รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม โลชั่นบำรุงผิวกายงานดีย์สำหรับผิวแห้ง และผิวผู้สูงอายุ จากแบรนด์ Piti dry skin expert
LadyMiyeon 11 1สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆบ้านจีบันทุกๆท่านผิวแห้งถือเป็นอีกปัญหาที่รบกวนใจหลายคน ผิวแห้งไม่ใช่ว่าจะดี เพราะตอนผิวแห้งจะมีการเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบต่างๆตามมา ทำให้เกิดอาการคัน แดง และถ้าเรายิ่งไปเกาก็จะเสี่ยงติดเชื้อ อันตรายขึ้นไปอีกหนึ่งในหลายๆวิธีการที่ง่ายที่สุดในการดูแลผิวแห้งก็คือการใช้ Moisturizer ทาเข้าไปเพื่อเติมน้ำ และไขมันคืนให้ผิววันนี้มี่เลยขอหยิบเอาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นที่น่าสนใจจากฝีมือคนไทย แบรนด์ปิติ Piti Dry skin expert ที่มีความคิดริเริ่มมาจากความต้องการทำโลชั่นเพื่อดูแลผิวคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าของแบรนด์ ซึ่งมีผิวแห้งมาก จนรบกวนคุณภาพชีวิตประจำวัน พอคุณพ่อคุณแม่ใช้แล้วดีมีความสุข ทางแบรนด์ก็เลยอยากส่งต่อ ความรักและความสุขจากการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ให้กับทุกคนค่ะปิติ เป็นโลชั่นที่น่าสนใจ เพราะนอกจากส่วนผสมจะทำมาได้ดีแล้ว ในเรื่องของสัมผัส และเนื้อผลิตภัณฑ์ก็ทำมาได้ดีด้วย และยังผสานด้วยกลิ่นที่เป็นน้ำมันหอมระเหยแท้ๆ มีประโยชน์ในการเป็น Aromatherapy ช่วยให้ความผ่อนคลายระหว่างใช้ด้วยค่ะโลชั่นของปิติมีด้วยกัน 4 สูตรค่ะ
สีเขียว กลิ่น Florestสีฟ้า กลิ่น Breezyสีชมพู กลิ่น Rose geraniumสีส้ม กลิ่น Orangery มาในขวดปั๊ม ตอนเปิดขวดใหม่ๆจะแอบปั๊มยากนิดนึง เพราะตัวเนื้อโลชั่นค่อนข้างข้นค่ะ ด้วยส่วนผสมของน้ำมันและไขมันที่ค่อนข้างเยอะ เลยได้เนื้อโลชั่นที่ข้น แต่ความข้นนี้ก็มีประโยชน์ในการดูแลเคลือบปกป้องผิวให้ชุ่มชื้นได้ยาวนานค่ะ กลิ่นของทั้ง 4 สูตร จะต่างกันตามชื่อกลิ่นค่ะ
สีเขียว กลิ่น Florest มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย Lavender, กระดังงา และ Geranium เปิดมาด้วยกลิ่นโทน Herb ของ Geranium ผสานกับกลิ่นของ Lavender และตัดให้อ่อนโยนลงด้วยกระดังงา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นสีชมพู กลิ่น Rose geranium มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยจาก Geranium ตัดให้ละมุนด้วยสารหอม Citronellol กับ Geraniol ที่ให้กลิ่นไปในโทนกุหลาบที่มีความ Green แบบสมุนไพรหน่อยๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
สีฟ้า กลิ่น Breezy มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย Lavender, Lemongrass, Peppermint ตัดให้หวานขึ้นด้วยสารหอม Linalool ที่มีกลิ่นดอกไม้ ถือเป็นการเลือก Blend น้ำมันหอมระเหยได้ลงตัว เปิดมาด้วยความหวานซ่อนเปรี้ยวของ Lemongrass ตามมาด้วยกลิ่นเย็นๆสดชื่นของ Mint แฝงด้วยความนุ่มนวลในโทนดอกไม้ของ Lavender และ Linalool สีส้ม กลิ่น Orangery มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยจากมะนาว ส้ม Grapefruit, Lavender, และ Sandalwood และ ขิง เปิดมาด้วยกลิ่นในโทนตระกูลส้ม แต่ไม่ได้ส้มแบบหวานแหลม เป็นส้มแบบผู้ดีที่ตัดมาด้วยกลิ่นของ Lavender กลิ่นเย็นๆของ Sandalwood และกลิ่นอบอุ่นของขิง กลายเป็น signature blend ที่น่าสนใจตัวหนึ่งเลย เนื้อโลชั่นมาในเนื้อสีขาว ดูข้นหน่อยๆ คล้ายครีม มีกลิ่นหอมตามสูตรค่ะ
ตัวโลชั่นถึงแม้จะดูข้น แต่กลับเกลี่ยง่าย ไม่เป็นปื้นขาวบนผิว และซึมไว ไม่เหนอะหนะ แต่มีฟิล์มบางๆเคลือบผิวให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น
ในด้านของค่า pH วันนี้ไม่ได้วัดให้นะคะ ตัวโลชั่นมีออยล์ค่อนข้างมาก กระดาษวัด pH ไม่เปียกและเปลี่ยนสีเลยค่ะ มาดูส่วนผสมกันดีกว่าค่ะมี่ขอยกสูตรที่ชอบที่สุด คือ Breezy มาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ชมกันนะคะส่วนผสม
จากส่วนผสมวันนี้มี่ทำสีของสารบำรุงไว้ 4 สี นะคะ จะเห็นว่า ส่วนผสมส่วนใหญ่เป็นน้ำมันธรรมชาติ และสารบำรุงผิว แต่งกลิ่นด้วยน้ำมันหอมระเหยและสารหอมจากธรรมชาติค่ะ ไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิวเลยในด้านของสารบำรุงขอเปิดด้วย
- สีฟ้า: Hydroxyethyl urea ตัวนี้เป็นอนุพันธ์ของ Urea มีคุณสมบัติที่ดีในการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการแห้งเป็นขุย เพิ่มความยืดหยุ่น และช่วยให้สัมผัสเรียบเนียน
- สีม่วง: เป็นกลุ่มของน้ำมันจากธรรมชาติ ประกอบด้วย Caprylic/capric triglycerides ซึ่งเป็นไขมันที่มีสายยาวไม่มากนัก และ น้ำมันจากพืชอีก 4 ชนิด ได้แก่ มะพร้าว รำข้าว มะกอก และ Shea butter
- สีเขียว: สารบำรุง และสารสกัดพืช ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ได้แก่
- สารสกัดจากเมล็ด Evening primrose ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่า มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบและระคายเคือง ทางผู้ผลิตกล่าวว่าให้ผลดีในอาสาสมัครที่มีอาการผิวอักเสบแบบ Atopic
- Rehmannia Chinensis extract สารสกัดจากต้น Chinese fox glove เป็นพืชพื้นบ้านของที่ชาวญี่ปุ่นใช้เป็นยาทาภายนอกมาตั้งแต่สมัยโบราณ ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่าเป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง และช่วยให้ผิวนุ่มนวล สารสกัดจากใบพีช ผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่าสารสกัดจากใบมีประโยชน์ในการชะลอวัย ลดริ้วรอย
- Phellodendron amurense bark extract สารสกัดจากพืชในตำรับยาจีนชนิดหนึ่ง มีรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ (Int Immunopharmacol. 2014; 19(2):214-20.) ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่า ประกอบด้วยสารอัลคาลอยด์ที่มีชื่อว่า Berberine มีประโยชน์ในการลดการอักเสบ และต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ และเป็น Antioxidant
- สารสกัดจากสาหร่าย (Algae extract) ซึ่งสาหร่ายมีหลายสายพันธุ์จึงไม่สามารถฟันธงในรายละเอียดได้ โดยรวมสาหร่ายมีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้น และเป็น antioxidant
- สารสกัดจากพลูคาว (Houttuynia cordataextract) ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่ามีประโยชน์ ลดการอักเสบระคายเคือง และ ช่วยในการสมานผิว
- สารสกัดจากกระเจี๊ยบ (Hibiscus esculentus fruit extract) ประกอบด้วยสารในกลุ่ม Polysaccharide ที่มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้น
- สารสกัดจากอาร์ติโช๊ค (Cynara scolymus leaf extract) ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่ามีประโยชน์ ลดการอักเสบระคายเคือง และต่อต้านจุลินทรีย์
- สารสกัดจากผลเกรฟฟรุ๊ต (Citrus junos fruit extract) มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้นและเป็น antioxidant
- Tocopheryl acetate คือรูปแบบหนึ่งของวิตามินอี มีประโยชน์เป็น Antioxidant แต่น่าจะช่วยปกป้องน้ำมันในผลิตภัณฑ์ไม่ให้เสื่อม
- Biosaccharide gum-1 คาร์โบไฮเดรตที่ได้จากการหมักจุลินทรีย์ ผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่ามีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ค่อนข้างนาน สารนี้มีคุณสมบัติก่อฟิล์มให้ความรู้สึกชุ่มชื้นนุ่มนวล ไม่เหนอะหนะ ไม่มัน
- สีน้ำเงิน: สารหอม และน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ สารหอม Linalool ที่มีกลิ่นหอมหวานในโทนดอกไม้ ร่วมกับ น้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์ ตะไคร้ และ เปปเปอร์มินท์ ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย นอกจากนี้ในทาง Aromatherapy เชื่อว่า น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้มีประโยชน์ในการบำรุงผิว ลดการอักเสบและระคายเคือง และช่วยในการสมานผิว
- สารบำรุง เป็นกลุ่มของสารสกัดจากพืช ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เน้นประโยชน์ไปในด้านลดการอักเสบและระคายเคืองของผิว พร้อมๆกับการเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญปัญหาหนึ่งของคนที่มีผิวแห้ง เสริมมาด้วยน้ำมันจากพืช ที่เป็นตัวทดแทนไขมันคืนให้แก่ผิว เวลาเราอายุเพิ่มขึ้น การสังเคราะห์ไขมันที่เป็น Barrier ผิวจะทำได้ลดลง การเติมพวกนี้เข้าไปก็เหมือนเป็นการช่วยผิวอีกทางหนึ่ง และในน้ำมันจากพืชก็จะมีสารที่เป็นพวก Phytosterol ที่ให้ประโยชน์ในการลดการอักเสบและระคายเคืองได้อีกทอดหนึ่ง โดยรวมถือว่าทำมาได้ดีและเหมาะกับผิวแห้งและผิวของผู้สูงอายุ แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องมารอสูงอายุถึงจะมาใช้ได้ เด็กๆ วัยรุ่นที่มีปัญหาผิวแห้ง ก็สามารถใช้ได้ค่ะ ส่วนตัวมี่เองอายุยังแค่ต้นๆเลข 3 ก็ยังใช้เป็นประจำเลย ตอนเช้าหลังอาบน้ำเสร็จ ในด้านสารบำรุงขอให้ไป 5 ฟลาสก์
- ส่วนผสมอื่นๆ ตัวเบสเป็นเบสแบบอิมัลชั่น เนื้อจะค่อนข้างข้น สมกับคำเคลมของแบรนด์ที่บอกว่า “เป็นโลชั่นระยะสุดท้ายก่อนจะกลายเป็นครีม” นั่นเพราะมีส่วนผสมของสารไขมันค่อนข้างเยอะ ตัวครีมเลยข้น แต่ถึงจะข้น ก็ยังให้สัมผัสบางเบา และไม่เกิดปื้นขาวตอนทา ตัวเบสไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีซิลิโคน และไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
- การใช้งาน ตอนแรกที่ลอง อิชั้นแอบชอบกลิ่น Rose geranium นะ ไปๆมาๆ กลับชอบกลิ่น Breezy มากกว่าค่ะ ทุกๆกลิ่นนาง Blend มาได้ค่อนข้างดี และเป็นเอกลักษณ์ ประหนึ่งทาน้ำหอมคุณภาพ โดยเฉพาะกลิ่น Orangery ที่เป็นการ Blend ระหว่าง กลิ่นในโทนซิตรัส (พืชตระกูลส้ม) ขิง ลาเวนเดอร์ และกลิ่นไม้จันทน์ เป็นกลิ่นที่เราหาดมได้ยากค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าชอบแต่กลิ่น Texture ของตัวโลชั่นเขาก็ทำมาดีค่ะ เพียงแต่ในวันที่หนาวมากๆ (มีวันหนึ่งที่เชียงราย 8 องศา) ตัวโลชั่นมันก็จะเกลี่ยยากหน่อยๆ ต้องวอร์มบนมือซักพัก ให้ไออุ่นจากมือช่วยให้นางหลอมลง ก่อนละเลงบนตัว ทาเช้า ผิวชุ่มชื้นไปถึงเย็น ไม่ต้องอาบน้ำกลางคืน (อุ๊ยสกปรก 55) ก็นอนไปทั้งอย่างนั้นได้เลย ไม่เหนอะหนะ ไม่ลื่นไม่เมือก ส่วนเรื่องเหงื่อออกแล้วจะลื่นหรือเยิ้มไหม อันนี้มี่ยังไม่มีเหงื่อค่ะ ช่วงนี้แถวบ้านค่อนข้างเย็น ไว้จะมาอัพเดทอีกทีเนอะ ในด้านของคะแนนการใช้งานก็ขอให้ไป 5 ฟลาสก์ เช่นกันค่ะ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Piti ปิติ ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ
Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Piti การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ