JAPAN HUAL 2017 : เปิดถุงช้อปทริปญี่ปุ่น...ล้มละลายเพราะป้าย Cosme
Maily 35 22เฮลโหลวววววววว!!!
สาวๆ จีบันทุกคน กลับมาพบกับไหมลี่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือจะชวนทุกคนมามุงถุงช้อปปิ้งที่สอยมาจากญี่ปุ่น
เนื่องจากสงกรานต์ที่ผ่านมามีโอกาสไปเดินเล่นที่ Tokyo ขอบอกว่าทริปนี้ไม่ค่อยได้วางแผนมากนัก จึงไม่มีแพลน list จริงๆ จังๆ ว่าจะซื้ออะไรดี อาศัยดูจากในเว็บ Cosme ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเว็บจัดอันดับเครื่องสำอางของญี่ปุ่นในแต่ละปี ว่าตัวไหนดี เด็ด ดัง ดูแบบผ่านๆ แล้วกะว่าที่เหลือค่อยไปลองดูหน้างาน ถ้าประทับใจตัวไหนก็จะสอย
นี่คือภาพรวมของคนที่ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี 5555
ขอบอกเลยว่าการที่ไม่มีlist ในหัวว่าจะซื้ออะไรดีนี่ทำให้ชีวิตล้มละลายได้ง่ายมาก เห็นอะไรก็น่าซื้อไปหมดทุกสิ่งอย่างหลักการช้อปของทริปนี้คือ เจออะไรที่รางวัล Cosme บอกว่าดีแล้วจะลอง ถ้าลองแล้วเหมาะกับตัวเองก็ค่อยซื้อ ค่าเงินตอนเราไปคูณ 0.31 โดยประมาณเดี๋ยวจะคิดเป็นเงินบาทเผื่อให้ดูด้วยนะคะ เผื่อใครสนใจเล็งๆตัวไหนไว้จะได้กะราคาได้
เริ่มจาก
Facial Mask
จริงๆ ทริปนี้ไม่ได้ตั้งใจสอยมาส์กหน้าเลยเนื่องจากทริปที่ผ่านมาทั้งเกาหลี ไต้หวัน ได้มาส์กหน้ารวมๆ กันเกือบ 200 แผ่นได้ ทริปนี้เลยสอยมาพอกรุบกริบ ดังนี้
Keana Rice Mask (ซองสีฟ้าขาว)
มาส์กข้าวอันโด่งดัง มีส่วนผสมสำคัญคือข้าวจากญี่ปุ่น 100% ตัวนี้เน้นความชุ่มชื้นให้ผิว และเด่นเรื่องช่วยกระชับรูขุมขน ได้รางวัลCosme ปีที่ผ่านมาด้วย 1 ซองมี 10 แผ่น สอยมา 3 ซอง ซองละ 650 เยน (202 บ.) ใช้ละคือผิวนุ่มชุ่มชื้น หน้าเรียบเนียนขึ้น ควรค่าแก่การสอยมาก แนะนำจากใจเลยตัวนี้ ที่สำคัญราคาไม่แพง
Kiku-Masamune (ซองสีชมพู)
แบรนด์นี้เคยใช้น้ำตบละดีมาก เคยใช้มาส์กตัวนี้แต่สีขาวช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เลยไม่พลาดที่จะสอยสีชมพูมาลอง เพราะเขาบอกว่าสูตรนี้จะชุ่มชื้นกว่าสีขาวในราคา 400 เยน (124 บ.) ในไทยก็มีขายแล้วนะ
Lululan Precious (ซองสีแดง)
มาส์กแบรนด์ดังเลยแหละเคยใช้สีชมพูละสิวขึ้น เลยลองเปลี่ยนมาเป็นสีแดงบ้าง แต่สอยมาแค่ซองเดียวเพราะกลัวว่าสิวจะขึ้นเหมือนตอนใช้สีชมพู ราค่าประมาณ 400 เยน(124 บ.)
Utena (ซองสีน้ำเงิน)
เหลือกลับมา2 ซอง เพราะตอนที่ไปเที่ยวคืออากาศเย็น หน้าแห้งมากกกกจนทนไม่ไหวเลยไปซื้อมาส์กมาประโคมใส่หน้า พนักงานที่ร้านแนะนำตัวนี้ใช้แล้วคือหน้าชุ่มชื้นขึ้นมาก มีเนื้อมาส์กเยอะมากกกกกก สามารถเผื่อแผ่มาส์กมายังคอแขนขา ได้อีก กล่องหนึ่งมี 4 แผ่นราคาเกือบ 600 เยน (186 บ.)
Minon Amino Moist (กล่องสีชมพู)
เห็นแบรนด์นี้เข้าไทยสักพักแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองซื้อมาใช้เจอเจ้ากล่องนี้ที่พนักงานเชียร์ว่าดีมากๆ ได้รางวัล Cosme ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นสุดๆเลยลองสอยมาดู กล่องนี้ราคา 1,200 เยน (372 บ.)
Supplementด้วยวัยและอายุอานามที่เข้าเลข 3 แล้ว จะบำรุงจากภายนอกอย่างเดียวก็ไม่ได้ เลยต้องสอยอาหารเสริมมาบำรุงตัวเองจากภายในด้วย จะได้สวยปิ๊งทั้งจากภายในและภายนอกFANCL Good Choice 30
อาหารเสริมสำหรับผู้หญิงวัยเลข 3 ซึ่งเป็นวิตามินพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงวัยนี้ มีทั้งวิตามินซี บี แคลเซียม น้ำมันปลา DHA ฯลฯ 1 ซองใหญ่นี้สำหรับกินได้ 1 เดือน ข้างในมีซองเล็กๆ 30 ซอง แต่ละซองมีอาหารเสริม 7 เม็ด เพื่อนแนะนำให้สอยตัวนี้มาเลยจัดมา 3 ซอง กะกิน 3 เดือนเพื่อวัดผล ราคาซองละประมาณ 2,000 เยนนิดๆ (ประมาณ 620 บ.)DHC
วิตามินซี และวิตามินบี จาก DHC อันนี้สอยมาไว้สำรอง คิดเป็นเงินไทยตกซองละไม่กี่ร้อยบาท สอยมาเป็นของฝากเพื่อนๆ ก็โอเคค่ะ
Sunscreen & Facial Careหมวดครีมกันแดดก็สอยตัวยอดนิยมของคนไทยมาทั้งนั้น ถามพนักงานส่วนใหญ่ก็แนะนำเป็น 2 ตัวนี้เลยไม่พลาดที่จะสอยมา
Biore UV Aqua Rich
ตัวนี้ราคาเกือบ 700 เยน (217 บ.) ถูกกว่าไทยเยอะ เลยสอยมาตุน 2 หลอด
Anessa Protect Facial UV
เป็นครีมกันแดดที่เพื่อนฝากซื้อเยอะมากกกกก เกือบ 10 หลอด เลยสอยมาเผื่อตัวเองด้วยสักอัน ซึ่งปกติใช้ขวดสีทอง เลยเปลี่ยนมาลองแบบหลอดเจลบ้าง ราคาอยู่ที่เกือบ 2,500 เยน (775 บ.) เอาจริงๆ ราคาพอๆ กับซื้อที่ Watsons บ้านเราเลย 555
Naturie Skin Conditioning Gel
ซื้อเพราะมีรางวัล Cosme อีกแล้ว อันนี้เป็นเจลบำรุงหน้า บำรุงตัวครบในกระปุกเดียว กระปุกเบ้อเริ่มมาก 170 ml. ในราคา 900 เยน (279 บ.) ลองทากับหน้าแล้วคือดีมาก เนื้อเจลชุ่มชื้นดี ซึมไว ไม่มัน ชอบมาก ทุกวันนี้ใช้เป็นเดย์ครีมตลอด ตัวนี้เห็นขายที่ไทยแล้ว
Lotion
Nature Conc Medicated Clear Lotion
ตัวนี้ขอบอกว่าดีงามสุดพลัง เราจะมองข้ามป้ายรางวัล Cosme บนขวด แต่มามุงที่คุณสมบัติแทน ตัวนี้เป็นโลชั่นใสๆ ใช้เช็ดทำความสะอาดผิว ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนใบหน้า และเซลล์ผิวเก่าที่ตกค้างให้หลุดออกมาอย่างง่ายดาย เช็ดแรกๆ สำลีดำปื้ดมากกกก แถมช่วยให้ผิวชุ่มชื้นดีมากๆ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม คิดถูกแล้วที่สอยมาตั้ง 2 ขวด ในราคาขวดละ 800 เยน (248 บ.) ใครไปญี่ปุ่นแนะนำให้สอยตัวนี้จากใจเลย ถูกและดีจริงๆ สมแล้วที่มาแรงมากๆ จนได้รางวัล Cosme เมื่อปีที่แล้ว
Curelเป็นแบรนด์ที่เราปลื้มอีกแบรนด์ โดยเฉพาะแชมพูและครีมนวดนั้น เหมาะกับคนผิวบอบบาง แพ้ง่ายเป็นอย่างมาก จึงไม่พลาดที่จะสอย ครีมนวด แชมพู และเพิ่มครีมอาบน้ำมาด้วยในทริปนี้ ถุงรีฟิลแบบนี้ราคาอยู่ที่ประมาณถุงละ 800 เยน (248 บ.) เท่านั้น กลับมาถึงไทยยังคิดเสียดายที่สอยมาน้อยเกินไป
Puff & Sponge Cleansingไอเท็มจากร้าน 100 เยน (31 บ.) หรือร้านไดโซะนั่นเอง เชื่อว่าขวดนี้สาวๆ หลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ที่ไทยขาย 60 บ. ที่นั่นถูกกว่าไทยครึ่งหนึ่ง ครั้นจะไม่สอยมาก็กระไรอยู่ เลยจัดมาเบาๆ 2 ขวด
Base & Foundationไม่ได้คิดจริงๆ ว่าจะต้องมาซื้อ Base หรือรองพื้นเพิ่ม เพราะที่มีอยู่ก็นับได้ว่ามากโข แต่ลองเล่นไปเล่นมากิเลสก็เกิดได้อย่างง่ายดาย และนี่คือสิ่งที่สอยมาในทริปนี้
Kate Secret Skin Maker Zero
ตัวนี้เป็นรองพื้นตัวใหม่ของ Kate มีโฆษณาให้ยล นางแบบสวยมาก แล้วขายเป็นเซ็ทพร้อมด้วยแปรงลงรองพื้น บอกเลยว่าแพ้อะไรที่เป็นเซ็ตแบบนี้มากกก สูญสิ้นสติในทันที หยิบใส่ตะกร้าโดยพลันในราคา 1,600 เยน (496 บ.) ส่วนจะดีหรือไม่นั้น บอกตรงๆ ว่ายังไม่ได้ลอง ไว้ลองแล้วจะมาเม้าท์มอยให้ฟังอีกทีนะคะ
MAQuillAGE Dramatic Skin Sensor Base UV
สารภาพตรงๆ ว่าสนใจตัวนี้เพราะได้รางวัล Cosme 5555 สูญเสียกันไปเท่าไหร่กับเจ้ารางวัลนี้ แต่พอได้ไปลองปาดเล่น คือเป็นเบสที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นมาก แถมพนักงานยังบอกว่าระหว่างวันจะช่วยไม่ให้เมคอัพเปลี่ยนสี แปลว่าหน้าเราจะสวยยาวนานใช่ไหมค่ะซิส? พนักงาน Say Yes เราก็พร้อมจะวางในตะกร้าช้อปปิ้งทันที ค่าตัวนาง 2,600 เยน (806 บ.) ที่ไทยขาย 1,500 บ. ไว้ลองใช้แล้วจะมารีวิวอีกทีละกันนะคะ
Nars Velvet Matte Skin Tint
รองพื้นตัวใหม่ของ Nars ซื้อเพราะคำว่า Matte จริงๆ แล้วลองปาดดูเป็นรองพื้นแบบเนื้อกำมะหยี่ดีงาม เกลี่ยง่าย ปกปิดปานกลาง เหมาะกับการแต่งหน้าในชีวิตประจำวัน ตัวนี้สอยจาก King Power ใช้บัตรลดแล้วเหลือประมาณ 1,3xx บ. โดยประมาณ ใช้แล้วช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี คุมมันได้พอประมาณ เราเป็นคนที่หน้ามันมากกกก แต่ใช้แล้วคุมมันได้ระดับหนึ่ง ยังมีความมันอยู่บ้าง แต่มันแล้วทำให้ผิวดูสุขภาพดี โกล์วๆ ไม่ได้มันเยิ้มแบบหน้าเมือก ตัวนี้ขึ้นแท่นลูกรักอันดับ 1 ที่หยิบใช้ทุกวันไปแล้ว
Face Powder
MAQuillAGE Dramatic Powdery UV Foundation
ซื้อเบสแล้วมีหรือที่พนักงานจะพลาดในการขายแป้งต่อ ด้วยการบอกว่าใช้เบสแล้วตามด้วยแป้งนี้นะคะ รับรองว่าหน้าสวยเป๊ะ นี่เป็นแป้งที่ได้รางวัลจาก Cosme ด้วยนะคะ เอ๊า!! พูดขนาดนี้ก็ควรสอยใช่ไหม? 555 แป้งเราเลือกเบอร์ 30 ราคา 3,000 เยน (930 บ.) ส่วนเคสใส่นั้นราคา 1,000 เยน (310 บ.) ส่วนหลอดเล็กๆ นั้นคือโฟมล้างหน้า ซึ่งเป็นของแถม สูญเสียกันไปเท่าไหร่กับคำว่ารางวัลจาก Cosme !!
CEZANE
แป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้น ที่ได้รางวัลจาก Cosme เมื่อปีที่แล้ว มี 2 สี เราสอยเบอร์ 2 มาจำนวน 2 ตลับ ลองเล่นแล้วเนื้อแป้งคือดี เนียน นุ่มมาก ราคาถูกมากด้วย จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ รู้แค่ว่าไม่น่าเกิน 600 เยน (ประมาณ 186 บ.)
Eyebrow
ทั้งหมดนี้เป็นไอเท็มที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้ว เจอราคาที่ถูกกว่าไทยก็สอยมาตุนไว้ตามระเบียบ ประกอบไปด้วย
- ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นของ KATE
- มาสคาร่าคิ้วจาก KATE
- มาสคาร่าคิ้วจากร้าน 100 เยน (31 บ.) เพื่อนบอกว่าดี สอยมา 2 อันเลย
- ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลจากร้าน 100 เยน สอยมา 2 แท่ง แอบจิ๊กไปใช้แล้วแท่งหนึ่ง
Blush Onตอนแรกๆ เล็งแค่บรัชครีมของ Canmake ไว้ แต่ไปไงมาไงไม่รู้ MAC งอกมาเฉยเลย แต่ซื้อเพราะว่าพนักงานที่ดิวตี้ฟรีนาริตะน่ารักมากกกก บริการดีมาก เนื่องจากไฟล์ทกลับไทยเราบินช่วงเช้า เลยหน้าสดออกจากโรงแรม มาเคาเตอร์ MAC พนักงานแต่งหน้าให้สวยพร้อมบินกลับไทย ประทับใจมาก เลยต้องอุดหนุน
MAC Powder Blush สี Melba
เป็นโทนสีออกพีช ที่คิดว่าน่าจะใช้ได้ทุกวันแน่นอน และเข้ากับผิวแทนของเราได้เป็นอย่างดี เลยสอยสีนี้มา ในราคา 2,700 เยน (837 บ.)
Canmake Cream Cheek
โจทย์คืออยากได้บรัชออนเนื้อครีม เพราะว่าบ้านเราร้อนมากๆ คิดว่าทาบรัชออนแบบครีมแล้วค่อยทับด้วยแบบฝุ่น จะทำให้บรัชติดทนมากขึ้น เห็นเจ้าตัวนี้น่ารัก ราคาไม่แพง จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ รู้แค่ไม่กี่ร้อยเยนเท่านั้น ลองปาดสีดู สีสวยดี เลยสอยมา ส่วนรางวัล Cosme ที่ติดมานั้น ไม่ได้มีผลอะไรเลยจริ๊งจริง
Eye ShadowVisee Gemmy Rich Eyes
แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ทำอายแชโดว์ออกมาได้สีสวยมากกกก รุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกมาก มีหลายสีเช่นเดิม เราผู้หญิงสายหวานก็ต้องเลือกโทนน้ำตาลชมพูแน่นอน 555 ราคา 1,400 เยน (434 บ.) เป็นอายแชโดว์ที่ถูกและดี คอนเฟิร์ม!!
Canmake Perfect Multi Eye
อันนี้ซื้อมาเพราะชอบสี และราคาที่ไม่แพงมาก ไม่น่าจะถึง 600 เยน (186 บ.) สีสวยในแบบที่ชอบ ที่คิดว่าน่าจะทาได้ทุกวันเลยสอยมา
CEZANNE
ไม่ได้อยู่ในหมวดอายแชโดว์ แต่จับมาใส่ละ เป็นเจ้าเฉดดิ้งของ CEZANNE ในราคาที่ถูกมากๆ ไม่เกิน 500 เยน (155 บ.) เลยซื้อมาลองเล่นดู
หมวดจิปาถะWhitening Eye Cream
ซื้อมาเพราะคำว่ารางวัล Cosme อีกแล้ว 555 ราคา 1,000 เยน (310 บ.) ซื้อมาเพราะช่วงนี้ทำงานหนัก ใต้ตาเป็นน้องๆ แพนด้า เลยกะว่าตัวนี้อาจจะช่วยได้
ยาหยอดตา Lycee
ตัวนี้ก็ฮ็อตฮิตมากในหมู่คนไทย เราสอยมา 2 อัน แบบสำหรับคนใส่คอนแทคเลนส์ หยอดแล้วรู้สึกตาสดชื่นขึ้นจริงๆ ราคาที่ได้มาไม่เกิน 400 เยน (124 บ.)
Eye Liner จาก Kiss Me
เป็นอายไลเนอร์สีน้ำตาล หัวเล็กมากขนาด 0.1 mm. เอง ทุกคนเห็นตัวนี้ก็น่าจะรู้แล้วนะ ว่าเราซื้อเพราะป้าย Cosme 5555 อันนี้ได้มาจากร้านดองกี้ ราคา 1,000 เยน (310 บ.)
ลิปมัน DHC
เพื่อนฝากซื้อลิปมันตัวนี้เบ็ดเสร็จคือเกือบ 10 แท่งได้ เลยอยากรู้ว่าจะดีสมคำร่ำลือไหมนะ เลยลองสอยมา 1 แท่ง ราคาไม่ถึง 500 เยน (155 บ.)
และนี่ก็คือสมบัติทั้งหมดสำหรับทริปนี้ของเรา ไว้ลองใช้ครบ และตัวไหนเวิร์กจะมาเม้าท์มอยให้ฟังกันอีกสักรอบนะคะ กรุณาช้อปอย่างมีสติ (บอกตัวเอง) บ๊ายยยยยยยยยยย!!!