REVIEW : ศึกประชัน! ลิปคุชชั่น DIOR vs MILLE ถูกกับแพง ใช้แทนกันได้ป้ะ?

สวัสดีค๊าาา คิดถึงกันมั้ยยย ส่วนเค้าคิดถึงทุกคนมากกกกกกก มาครั้งนี้สมิทตี้เอารีวิวเด็ดๆมาฝากอีกล้าววววว คราวที่แล้วเค้ารีวืวลิปจิ้มจุ่มไป มีแบรนด์ดังที่เป็นที่นิยมและยังเทสความติดทนให้ด้วย เพื่อนๆคนไหนดูกันแล้วบ้างน้า รอบนี้ถึงคิวของลิปคุชชั่นกันบ้าง

เราจะมาเทียบแบรนด์แพง Dior Rouge Grradient  กับแบรนด์ราคาถูก อย่าง Mille Matte Cushion Stamping LIP ด้วยความสงสัยเอง ว่าใช้แล้วจะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน แทนกันได้มั้ย ไปหาคำตอบกัน เริ่มกันเลย!!

มาเริ่มที Dior Rouge Gradient

Package จะเป็นด้ามพลาสติก แบ่งเป็นสองสีที่หัวและท้ายด้ามค่ะ

หมุนฝาออกมาจะเจอหัวฟองน้ำที่มีความแน่น และใหญ่ ดูแข็งแรง เพราะเราต้องใช้หัวฟองน้ำนี้แหละที่ทาลงบนปาก ถ้ามันไม่แข็งแรงนานไปอาจจะยุ่ยได้ แต่ของ Dior Rouge Grradient ทำออกมาได้ดี แน๊นนน แน่นนน

เปิดออกมา ทั้งสองด้านจะเป็นหัวฟองน้ำสองสีตามภาพ เพื่อนๆอยากรู้ใช่มั้ยคะ ว่าสีมันออกมาจากตรงไหน ? สีมันอยู่ตรงฝาค่ะ พอหมุนฝาออกมา หงายดูจะมีเหมือนแท่งลิปสติกสั้นๆด้านใน

ฝาสีขาวเป็นของ Mille Matte Cushion Stamping Lip  ฝาสีดำเป็นของ Dior Rouge Gradientสังเกตปริมาณลิปด้านในแตกต่างกันอยู่นาาา

ที่บนฝาของ Dior Rouge Grradient จะมีเบอร์สี ติดอยู่  จดไปตำกันได้

เดี๋ยวเรามาทากัน เริ่มจากฝั่งที่เป็นสีชมพูอ่อน กันก่อน

ลิปมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เวลาทาบนปากสีชมพูอ่อน มันอ่อนมากจริงๆต้องทาย้ำหลายรอบหน่อยค่ะ แต่จริงๆแล้วลิปตัวนี้เราสามารถทาไล่เฉดสีแบบ Gradient ได้ด้วยนะคะ เดี่ยวเค้าทาให้ดูนะ

ถึงเวลาเทสโดยการปาดลิปที่ปากด้วยมือ

สีลิปไม่หลุดเลย ถึงเป็นสีอ่อน แต่ก็ติดทน

ต่อด้วยการเทสด้วยการซับทิชชู่ และการดื่มน้ำ ดูซิจะมีสีลิปติดมากมากมั้ย ?

ผลที่ออกมาคืออออออ…. ไม่หลุดเลยจร้าาาาาามาทาสีแดงอีกด้านกันต่อ

Dior Rouge Gradient

รู้สึกชอบสีนี้จัง มันเป็นแดงที่เป็นธรรมชาติ สีจะเนียนไปกับเนื้อริมฝีปากเลยอะ

สมิทตี้ลองทาแบบไล่เฉดสี หรือการทาแบบ Gradient โดยทาสีเข้มด้านในทาสีอ่อนด้านนอก ก็จะได้ลุคที่น่ารักแบบนี้ ชอบๆ

มากันที่แบรนด์ราคาไม่แรงกันบ้าง คู่แข่งของเราคือออออ~

Mille Matte Cushion Stamping Lip

ลักษณะแพคเก็จดูแพง ด้ามจะเป็นสีเงินอมชมพู มีความเงา แต่เป็นพลาสติกนะคะ แต่พอเคลือบด้วยสีวิ้งๆแล้ว ดูแพงเลยย หัวแปรงของ Mille Matte Cushion Stamping LIP จะความนิ่ม และไม่แน่น เหมือนของ Dior

มาเริ่มทาสีแรก สี 04 Peony

วิธีการดูชื่อสีของ Mille จะอยู่ที่ด้านข้างของแท่งลิปคุชชั่น เค้าใช้สี 04 Peony กับสี 09  RED Hibicos ค่ะ อ้ออ… แต่ว่าลิปคุชชั่นจาก  Mille จะมี 1 สี ต่อ 1 แท่งเท่านั้นนะ

เป็นสีชมพูอ่อน น่ารักมว๊ากกกก ทาแล้วไม่ป่วย  สีจะชัดและมีความลื่นทาง่ายกว่า Dior  อีกกก งงเลยยย แต่ต้องเกลี่ยให้ดี  และกลิ่นก็ไม่หอมเท่าของ Dior นะคะ

เค้าเอามาทาแก้มด้วย !

สีสวยโอเคเลย อารมณ์เหมือนใช้บลัชครีม แต่เราใช้ลิปคุชชั่นแทน ค่อยๆทา แต๊มๆ ไปเรื่อยๆ บนแก้มในจุดที่เราต้องการ แล้วเกลี่ยให้เนี่ยนน ดีงามม คุ้มมากก 5555 เราก็จะได้สีปากและสีแก้มเป็นสีเดียวกัน เป็นเทรนด์แต่งหน้าที่กำลังมาเลย

มาทาสีเข้มกันบ้าง เป็นสีแดงอมส้มนิดๆ สี 09 Red Hibicus

มาดูกันชัดๆ เวลาทาแล้วอาจจะเกลี่ยยากกว่าของ Dior เล็กน้อย ต้องค่อยทาให้ดีเลยล่ะ ไม่งั้นไม่เนียน

มาลองทาแบบไล่เฉดสี  Gradiemt กันดูบ้าง ว่าจะเนียนมั้ยน้าาา ?

เค้าเอาลิปทั้งสองสีมาทาแบบไล่เฉดสี เหมือนลิป Dior รุ่น Rouge Gradient ดูบ้าง ผลออกมาโอเคเลย แต่ต้องเลือกเฉดสีที่ใกล้เคียงกันนะคะ จะได้ไล่สีได้แบบเนียนๆ ซื้อ Mille มาสักสองสีก็ทำได้ล้าวว ถูกกว่าด้วย แต่ถ้าใครมีงบถึงก็จัด Dior เลยค่ะ สะดวกดีไม่ต้องพกหลายแท่ง

สรุปการใช้ ทั้งสองแบรนด์

Dior Rouge Gradient  

ข้อดี

-มีสองสีในด้ามเดียวทำให้ไม่ต้องพกหลายแท่ง

-หัวฟองน้ำแน่นมาก แข็งแรง ทนต่อการใช้งานในระยะยาว

– มีกลิ่นหอมมากกว่า Mille

-ทาง่าย  และเบลนด์สีได้ง่าย

-สีติดทน และเป็นธรรมชาติ

ข้อเสีย

– ราคาแรง แท่งละพันกว่าบาท

-ลิปที่ให้มาในฝาเหมือนจะมีน้อยกว่า Milleสรุปการใช้  Mille Matte Cushion Stamping LIP

ข้อดี

-ราคาถูก หลักร้อย คุ้มเลย ซื้อได้หลายแท่ง หลายสี

– ทาง่าย สีชัดดี

ข้อเสีย

-ไม่มีกลิ่นหอม

-ต้องพกหลายแท่ง หากจะทาแบบ Gradient

- เกลี่ยยากกว่า Dior Rouge Gradient  เอาจริงๆ สำหรับเรา เราว่าสามารถใช้แทนได้เลยล่ะ ด้วยราคาที่ต่างกันแต่คุณภาพที่ได้ค่อนข้างคุ้ม ถูกและดี สำหรับ Mille ก็ไม่ได้แย่เลย ดีซะด้วยนะ แต่ถ้าใครมีงบ จะเลือกยี่ห้อไหนก็จัดได้ตามเงินในเป๋าเลยน้าา Dior สวยๆ

หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆที่กำลังอยากไปตำอยู่น้าาา

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ไว้เจอกันใหม่ รีวิวหน้า บ๊าย บาย จ้าFB PAGE : SMITHY GIRL