เปิดกรุสกินแคร์ INNISFREE ที่ใช้ดีปี 2017 !!!
gimsong 17 15สวัสดีทุกคนอีกครั้งนะครับบ่ายวันอาทิตย์(อีกแล้ว)แบบนี้ ว่างๆก็มาอ่านรีวิวกันดีกว่าใครไม่ได้ไป Countdown ที่ไหนก็มาเป็นหนึ่งในคนที่นับถอยหลังปีใหม่หน้าคอมกันดีกว่า
ปีนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาหลี เลนสอยสกินแคร์มาเยอะเลย (ยังมีอันที่ไม่ได้แกะอีก)มีทั้งตัวที่ซื้อมาใช้นานแล้ว แล้วก็เพิ่งได้ลองใช้ทุกตัวใช้มาเกิน 1-2 เดือน เลยอยากมาบอกต่อความดีงาม
ใครสะดวกดูแบบวิดิโอก็สามารถเข้าไปดูได้เช่นเดิม ในคลิปจะเห็นพวกเนื้อครีม เทกเจอร์ของแต่ละตัวอะไรพวกนี้เยอะกว่า
มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลย นั้นก็คือ Innisfree green tea balancing skin (630.- Baht) ตัวนี้เป็นโทนเนอร์ หลายๆคนน่าจะได้มีโอกาสลองเจ้าตัวนี้ละ เพราะว่ามันขายเป็นเซตคู่กับตัวเซรั่มแต่ถ้าใครยังไม่ได้ลองก็อยากจะมาคอนเฟิร์มว่ามันดจีย์
หลักๆคือความชาเขียวอะเนาะ มันช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ทำให้ผิวมันเฟรช ช่วยปรับสมดุลผิวก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ เนื้อบางเบามากกซึมหายไปอย่างเร็ว ส่วนตัวชอบใช้สกินแคร์แบบน้ำมันซึ่งถ้าตัวโทนเนอร์มันเบาๆแบบนี้ก็คือโอเคเลย
มีกลิ่นหอมอ่อนๆซึ่งเขาก็ใส่น้ำหอมมาแหละ แต่ว่าไม่แพ้อะไร ใครแพ้พวกน้ำหอมก็ไปลองกันดูก่อน
ตัวต่อมาตัวที่ 2 คือเป็นอีกตัวที่เลิฟมาก Innisfree the green tea seed serum (1,000.- Baht)คือขวดเล็กๆอะเนาะ ราคาก็ประมาณนึง แต่ส่วนผสมเขาก็จัดเต็มไง เพราะให้สารสกัดชาเขียวมาถึง 75.9 % (อะไรที่เกิน 50 % ก็ดูเยอะไปหมด นี่ให้มา 75 % เด้อ)
ความดีของตัวนี้คือซึมไวมาก มากจนเหมือนเวทมนต์ ลงปุ้ป ทา หายปั้ป อะเมซิ่ง! คือชาเขียว 75 % มันเข้าหน้าเราไปเร็วจัง สาแก่ใจมาก
นอกจากความบางเบาแล้วคือความชุ่มชื้น คือเนื้อเบาแต่ชุ่มชื้นในระดับที่โอเคเลยนอกจากนั้นยังช่วยคุมความมันในระดับนึง รู้สึกหน้ามันน้อยลงแล้วก็เหมือนจะช่วยลดการอักเสบต่างๆ รอยแดงเล็กน้อย ใครมีปัญหาผิวแพ้ง่าย อ่อนแอ ตัวนี้ก็เสริมความแกร่งให้หน้าได้ดี
ถัดมาคือน้องกล้วยไม้ Innisfree orchid enriched cream (1,130.- Baht)ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรกับน้องเพราะได้ขนาด Sample มาลอง แต่พอใช้จนหมด ต้องรีบไปสอบขนาดจริง!
นางเคลมตัวเองว่า
* ผลลัพธ์ในการต่อต้านริ้วรอย + กระชับผิว + ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ + เติมความชุ่มชื้น + ดูแลรูขุมขน
ซึ่งถามว่าสมคำเคลมมั้ย มันจริง!
คือเรื่องริ้วรอยนี่ไม่ได้เห็นชัดมาก คือผิวมันดูแน่น ดูฟูขึ้น รูขุมขนเลยเล็กลง หน้ามันเลยดูไม่ยับๆ
แต่ที่เห็นผลชัดๆเลยคือเรื่อง สีผิว!
มันทำให้หน้าขาวกระจ่างใสจริงๆ ดูขาวขึ้นประมาณครึ่งเฉดได้
รู้สึกได้ตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์แรกที่ลอง (คนอื่นอาจจะไม่เหมือนกันนะ)เนื้อครีมของน้องกล้วยไม้ค่อนข้างหนักนิดนึง ทากลางคืนได้อยู่ ทาเช้าหน้าเยิ้มเด้อ
อะไรดีอะไรเด็ดเราจัดมาหมด Innisfree Super volcanic clay mask (770.- Baht)น้องโคลนตัวนี้ใช้ดีในระดับที่จัดมาถึงสองขวดแล้ว แล้วน้องเขาใช้ได้นานมาก 2-3 เดือน
เป็นมาร์สที่พอกทิ้งไว้ 15-20 นาที พอโคลนมันแข้งตัวคือเห็นชัดเลยว่าน้ำมันบนหน้ามันถูกดูดออกมาอะเมซิ่งอีกแล้ว หลังจากล้างออกคือหน้าสว่าง สะอาดมาก รู้สึกได้
อาจเป็นเพราะเขามีส่วนผสมอย่าง AHA/BHA ด้วย ช่วยกำจัดเซลล์ผิวเด๋อๆออกไป ใช้แล้วหน้าไม่มัน สิวที่เหมือนจะเป่งๆก็แห้งลงไปเอง
พลังติ่งอะเนาะ Innisfree volcanic color clay mask (330.- Baht/piece)
ใครเมนคังแดเนียล องซองอู พัคจีฮุน ก็ต้องนิดนึงอะ ตอนดูในรายการ Produce 101
ก็งงนะทำไมพี่จีซองแบกมาร์สมาครบ 7 สี มณีเจ็ดแสง
ดูแล้วก็เอ้อ! หน้าเขาดีหน้าเราก็ต้องดีเหมือนกัน แถมที่ไทยตอนออกมาใหม่ๆ สองสีนี้เหมือนเป็นเป้าหมาย อะไรที่มันชมพู อะไรที่มันบอกว่าผิวขาว สาวไทยก็ไปเหมามากันเก่งมาก
พอไปเกาหลีก็รีบไปหิ้วมาเลยพนักงานไม่ต้องมาอันยอง! จะเอา! หยิบมา!
คือสองสูตรนี้คือ 1. Brightening 2.Vitalizing
ทั้งสองสูตรช่วยลดความมันทั้งคู่ จริงๆมันมี 7 สี แต่สองสีนี้ตอบโจทย์ชีวิต
สีเหลืองมี Vit c ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ซึ่งพอลองแล้วก็เฉยๆ ขาวหลังล้างแต่ระยะยาวไม่แน่ใจ
ส่วนสีชมพูมีน้พมันเม็ดทับทิม ช่วยให้ผิวมีชีวิตชีวา
เลือก 2 สูตรนี้เพราะใช้ด้วยกันแล้วสีมันสวยดี 555
แล้วเขาเคลมด้วยแหละว่าสองสีนี้ช่วยให้หน้าที่ล้าๆ ดูหมองๆ กลับมาสดใส ซึ่งอันนี้คือจริง !
ตัวที่เจ็ด กับ Innisfree Soybean energy essence EX (1,350/- Baht)
น้องถั่วเหลืองหมัก ที่น้องใส่ส่วนผสมมาแบบสาแก่ใจถึง 91% มีคนเขาเม้ากันว่าเป็น Dupe ของ SKII กันเลยแต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ขนาดนั้นนะ
น้องถั่วหลักๆใช้แล้วรู้สึกว่าผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น เพราะเขาช่วยผลัดเซลล์ผิวและช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น ซึมไว เนื้อบางเบาแทบจะเป็นน้ำเปล่า
ความสวยอีกอย่างของตัวนี้คือ ปราศจากพาราเบน, ,ส่วนผสมจากสัตว์, mineral oil, สารโพลีอะคริลาไมด์, สีสังเคราะห์, น้ำหอมสังเคราะห์, สารกันเสีย ไดโซลิดินิล ยูเรีย อะไรที่มันไม่ดีเขาก็ไม่ใส่เด้อ ใครแพ้อะไรง่าย ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์
สอบมาพร้อมน้องถั่วข้างบนคือ Innisfree Soybean energy oil (1,080.- Baht)
ส่วนตัวแล้วชอบใช้พวกน้ำมันมาก เพราะมันให้ความชุ่มชื้นขั้นสุด
เห็นตัวนี้เป็น Oil ก็คาดหวังเรื่องนั้นเช่นกันแต่ปรากฎว่าเขาไม่ได้เด่นเรื่อชุ่มชื้นขนาดนั้น เพราะเนื้อเขาไม่เหมือนน้ำมันเลย เนื้อบางเบาไม่ทิ้งความมันไว้บนผิว
เป็นตัวเลือกดีๆที่ใครหน้ามัน ผิวมันสามารถใช้ออยตัวนี้ได้ไม่อุดตัน ใช้แล้วผิวแข็งแรงขึ้น ใช้กับตัวด้านบนช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสมากขึ้น
และเขายัง ปราศจากสาร 9 ชนิด: ไม่มีพาราเบน ไม่มีส่วนประกอบของสัตว์ ไม่มีน้ำมันแร่ ไม่มีซิลิโคน ไม่มีสีสังเคระห์ ไม่มีโพลีอะคริลาไมด์ ไม่มีสารกันเสีย ไม่มีไตรเอทาโนลามีน ไม่มีน้ำหอมสังเคราะห์
คือไลน์ของน้องถั่วเนี้ย ไม่มีสารอะไรให้เรากลัวว่าจะแพ้ มันดีตรงนี้ แต่ใช้เดี่ยวๆรู้สึกว่าไม่ค่อยชุ่มชื้นเท่าไหร่แต่เรื่องสีผิวก็สม่ำเสมอดีขึ้น
ต่อมา My essential body intensive flower body cream (590.- Baht)คือไปเกาหลีมันหนาว ผิวมันแห้ง ที่บ้านก็รู้สึกผิวมันแห้งๆกันเลยจัดตัวนี้มา ก็ใช้นิดหน่อยตอนอยู่ที่เกาหลี
กลับมาไทยก็ทิ้งน้องไว้ในตู้เย็น แต่ช่วงนี้อากาศจู่ๆก็หนาว เลยได้เอาน้องมาทาอีก ซึ่งน้องก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เรื่องความชุ่มชื่นทำได้ในระดับที่โอเค แต่กลิ่นคือหอมอะไม่ได้หอมแบบสังเคราะห์ แต่หอมแบบธรรมชาติ ดอกไม้ เหมือนเราเดินไปในป่าแล้วก็อะ นอนลงในสวนดอกไม้ ตื่นมาแล้วกลิ่นมันติดอะไรแบบนั้น
เหมาะกับใครนั่งห้องแอร์ทั้งวัน อยากให้หนุ่มๆแผนกไอทีหรืออะไรก็ว่าไปมาดมเรา ก็ลองดู
ใครมีปัญหาเรื่องผมมันบ้าง ยกมือขึ้น ! My hair strength shampoo (390.- Baht) ช่วยได้ !จริงๆมันเหมือนบุญหล่นทับ เพราะไม่ได้ซื้อมาเอง ใช้กับพี่สาวในห้องน้ำ
โดยปกติที่บ้านผมหลุดร่วงกันเยอะมาก บวกกับชอบทำเคมีผม ตัวนี้มันช่วยให้ผมแข็งแรง แต่ไฮไลท์ของเขาคือทำให้ผิวไม่มัน สระแล้วมันสบายหัวมาก จะเย็นๆนิดนึง ปกติบ่ายๆๆผมเริ่มเยิ้มแล้ว พอลองตัวนี้ผมก็อยู่ต่อไปได้นานขึ้น
จริงๆเขามีหลายสูตรสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผมได้เลย
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบนะครับ HAPPY NEW YEAR ล่วงหน้าไว้ตรงนี้เลยเจอกันใหม่ปีหน้าครับ :D