เข้ามาตอกบัตรตามมีตามเกิด พร้อมกับจั่วหัวได้พี่อ้อยพี่ฉ้อดมาก

โทนเนอร์แบบ facial mist คิสเพิ่งจะหมดไปค่ะ หมดตามเวลาที่มันควรจะหมด....พร้อมกับการจากไปของผู้ชายคนนึง

ตลกที่ผู้ชายชอบทำตัวเหมือนว่าโดนทิ้ง ทั้งๆเป็นฝ่ายทิ้งผู้หญิงก่อนด้วยการกระทำ

เอาละ...คิสจะแยก episode การบำบัดผลกระทบด้านจิตใจไปอีกส่วนนึงนะคะ 55

ขออภัยที่เวิ่นเว้อ แต่พอดีชิ้นนี้มีความหลังจริงๆ แฟนเก่าคิสชอบร้าน Lush มากเป็นการส่วนตัวของเค้า เรียกว่าเค้าใช้ของ Lush เยอะทั้งๆปรกติเค้าจะค่อนข้าง selective กับของใช้และทุกๆเรื่อง ต้องดีเลิศ แพงที่สุด แต่ Lush นี่เค้าโอเค

ตัวนี้ Lush เคลมว่าเป็น Toner ซึ่งคิสก็บอกตรงๆว่านิยามของโทนเนอร์มันก็ชวนงุนงงมาก เพราะฝรั่งมองอย่าง ญี่ปุ่นมองอย่าง คนไทยก็จับฉ่ายเลยทีนี่ ไม่รู้ว่าโทนเนอร์นี่อยู่ตำแหน่งไหนกันแน่

ตัวนี้เอาไว้ฉีดเพื่อ calm ผิวที่อักเสบจากสิว และในขณะเดียวกัน คุณก็อาจจะระคายเคืองจากมันได้ด้วยเหมือนกัน งงมั๊ย?? งงใช่มั๊ย ไม่เป็นไร คิสก็งง

เอาว่ามันมีสารสกัดจาก Tea Tree ที่เราต่างรู้ดีว่ามันช่วยบรรเทาการอักเสบของลดเรื่องปัญหาสิวได้(ไม่ได้ยาแก้สิวนะคะ แค่ soothing และฆ่าเชื้อได้ แต่คนที่ผิวแพ้ง่าย หรือบางมากๆก็จะรู้สึกคันยิบๆได้ เป็นเรื่องปรกติ)

ความดีความงามของ Lush อยู่ตรงไหน?? คิสก็ไม่รู้ คนมันชอบเค้าก็ชอบของเค้า คิสไปก็หลงค่ะ อยากได้ทุกอย่างในร้าน โดยเฉพาะมาส์กหน้าสด แต่พอดูวันหมดอายุก็หงายหลังเหมือนกัน

ตัวนี้มีอายุยืนกว่าสินค้าทั่วๆไปด้วยความที่มันเป็นน้ำ ไม่ได้มีสารอะไรที่เชื้อโรคจะเติบโตได้ไว(เดาล้วนๆ) แถมยังมีพาราเบน มีน้ำหอม มีของแถมที่ผิดแปลกจากคอนเซปของแบรนด์มาให้เราชื่นใจกันอีกด้วย

Brand: LUSH
Model: Tea Tree Water Toner Water
Net wt. 250 g.(there is another size available....pocket size if my memory served me well)
Price: 7xx thb
lifetime: 12 months (I personally suggested to use it up within 6 months)
Made in Japan
Where: Lush Store(Siam Center)

ส่วนตัวใหม่ที่มาทดแทน คิสเลือกเป็น Innisfree Jeju Sparkling Mineral Mist

คิสซื้อมา 2 สูตร แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นมานานละ(อีกสูตรสีเขียวเข้มๆ ลืมชื่อมันไปแล้ว) ต้องรีบเอามาใช้ เพราะ facial mist คิสค้างอยู่อีกบานตะไท

เท่าที่ลองฉีดดู ของ Innisfree มีน้ำหอมแน่ๆ กลิ่นดี soothing รู้สึกผ่อนคลาย และละอองกระจายละเอียดกว่าของ LUSH

ถามว่าแล้วคิสใช้พวกสเปรย์ตอนไหนบ้าง?? โอ้ว หลายตอนค่ะ

ตอนแต่งหน้าจะใช้เป็นสเปรย์น้ำแร่อัดแก๊ส เพราะต้องการละอองที่ละเอียด ไม่ทำให้เมคอัพพัง

แต่พวกนี้คือฉีดตามอัธยาศัย และคิสใช้เปลืองมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก LUSH นี่วางไว้ฉีดที่โต๊ะคือฉีดเวลาดูทีวี(คิสดูข่าวเวลาแต่งหน้าไปด้วย) และมีตามจุดต่างๆอีก คือมันก็ฉีดได้เรื่อยๆ ทำให้ผิวสบาย เพราะบ้านเรามันร้อนจริงๆ 

สรุป

คิสเปลี่ยนจาก LUSH เป็น Innisfree

ความประทับใจแรกคือดีมากกกกก 

ชอบ innisfree หอมและรู้สึกดี

คิดว่าเราน่าจะเข้ากันได้ค่ะ ส่วนราคา 2 ตัวนี้พอๆกัน 

แต่ innisfree หาซื้อง่ายกว่า

หวังว่าจะเป็นทางเลือกให้สาวๆได้ facial mist ไปใช้กันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

^_____^