วิเคราะห์ส่วนผสมและรีวิว | ✱ ดร.สมชาย ✱ | ศึก Cleansing Water 2 สูตร สูตรไหนสะอาดกว่ากัน สูตรไหนเก๋าไม่เก๋ามีรู้กัน
james_badbitch 14 9สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Jeban ทุกท่าน ทุกคน ทุก userขอบคุณจริงๆนะครับ ที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบทความของกระผม ฮ่าๆๆอย่าคิดมากครับ ผมก็เพี้ยนๆแบบนี้แหละครับ บทนำเข้า Content ผมก็ไม่รู้จะเขียนอะไรเหมือนกันวันนี้จะมาแนะนำเชิงเปรียบเทียบครับ ระหว่างคุณภาพของ 2 สูตร จากแบรนด์เดียวกันนั่นคือแบรนด์ "Dr.Somchai" หรือ ดร.สมชาย แบรนด์เครื่องสำอางดูแลปัญหาสิวนั่นเอง
Cleansing Water คลีนซิ่งสูตรน้ำ เช็ดเครื่องสำอาง ล้างเมคอัพเชื่อว่าสาวๆหลายคนคงเคยใช้กัน เพราะช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีคนพูดถึงตัวนี้เยอะอยู่นั่นคือ Cleansing Water สูตรสีชมพู สำหรับสาวๆที่เป็นสิว แล้ว สาวๆก็มาเขียนรีวิวกันผมก็เป็นหนึ่งคนครับ ที่อ่านรีวิวแล้ว อยากได้ อยากลองซื้อใช้ตาม เลยไปซื้อมาใช้ เลยจะมาบอกต่อซึ่งผมเองก็ใช้มาระยะนึงแล้ว
เราไปดูกันก่อนดีกว่า ว่าทางแบรนด์เขามีสูตรไหนเคลมอย่างไรกันบ้าง ต่างกันไหม ?
Dr.Somchai - Micellar Cleansing Water สูตรดั้งเดิม ขวดเขียว
โลชั่นเช็ดเครื่องสำอางและผิวหน้า สูตรน้ำ ล้างเมคอัพหมดจด ทันใจ ผิวกระจ่างใส ไม่แสบตา
- Micellar technology ช่วยทำความวะอาดได้ล้ำลึก ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า รอบดวงตา และริมฝีปาก
- pH 5.5 อ่อนโยนต่อผิว แม้ผิวแพ้ง่าย และ ไม่แสบตา
- ลดการอุดตันและปราศจากน้ำมัน อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
- Vitamin B5 ช่วยสมานผิวให้เนียนนุ่ม แลดูกระจ่างใส มีสุขภาพดี
- คงความชุ่มชืนให้ผิว ไม่แห้งตึงหลังใช้
- ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และ พาราเบน
- Make-up remover for face, eyes & lips
- Deep cleanses
- Tones and smoothens
- Moisturizing
ปริมาณสุทธิ : 220 มล.
ราคา : 189 บาท
Dr.Somchai - Acne Double Micellar Cleansing Water สูตรสำหรับคนเป็นสิว ขวดชมพู
Anti-acne & oil-control formula คลีนซิ่งสูตรน้ำ เช็ดเครื่องสำอาง ลดความมัน ลดสิว ผิวขาวใส
เพื่อผิวเป็นสิวง่าย เช็ดทำความสะอาดผิวระหว่างวันได้ทุกที่ ไม่ต้องล้างน้ำออก
- Double Micellar technology ทำความสะอาดได้ลึกล้ำและอ่อนโยน ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า รอบดวงตาและริมฝีปาก
- Oleanolic Acid ช่วยระงับเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการอักเสบสิว ลดความมัน รอยดำจางเร็วขึ้น
- Acerola Cherry อุดมด้วย Vitamin C ธรรมชาติให้ผิวดูขาวใส
- Vitamin B5 ช่วยสมานผิวให้เนียนเรียบ สุขภาพดี
- ปราศจากน้ำหอม น้ำมัน พาราเบน และเอทิลแอลกอฮอล์
- pH 5.5 อ่อนโยนแม้ผิวแพ้ง่าย
ปริมาณสุทธิ : 220 มล.
ราคา : 189 บาท
บรรจุภัณฑ์ : เป็นขวดพลาสติกจับถนัดมือ แข็งแรงระดับนึง ไม่ใช่ขวดเท แต่เป็นระบบแท่นปั้ม ซึ่งใช้งานเพียงแค่กดลงไปน้ำ Cleansing Water จะพุ่งขึ้นมาดุจน้ำพุ คนออกแบบผลิตภัณรูปแบบนี้คนแรกอาจจะได้แรงบันดาลใจจากเครื่องปั้มน้ำบาดาล Something อย่างไรก็ตาม ผมจะบอกว่าในความคิดของผม มันห่วย มาก ซึ่งผมแนะนำว่าให้เป็นขวดเทปกติยังดีกว่า เพราะมันควบคุมปริมาณในการใช้แต่ละครั้งยาก กดๆแล้วไม่ทั่วแผ่นสำลีอีก ,, ผมไม่รู้ว่าคนอื่นประสบปัญหาแบบเดียวกับผมไหม ?
ถ้าประสบปัญหาแท่นปั้มแบบเดียวกับผม รบกวนแสดงความเห็นหน่อยครับ ผมนี่อยากรู้
ซึ่งผมเองก็มีวิธีแก้ในแบบของผมเลยเอามาแชร์ให้เพื่อนๆนะครับ เผื่อมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่เจอปัญหาเดียวกันกับผม นั่นคือ การหาขวดบีบมาแบ่งครับ
อุปกรณ์ : ขวดเปล่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว ขนาดตามชอบ ขอแค่ถนัด (ผมถนัดบีบๆเทๆ ครับ)
ปล.ในรูปผมใช้ขวดพลาสติกจากแบรนด์ Garni** ซึ่งขวดนี้บิดเปิดยากมากกกกกกกก เจ็บนิ้วจริงๆ สาวๆอาจจะด่าผมได้ ถ้าไม่บอกก่อน ฮ่าๆๆ ยังไงสาวๆแรงน้อย ลองหาขวดอย่างอื่นที่ไม่ได้ใช้ดูนะครับ
จากนั้น เริ่มบิดหัวแท่นปั้มจากขวด Dr.Somchai - Micellar Cleansing Water สูตรที่ต้องการเทใส่ขวดที่เตรียมไว้ได้เลยครับ
เพียงเท่านี้ ปัญหาการใช้ก็จะหมดไป ซึ่งผม Happy มากๆ ที่ได้ใช้แบบที่ถนัดขอย้ำอีกครั้งครับ ,, ผมไม่ชอบแท่มปั้มนั่นเลยจริงๆ
ทีนี้เรามาทดสอบความสะอาดกันต่อดีกว่าครับว่ามันสะอาดจริงรึเปล่า
สีชมพูในรุป คือ ลิปสติก/ สีเนื้อๆในรูป คือ รองพื้น/ ขีดดำๆเหมือนถ่าน คือ เขียนคิ้ว
ผมจะเริ่มทดสอบ ใช้ Cleansing Water ของทาง ดร.สมชาย ข้างละสูตร
โดยที่ข้างซ้ายมือจะเป็นสูตรสำหรับคนเป็นสิว (ขวดชมพู) , ทางขวามือเป็นสูตรดั้งเดิม (ขวดเขียว)
โดยควบคุมปริมาณในการใช้ผลิตภัณฑ์เท่าๆกันๆ
ผลลัพธ์ดังนี้
ผลลัพธ์ :
สูตรสีชมพูแผ่นแรกเหมือนดูดจับ Make-up ได้ดีกว่า พอเช็ดแผ่นที่สองเริ่มสะอาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สูตรสีเขียวแผ่นแรกทำได้ไม่ดีเท่า แถมแผ่นสองยังมีสีชมพูๆติดแผ่นสำลีมาจางๆ
สรุป
สูตรขวดสีชมพู (ลดความมัน ลดสิว ผิวขาวใส) สะอาดกว่า ชนะไป
ถ้าราคาจะเท่ากันเป็นผม ผมก็เลือกสูตรที่ทำความสะอาดได้ดีกว่าครับ
ประสบการณ์จากการใช้ :
จากที่ผมได้ลองใช้มาระยะนึงเลย ใช้ขวดชมพูมา 2 ขวด + ขวดเขียวครึ่งขวด ผมรู้สึกว่าใบหน้าก็สะอาดดีครับ ด้วยราคาที่ไม่ได้สูงอะไรผมจึงเช็ดไม่ได้เสียดายอะไรแม้ว่าจะใช้หลายแผ่นเช็ดเหมือนกันกว่าจะรู้สึกว่าสำลีขาวสะอาด ทำให้ผลิตภัณฑ์หมดไวเหมือนกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่เป็นตามคำเคลมและอยากบอกเพื่อนๆที่อ่านกระทู้นี้ว่า จากที่แบรนด์เคลมว่า "ไม่แสบตา" ผมพูดเลยครับ แสบตามาก อย่าให้เข้าตาเลยครับ แสบจริง Confirm ทั้ง 2 สูตรเลยครับไม่ต้องแย่งกันว่าใครแสบไม่แสบ แต่ถ้าถามว่าโอเคไหม ? ผมก็ตอบได้เลยครับ ก็โอเค ไม่ได้แย่อะไร
อีกเรื่องครับ คือ เรื่อง pH ที่เคลม
ก็ไม่ได้ตรงกับที่เคลม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครับ
เพราะยังไงก็อยู่ในช่วงที่ไม่ได้ทำร้ายผิวแต่อย่างไร
- pH สูตรขวดชมพู ได้อยู่ครับอยู่ในช่วงประมาณ 5.5 ตามที่เคลม
- pH สูตรขวดเขียว นั้นเคลมว่า 5.5 เช่นกัน แต่พอวัดจริง น่าจะอยู่ในช่วง 4-5 ไม่สูงกว่า pH 5 เกือบๆ 5 แหละ แน่นอน เพราะผมทดสอบ 3 ซ้ำแล้ว ได้ผลเหมือนเดิม
จบในส่วนของการรีวิวเชิงทดลองใช้/ การใช้/ ทดสอบประสิทธิภาพ อะไรเพียงเท่านี้นะครับ
ต่อกันที่ วิเคราะห์ส่วนผสมกันดีกว่าครับ
Dr.Somchai - Micellar Cleansing Water
Ingredients : Water, PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides, PEG-7 Glyceryl Cocoate, Propylene Glycol, Propanediol, Phenoxyethanol, Trehalose, D-Panthenol, EDTA.
จากสูตรถือว่าเรียบง่าย ถ้าคนที่เรียนมาด้านนี้/อยู่ในวงการผลิตเครื่องสำอางคงจะบอกว่าสูตรนี้ง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อน สูตรขวดเขียวนี้มีสารทำความสะอาดเครื่องสำอางหลักๆคือ PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides ที่เป็นตัว Micellar ในสูตรนี้ ช่วยดึงและสลายเมคอัพ สิ่งสกปรก และคราบความมันใบผิวของเรา แม้เครื่องสำอางที่เคลือบปิดหรืออุดรูขุมขนก็สามารถสลายดึงออกได้อย่างง่ายดาย แถมสารตัวนี้ยังไม่ทำให้ผิวแห้งตึงแต่กลับทำให้ผิวชุ่มชื่น และมีสัมผัสที่นุ่มลื่นอีกด้วย + PEG-7 Glyceryl Cocoate สารทำความสะอาดอีกหนึ่งตัวที่มีความอ่อนโยนสูง สกัดแยกได้จากน้ำมันมะพร้าว ให้ความชุ่มชื่นผิวและให้ความรู้สึกนุ่มๆลื่นๆด้วย + สารดึงน้ำให้ผิว เพิ่มความชุ่มชื่น + สารกันเสียชนิดอ่อนโยน + Trehalose น้ำตาลชนิดหนึ่ง เพิ่มความชุ่มชื่น + Provitamin B5 ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และช่วยให้กระบวนการเยี่ยวยาผิวสำหรับผิวที่ระคายเคืองได้ดีขึ้น
ภาพรวมของส่วนผสม คือ เป็นคลีนซิ่งสูตรน้ำที่ทำความสะอาดเมคอัพ เครื่องสำอาง กันแดดได้ดี + ให้ความชุ่มชื่นผิว และเคลือบคงระดับความชุ่มชื่น แค่นั้นครับ
Dr.Somchai - Acne Double Micellar Cleansing Water
Ingredients : Water, PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides, PEG-7 Glyceryl Cocoate, Propanediol, Butylene Glycol, Benzyl Alcohol, PEG-60 Almond Glycerides, Ethylhexylglycerin, Trehalose, Panthenol, EDTA, Malpighia Glabra (Acerola Cherry) Fruit Extract, Nordihydroguaiaretic Acid, Oleanolic Acid, Tocopherol, Caprylyl Glycol, Carbomer.
สูตรขวดชมพูนี้ ยังมีสารทำความสะอาดเครื่องสำอางตัวหลักที่คล้ายกับตัวสูตรเดิมครับ คือตัว PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides และ PEG-7 Glyceryl Cocoate สูตรนี้เปลี่ยนสารดึงน้ำให้ผิวเป็น Butylene Glycol ซึ่งดูดน้ำให้ผิวได้ดีกว่า Propylene Glycol ของสูตรขวดเขียวข้างบน + Benzyl Alcohol ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารกันเสียได้ ตัวทำละลายได้ และเป็นสารกลุ่มที่ให้กลิ่นได้ด้วย + PEG-60 Almond Glycerides สารที่ได้จากเมล็ดอัลมอนด์ ให้ความชุ่มชื่นและปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื่น + สารกันเสีย + Trehalose น้ำตาลให้ความชุ่มชื่นเหมือนกับสูตรข้างบน + วิตามินบี 5 เหมือนสูตรเขียวเช่นเคย + สารสกัดจาก Acerola Cherry ที่เป็นแหล่งของวิตามินซีธรรมชาติ และต้านอนุมูลอิสระ เป็นตัวชูโรงของสูตรขวดชมพูนี้เลยครับ ที่เคลมว่าขาวใสได้เพราะ ดีดสารสกัดนี้ลงไปแค่นั้นเอง แถมใส่มาน้อยด้วยไม่ได้เยอะ เพราะเฉพาะหวังผลเรื่องขาวใส ไม่ได้แน่นอนครับ + Nordihydroguaiaretic Acid และ Oleanolic Acid สารสองตัวนี้โดดเด่นเรื่องต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิด แถมตัว Nordihydroguaiaretic Acid ก็มีงานวิจัยว่าช่วยตาข่ายผิวได้หรือ Skin Barrier นั่นเอง แต่พอสารนี้มาอยู่ด้วยกันในสูตร แถมมี PEG-60 Almond Glycerides ด้วย ทำให้ผมเดาว่า สารสำคัญที่เลือกใส่มานั่นคือ สารที่ชื่อว่า AC.NET™ ที่เคลมกันว่าช่วยเรื่องสิวนั่นเอง แถมเจ้า AC.NET™ ที่ว่ายังมักจะถูกเคลมว่าช่วยควบคุมความมันได้ด้วย
ภาพรวมของส่วนผสม คือ เป็นคลีนซิ่งสูตรน้ำที่ทำความสะอาดเมคอัพ เครื่องสำอาง กันแดดได้ดี + ให้ความชุ่มชื่นผิวได้ดีกว่าสูตรขวดเขียว และเคลือบคงระดับความชุ่มชื่น สิ่งที่เพิ่มเติมคือสารสกัดที่มากขึ้น ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยควบคุมความมันและเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาสิวเข้ามาแค่นั้นครับ
------------------------------------------------------
ขอจบการรีวิว ทั้งหมดเพียงเท่านี้ครับ
*** ซื้อเอง เงินตัวเอง ใช้ดีก็บอกดี ไม่ดีก็อยากแชร์ว่าไม่ดีไม่ชอบ
การรีวิวในครั้งนี้ Base on ความเห็นส่วนตัว + ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
สุดท้ายแล้วผมไม่ทราบได้นะครับ ว่าสิ่งนี้เหมาะกับทุกคนไหม ใช้แล้วจะแพ้ไหม ผลลัพธ์ในการใช้จะเหมือนกับผมรึเปล่า
ผมไม่สามารถตอบได้จริงๆครับ เพราะผิวของแต่ละคนตอบสนองไม่เหมือนกัน อยากให้ลองทดสอบและทดลองก่อนใช้ด้วยตัวเองนะครับ
และการวิเคราะห์ส่วนผสมเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวในการวิเคราะห์ ไม่ได้ชี้นำว่าทุกอย่างถูกหรือผิด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะครับ
ขอบคุณครับ
XOXO~*