ส่วนตัวชอบมากค่ะ :) เนื้อน้ำมันเหลว ทาลื่นเนียนไปกับผิวหน้าเลย ทาไปซักพักจะซึมเข้าผิว ทิ้งความรู้สึกนุ่มๆ ไว้  ไม่มัน แต่รู้สึกเหมือนมันเนียนไปกับหน้าเลย  ใช้คืนแรกก็ชอบเลย ^^      ตื่นมาตอนเช้า คุณพระ! หน้าฟูสิคะ  หน้านุ่ม ผิวดูฉ่ำๆ พูดไม่ถูก และระหว่างวันหน้าก็ไม่มันเท่าที่เคย  ( แต่ไม่ได้ดูแห้งนะคะ)   พี่อธิบายสภาพผิวแบบนี้ไม่ได้  น่าจะหมายถึงผิวดูแข็งแรงขึ้น ดู healthy ขึ้น ประมาณนี้อะค่ะ   ส่วนตอนนี้ใช้มาไม่กี่วัน ผดเล็กๆ ตรงคางหายค่ะ  ตอนนี้เลยเห่อของใหม่มาก ใช้ต่อแน่นอน  อิอิ ^^

4) Life Flo Rosehip seed oil  30 ml ราคาเท่าไหร่ จำไม่ได้จริงๆ ซื้อมาตั้งกะต้นปีอะจ้า   ตัวนี้โด่งดังเรื่องลดรอยแผลเป็นเช่น แผลเป็นสิวอะไรอย่างนี้   แบบนี้พี่ไม่รอช้ารีบสั่งเลยค่ะ 555 เพราะถึงจะไม่ค่อยมีสิวแล้ว แต่ร่องรอยสิวในอดีตมันยังค้างคาบนหน้าเรานี่คะ  เนื้อน้ำมันเหลวดีค่ะ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี  ส่วนกลิ่นจะไม่เหม็นไม่หอม ไม่ได้มีกลิ่นเฉพาะตัวแบบอาร์แกนออยล์ค่ะ  

ตอนได้มาใหม่ๆ เห่อมากกกกก บอกเลย  เพราะเป็นน้ำมันตัวแรกที่ซื้อมาใช้   ครั้งแรกที่ใช้นี่ พนมมือแนบอก สวดมนต์เลยค่ะ ว่าขออย่าให้แพ้ เพราะคนผิวมันอย่างเราบังอาจมาใช้น้ำมันทาหน้ารึ  ช่างกล้ามาก 55555555 .  แต่ แต่ แต่ แต่....ปรากฏว่า ใช้ดีค่ะ ไม่แพ้ ไมมันเลย   ขวดนี้คือเปิดโลกน้ำมันทาหน้าให้ชีวิตพี่เลยค่ะ

หวังผลเรื่องลดรอยจากสิวค่ะ   เอาจริงๆ มันก็เห็นผลบ้างนะคะ  รอยสิวดูจางลงนิดนึง  แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนแบบที่เค้าเคลมไว้ อาจจะเพราะเราอายุเยอะแล้ว รอยแผลมันหายยากกว่าเด็กๆ   แต่พี่ว่าดีกว่าเราไม่ทาอะไรเลยค่ะ  ช่วยได้บ้างนะคะขวดนี้

5) Swisse Cranberry oil 30 ml. ราคา AUD 23 (เหรียญออสเตรเลีย)  ขวดนี้ซื้อแบบไม่ได้ศึกษาก่อนว่า น้ำมันแครนเบอรรี้ดียังไง  แต่อ่านข้างกล่อง  เค้าเคลมว่า anti-oxidant ค่ะ^^  ซื้อตอนไปเที่ยวออสเตรเลียค่ะ พี่ที่นู่นเค้าแนะนำว่าดี เลยลองซื้อกลับมา  เพราะพี่บ้านำ้มันอยู่แล้ว  ใครแนะนำอะไรนิดนึง ก็รูดบัตรทันทีค่ะ  55555555555

เริ่มจากกลิ่นนะคะ  กลิ่นเก๋ไก๋มากค่ะ คือมีกลิ่นเปรี้ยวอ่อนๆ แบบตระกูลเบอร์รี่เลย ซึ่งพี่กลับชอบซะงั้น มันแปลกดี  เนื้อน้ำมันก็เหลวดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ  มันช่วยให้หน้าชุ่มชื้นดี  แต่ระหว่างวันจะมีหน้ามันขึ้นค่ะ  ต้องปรับลดปริมาณการใช้ในช่วงเช้าจะได้ไม่มันมาก  ข้อตำหนิของยี่ห้อนี้คือ ฝาขวดไม่สามารถหมุนให้ปิดสนิทกับขวดได้ :( ใครคิดจะพกติดตัวเพื่อเดินทาง ต้อง pack ดีๆเลยค่ะ  เพราะฝาขวดปิดไม่สนิทเท่าไหร่  หกได้นะคะ  

ก็ชอบขวดนี้นะคะ  ทำให้หน้าชุ่มชื้นมากกว่าเรื่อง anti-oxidant ที่เขียนเคลมข้างกล่อง แต่ไม่มีขายในไทย  และติดเรื่องฝาขวดหลวม

6) Nourish Organic Argan oil + Pomegranate + Rosehip oil 100 ml.  สั่งเพราะชอบดีไซน์ขวดค่ะ มันดูวินเทจดี 555555  และพออ่านส่วนผสมแล้วมีแต่ของดีทั้งนั้น เลยต้องลองซักหน่อย  อันนี้ไม่น่ามีขายในไทยเช่นกันค่ะ   ด้วยความที่ปริมาณเยอะคุ้มดี เลยเอามาใส่ผมด้วย เอามาผสมกับครีมทาตัวด้วย จะได้นุ่มเนียมตั้งแต่ผมจรดเท้า อิอิอิ

เนื้อน้ำมันเหลวปนหนึบนิดหน่อยค่ะ และไม่มีกลิ่นเลย  เป็นพวกไร้กลิ่น ^^ ทาหน้าก็ได้  ทาตัวก็ได้  ใส่ผมก็ได้   ตอนทาหน้า ก็ซึมช้ากว่า อาร์แกนออยล์  หรือ แครนเบอร์รี่ออยล์ค่ะ  ส่วนใหญ่พี่เอามาผสมครีมทาตัวซะมากกว่า  แต่ขวดนี้มีข้อเสียขั้นรุนแรงอยู่หนึ่งอย่างคือฝาขวดเป็นแบบกดเปิดปิด เวลาเทน้ำมันแล้วกะปริมาณยากมากค่ะ  ( เพราะมันไม่ได้เทออกมาเป็นหยดติ๋งๆ เหมือนขวดที่มีหลอดหยด ) จะเห็นในรูปที่พี่ถ่ายว่าขวดดูเยิ้มเหนอะหนะมาก เพราะน้ำมันจะไหลย้อยเลอะขวดเวลาเราเทใช้  อันนี้ต้องปรับปรุงจริงๆ ค่ะ :(  เพราะเนื้อน้ำมันไม่ควรมีวิธีเทใช้แบบนี้  เลยหักคะแนนเรื่องความสะอาดนิดนึง  แต่คงซื้อครั้งเดียวเพราะว่าขวดมันไม่เอื้ออำนวยจริงๆ กับผลลัพธ์ที่ได้ไม่ชัดเจนค่ะ

แบรนด์นี้มีเว็บไซต์  ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูเว็บไซต์เค้านะคะ search หาชื่อยี่ห้อได้เลยค่ะ

7) ขวดสุดท้ายนี่แถมค่ะ ไม่ใช้น้ำมัน แต่ใช้อยู่ Aesop Parsley seed 100 ml. ราคา 2000 กว่าๆ ซื้อที่ออสเตรเลีย  เป็น anti oxidant serum คิดว่าหลายๆคนมีครอบครอง ใช่ไม๊คะ ^^ คงไม่ต้องสาธยายมากเพราะใช้ดี  กลิ่นก็หอมเย็น ( แต่ส่วนตัวพี่อยากให้กลิ่นอ่อนลงกว่านี้อีกครึ่งนึง )  

พี่ชอบรูปร่างหน้าตาของสินค้าแบรนด์นี้มากอยู่แล้ว มันดูเท่  ดูฝรั่ง  ตอนไปออสเตรเลีย shop ที่นั่นสวยงามมาก  ดูทันสมัย แถมทางร้านที่นั่นมีบริการเสริฟชากลิ่มสมุนไพรให้ด้วย  อารมณ์เคลิบเคลิ้มมาก เลยถอยมา 2 ขวดค่ะ ตอนนี้ใช้สลับกับ  NatureMix Argan oil (ขวดเบอร์ 3)  เพราะรู้สึกชอบผลลัพธ์ทั้งคู่

Aesop เป็นแบรนด์ที่ราคาสูงนิดนึง  พี่ก็จะสลับใช้ไปมากับอย่างอื่นที่เป็นธรรมชาติเหมือนกัน  (งกนั่นเอง กลัวของแพงหมดเร็ว 555 )

 

สุดท้ายนี้ หวังว่ารีวิวจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนนะคะ  นี้เป็นรีวิวครั้งแรก ช่วยกด like  ให้กำลังใจด้วยนะคะ ขอบคุณค่า