ไต้หวัน....ครั้งเดียวไม่พอ !

15 3
หลังจากที่ได้ไปเที่ยวไต้หวันมาครั้งแรกตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ยังรู้สึกประทับใจมากกกกกกก
จนต้องมาเขียนรีวิวกันเลย พร้อมแล้วมาดูกัน !!!

ทริปนี้เราไปทั้งหมด 5 วัน 4 คืน พักที่เดียวกันหมดเลย
เอาจริงตอนแรกที่บ้านบอกจะไปไต้หวัน เราค่อนข้างงอแงเลยละ
อารมณ์แบบ โห่ ไปต่างประเทศครั้งแรกก็อยากไปญี่ปุ่น อยากไปเกาหลี ไม่อยากไปไต้หวัน ไต้หวันมันมีอะไรให้เที่ยว บลาๆ
เลยเริ่มค้นหารีวิวต่างๆก่อนวันไป นั่งอ่านรีวิวก็รู้สึกเออเอาจริงมันก็น่าไปอยู่นะ ลองดูสักตั้ง

เริ่มจากจองตั๋วเครื่องบิน เราจองของ NokScoot จองล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน ได้ราคาตั๋วไปกลับ 7000 บาทไทย
เริ่มเดินทางวันศุกร์ที่ 26 พฤจิกายน 2560 เครื่องออก 01.30 ถึงไต้หวันประมาณ 04.30 ที่ไทย
แต่ที่ไต้หวันจะเป็นเวลา 05.30 เวลาเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง

วันแรกของทริป 27 พฤศจิกายน 2560
วันนี้อากาศประมาณ 18 องศา + ฝนตก ยิ่งหนาวเข้าไปอีก

วันแรกเราจ้างไกด์มาพาเที่ยว เป็นรถแท็กซี่แบบคันใหญ่
ไกด์พูดไทยไม่ได้ พูดได้จีนกับภาษาอังกฤษ อ้อ คนที่นี่ใช้ภาษาจีนกันนะคะ

รถหน้าตาเป็นแบบนี้ นั่งได้ 7-8 คน


สถานที่แรกของทริปที่ไกด์กำลังพาเราไปคือ ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun moon lake)

แวะทานอาหารเบาๆก่อน ร้านข้างทาง แต่อร่อยและถูกมากก ++++
ชอบแพ็คเกจน้ำเต้าหู้ของเค้ามาก มีทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ที่สำคัญคืออร่อยยยยยยยยยยยยยย +++++ 
นั่งรถไปหลับๆตื่นๆ ในที่สุดก็ถึงแล้วววววว ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินประมาณ 3 ชั่วโมง
พอถึงที่หมายอันดับแรกคือไปซื้อตั๋วขึ้นเรือ รถเมล์และกระเช้าลอยฟ้า


จากท่าเรือนี้จะเดินไปเที่ยววัด Xuanguang ข้ามเรือมาแล้ว จะมีบันไดให้ขึ้นไปข้างบน นี่เป็นวิวที่มองลงมา สวยมาก ^^

นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะมาไหว้พระ แล้วก็ถ่ายรูปคู่กับก้อนหิน แต่เราไม่ได้ถ่ายมาเพราะคนเยอะมาก TT

ลงมาข้างล่างไปท่าเรือ เพื่อที่จะไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้ากันต่อ

ระหว่างรอเรือก็ซื้อไข่ต้มใบชามาลอง กลิ่นเหมือนไข่พะโล้บ้านเรา แต่รสชาติคือไข่ต้มธรรมดา


แล้วก็ข้ามเรือมาถึงสถานที่ที่เราจะไปนั่งกระเช้าแล้ว ตื่นเต้น ๆ ><

ถึงที่หมายกระเช้าขาไป ก็จะมีร้านให้นั่งพัก มีร้านขายของฝากด้วย อันนี้ไอศกรีม อร่อยยยย มันเหนียวๆนุ่มๆ
ทานอย่างรวดเร็ว แล้วนั่งกระเช้าขากลับไปกันเลยยย เวลาเรามีค่อนข้างจำกัด เลยอยู่นานมากไม่ได้

วันนี้ได้ไปแค่ที่เดียว เพราะใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน จากสนามบินไปทะเลสาบ และจากทะเลสาบมายังที่พัก

ถึงที่พักแล้วววววว ที่พักเราอยู่ทั้ง 4 วันเลย เพราะมีผู้ใหญ่มาด้วย จะได้ไม่เหนื่อยย้ายไปเรื่อยๆ
ที่พักของเราชื่อ tomorrow hotel เป็นโรงแรมที่อยู่ใจกลางย่าน ซีเหมินติง (Ximending)
หน้าโรงแรมฝั่งตรงข้ามเป็น mrt สถานี ซีเหมินติง (Ximending) เลยจ้า สะดวกมากๆ
แถมข้างล่างล็อบบี้เป็นเซเว่น ข้างๆเป็นโรงหนัง และ watson ถัดไปอีกก็เป็น ย่านการค้าซีเหมินติง เลย

ออกมาหน้าโรงแรมเป็นแบบนี้ เป็น mrt เลย
ชอบที่ไต้หวันที่มีตู้กาชาปอง และตู้คีบตุ๊กตาแทบทุกจุดของประเทศเลย ไปตรงไหนก็เจอ

พักผ่อน เก็บของกันประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ออกมาเดินหาอะไรกินกันต่อ
ทางเข้า ซีเหมินติง (Ximending) เหมือนมีงานเกมอยู่ คนเยอะมากเพราะเป็นวันเสาร์

ขออนุญาติลงรูปของกินรัวๆ เพราะเราจำพิกัดไม่ได้จริงๆ เดินไปเรื่อยๆ เจอร้านไหนน่ากินก็แวะเลย
นี่แค่วันแรกของทริปนะ คือไต้หวันเนี่ยค่าเงินพอๆกับไทยเลย
แล้วอาหารของกินเค้าเยอะมาก อร่อยมากด้วย อร่อยทุกอย่าง
คือกลับมาไทยน้ำหนักขึ้นกันเลยทีเดียว 55555555
มาต่อวันที่ 2 จ้าาาาาา
วันนี้ตื่นเช้าหน่อยเพราะต้องเดินทางเอง ไม่มีไกด์พาไปแล้ว

ที่โรงแรมจะมีตั๋วอาหารเช้าให้ ถ้าเราไม่กินก็เอาตั๋วไปแลกของในเซเว่นได้ 70 ดอลล่าไต้หวัน
อาหารค่อนข้างหลากหลาย และอร่อยด้วยนะเออ (อร่อยทุกสิ่งจริงๆ 5555)
ลงรูปให้ดูคร่าวๆ เพราะจริงๆมีของเยอะกว่านี้มากเลยจ้า
กินอาหารเช้ารองท้องพอกรุบกริบ ก็ได้เวลาออกเดินทางจ้า เช้านี้เราจะไปตลาดปลากัน
ต้องไปขึ้นรถเมลล์ตรง mrt สถานีไทเป เราอยากประหยัด เลยเดินไป ประมาณโลกว่าๆ
เดินไปก็สนุกดีนะ ชมบรรยากาศของเมืองด้วย อากาศไม่ร้อน เลยเดินสบายๆ

ถึงป้ายรถเมล์แล้ว เราจะใช้บัตร easy card ในการเดินทาง บัตรนี้จะใช้ได้ทั้งร้านค้าต่างๆ เซเว่น ใช้ขึ้น mrt ใช้ขึ้นรถเมลล์ หาซื้อได้ในเซเว่นเลยจ้า มีหลายลายให้เลือกด้วย ค่าบัตร 100 แล้วเราก็เติมเงินตามใจเราเลย หน้าตาบัตรเป็นแบบนี้

ใช้จ่ายค่ารถเมลล์ ที่นี่ค่ารถเมลล์ ค่า mrt ถูกมาก นั่งไปหลายสถานี เสียแค่ 15 บาทเอง

และแล้วก็ถึงตลาดปลาแล้ว !!!

ของกินมากมาย เลือกไม่ถูกเลย
ที่ตลาดปลาเค้าจะจัดโซนเอาไว้ให้เรากิน จะมีโซนยืน กับโซนนั่ง หรือบางคนเลือกทานที่ร้านข้างในก็ได้
รอบนี้เสียหายไปเยอะ เพราะกินแบบเกรี้ยวกราดสุดๆ เจอปลาดิบของโปรดแล้วเสียสติ 55555


เมื่ออิ่มกันเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่รีรอ เดินทางต่อเลยจ้าาาาา นั่งรถเมลล์กลับไปที่เดิม แล้วนั่ง Mrt ต่อไปลงสถานี Longshan temple รถสายสีน้ำเงิน ออกประตู 1 เลย ออกมาจากประตูเราก็เลี้ยวขวา เดินไปอีกนิดก็จะถึงจุดหมายของเราจ้า เดินทางง่ายมักๆ

วัดหลงซาน (Longshan Temple) เค้าว่ากันว่าเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับต้นๆของไต้หวันเลยนะ อุววว

เค้าบอกวัดนี้จะขึ้นชื่อเรื่องขอพรความรัก แต่เราไม่ขอเพราะมีแฟนแล้ว ฮ่าาาาาาาาาาา
ไหว้พระเรีบร้อยก็ไปซื้อเครื่องรางที่เป็นซิกเนอเจอร์ของที่นี่กัน
เครื่องรางมีหลายแบบ หลายราคา เค้าจะมีใบมาให้เราดู ให้จดเลยว่าจะเอาเบอร์ไหน กี่ชิ้นจ้า

ทริปต่อไป ไปต่อแบบไม่หยุดยั้ง สู้มาก 5555 สถานีต่อไปอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค
นั่ง mrt ไปเหมือนเดิม ลงสถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall  ทางออก 5 เดินออกจากสถานีปุ๊บก็ถึงอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คปั๊บ

อะดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆกันเรียบร้อยแล้ว สถานีต่อไปกินอีกแล้วจ้าาาาาาา
ไปต่อที่ ตลาดกลางคืนซันสุ่ย อยู่แถวๆอนุสรณ์เลย เดินทางง่ายอีกเช่นเคย

ตลาดอารมณ์เหมือนตลาดนัดบ้านเรา มีของกินของขายตลอดทางเลย โดนฝนตกปรอยๆวันนี้

ลงรูปของกินรัวๆต่อ มันอร่อยจริงๆน้า TT
มาต่อทริปไต้หวันวันที่ 3 จ้าาาาา
วันนี้เศร้ามาก เจอฝนตกเกือบทั้งวันเลย TT

แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเที่ยว ยังคงเที่ยวต่อไป
วันนี้เราจ้างไกด์ให้พาเที่ยวเหมือนเดิมค่ะ แพลนของวันนี้คือ อุทยานหินแปลก+น้ำตก+หมู่บ้านโรงน้ำชา

ออกเดินทางกันเลยยยยยยยยยยย ฟิ้วววววว .

ที่แรกประเดิมที่อุทยานหินแปลก
ขนาดฝนตก นักท่องเที่ยวยังเยอะเลย


และก็เดินทางไปหมู่บ้านโรงน้ำชาต่อ ระหว่างทางแวะถ่ายรูปกับน้ำตกอะไรสักอย่าง จำไม่ได้แล้ว แงงงงง

และแล้วก็ถึงหมู่บ้านโรงน้ำชาจิ่วเฟิ่นแล้ววว แต่เสียดายมากที่ฝนตกเลยจะลำบากนิดหน่อย ขนาดฝนตกนักท่องเที่ยวก็ยังเยอะอยู่นะ
เราอ่านมาว่าที่จิ่วเฟิ่นนี้ เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโรงอาบน้ำในภาพยนต์อนิเมชันเรื่อง Spirited Away อีกด้วย ว๊าวว
ของฝากก็จะมีโตโตโร่และ ผีในเรื่อง Spirited Away ค่อนข้างเยอะเลย
เดินๆกินๆแปปเดียวก็ถึงเวลาต้องกลับแล้ว เสียดายที่ฝนตก ไม่งั้นคงจะอยู่ถึงค่ำแน่นอน เค้าบอกว่าตอนกลางคืนที่นี่จะสวยมาก เพราะเค้าจะเปิดโคมไฟสีแดงทั่วเลย รอบหน้าจะมาอีกให้ได้ !!

หลังจากที่ถึงที่พัก เก็บของที่ซื้อมา นั่งพักกันสักแปป เราก็ออกไปเดิน ซีเหมินติง (Ximending) แถวที่พักเราต่อ
นี่เดินตรงนี้มาสามวันติดยังเดินไม่ทั่วเลย กว้างมากๆ เดินวนไปจ้า

แอบถ่ายคนขายบะหมี่มาฝาก บะหมี่ร้านนี้ข๊าวววววขาว 555555
หลังจากไปนั่งกินบะหมี่แล้วนั่งพักสักแปป ก็รู้สึกยังไม่อยากนอน เลยลงมาเดินเล่นต่อ
คีบตุ๊กตาได้ด้วย เย้ๆ  แล้วก็ไปลองเล่นตู้เสี่ยงโชค 200 ดอลล่าไต้หวัน
ซึ่งบอกตรงนี้เลยถ้าใครไป อย่าไปเล่นนนน !!! มันไม่คุ้มเลย 5555555
นี่ของฝากที่จะซื้อกลับไป กล่องละ 100 เอง กล่องใหญ่คุ้มสุดๆ

มาต่อทริปวันที่ 4 เป็นทริปวันสุดท้ายของเราแล้ว ไวโครต ยังเที่ยวไม่หนำใจเลย ><
วันนี้เราเดินทางกันเอง ด้วยรถเมล์ และ mrt เหมือนเดิม
เนื่องจากเหนื่อยกันมาสามสันติดแล้ว วันนี้เลยขอออกไปสายๆกันหน่อย

ทริปวันนี้คือ  พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง + ชาบูหม่าล่าในตำนานย่าน ซีเหมินติง + เดินเล่นย่าน ซีเหมินติง (Ximending) ช้อปของฝากกลับไทย

วิธีเดินทางคือนั่ง MRT สายสีแดง แล้วไปลงสถานี Shilin ไปทาง Exit 1 เลยจ้า
ออกมาจาก mrt แล้วก็เดินมาทางขวา เราจะรอรัสเมลล์ตรงห้าง watsons เพื่อนั่งไปกู้กงกันเน้อ
จะมีสาย R30 , 213 , 255 , 304 , 18 ที่ไปได้ เราไปสาย 304 รถเค้าจอดให้หน้าพิพิธภัณฑ์เลย

เดินออกจาก mrt จะเป็นร้านของกินมากมายเลย ใครหิวก็แวะหาอะไรรองท้องได้เลย

พอเข้าไปในพิพิธภัณฑ์แล้ว เราก็ต้องไปฝากกระเป๋าในล็อคเกอร์ ไม่มีค่าฝากจ้า ดีงาม
แล้วก็ซื้อตั๋วเข้าชมกันเลย ที่นี่ถ้าเป็นนักเรียนราคาก็จะลดไปอีก

วันนี้ทัวร์เยอะมากกกกกก ต้องคอยเดินหลบเดินเลี่ยงกันเลย พิพิธภัณฑ์นี้จะเป็นนสถานที่เก็บศิลปวัตถุและผลงานทางศิลปะของจีนโบราณ ติดอันดับ 1 ใน 4 ของโลกเลยทีเดียว มีขอที่ประเมินมูลค่าไม่ได้กว่า 620,000 ชิ้น !! (อู้วววววว)

นำภาพมาฝากนิดหน่อย เพราะเข้าไปเดินๆ วนๆแทบไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย คนเยอะมาก
หลังจากที่ใช้เวลาครึ่งวันไปกับการเดิมชมพิพิธภัณฑ์แล้ว เราก็นั่งรถเมลล์และ mrt กลับที่พักกันเลย

และทริปต่อไปที่อยากนำเสนอมากๆๆๆ ก็ครืออออออ ชาบูหม่าล่า ชื่อร้าน Mala Yuanyang Hotpot (馬辣頂級麻辣鴛鴦火鍋) @ Taipei, Taiwan ร้านนี้จะมี 10 สาขา สาขาที่เราไปจะอยู่ที่  ซีเหมิน (Ximen / 西門) มาสาขานี่เพราะใกล้ที่พัก 55555

ร้านนี้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ทานภายในเวลา 2 ชั่วโมงจ้า
ข้างในของค่อนข้างเยอะและของหวานดีมากกกกกกกกกก

ที่นี่จะมีทั้งทะเล เนื้อหมู เนื้อวัว มีเนื้อปลาฉลาม เนื้อแกะด้วย
แต่เนื้อหมูกับเนื้อวัวเค้าจะให้สั่งแต่แค่โต๊ะละ 4 ถาด พอหมดเค้าจะเก็บถาดแล้วค่อยสั่งได้ใหม่
เราไปกัน 7 คนได้สองโต๊ะ เลยสั่งได้ 8 ถาดเลยทีเดียว



หลังจากอิ่มกันมากแล้วก็ไปเดิน ซีเหมินติง (Ximending) กันต่อ หาซื้อของกิน ของฝากกลับบ้าน

ที่เซอร์ไพร์มากๆเลยก็คือ เจอห้างที่ขายของเล่น โดยเฉพาะกันดั้ม ถูกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!
ชื่อ ตึกว่านเหนียง อยู่ที่  ซีเหมินติง (Ximending) เหมือนกัน ในตึกจะมีแต่กาชาปอง ของเล่น ตู้คีบตุ๊กตาเลย

เยอะมาก ละลานตา ที่สำคัญโครตถูก ถูกกว่าไทยเกือบครึ่งเลย
แต่เสียดายมากที่เรามารู้กันวันสุดท้ายของทริป และห้างใกล้ปิดแล้ว เลยซื้อมาไม่เยอะ เสียดายมากกกกกก
ไม่งั้นได้แบกกันดั้มกลับบ้านกันเป็นกระสอบแน่ๆ 555555

วันที่ 5 เดินทางกลับไทยแล้วจ้า จองของ nokscoot เหมือนเดิม ไฟท์บิน 09.30

อันนี้คือประทับใจและอยากนำเสนอมากๆ
คือที่ไต้หวันเค้าจะมีตู้กดน้ำฟรี แทบทุกที่ของประเทศเลย เราไปตรงไหนก็เจอ
ตู้กดน้ำเค้าจะเป็นแบบมีให้เลือก น้ำร้อน น้ำเย็น น้ำอุณหภูมิปกติ มีแก้วให้ด้วย รัก


บ้านเมืองที่นี่สะอาดมาก เราเดินมาไม่เคยเห็นขยะที่พื้นเลย ชอบอะ ผู้คนมีมารยาทด้วย

เราลองซื้อชาแบบต่างๆในเซเว่นที่ไต้หวันกิน เอออร่อยแฮะ
แต่บางชาเช่นชาบ๊วยไม่โอเคจริงๆ หวานแสบคอ ฮ่าาาาา
มาถึงค่าใช้จ่ายของทริปนี้ (แบบคร่าวๆ)
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ใช้เวลาจองล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน 7000 บาท
- ค่าที่พัก,ค่ารถนำเที่ยว,ค่าไกด์ หารกัน 7 คน คนละ 3000 บาท
- ค่าเดินทาง (รถเมลล์, รถ mrt), ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ, ค่ากินแบบราชา , ค่าช้อป, ค่าของฝาก (ซื้อกลับเยอะมาก) เราแลกไป 10000 เหลือกลับไทย 400 บาท

* รวมทั้งหมด ตกคนละประมาณ 20000 บาททั้งทริป แต่พี่ที่ไปด้วยจะช้อปน้อยกว่าเรา ก็หมดไปประมาณ 15000 เอง
เราชอบขาดสติ เจออะไรสวย เจออะไรน่ากินก็ซื้อหมด แงงงงงงงงง

ขอจบทริปเที่ยวตัวแตกที่ไต้หวันเพียงเท่านี้จ้า ไว้ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวที่อื่นจะมารีวิวอีกเน้อ

ขอบคุณที่อ่านจนจบ ขออภัยถ้ามีคำผิด หรืออ่านไม่รู้เรื่องน้า
รูปอาจจะเบลอบ้าง เอียงบ้าง เราไปทริปนี้ใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวถ่ายเลย ขี้เกียจพกกล้องไป แฮ่ๆ


Zeibab

Zeibab

You can call me "BABY"
Graphic Designer | Traveller | Beauty Reviewer

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน เรียกสั้นๆว่าเบ๊บก็ได้นะฮับ ขอฝากเนื้อ ฝากตัว ฝากใจไว้ที่ Jeban ด้วยนะฮ๊าบบบบบ xoxo

FULL PROFILE