เปิดกรุ รองพื้นฉบับนักศึกษา

สวัสดีค่ะ :) นี่กระทู้ที่สองแล้วนะคะ คราวที่แล้วรีวิวแปรงแต่งหน้าไป วันนี้เราจะมารีวิวรองพื้น และคุชชั่นทั้งหมดที่เราเคยใช้นะคะ ก็มีทั้งถูกและแพงปะปนกันไปเนาะ ตามสไตล์นักศึกษาทั่วๆไป โดยทั่วไปเคย ใช้คำว่าเคยนะคะ หน้ามันมาก แต่ตอนนี้นี่หน้าแห้งบ้าง มันบ้าง ตามสภาพอากาศค่ะ 

เรื่องความชอบแต่ละคนก็คงชอบไม่เหมือนกันเนาะขึ้นอยู่กับสภาพผิว เพราะแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันอยู่แล้วหวังว่าจะได้ประโยชน์จากนี้ไม่มากก็นิดนึงก็ยังดีนะคะ ใครที่กำลังเลือกรองพื้นอยู่ ก็หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยได้นะคะ 

ปล. การให้คะเเนนและการรีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราเองนะคะ เขึ้นอยู่กับสภาพผิวเเต่ละคนด้วย ยังไงไปลองเล่นด้วยตัวเองก่อนนะคะจะชัวร์สุด อย่าเชื่อเค้ามาก <3 

ผิวของเจ้าของกระทู้นะคะเคยผิวมันมาก ก็เลยจะมีรองพื้นที่เหมาะกับคนผิวมันด้วยตอนนี้ผิวแห้ง เป็นสิวง่าย แพ้ง่ายมีรอยดำ รอยแดงจากสิว รูขุมขนกว้างด้วยนะคะก่อนแต่งหน้าเลยต้องบำรุงดีๆ ไม่งั้นเวลาแต่งหน้า ผิวจะลอกรองพื้นไม่ซึมลงผิว

ลักษณะรองพื้นี่ชอบ : ไม่หนา ไม่หมองระหว่างวัน ไม่ต้องคุมมันมากก็ได้ เพราะไม่ชอบให้หน้าแมท ติดทนระหว่างวันได้ดีไม่ต้องเติมหน้าบ่อยๆ 

* ขออภัยถ้าแสงไม่เท่ากัน บางรูปอาจจะยืมมาจาก internet ด้วยนะคะ เพราะว่าบางตัวก็หมดไปแล้วขายต่อไม่ก็ให้เพื่อนไปนะคะ

มาดูตัวแรกกันเล้ยยยยย 

ขอเริ่มจากคุชชั่นก่อนเลยนะคะ 

The Face Shop CC Intense Cover Cushion #V201

คุชชั่นตัวแรกที่ลองใช้เป็น CC ที่เน้นการปกปิด และช่วยปรับสีผิวมีส่วนผสมบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น ยาวนาน 25 ชม.

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อบาง มีความชุ่มชื้นตามแบบคุชชั่นทั่วไป แต่ไม่ได้ฉ่ำมากเท่ากับรุ่นอื่นการปกปิด : ปกปิดได้ปานกลาง ถือว่าค่อนข้างดี แต่รอยที่เข้มๆก็ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์อยู่นะคะระหว่างวัน : ติดไม่ทน มีดรอปและไหลระหว่างวัน ค่อนข้างจะหนักหน้านิดนึงนะคะ อื่นๆ : ทาไปแรกๆจะขาวมาก ถึงมากๆ แต่สักพักก็จะกลืนผิวค่ะ ทั้งๆที่เป็น CC แต่ปกปิดได้ค่อนข้างดีเลย ใครชอบฉ่ำๆ และปกปิด ตัวนี้จะเหมาะมากราคา : 649 บาทสรุป :7/ 10

Missha M Magic Cushion BROWM #21

ยอมรับว่าซื้อเพราะแพคเกจจิ้งล้วนๆความมุ้งมิ้งทำให้เราตาบอดเสมอแต่พอใช้แล้วนางก็ไม่ทำให้ผิดหวังนะคะเป็นคุชชั่นที่ค่อนข้างรักเลย

เนื้อผลิตภัณฑ์: เหมาะกับสาวผิวมัน เนื้อเยิ้มนิดหน่อย ให้ลุคที่แมท แต่ก็ยังฉ่ำนิดๆตามฉบับคุชชั่นเกาหลี แต่เบาสบายผิว ไม่รู้สึกหนักหน้าการปกปิด : จะปกปิดดีกว่ารุ่น sally ที่ออกมาคู่กัน ซึ่งถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ควบคุมความมันก็ระดับปานกลาง แต่ถ้าต้องการปกปิดเพิ่มก็ใช้คอนซีลเลอร์ Tips นะคะ ถ้าอยากให้ยังได้ลุคฉ่ำแบบคุชชั่นอยู่ก็ให้ลงคอนซีลเลอร์ก่อนค่อยลงคุชชั่นค่ะ ระหว่างวัน : สีจะค่อนข้างเหลืองนะคะ ถ้าไม่ได้ตบแป้งตามก็จะมีเยิ้มตามสภาพอากาศเมืองไทยนะคะ แต่ถ้าอยู่ในห้องแอร์ก็ใช้เพียวๆได้ ไม่ได้ทำให้หน้ามันเท่าไหร่ อาจจะมีดรอประหว่างวันบางค่ะ ไม่ค่อยเหมาะกับกิจกรรมที่หนักเท่าไหร่ อื่นๆ : มีสีแค่ 2 สี ต้องเลือกดีๆนะคะ ราคา :650 บาท บางคนอาจจะได้มาในราคาที่ถูกกว่านี้นะคะ สรุป : 8/ 10 

Cathy Doll AA Matte Powder Cushion #21

เห็นสาวๆในโซเชี่ยวเขาฮือฮากันมากๆ แพคเกจจิ้งสีหวานสดใส สีชมพูน่ารัก มีมาริโอ้เป็นพรีเซ็นเตอร์สุดหล่อ เขาว่าเนื้อแมท เย็นฉ่ำ คุมมัน กันสิวนี่ซื้อตลับเล็กมาใช้แล้วชอบพอหมดเลยไปสอบตลับใหญ่มาอีก

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อค่อนข้างเหลืองๆ ไม่ได้ออกชมพูเท่าไหร่ การปกปิด : ปกปิดได้ปานกลาง รอยคล้ำใต้ตากับรอยสิวจางลงเยอะระหว่างวัน : ทาครั้งแรกจะรู้สึกเย็นๆผิว เหมือนจะสว่าง แต่สักพักก็จะค่อยๆกลืนไปกับผิว มีหลุดบ้างระหว่างวัน อยู่ทน 5 -6 ชั่วโมง แต่หลังจากนั้นจะเริ่มไหลบริเวณทีโซนอื่น : ชอบลายและสีตลับมาก ใครเห็นก็ต้องสะดุดตา ให้ผลลัพธ์ที่เกินคาดสุดๆ ขนาดเราผิวแพ้ง่ายก็ยังใช้ได้ สาวผิวแห้งหรือผิวมันก็ใช้ได้นะคะ แต่สีค่อนข้าเลือกยากค่ะ เพราะมีแค่ 2 สี คนที่ผิวเข้มมากๆหมดสิทธิ์นะคะ ราคา : ตลับเล็ก 159 บาท หาซื้อได้ตามเซเว่น ส่วนตลับใหญ่น่าจะ 359 บาท สรุป : 9/ 10 

maybelline Super BB Cushion #02

เขาว่ากันว่าปกปิดสูง ให้ความชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมจากแร่ธาตุและ Moisturising Essence ให้ผิวสวยไร้ที่ติเพียงแตะแค่ครั้งเดียว

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ไม่เหลว ไม่ข้น เนื้อสัมผัสเบาบางมากๆ เย็นหน้านิดหน่อย การปกปิด : ปกปิดได้ในระดับหนึ่งค่ะ เพราะเน้นความบางเบา การปกปิดก็จะไม่ค่อยสูง แต่ความเนียนชนะเลิศนะคะ ไม่สู้ตัวรองพื้นใน line เดียวกันระหว่างวัน : สีไม่ดรอป ไม่ค่อยคุมมัน ให้ลุคผิวฉ่ำๆ ระหว่างวันมีเลือนหายบ้าง อื่นๆ : มีกันแดดด้วยนะคะ SPF 29/PA+++ ตลับเป็นพลาสติดเนื้อแมท สีม่วงอมน้ำตาล แชมเปญ เรียบๆสวยงาม สำหรับคนที่ผิวหน้าแห้งไม่ต้องเติมแป้งก็ได้ แต่ถ้าผิวมันควรทาแป้งทับค่ะ ราคา : 499 บาทสรุป : 8/10 

ต่อกันที่รองพื้นนะคะ

Bourjois 123 Perfect #N51

รองพื้นที่เคลมว่ามีส่วนผสมของเม็ดสี 3 สี คือ เหลือง ม่วง เขียวจะช่วยแก้ไขและปรับสีบนหน้า ทำหน้าที่คล้ายเบสหลายๆสีนั่นแหละเป็นขวดแก้ว มีหัวปั๊ม 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : สีออกโทนชมพู เกลี่ยไม่ยาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สไตล์ bourjois เซทตัวเป็นเนื้อแป้งการปกปิด : ปกปิดปานกลางถึงมาก ปกปิดได้ค่อนข้างดีค่ะ ระหว่างวัน : คุมมันได้นิดหน่อย แต่หน้าไม่หมองระหว่างวัน ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มระหว่างวันด้วย  อื่น : ใช้ได้ทุกสภาพผิว กำลังสวย ใช้เป็น every day ได้ หาซื้อง่ายตาม drugstores แต่ไม่ค่อยเหมาะสำหรับผิวเอเชียเท่าไหร่ค่ะ ราคา : 550 บาท สรุป : 8/ 10 

L’oreal True Match Liquid Foundation #g1

เคลมมาว่าเป็นรองพื้นเพื่อสีผิวที่เป็นธรรมชาติที่สุด และเนียนนุ่มเพื่อผิวคนเอเชียโดยเฉพาะ แพคเกจจิ้งก็จะเป็นขวดทรงเหลี่ยมๆ ทำให้เก็บง่าย เป็นแบบหัวปั๊ม ใช้งานได้สะดวกไม่หกเลอะเทอะ นี่ใช้มา 2 ขวดแล้ว เลิฟมาก 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ชอบมากกก เป็นรองพื้นที่เกลี่ยง่ายมากกกกก ใช้มือเกลี่ยก็ยังสวยเลย มีวิ้งค์สีทองเล็กๆ ทำให้ไม่ดูแมทเกินไป  การปกปิด : ปกปิดได้ปานกลาง แต่บิ้วเพิ่มได้ ทาแล้วไม่ได้รู้สึกว่าหนักหน้า ระหว่างวัน: รู้สึกเบาสบายหน้า สีไม่ดรอป อื่นๆ : เป็นรองพื้นที่โทนเหลืองเหมาะกับสาวไทย เหมาะกับคนผิวผสมถึงผิวมันนะคะ ผิวแห้งก็ใช้ได้ ใช้ได้ทุกวันเลยนะคะ เลิฟมากค่ะ บางเบาแต่ปกปิด สบายผิว ราคาถูก ตอบโจทย์นักศึกษางบน้อยอย่างเราจริงๆค่ะราคา : 449 บาทสรุป : 9/ 10 

Maybelline Fit Me! Dewy + Smooth Foundation #125 

งานหน้าฉ่ำจะขาดไม่ได้เลยนะคะ ทาแล้วจะได้ลุคฉ่ำๆ ทาแล้วหน้าใสแบบงานผิว ไม่มีขายในไทยด้วย อยากได้ต้องพรีหรือหิ้วเอานะคะ เป็นขวดแก้ว ไม่มีหัวปั๊ม ต้องเทเอา

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อลิควิด เบาบางมาก เกลี่ยง่าย มีชิมเมอร์เล็กๆ ทำแล้วหน้าดูสวย ขึ้นกล้องมาก การปกปิด : ปกปิดปานกลาง ถึง full ได้ แต่ต้องเพิ่มเอา ระหว่างวัน : เป็นรองพื้นที่ให้ลุคฉ่ำ แต่ไม่ได้ทำให้หน้าดูมัน แต่ก็ไม่ได้คุมมันด้วยเหมือนกัน สีไม่ดรอป ไม่เป็นคราบ อื่นๆ : เหมาะกับคนผิวแห้ง ราคา : 350 - 450 บาท แล้วแต่ที่นะคะ สรุป : 8/ 10 จะไปซื้อสีใหม่มาใช้ค่ะ ซื้อมาผิดสีอีกแล้ว 

Estee Lauder Double Wear Stay in Place Makeup #1W1 Bone 

รองพื้นในตำนาน ใครๆก็พูดถึงคุณสมบัติที่ว่า ติดทน ปกปิด แน่น เป๊ะ กันน้ำ แพคเกจเป็นขวดแก้ว ไม่มีที่ปั๊มหกเลอะเทอะทุกครั้งที่ใช้ 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เหลว แห้งเร็ว เกลี่ยง่าย แต่ต้องรีบเกลี่ยการปกปิด : ปกปิดดีมาก แบบfull coverage เหมาะกับงานที่เน้นเป๊ะ หรือต้องการปกปิดเป็นพิเศษ ใช้เป็น everyday ไม่ได้ มันหนาไประหว่างวัน : ส่วนตัวเคยใช้ได้ค่ะ แต่ตอนนี้หน้าแห้งมาก ทาแล้วแบบน่าเกลียดเลยอ่ะ ตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว หน้าแห้งเกินไป T T เลยต้องทาเฉพาะจุดค่ะ ส่วนเรื่องการติดทนนั้น เราว่าก็ไม่ได้มากขนาดนั้น ระหว่างวันถ้าอากาศร้อนมากๆก็หลุดได้ค่ะ อื่นๆ : เหมาะกับคนผิวผสมไปผิวมันมาก คนหน้าแห้งนี่ใช้ไม่ค่อยได้ค่ะ มันจะเกลี่ยยาก และรองพื้นจะเป็นขุย ไม่ติดผิว แต่ถ้าอยากใช้แนะนำให้เตรียมผิวก่อนดีๆ หรือใช้วิธีผสมกับ argan oil ก็จะใช้ได้ค่ะ แต่การปกปิดก็จะลดลงนิดนึงนะคะ ราคา : 1,750 บาทสรุป : 7.5/ 10

Nars All Day Luminous Weightless Foundation #light 4 

รองพื้นจาก nars รุ่นที่เขาบอกว่าให้การปกปิดดีเยี่ยม แต่ยังคงได้ลุคธรรมชาติ ติดทนยาวนาน 16 ชั่วโมงแพคเกจเป็นขวดแก้ว มีที่ปั๊มมาให้ด้วย เย่ๆๆ 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ค่อนข้างเหลว ละเอียด เบาบาง ซึมและแห้งค่อนข้างเร็ว เป็น oil free ทาแล้วสบายผิว ให้ลุคโกลวนิดนึง เหมาะกับงาน everyday การปกปิด : ปกปิดได้ปานกลาง ถึงมากค่ะระหว่างวัน : สีดรอปค่ะ ได้ light 4 มามันพอดีกับผิวเป๊ะ แต่พอระหว่างวันมันดูหมอง ไม่ได้ติดทนนานอย่างที่แบรนด์เคลมไว้นะคะ อื่นๆ : มีสีให้เลือกเยอะมากค่ะ มีโทนเหลืองด้วย ถูกใจสาวไทยเราสุดๆเลย ให้ลุคโกลวๆนิดนึงด้วยนะคะ เหมาะกับงาน everyday หรือไปงานที่ต้องการให้ผิวสวยๆ แต่ไม่ต้องแน่นเหมือน estee ก็แนะนำค่ะ ใช้ได้กับทุกสภาพผิวนะคะ เพราะเราตอนนี้ผิวแห้งก็ใช้ได้ ไม่เป็นคราบค่ะ ราคา : 1,850 บาทสรุป : 8/ 10 เพราะต้องไปซื้อสีใหม่มาใช้ 

Revlon Colorstay Whipped Foundation #180

เป็นรองพื้นที่กูรูฝั่งตะวันตกฮือฮากันมากในช่วงนึงเขาบอกว่ารองพื้นเนื้อวิปครีม เกลี่ยง่ายคุมมัน ติดทนนาน 24 ชั่วโมง

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ชอบเนื้อสัมผัสมากเลยนะคะ มันเป็นครีมกึ่งๆเจล นุ่มๆหยุ่นๆดี เกลี่ยค่อนข้างง่าย การปกปิด : ถ้าลงเดี่ยวๆนี่จะหนามาก เวลาใช้ควรใช้ฟองน้ำหรือแปรงนะคะ ปกปิดได้ดีในระดับหนึ่งแต่จะสู้ตัว Estee ไม่ค่อยได้ ระหว่างวัน : จะมีดรอปแล้วก็หน้ามันบ้างนะคะ ไม่ค่อยอยู่ทนเท่าไหร่ อื่นๆ : เหมาะกับคนผิวผสมไปผิวมันมาก เลือกสียากมาก 150 ก็ชมพูไป 180 ก็เข้มไป กลิ่นแอลกอฮอล์ค่อนข้างรุนแรงราคา : 400 - 500 บาทสรุป : 6/10 ไม่ซื้อต่อค่ะ หาสียาก มีสีให้เลือกน้อย

Collection Lasting Perfection Foundation #3

ติดใจคอนซีลเลอร์ของนาง ซื้อตามบิวตี้บล็อกเกอร์ท่านหนึ่งเขาบอกว่า ให้การปกปิดดีเยี่ยม อยู่นาน 16 ชั่วโมงเป็นหลอดแก้ว ค่อนข้างหนักเป็นหัวปั๊ม ใช้งานง๊าย ง่าย 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : นื้อครีม เกลี่ยง่าย ทาแล้วรู้สึกเนียนสวย การปกปิด : ปกปิดปานกลางถึงมากเลยนะคะ ปกปิดได้ค่อนข้างดี ทั้งรอยสิว รอยแดงระหว่างวัน : ทาแล้วรู้สึกเนียนสวย ไม่หนักหน้า สีไม่ดรอประหว่างวัน คือไม่ได้คุมมันมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้ามันเพิ่มด้วย การปกปิดจะคล้าย revlon ฝาดำ แล้วก็หลุดน้อยกว่าค่ะ อื่นๆ : มีสีให้เลือกน้อย สีออกโทนชมพู ไม่ค่อยเหมาะกับโทนเอเชียแบบเรา นี่ใช้เบอร์ 3 มันเข้มไป เบอร์2 ก็จะเป็นสีชมพูเลย ส่วนเบอร์ 1 ก็จะวอกไปอีก สีเลือกยากมาก เหมาะกับคนผิวแห้งถึงผิวผสมนะคะ ราคา : 429 บาทสรุป :7/ 10

Essence Stay all day 16 hours Long Lasting Make Up Foundation #10

ตัวนี้สอยตามบล็อกเกอร์ท่านนึงมา เขาเคลมว่าให้อารมณ์คล้าย revlon ฝาดำ แต่ราคาถูกกว่าเป็นหลอดพลาสติก พกพาง่าย ไม่หนัก มีหัวปั๊มมาให้ด้วย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อเนียน เกลี่ยง่ายมาก เนื้อสัมผัสน่ารัก มีกลิ่นหอมอ่อนๆระหว่างทาด้วย แต่ถ้าคนที่ไม่ชอบน้ำหอมก็ควรหลีกเลี่ยงนะคะ การปกปิด : ปกปิดปานกลางถึงมาก ใช้แล้วไม่ได้ดูหนาระหว่างวัน : พอตกบ่ายก็มีเลือนบ้างไม่ได้ติดทนแบบที่เคลมเอาไว้ น่าจะอยู่ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมงถ้าไม่ได้อยู่ในห้องแอร์นะคะ ไม่หมอง ไม่เ็นคราบ เหมาะกับทุกสภาพผิวอืนๆ : มีสีให้เลือกค่อนข้างน้อย มีให้เลือกแค่ 3 สี ขนาดใช้สีที่ขาวสุดก็ยังเข้มไปอยู่ดี มีน้ำหอมอ่อนๆ ราคา : 200 กว่าบาท สรุป :7/ 10

Maybelline Super Mineral 24 #BO2

เป็นรองพื้นที่บล็อกเกอร์หลายๆคนฮือฮา และปลาบปลื้มมากเป็นขวดแก้ว ฝาขวดปั๊มเป็นสูตรที่นำมาขายจากญี่ปุ่น 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อเหลว เกลี่ยง่าย แห้งไว ต้องรีบเกลี่ย เนื้อค่อนข้างหนา แต่ไม่หนักน้าการปกปิด : ปกปิดปานกลาง ยังเห็นรอยสิวอยู่บ้าง ไม่ได้เป็นงานผิวเท่าไหร่ ดูออกว่าทารองพื้นมา ระหว่างวัน : คุมมันได้ปานกลาง ระหว่างวันหน้าเยิ้มนิดหน่อย ต้องอาศัยเติมแป้งเพิ่ม แต่ถ้าไม่เติมก็จะให้ลุคดิวอี้ๆ ซับแล้วมีหลุดบ้างเล็กน้อย อื่น ๆ : เหมาะกับผิวผสม ไม่มันมาก ใช้ได้ทุกวัน ใช้แล้วผิวสวยค่ะ ถ้าหมดแล้วมีซื้อต่อ เป็นรองพื้นที่ควรไปลองกันราคา : 449 บาทสรุป : 9/ 10

Laura Mercier Candle Glow Soft Luminous Foundation #ivory 

เขาเคลมว่าให้ผิวเปล่งปลั่ง ดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติมากับคอนเซปต์ สวยฉ่ำเหมือนอยู่ใต้แสงเทียนตลอดเวลา เป็นขวดแก้ว แต่ไม่หนัก มีหัวปั๊มมาด้วยมีสีให้เลือกหลายสี เป็นรองพื้นลูกรักในตอนนี้

เนื้อผลิตภัณฑ์ : นุ่มมาก บางเบาเหมือนกำมะหยี่เลย เป็นเนื้อครีม ไม่ข้น ไม่เหลว ไม่ตกตามร่องรูขุมขนการปกปิด : ปกปิดน้อยถึงปานกลาง เป็นงานผิว ให้อารมณ์คุชชั่นระหว่างวัน  : เป็นเนื้อครีมออกไปทางแมทท์ แต่พอปาดผิวก็จะดูฉ่ำ ไม่ดรอป ไม่หมอง ดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล อาจจะหลุดบ้างในระหว่างวัน ไม่คุมมัน แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม จะได้ลุคโกลวๆทั้งวันอื่นๆ : ปราศจากน้ำหอม ไม่เกิดการอุดตัน ให้ความชุ่มชื้นและต่อต้านอนุมูลอิสระด้วย vitamin C&E เหมาะกับผิวแห้ง ใช้ออกงานกลางคืนจะสวย ดูผิวดีมาก แต่ถ้าใช้กับแป้งฝุ่นของป้าก็จะให้ลุคแมท คุมมันดีมากค่ะ ราคา : 2,200 บาทสรุป : 10/10 

Tipsควรเขย่ารองพื้น ก่อนใช้งานทุกครั้งก่อนทารองพื้น เราจะทา primer ก่อน เพื่อความติดทนของรองพื้นการทารองพื้นหนาๆ ไม่ได้แปลว่าจะปกปิดดี มันทำให้รู้ว่าโบ๊ะมา และจะหนักหน้าเกินไป มีโอกาสอุดตันได้ง่ายด้วยถ้าอยากได้การปกปิดที่ดี ควรทาคอนซีลเลอร์ก่อนแล้วค่อยทารองพื้นทับ จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติและเป็นผิวดีส่วนใหญ่จะใช้ฟองน้ำในการเกลี่ยรองพื้น รู้สึกว่าจะทำให้รองพื้นติดทน เนียน ดูไม่หนา และเป็นผิวกว่าแต่เวลารีบๆ ใช้แปรงก็จะได้ลุคที่ค่อนข้างปกปิดนะคะ

ร้ากกก 

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า :)