3 คาเฟ่สุดชิค ต้องเช็คอินที่ไต้หวัน
_bboo_ 6 4เมื่อกลางๆ เดือนพฤศจิกายนโบไปไต้หวันมาค่ะ ไปเที่ยวเล่นในเมืองไทเปมา ซึ่งนอกจากไต้หวันเค้าจะมีตลาดกลางคืนหลายแห่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสตรีทฟู้ด รวมไปถึงต้นตำรับชานมไข่มุกที่ใครมาถึง ยังไงๆ ก็ต้องลองแล้ว เช่นเดียวกับกรุงเทพฯ หรือที่เชียงใหม่ เมืองไทยนี่แหละ วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของที่นู้นค่อนข้างบูมเลยทีเดียว แล้วก็มีคาเฟ่ที่ใช้กาแฟ Speciality ในร้านตกแต่งแบบมีคอนเซ็ปต์ บรรยากาศดีเกิดขึ้นมากมาย แต่ที่เรียกว่าเป็นที่สุดสำหรับทริปนี้ของเโบก็คือ ร้านกาแฟที่โบได้ไปนั่งชิลล์มานี่ กาแฟคั่วของเค้า ไปจนถึงบาริสต้าที่คิดค้นกาแฟแก้วนั้นๆ ขึ้นมา ได้รับรางวัลระดับโลกเลยทีเดียว จะมีร้านไหนบ้างไปกันเลยค่ะ
Fujin Tree 353 Caféพิกัด : MRT Songshang Airport Exit 3 แล้วต่อแท็กซี่ไปยัง Fujin Street (ค่าแท็กซี่ประมาณ 75 -80 ดอลลาร์ไต้หวัน)
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่มเริ่มกันที่ร้านแรกบนถนน Fujin Street ถนนสายฮิปในไทเป ที่นี่ก็จะอารมณ์ประมาณเอกมัยบ้านเรา ย่านกาโรซูกิลในโซล (จากที่ไปมาก็สรุปเองว่ามันประมาณนี้ > <”) โดยร้าน Fujin Tree 353 นี่ไปไม่ยากค่ะ คือที่เราไปมาแท็กซี่จะจอดหน้าร้าน Beam เลย ซึ่งก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของถนนเส้นนี้ เดินไปสักประมาณ 200-300 เมตร ฝั่งตรงข้ามก็จะเจอร้านที่ว่านี่แล้วล่ะค่ะ เพราะว่าร้านดัง คนเยอะ โต๊ะเต็ม ยิ่งช่วงเสาร์อาทิตย์บ่ายถึงช่วงเย็นน่าจะต้องรอกันนาน แต่ว่าแนะนำมากๆ ว่าต้องไปค่ะ เพราะจากทั้งหมดโบชอบร้านนี้มากที่สุด!
เริ่มตั้งแต่บรรยากาศของร้านที่มีโซนที่นั่งชิลล์มากๆ ถ้าได้ที่นั่งเอาต์ดอร์จะดีมาก เพราะอากาศที่นี่ไม่ร้อน สามารถนั่งได้เรื่อยๆ ค่ะ คนไต้หวันก็จะจูงน้องหมามาดื่มกาแฟร้านนี้ ดูเพลินๆ ใสๆ ค่ะ ส่วนที่นั่งด้านในก็ดีนะ แต่เราชอบที่นั่งด้านนอกมากกว่า
แต่ที่ยกให้เป็นที่สุด แบบแนะนำให้ทุกคนมาลองก็คือเรื่องของรสชาติกาแฟ เพราะมันละมุนตุ้นมากกกก... คือเราสั่ง"คาราเมล มัคคิอาโต" แล้วก็ "ลาเต้เย็น" แล้วได้ลงมติเป็นเสียงเดียวกันว่า กาแฟไม่ติดเปรี้ยวที่ปลายลิ้นเลย คือมันนุ่มไปหมด เก็ตมั้ยคะ คือนุ่ม มัน หอม หวาน อย่างที่มันควรจะเป็น น้ำแข็งใส่มาน้อย คือพอดีไปทุกอย่าง บอกเลยว่าอร่อยกว่าสตาร์บัคส์หลายเท่า ส่วนของหวานเมนูเบาๆ ทางร้านเค้าก็มีให้สั่งเหมือนกัน วันนั้นเราเลือกสั่งเป็น "ทีรามิสุ" รสชาติดีมากค่ะ ใครที่ไม่ชอบทานหวานมาก สั่งได้เลย เอาเป็นว่าลิสต์ไว้เลยกับร้านนี้ แล้วไปลองกันค่ะ
The Lobby Of Simple Kaffaพิกัด : MRT Zhongxiao Dunhua Exit 2 แล้วแนะนำให้เสิร์ช Google Map เดินไปที่ Hotel V โดยร้านจะมีบันไดเดินลงไปจากโรงแรมค่ะ
เวลาเปิด-ปิด : จันทร์-พฤหัส และอาทิตย์ เที่ยงครึ่ง – 3 ทุ่มครึ่ง ศุกร์และเสาร์ เปิดถึง 4 ทุ่ม
สำหรับร้านนี้เรามานั่งหลบฝนกันค่ะ นานมากๆ โดยพิกัดที่ร้านตั้งอยู่เรียกว่า ย่าน Dunhua โดยก็จะมีร้านชิคๆ (บรรยากาศคล้ายฮงแด มโนอีกรอบ) แต่ที่นี่ก็มีร้านแฟชั่นราคาดีงามหลายร้านเลย ยังไงลองไปช้อปปิ้งกันดูได้ กลับเข้าที่ร้านนี้กันต่อคือ ร้านเค้าเรียกง่ายๆ ว่าเป็นร้านกาแฟแชมป์ เพราะว่าน่าจะเจ้าของร้านที่เป็นบาริสต้าไปแข่ง Taiwan Barista Championship ชนะหลายครั้ง โดยทางร้านก็มีเมนูกาแฟแก้วที่ชนะนั่นแหละค่ะให้คอกาแฟได้ลิ้มลองกัน ซึ่งก็แพงมากๆ ไม่กล้าสั่งกาแฟอะไรแก้วนึงตั้งเจ็ดแปดร้อยแต่เอาเป็นว่ามาพูดถึงบรรยากาศร้านกันก่อน ดีเลยทีเดียวมีคอนเซ็ปต์ กำแพงดอกไม้สีม่วงดูเก๋สุด ก็เช่นเดิมมีโซนที่นั่งทั้งด้านในและด้านนอก ด้านในก็เบียดเสียดหน่อย ไม่ค่อยโอ แต่ด้านนอกนี่ชิลล์สุดๆ นั่งได้เรื่อยๆ (งง ตรงร้านนี้เข้าห้องน้ำ ต้องกดรหัสที่ประตูห้องน้ำนะคะ ดูมีกิมมิกหลายขั้นตอน 55++) อีกเช่นเดิมคือที่ร้านคนเยอะค่ะ มาวันธรรมดาจะดีกว่า แต่พอมานั่งปุ๊ป พนักงานร้านก็จะเสิร์ฟน้ำเปล่าแบบทั้งขวดมาให้พร้อมแก้วน้ำดับกระหายกันไป แล้วก็เริ่มสั่งกาแฟได้เลย
อย่างที่บอกกาแฟระดับแชมป์นี่แพงเอาเรื่องอยู่ แต่นอกเหนือจากกาแฟแชมป์แล้ว ก็มีเมนูเบสิกทั่วไปอย่างที่ร้านกาแฟควรจะมี ซึ่งที่นี่เค้าใช้กาแฟคั่วของ Simple Kaffa ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นกาแฟ Speciality (อารมณ์ประมาณ Roots บ้านเรามั้ง) และที่เราสั่งไปและอยากแนะนำก็คือ Brown Sugar Iced Latte ซึ่งมีน้ำตาลทรายแดงไหม้ท็อปอยู่ด้านบน หอมหวาน อร่อยดี แต่กาแฟก็ยังไม่ละมุนเท่าร้านแรกเท่าไหร่ แต่ก็จัดว่าดีต่อใจค่ะ นอกจากนั้น เราก็สั่งของหวานเค้ามาด้วย จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่เป็นเค้กที่ผสมน้ำผึ้ง หอมหวาน นุ่มลิ้นดี ถ้าใครได้ไปเที่ยวย่านนี้ก็ลองดูนะคะ
Fika Fika Caféพิกัด : MRT Songjiang Nanjing Exit 5 เดินมาตรงแยก เลี้ยวขวาเข้าซอยถนน Yitong จะเห็นสวนอยู่กลางซอย เดินไปตรงสวนก็จะเห็นร้านอยู่ถัดไป
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์เปิด 10 ครึ่ง นอกนั้น 9 โมงเช้า แล้วก็ปิดประมาณ 3 ทุ่มค่ะ
ร้านสุดท้าย ร้านนี้มาง่ายมากๆ ค่ะ แล้วก็ใกล้ย่าน Ximending ด้วย ห่างกันแค่สถานีเดียว Fika Fika Café เดินมาเจอร้านก็เห็นโลโก้แชมป์เปี้ยน Nordic Roaster 2013 หราเลย ก็คือเคยไปชนะแข่งขันทำกาแฟจากประเทศในกลุ่มนอร์ดิก (แถบนอร์เวย์ ฟินแลนด์) กลับมานี่แหละค่ะ
อีกเช่นเดิม ร้านกาแฟที่นี่ชอบมีที่นั่งแบบเอาต์ดอร์ แล้วก็มักจะเต็มตลอด เพราะบ้านเค้าอากาศไม่ร้อนเหมือนบ้านเรา แต่ครั้งนี้เราเลือกนั่งในร้านค่ะ เพราะข้างนอกฝนตก แต่ที่นี่เค้ามีที่นั่งแบบ Co-working Space นะ แล้วก็ภายในร้านมีหลายโซน ซึ่งดูกว้างขวางกว่าร้านอื่น แถมออกแนวมินิมอล แต่แฝงความอบอุ่นเล็กๆ โดยรวมคือบรรยากาศดีค่ะ
ส่วนเรื่องขอเมนูกาแฟและอื่นๆ ครั้งนี้โบขอจัดใหญ่ เพราะว่าไปตอนเช้ายังไม่ได้กินข้าวมา เลยสั่งมามากมายทั้งเค้ก ครัวซองค์ คีช มาลองกัน เมนูอาหารเค้าอร่อยเลยทีเดียวค่ะ แต่ราคาก็กลางๆ พอๆ กับไปกินย่านทองหล่อ เอกมัยบ้านเรา ส่วนกาแฟก็จัดมาหลายแก้วส่วนใหญ่เป็นลาเต้ ที่มีหลายสไตล์ทั้งปั่นทั้งโรยน้ำตาล แต่เรากลับคิดว่าร้านนี้รสชาติกลางๆ ค่ะ คือ สามารถมาหากินได้ที่บ้านเรา แต่ที่มีคนมานั่งกันเยอะ ก็น่าจะมาจากว่าร้านนี้อยู่ในย่านออฟฟิศด้วยส่วนหนึ่ง เอาเป็นว่าถ้าใครอยากลองกาแฟที่ได้รับรางวัลของทางร้านมากกว่า ก็ต้องมาเช็คอินค่ะจบแล้วๆ สำหรับทริปไต้หวันครั้งนี้ค่ะ ใครชอบร้านไหนยังไงหรือมีร้านโปรดคอมเมนต์บอกโบได้นะคะ มาแชร์ มาคุยกันค่ะ บรัยยย <3