[ REVIEW MOVIE ] What Happened to Monday ยัยวันจันทร์มันหายไปไหน l ไม่สปอยล์เด้อ

ไฮ สวัสดีเพื่อนๆชาวจีบัน กลับมาพบกับซินเด้อีกครั้งในกระทู้รีวิวหนัง ซึ่งวันนี้ซินดี้หยิบเรื่อง " What happend to Monday "  ที่มีพล็อตสุดล้ำเหนือจินตนการ กลิ่นอายของไซไฟ ดิสโทเปีย และดราม่า นำมารีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ไม่พูดพร่ำทำเพลงเยอะ ถ้าพร้อมก็ไปกันโล้ดดด

WHAT HAPPENED TO MONDAY

7 เป็น 7 ตาย

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในโลกอนาคต ห่างจากปัจจุบันไปราวๆ 50 - 60 ปี ในยุคสมัยที่ประชากรล้นโลก แย่งกันกิน แย่งกันใช้ ทรัพยากรไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูคนได้ทั้งโลก รัฐบาลจึงได้ออกกฎหมายจำกัดจำนวนบุตรของแต่ละบ้าน หนึ่งครอบครัวหนึ่งเด็ก และหากว่ามีครอบครัวใดมีบุตรเกิน 1 คน บุตรคนต่อมาจะต้องถูกแช่แข็งให้หลับใหลจนกว่าปัญหาด้านประชากรและทรัพยากรจะหมดไป

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อลูกสาวของเทอร์เรนซ์ เซตต์แมน ได้ให้กำเนิดบุตรีฝาแฝดด้วยกันถึง 7 คน ด้วยความรัก คุณปู่เซตต์แมนจึงตัดสินใจเลี้ยงหลานที่เกิดมาทั้งเจ็ดคนอย่างลับๆ หลบหลีกจากสายตารัฐบาล และตั้งนิกเนมให้สาวๆเป็นชื่อของวันประจำสัปดาห์ มันเดย์ ทิวส์เดส เวนส์เดย์ เธอรส์เดย์ ฟรายเดย์ แซทเทอร์เดย์ และซันเดย์ โดยทุกคนจะต้องรับบทเป็นแคเรน เซตต์แมนเมื่ออยู่นอกบ้าน และให้ออกจากบ้านเฉพาะวันที่เป็นชื่อของตนเอง

ทั้ง 7 ใช้ชีวิตจนเวลาล่วงเลยมาถึง 30 ปี ในจันทร์หนึ่ง มันเดย์ผู้รับหน้าที่ออกไปใช้ชีวิตในวันจันทร์ ทว่าเธอกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่ายัยวันจันทร์เป็นตายร้ายดีอย่างไร

•••

ต้องขอบอกเลยว่าพล็อตของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจ ไล่ตั้งแต่โลกอนาคตที่เกิดปัญหาประชากรล้น ทรัพยากรขาดแคลน พื้นที่อยู่อาศัยจำกัด การออกกฎหมายบังคับให้บุตรคนที่2 ต้องถูกจำศีลไปจนกว่าปัญหาจะหมดไป จนถึงประเด็นการหายตัวไปของฝาแฝดคนโต หายไปไหน หายอย่างไร แล้วรัฐบาลรู้เรื่องการมีตัวตนของพวกเธอหรือยัง

นูมิ ราเพซ (Noomi Rapace) นักแสดงนำผู้รับบทฝาแฝดทั้ง 7 ที่เรียกได้ว่าแบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง แสดงดีไม่มีที่ติ สามารถเป็นตัวละครทั้ง 7 บุคลิกได้จนคนดูเชื่อว่านี่แหละ ใช่ นี่แหละมี 7 คน นอกจากคาแรคเตอร์ที่แสดงออกเมื่ออยู่ในบ้านจะชัดเจนมากแล้ว กระทั่งฉากที่ตัวละครวันใดวันหนึ่งต้องสวมบทเป็นแคเรนแล้วออกจากบ้านไป นูมิก็ยังทำให้เรารับรู้ว่าภายใต้เมคอัพและวิกผมนั้นเป็นใคร ซันเดย์? มันเดย์? ทิวส์เดย์? จากการแสดงออกด้วยท่าทางเล็กๆน้อยๆไปจนถึงน้ำเสียงที่เปล่งออกมา ขอปรบมือให้นูมิ สุดยอดไปเลย!

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะฉายเป็นเวลาสองชั่วโมงกว่า แต่สตอรี่ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก แทบไม่มีช่วงอืดยืดเยื้อเลย หนังสามารถตรึงคนดูให้สนใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ตื่นเต้นตกใจ หัวเราะขำขัน หรือร้องไห้ไปกับฉากดราม่าเรียกน้ำตาได้จริงๆ

แหมะ แต่ชมอย่างเดียวก็จะมาอวยมากกว่ารีวิว บทของ What happened to Monday มีความขัดเขินเล็กน้อย ด้านประเด็นเกี่ยวกับศีลธรรมและสังคม เช่น การคุมกำเนิด หากว่านั่นคือโลกอนาคต เราควรมีวิธีการคุมกำเนิดที่ทันสมัยแล้วใช่ไหม หรือการยุติการตั้งครรภ์ ที่ไม่มีใครยักกะพูดถึง ทั้งที่มันเป็นท้อปปิคถกกันจนสำเร็จไปแล้วหลายรัฐหลายประเทศ ซึ่ง ถ้ามีทำจริง หนังคงถูกแบนจากหลายประเทศที่เคร่งศาสนาเป็นแน่

สิ่งที่ย้อนแย้งกันของภาพยนตร์เรื่องนี้มีให้จับผิดประปราย อาทิ โลกอนาคตที่สามารถใช้จอบางที่สั่งงานบนมือเรา เหมือนฝังลงไป หรือวิทยาการฟรีซมนุษย์ ตั่งต่างนานา แต่กับอีกหลายอย่างดันไม่ได้พัฒนาไปตามโลก อาทิ อาวุธที่ใช้ ยังคงใช้วิธีลั่นไกแบบเดิม (ถึงแม้จะต้องแสกนลายนิ้วมือก่อนใช้งานก็ตาม) เสียงลูกปืนยังคงดังโป้งป้างหนวกหู หรือแม้แต่รถที่ขับ วิธีการจับตัวผู้ร้าย ยังคงใช้วิธีเดียวกับปี 201X  ซึ่งมันเป็นการบ่งบอกถึงการรับมือการจัดการกับคนร้ายไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย เป็นต้น

โดยรวมแล้ว What happened to Monday เต็มไปด้วยรสชาติกล่มกล่อม สนุกสนาน และพล็อตตั้งต้นที่ดีเยี่ยม การเล่าเรื่องที่ไม่ขาดช่วง ทันใจ ลื่นไหล รวมถึงการแอ็คติ้งระดับท๊อปของนางเอก ทุกองค์ประกอบส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าขั้นของดีที่น่าดู และซินเด้เองก็อยากแนะนำให้ทุกคนตีตั๋วเข้าไปเอาใจช่วยสาวๆทั้งเจ็ดคนเช่นกัน

ซินเด้ขอตัดคะแนนให้ What happened to Monday ที่ 8/10 ค่ะ

สำหรับวันนี้ซินดี้ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่ในกระทู้หน้า อันที่จริงซินเด้ก็ได้เตรียมของเล่นไว้แล้ว ส่วนจะเป็นอะไรนั้นขออุบไว้ก่อนเนอะ

เพื่อนๆที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วสามารถคอมเมนท์พูดคุยกันได้ข้างล่างนี้ ชอบไม่ชอบอย่างไรบ่นได้นาจา เอาล่ะ แล้วพบกันใหม่อีกไม่นาน วันนี้ สวัสดีค่ะ