ทริป(เกือบ)สุดท้ายก่อนโควิด ฟูจิซังกับวิวหลักล้าน^^

อยู่บ้านมันเหี่ยวเฉา จะพาไปเที่ยวทิพย์กันค่ะ วันนี้จะพาไปเที่ยวจี้ปุ่ง เยี่ยมฟูจิซังที่Lake Kawaguchikoกันค่าาา ทริปนี้จะพาย้อนกลับไป 2 ปีที่แล้ว...ก่อนโควิดค่ะ T-T (นานมากกกกกกกกกกกกก)

ก่อนจะไปทริปนี้ ก็เที่ยวทิพย์จากรูปในไอจีคนอื่นก่อนค่ะ วิวฟูจิกับทะเลสาป แบบว่าแค่เห็นรูปก็ฟินแล้วค่ะ เลยตั้งเป็นbucket listไว้เลย ว่าจะต้องไปให้ได้!! ก่อนหน้าทริปนี้ ก็มีไปโตเกียวบ้าง แพลนว่าจะแวะไปเหมือนกัน แต่กี่ครั้งๆก็ล่มเพราะอากาศไม่ดี ฝนตกบ้างอะไรบ้าง แต่ครั้งนั้นคือแน่วแน่ จองที่พักที่นั้นเลยค่ะ แบบอยากไปต้องได้ไป

เริ่มทริปจากการไปลงโอซาก้า ไปเกียวโต เก็บสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบ แล้วก็มุ่งสู่คาวากุชิโกค่ะ นั่งรถไฟต่อรถบัส หลายต่อเลยค่ะ เหนื่อยอยู่ แต่ต้องสู้ค่ะ!!
(ขอไม่เล่ารายละเอียดการเดินทางนะคะ จำไม่ได้แล้วค่ะ^^')

สำหรับใครที่เคยไปญี่ปุ่น และตั้งใจจะไปเยี่ยมฟูจิซัง จะรู้ว่าน้องเค้าขี้อาย ไม่ใช่ว่าไปหาถึงที่แล้วจะได้เจอ ส่วนตัวก่อนหน้านี้ที่ไปญี่ปุ่นหลายครั้ง ก็มีแวะไปดูฟูจิซังจากมุมอื่นๆ แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอ เมฆบังบ้าง ฝนตกบ้าง

ครั้งนี้...ก็ได้แต่ภาวนา สวดมนต์วนไป ว่าจะสมหวังมั้ย แล้วตอนนั่งรถบัสเข้าใกล้พื้นที่ ฟูจิซังก็โผล่มาทักทายเลยค่ะ ก็ได้แต่คิดในใจว่าแต้มบุญอย่าพึ่งหมดนะ ขอไปถึงทะเลสาปก่อนนะน้องนะ

พอไปถึงสถานีปลายทาง ก็ซื้อตั๋วรถเมล์เพื่อเดินทางไปที่พักค่ะ ทริปนี้พักที่ "Lake Villa Kawaguchiko" เป็นรีสอร์ทที่แอบฮิตในหมู่คนไทยค่ะ เป็นบ้านพักที่มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น และห้องครัว วิวฟูจิจากหน้ารีสอร์ท เดินไปทะเลสาปเพียง 5 นาที เจ้าของชื่อฮิโระซัง ใจดี พูดภาษาอังกฤษได้ แนะนำร้านอาหารและที่เที่ยว ครบ!!!

รีสอร์ทเดินจากป้ายรถเมล์ประมาน 5 นาที ไปถึงเชคอินนานหน่อย เพราะฮิโระซังคุยเก่ง แนะนำเก่ง และมีแนะนำเวลาพระอาทิตย์ขึ้นในวันรุ่งขึ้นด้วยค่ะ(เรื่องนี้สำคัญมาก บอกเลยว่าห้ามพลาด!!)

ฮิโระซังบริการดีเริ่ด จริงๆเค้ามีบริการรถรับ-ส่งที่สถานี้ด้วย แต่ตอนนั้นที่ไป จองผ่านagodaเลยติดต่อกันลำบากนิดนึง เลยซื้อตั๋วรถเมล์ ก็สะดวกเหมือนกัน ขึ้นได้ทั้งวัน ไปไหนก็ได้ ที่รถเมล์ไปถึง แต่พอมีวิวฟูจิอยู่หน้ารีสอร์ท ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย

ตอนเช็คอิน ฮิโระซังบอกว่า พรุ่งนี้ พระอาทิตย์จะขึ้นประมานตี 5 ครึ่ง เกือบๆ 6 โมง (เค้าแจ้งเวลาแบบเป๊ะๆเลยนะคะ) พร้อมโชว์รูปให้ดูเป็นน้ำจิ้ม ทีมเราก็ตะลึงพร้อมแพลนว่ายังไงพรุ่งนี้ก็ต้องตื่นมาดูให้ได้

และฮิโระซังก็บอกว่ามีร้านอาหารพื้นเมืองหน้าถนนใหญ่ เดินไปลองได้ เรียกว่า HOTO เป็นเหมือนราเมนร้อนๆ เหมาะกับช่วงอากาศหนาวๆ สบายตัวสุดๆ แล้วกลับมานั่งดื่มเบียร์ ปาร์ตี้เหล้าบ๊วยต่อที่บ้านพักชิวสุดๆ

ปกติไม่ใช่คนตื่นเช้า แต่โดนฮิโระซังป้ายยา ก็ตื่นมาแต่งตัวตั้งแต่ตี 5 มารอเวลาออกไปที่ทะเลสาป เพื่อวิวหลักล้าน ตอนเดินออกไป อากาศ -2 หนาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกก เดินไป สั่นไป ลมโกรกดี๊ดี

แต่พอไปถึงเวลา คือคุ้มค่ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่มีเมฆ ทะเลสาปน้ำนิ่งสะท้อนฟูจิซังออกมาหล่อสุดๆ แต้มบุญทริปนี้คือดีมากกก เสียอย่างเดียวคือไปก่อนซากุระออกดอก ไม่งั้นจะเพอร์เฟคมาก เพราะแค่นี้ก็สวยมาก ถ่ายรูปมายังไง ก็ไม่สามารถเก็บความสวยของวิวตรงหน้าได้หมด 

วิวหลักล้านของจริง แต่ไม่มีโอกาสถ่ายรูปคู่สวยๆ เพราะแค่แงะตัวเองออกจากเตียงได้ ก็ดีแล้วค่า 555555555555 แต่ถ้าหลังโควิด ใครแพลนจะไป แนะนำให้ตื่นมาดูจริงๆนะ ของจริงคือสวยตะลึงสุดๆไปเลยค่ะ รับรองว่าคุ้มที่ตื่นมาเลยค่ะ

ยื่นดื่มด่ำบรรยากาศได้เกือบชั่วโมง ก็ถึงเวลา...กลับไปนอนต่อค่ะ 555555555

และตื่นมาอาบน้ำแต่งหน้า แต่งตัว ออกไปทานข้าว ไปซุปเปอร์ และกลับมาสิงอยู่ในที่พักและทะเลสาป เพราะฟูจิซังอยู่กับเราในทุกๆที่เลยค่ะ ขอย้ำอีกที ว่าทริปนี้แต้มบุญสูงมาก ขอบคุณพระเจ้า!!

ตกเย็น ก็เดินออกไปทะเลสาปอีก เรียกว่าเอะอะเดินไป เพราะแต่ละครั้งที่ไป จะได้คนละฟิล แต่วิวหลักล้านทุกรอบ!!! ไปครั้งนี้พกไปแค่กล้องมือถือ แต่ทุกภาพยังชัดอยู่ในความทรงจำ ตลอด 3 วัน 2 คืน ฟูจิซังอยู่กับเราตลอด ไม่มีหนีไปไหนเลย^^

+3

ใครที่ชอบวิวหลักล้าน บรรยากาศชิลๆ แนะนำให้ไปมากๆค่ะ วิวมันดีต่อใจสุดๆ ส่วนตัวยังอยากกลับไปอีก หมดโควิดเมื่อไหร่ เจอกันแน่นอน^^ จะไปนอนหายใจทิ้ง เอาใจไปให้ฟูจิซังเยียวยา แต่ตอนนี้ขอไปสะสมแต้มบุญต่อก่อนนะคะ ไปครั้งหน้า จะได้เจอฟูจิซังแบบเต็มๆอีก^^

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ