10 แบรนด์นี้ สาย Kawaii ต้องโดน!
formino 5 1เทรนด์ญี่ปุ่นถือเป็นเพื่อนซี้กับสาวไทยเนอะ มีทั้งช่วงบูมที่ฮิตกันทั้งบ้านทั้งเมือง และช่วงกระแสแผ่วไปบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือนางไม่เคยหายไปจากใจสาวไทยเลยค่ะซิสสสส
วันนี้ฟอร์มเลยพาเพื่อนๆ มารู้จัก 10 แบรนด์เครื่องสำอางญี่ปุ่น ที่สาวๆ สาย Kawaii อย่างเรา ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่า อร๊ายยยยย
แบรนด์ที่ 1 Jill Stuart ที่สุดของความเป็นเจ้าหญิงต้องมอบมงให้นางคนนี้คนเดียวเท่าน้านนน คือแค่แพ็คเกจก็ชนะแล้วค่ะซิส มันมุ้งมิ้งไปหม๊ด ออกมากี่คอลเลคชั่นก็ทำออกมาได้สวยงามตลอด ไม่เสียชื่อเจ้าของแบรนด์ที่เป็นถึงแฟชั่นดีไซน์เนอร์ส่งตรงจาก New York
แต่ที่เด็ดดวงสุดๆ ต้องยกให้กระจกเลยจ้า คือส่องแล้วจะให้ฟีลที่ กระจกวิเศษบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี แล้วก็ตอบตัวเองได้เลยว่า ชั้นสิ กระจกดีส่องยังไงก็สวยค่ะ!
Must have items: Jill Stuart Hand Mirror , Jill Stuart Mix Blush Compact N
แบรนด์ที่ 2 Canmake ถ้าพูดถึงเครื่องสำอางญี่ปุ่นต้องคิดถึงนางจริงๆ นะ เพราะเจ้า Canmake อยู่กับสาวญี่ปุ่นมาถึง 30 ปีแล้วววว ไม่แน่จริงอยู่ขนาดนี้ไม่ได้นะเนี่ย ทั้งแป้ง อายแชโดว์ บลัชออน ลิปสติก หรือพาเลทเขียนคิ้ว นางดีทั้งหมด!
แพ็คเกจก็ออกแบบมาให้น่ารักพกพาง่าย และคุณภาพก็คุ้มเกินราคา สมกับ Brand Concept ที่ว่า Girly , Pop & Shiny แบบว่า ใช้ Canmake แล้วกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่แสนน่ารักและมีเสน่ห์จนใครๆ ก็ต้องหลงรักงี้ รู้สึกสวยเลย ฮิฮิ
Must have items: Canmake Glow Fleur Cheeks , Canmake Marshmallow Finish Powder
แบรนด์ที่ 3 Majolica Majorca ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ สำหรับ Majolica Majorca หนึ่งในแบรนด์ลูกของ Shiseido ที่วางตัวว่า ฉันมีเวทมนตร์ ฉันเสกทุกความปรารถนาด้านความงามให้เธอได้ อู้หูยยยยยย Make up is magic มากๆ แต่เวทมนตร์ก็มีจริงๆ นะ เสกขนตามาทันตาเห็นเลยจ้า
ทำให้มาสคาร่าของแบรนด์นี้ เป็นของดีประจำโต๊ะเครื่องแป้งของสาวหลายๆ คน แถมยังมีให้เลือกหลายรุ่น หัวมาสคาร่าหลายแบบ และนางก็งัดขนตาขึ้นมาแบบปังๆ ทุกรุ่นเลยจ้า คือรัก!
Must have items: Majolica Majorca Lash King Mascara , Majolica Majorca Cream De Cheek
แบรนด์ที่ 4 Candy Dollอ่านไม่ผิดหรอกค่ะสาวๆ แคนดี้ดอลล์เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่ฮอตมากๆๆๆๆ และได้รับความนิยมมากๆ ในหมู่สาวแกลล์ (Gal) คือ สาวที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองชัดเจน มีสไตล์ที่โดดเด่น หน้าผมจัดเต็ม ไม่สุดไม่หลุดจากบ้านงี้
และทุกแม็กกาซีนวัยรุ่นญี่ปุ่นต้องมี Candy Doll อยู่ตลอดๆ ยิ่งการันตีด้วยเจ้าของแบรนด์ที่น่ารักมากกก ดีกรีระดับนางแบบและไอดอลญี่ปุ่นอย่างซือจัง (Tsubasa Masuwaka) ยิ่งฮอตเข้าไปใหญ่ แต่ไอเท็มที่ขอชาบูต้องยกให้รองพื้นเนื้อลิควิด ที่เป็นเนื้อน้ำ เกลี่ยง่าย บางเบา แต่นางปกปิดกริบเลยซิส ผิวเป็นผิว สวยเป็นสวยค่ะ ซือจังมาเอง!
Must have items: Candy Doll Liquid Foundation , Candy Doll Cheek Color Duo
แบรนด์ที่ 5 Kiss meต้องยอมชาบูความเทพของมาสคาร่าญี่ปุ่นจริงๆ และ Kiss me ก็เป็นหนึ่งในนั้น! เด็ดชนิดที่ว่าได้รับรางวัล Cosme ด้านมาสคาร่าทุกปี สุดจริงงงง ด้วยความที่สัญลักษณ์ของแบรนด์นี้ คือ การ์ตูนตาหวาน ผมสีทอง จนได้รับการขนานนามจากสาวไทยว่า 'มาสคาร่าเจ้าหญิง'
และไอเท็มที่ต้องห้ามพลาด คือ มาสคาร่าฝาสีชมพูเงินๆ รุ่น Heroine Make Long&Curl ที่ปัดแล้วปังมากกกก ปัดแล้วรู้สึกฟรุ้งฟริ้งเหมือนตุ๊กตาตาหวานที่อยู่ตรงแพ็คเกจนั่นแหละ แถมติดทน ไม่แพนด้าแต่ล้างออกง่าย รักอะ!!
Must have items: Kiss me Heroine Make Mascara , Kiss me Heavy Rotation Coloring Eyebrow
แบรนด์ที่ 6 Ettusais (เอต์ตูเซส์)ใครผิวแพ้ง่ายมาทางเน้ เครื่องสำอางญี่ปุ่นที่เกิดมาเพื่อสาวผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ! ต้องยกให้ Ettusais เล้ยย เพราะแบรนด์นี้เขาเคลมว่า ของในแบรนด์เขาเนี่ย ไม่ผสมน้ำหอม และเป็น non-comedogenic คือจะไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตันนั่นเองค่าาา เด็ดดวงจริงๆ
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะแบรนด์ยังยึด concept ที่ว่า Back to baby อารมณ์ประมาณใช้เครื่องสำอางฉันสิ แล้วหน้าเธอจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง หูยยย เห็นเคลมแรงแบบนี้นางก็ไม่ได้ขี้จุ๊เน้อ เพราะบีบีครีมชื่อดังของ Ettusais ติดใน Top 3 รางวัล Cosme ด้านบีบีครีมตลอดถึง 3 ปีเลย น่าลองจริงๆ >_<
Must have items: Ettusais BB Mineral Cream , Ettusais Lip Essence Treatment
แบรนด์ที่ 7 KATE TOKYOเพิ่งฉลองครบ 20 ปีไปเมื่อไม่นานมานี้เอง สำหรับแบรนด์เมคอัพชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่าง KATE TOKYO ที่เดิมทีก็ใช้ชื่อว่า KATE เฉยๆ นี่แหละ แต่หลังจากนั้น ก็ได้พัฒนาและปรับปรุงเครื่องสำอาง แล้วใส่คำว่า 'Tokyo' เพราะต้องการสื่อถึงความเป็นแฟชั่น สไตล์ที่ทันสมัยและเสน่ห์แบบสาวโตเกียว โอ้โห เก๋เวอร์
และแน่นอนว่ายอดขาดที่ญี่ปุ่นพุ่งปรี๊ดดด แต่มันคงไม่ใช่แค่ชื่อหรอก เป็นเพราะจุดยืนของแบรนด์ที่โดดเด่นมากๆ และคุณภาพสินค้าก็ดีเกินราคาไปอีกกก ทำเอาทั้งสาวยุ่นและสาวไทยหลงรักกันแบบยาวไปๆ <3
Must have items: KATE Designing Eyebrow , KATE Sharp Lock Gel Pencil
แบรนด์ที่ 8 Cezanne (เซซาน)แบรนด์นี้ชื่อต้องคุ้นหูเพื่อนๆ อย่างแน่นอน เพราะอยู่คู่กับสาวไทย สาวยุ่น สาวเอเชียมานานมากๆ และตอนนี้ Cezanne ก็ครบรอบ 50 ขวบแล้วค่ะ *จุดพลุฉลอง* เป็นแบรนด์ที่ขยันพัฒนาตัวเองมากๆ คุณภาพไม่มีตกเลย และพักหลังมานี้ ผลิตเครื่องสำอางเกี่ยวกับผิวให้ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างเราๆ มากขึ้น
แต่ที่ขายดีตลอดกาลต้องยกให้แป้งตลับฟ้าของเขาเนี่ย มัน-ดี-มาก!! เป็นแป้งผสมรองพื้นที่บางเบา ปกปิดและไม่ทำให้เกิดสิว ยิ่งเหงื่อออกยิ่งสวย กรีดร้องงง ใครอยากลองแป้งผสมรองพื้นราคาเบาๆ เริ่มที่แป้งตัวนี้เลยค่ะ ต้องโดน!
Must have items: Cezanne UV Foundation EX Plus , Cezanne Pore Cover Concealer
แบรนด์ที่ 9 CHIFURE (ชิฟูเระ)ถ้าพูดถึง Chifure หลายคนคงนึกถึงสกินแคร์ของเขาแน่เลย แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่า เครื่องสำอางของเขาก็เป็นมิตรกับผู้หญิงอย่างเราๆ น้าา ถึงขั้นได้ชื่อว่า เป็นแบรนด์คุณภาพระดับ Counter แต่ราคาระดับ Drugstore จ้า โอ้โห แกเอ้ย ได้ยินแบบนี้แล้วอยากได้อยากโดนสุดๆ
โดยเฉพาะบีบีครีมที่เป็นตัวเด็ดตัวดัง เนื้อบางเบา ให้ผิวที่เป็นธรรมชาติสุด และถือว่าเป็นไอเท็มขายดีประจำร้าน Matsumoto Kiyoshi ในไทยเลยค่ะ ติดใจกันเป็นแถวๆ
Must have items: Chifure BB Cream , Chifure Lipstick
แบรนด์ที่ 10 K-Paletteงานมงต้องลงที่ดวงตาจ้า ที่ 1 ของอายไลเนอร์ญี่ปุ่นมาแล้ววว ทั้งเขียนง่าย เส้นบาง ติดทน ไม่เยิ้ม ไม่แพนด้า และได้รางวัลการันตีอายไลเนอร์ที่ดีที่สุด จาก Cosme ถึง 5 ปีซ้อน!
ยังค่ะ ยังไม่จบแค่นั้น เพราะคุณภาพดียังไม่พอ ยังจะขยันออก Limeted Edition มาให้เราดิ้นๆๆๆ เพื่อให้ได้มันมาครอบครองอี๊ก! อย่างเช่น อายไลเนอร์ลายเจ้าหญิง Disney ที่ขนกันมาเป็นกองทัพ ลายเจ้าแมวเหมียวที่ทาสแมวต้องเก็บสะสม ได้ทั้งแพ็คเกจที่น่ารักและของคุณภาพเลิศๆ อีก ทำไมต้องทนคะ จัดโลดดด
Must have items: K-palette 1 Day Tattoo Eyeliner , K-palette Lasting 2way Eyebrow
เป็นไงบ้างคะ ถูกอกถูกใจหรือกรี๊ดกร๊าดแบรนด์ไหนเป็นพิเศษบ้างมั๊ยย แต่มหากาพย์ยังไม่จบเท่านี้ค่าาา เพราะเราจะแนะนำแต่ละแบรนด์อย่างละเอียดอีกเรียกว่า มิชชั่น 10 วัน 10 แบรนด์เลยจ้า เอาให้กิเลสพุ่งปรี๊ดกันไปเล้ยรอติดตามด้วยน้า : )