จะยาว จะหนา ก็เสกได้ในพริบตากับ 5 เทคนิคต่อผม
น้องฟาร่าห์ 17 11เดี๋ยวนี้จะผมยาวผมสั้นสลับกันไปกันมาก็ง๊ายง่ายซะเหลือเกิน อย่างน้องฟาร่าห์เนี้ยน่ะ วันจันทร์ผมยาว วันอังคารผมสั้น อีกวันมาเป็นผมบ๊อบ อุ๊ต๊ะ!!! ก็บอกแล้วว่าเนรมิตกันได้ในพริบตา เคล็ดลับความสวยของน้องฟาร่าห์ก็ไม่ใช่อื่นใด คือการต่อผมนั่นเองจ้า
แฟชั่นการต่อผมในบ้านเรานั้นถ้าให้นับย้อนไปก็ต้องบอกว่าเขาฮิตกันมาเกิน 10 ปีแล้วนะจ๊ะ ถึงแม้ว่าตอนนี้กระแสอาจจะเบาบางลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีหลายคนเลยน๊าที่นิยมต่อผมกันอยู่ วันนี้น้องฟาร่าห์เลยจะมาแจกแจงให้ฟังกันว่า การต่อผมเนี้ยเขามีกันกี่แบบบ้าง บอกก่อนเลยว่าอาจจะไม่ครบทุกประเภทการต่อผม แต่เด็ดทุกอันแน่นอนนนน
1. ต่อผมด้วยกาว
การต่อผมด้วยกาวร้อนแบบนี้น่าจะเป็นประเภทที่พบเห็นได้ทั่วไปมากที่สุดนะคะ ทั้งตามตลาด บนห้างสรรพสินค้า รวมถึงตามร้านทำผมทั่วไปเลย การต่อแบบนี้จะต้นทุนต่ำเลยทำให้ราคาต่อผมถูกลงไปด้วการต่อแบบนี้ข้อดีคือง่าย ไว และราคาย่อมเยาว์ แต่ข้อเสียคือโดนความร้อนที่โคนผมไม่ได้ กาวมันจะละลายน่ะซิ!! และเมื่อต่อไปซักพักกาวก็จะเสื่อมสภาพไวทีเดียว อีกข้อที่ต้องระวังคือ ถ้าช่างที่ต่อผมนั้นต่อแบบไม่ละเอียด ปมกาวก็จะมีความใหญ่โตโผล่หน้ามาเซย์ไฮนอกผมจริงเราได้ตลอดเวลาสำหรับขั้นตอนการต่อผมแบบกาวอย่างละเอียด ไปดูในคลิปกันเลย
2. ต่อผมแบบไมโครริง
การต่อผมแบบไมโครริง เป็นการนำห่วงเหล็กกลมๆ มาครอบระหว่างปอยผมปลอม และผมจริง จากนั้นก็ใช้คีมบีบให้ห่วงเหล็กนั้น แบนแต๊ด! เพื่อที่จะล็อกให้ผมปลอมและผมจริงต่อกันแบบแน่นตึ๊บ! วิธีนี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นตามหลังจากการต่อผมแบบกาว ข้อดีการต่อผมแบบไมโครริง คือราคาไม่สูงมาก แต่ว่าความคงทนนี่นานกว่าแบบกาวแน่นอน และสามารถโดนความร้อนได้ แต่ข้อเสียคือเจ็บหัวพอสมควรตอนนอน และถ้าใครที่หนังศีรษะไม่แข็งแรง ก็เสี่ยงกับการการผมร่วงได้ง่ายกว่า เพราะตัวคลิปจะดึงปอยผมเราไว้ตึงมากทีเดียว
3. ต่อผมแบบถักเปีย
การต่อผมแบบนี้ในไทยไม่ค่อยจะนิยมค่ะ แต่ฮิตกันมากๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น อาจจะเพราะว่าการต่อแบบนี้ต้องใช้ช่างต่อที่ฝีมือฉมัง และเป็นช่างเฉพาะ ถ้าทำไม่ดีหรือฝีมือไม่ได้ก็อาจจะไม่สามารถถักผมให้ต่อกันแบบเนียนๆ ได้ การต่อแบบนี้ข้อดีไม่รั้งหนังศีรษะค่ะ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ตัวช่วยเพื่อต่อผมปลอมกับผมจริง รอยต่อจะเนียนกลืนไปกับผม เวลารวบผมนี้แทบไม่ต้องกังวลเลยว่าจะดูโป๊ะแตกเห็นรอยต่อ แต่ข้อเสียที่น้องฟาร่าห์เห็น ณ ตอนนี้ก็น่าจะมีอยู่ข้อเดียว นั่นคือหาร้านต่อผมแบบถักเปียในไทยยากมากกก!
4. ต่อผมแบบแถบเหล็ก
วิธีนี้ก็ยังเป็นการต่อผมที่ฮอตฮิตในประเทศญี่ปุ่นเช่นเคย การต่อผมแบบแถบเหล็กจะมีความเรียบเนียนตรงที่ปอยผมปลอมนั้นจะแบนๆ เรียบไปกับแนวผม คล้ายกับการที่เราเอาปอยผมแบบวิกมาติดนั่นเอง ข้อดีก็อย่างที่บอกว่ามันจะเรียบเนียนไปกับแนวผม แต่ข้อเสียคือปอยผมหนึ่งชิ้นจะถูกติดกับผมจริงที่เป็นปอยๆ เท่านั้น ทำให้รั้งหนังศีรษะมาก และเมื่อคุณอยากจะเสยผมให้ดูชิคๆ ก็อาจจะทำไม่ได้ เพราะมันติดแถบผมยังไงล่ะ!สำหรับขั้นตอนการต่อผมแบบแถบเหล็ก วิธีทำจะคล้ายๆ การติดเทป เพราะตัวผมปลอมมีลักษณะคล้ายกัน
5. ต่อผมแบบเย็บถัก
อ๊ะๆๆๆ อย่าเพิ่งงงกันไปใหญ่ วิธีการต่อผมนี้นอกจากจะไม่ฮิตในไทยแล้ว ยังไม่ค่อยมีคนทราบอีกด้วย! เพราะวิธีการต่อผมแบบนี้จะนิยมในหมู่สาวชาวผิวเข้มในประเทศอเมริกานั่นเอง วิธีการต่อนั้นก็ไม่ง่ายแต่ต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะตัวสุดๆ เริ่มจากการถักเปียให้ติดหนังศีรษะวนเป็นก้นหอยไปเรื่อยๆ เลย จากนั้นนำแพผมที่เตรียมไว้มาถักให้ติดกับเส้นเปียโดยใช้เข็มกับด้ายเป็นตัวเย็บติดเข้าด้วยกัน เท่านี้ก็เรียบร้อยยยยย ข้อดีคือเนียนเว่อร์ ไม่มีปมให้ให้เห็นอะไรอย่างใด แต่ข้อเสียคือถ้าไม่เชี่ยวชาญหรือไม่สกิลทางด้านนี้ จบค่ะ!!!
โอ้โหหหห 5 แนวการต่อผมที่น้องฟาร่าห์เอามาฝากเป็นยังไงบ้างคะ คุ้นหูคุ้นตากันบ้างไหมเอ่ยยยย น้องฟาร่าห์รู้น๊าว่าสาวๆ หลายคนต้องเคยต่อผมกันมาอย่างโชกโชนแน่ๆ ก็แฟชั่นอ่ะน่ะ มันต้องมีเปลี่ยนทรงกันไปกันมาบ้าง แต่ก็อยากจะฝากไว้ว่า ต่อผมกันหนักๆ ก็อย่าลืมดูแลความแข็งแรงของหนังศีรษะให้ดีด้วย ไม่งั้นล่ะก็ผมจริงเราจะบ๊ายบายไปก่อนเวลาน๊า น้องฟาร่าห์เป็นห่วงงงงงงง