เมคอัพลุคสวยใส ท้าสายฝน

9 1
สวัสดีค่ะสาวๆ ขอต้อนรับทุกคนสู่ฤดูฝนค่ะ  “อย่ากลัวฝนเพราะฝนนั้นเย็นฉ่ำ อย่ามัวทำตามความคิดเดิม ลองคิดดู ลองหาทางสู้กับฝน!” พี่เต๋อ เรวัตได้ร้องไว้ (ว๊าย! เก่ามาก 555) แต่จริงค่ะ อย่ามัวกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่จงเผชิญหน้ากับมันอย่างมั่นใจ เกิดเป็นคนสวยทั้งที ต้องสวยทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ สวยมั่น ไม่กลัวฝน! ชิ!
Makeup look ของการแต่งหน้าในครั้งนี้ เราจะแต่งแบบสาวญี่ปุ่น คือจะเน้นงานผิว มีความฉ่ำวาวเล็กน้อย ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยเมื่อเจอสภาพอากาศช่วงหน้าฝน ซึ่งนอกจากจะฉ่ำไปด้วยน้ำฝนแล้ว อากาศร้อนก่อนฝนตก ทำให้เรามีเหงื่อ ไอน้ำในอากาศทำให้อากาศชื้นเหงื่อระเหยได้น้อยจึงทำให้เรารู้สึกเหนียวตัวและเมคอัพเยิ้ม หรือแต่งหน้าไม่ติด เราจึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับสู้ฝน พร้อมแล้ว! ไปค่ะคนสวย!

ออก Start ดี ก็สวย Non stop

ก่อน! ลงเมคอัพทุกครั้งสิ่งที่ต้องระวังคือสกินแคร์ค่ะ เพราะถ้าเลือกสกินแคร์ผิดชีวิตพัง! สกินแคร์พวกมอยซ์เจอร์ยังสำคัญมาก เพราะช่วยล็อกความชุ่มชื่นตามธรรมชาติให้กับผิว และไม่ทำให้ผิวผลิตความมันส่วนเกินออกมา โดยเฉพาะผิวมัน ส่วนคนผิวแห้งในหน้าฝนเมคอัพจะไม่ติดหน้า บวกกับความชื่นในอากาศจะพาเอาเมคอัพไหลได้ ถ้าผิวชุ่มชื่นดี เราจะแต่งหน้าติดทนมากขึ้นแม้ในสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงก็ตาม และที่ควรระวังคือควรเลือกสกินแคร์ที่ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า ซึมลงสู่ผิวดี เทคนิคคือตอนเราลงสกินแคร์ เมื่อทาลงไปทั่วหน้าและคอแล้วใช้มือประกบที่หน้าเบาๆให้ทั่วหน้าและคอ เพื่อความร้อนจากมือจะผลักเนื้อสกินแคร์เข้าผิวค่ะ


Tips 1 

ถ้ารู้สึกผิวแห้งมากสาวๆ ลองมาร์กหน้าก่อนแต่งหน้าดูสิคะ ช่างมืออาชีพก็ทำกัน เป็นการฟื้นฟูผิวที่เร็วและเข้มข้น แต่ไม่ควรทำบ่อยนะคะ

Tips 2

หลังลงสกินแคร์ให้สาวๆ ใช้มืออุ่นๆ ประกบบนหน้า ทิ้งไว้สัก 2-3 วินาทีแล้วเปลี่ยนตำแหน่ง ทำแบบนี้จนทั่วหน้า เพื่อความร้อนบนมือผลักสกินแคร์ให้ซึมลงสู่ผิวให้มากที่สุดค่ะ

STEP

: ก่อนแต่งหน้าลงไพรเมอร์ก่อนเลยค่ะ ( Illamasqua )

ตักเนื้อไพรเมอร์มาเล็กน้อย เกลี่ยให้ทั่วหน้า แล้งรอให้ไพรเมอร์เซ็ทตัวสักครู่

1.Matte Veil Primer Illamasqua (แมทเวล ไพรเมอร์ อิลลามาสก้า)

เริ่มจากไพรเมอร์ก่อนเลย เราเลือกใช้ของอิลลามาสก้าเพราะเนื้อของเขามีความเป็นสกินแคร์ เติมความชุ่มชื้นแม้ว่าจะให้ลุคแมท ไม่มีสิลิโคนเคลือบหน้าจึงไม่อุดตันรุขุมขน ซึมลงผิวและให้ความแมททันที(เหมาะกับผิวมัน-ผิวผสม) ที่สำคัญคุมมัน กันเหงื่อ กันน้ำ ช่วยให้เมคอัพติดทนนาน ไม่เยิ้ม เป็นมิตรกับสภาพอากาศหน้าฝนมาก เพราะแม้อากาศจะร้อน จะชื้น จะเปียกฝน แต่เมคอัพยังไม่ไหลเยิ้มหรือเลือนลางจางหาย

STEP

: รองพื้นเลือกที่บางเบานะคะ ระวังอย่าให้สีดรอปเมื่อเจอความชื้นนะคะ ( LUNASOL )

ตักรองพื้นขึ้นมาเล็กน้อย จะใช้แปรงหรือนิ้วเกลี่ยก็ได้นะคะ

2.Lunasol Skin Modeling water Cream Foundation (ลูนาโซล สกิน โมเดลลิ่ง วอร์เทอร์ ครีม ฟาวน์เดชั่น)

ต่อมากเราใช้รองพื้นสูตรครีมของลูนาโซล ตัวนี้ให้ลุคผิวแบบสาวญี่ปุ่น รองพื้นแบบครีมของลูนาโซลมีCoverage ที่บางเบา ไม่หนา ไม่หนักหน้า ดูเป็นงานผิว ผิวจะนัวๆ นวลๆ เหมือนอยู่กลางแสงจันท์ มีความฉ่ำแต่ไม่มาก ติดทนนาน กันน้ำ กันเหงื่อ ให้ลุคฉ่ำน้ำทั้งวันแม้ซับหน้าระหว่างวัน ถ้าอากาศหนาวๆ แห้งๆ ไม่ต้องลงแป้งทับเลยก็ได้
สายญี่ปุ่นเขานิยมผิวอิ่มน้ำแต่ไม่วาวเป็นกระจก ผิวดูอิ่มน้ำทำให้ดูผิวสุขภาพดี ไม่แมทเกินไปทำให้ดูแก่ ขาดน้ำ 

STEP

: ปกปิดสิ่งที่ไม่ต้องการด้วยคอนซีลเลอร์ ( NARS )

ค่อยๆแตะคอนซีลเลอร์บริเวณที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ เช่น สิว จุดด่างดำ

3. NARS Radiant Creamy Concealer (นาร์ส เรเดียนท์ ครีมมี่ คอนซีลเลอร์)

เพราะรองพื้นค่อนข้างเบาจึงต้องปกปิดด้วยคอนซีลเลอร์อีกที คอนซีลเลอร์ของนาส์ตัวนี้เป็นเนื้อครีมที่มี Coverage กลางๆ คือไม่หนามากให้การปกปิดดี ดูเป็นผิว เวลาใช้ให้แตะลงที่หลังมือก่อนแล้วค่อยแต้มลงตรงจุดที่ต้องการ เพื่อไม่ให้คอนซีลเลอร์หนาเกินไปจนเป็นดวงๆ บนหน้า แล้วค่อยๆ แตะให้กลืนไปกับผิว อย่าลืมลงใต้ตาด้วย ตอนลงเบามือหน่อยนะจ๊ะ อย่าลงหนาเกินไปเดี๋ยวจะตกร่อง และอย่าลงน้ำหนักมือแรงไปตาจะช้ำเอาเน้อ คอนซีลเลอร์ตัวนี้เมื่อเซ็ทตัวแล้วจะไม่เคลื่อน สีกลมกลืนกับผิว กันเหงื่อ กันน้ำ ให้การปกปิดดีตลอดทั้งวัน

STEP

: ลงครีมบลัชเพื่อให้สีแก้มติดทนนานมากขึ้น ( Illamasqua สี Rude )

ใช้นิ้วแตะครีมบลัชแล้วแตะๆลงบริเวณแก้ม

4.Illamasqua Cream Blusher #Rude (อิลลามาสก้า ครีม บลัชเชอร์ สีรู้ด)

อันนี้เป็นบลัชแบบเนื้อครีม สำคัญมาก!สำหรับลุคนี้ เพราะสาวญี่ปุ่นนิยมมีแก้มชมพูระเรื่อ ดูน่ารักจุบุจิบิ เราเลือกใช้ครีมบลัชเชอร์ของอิลลามาสก้า สีรู้ด โทนสีชมพูอมส้มเพราะเหมาะกับทุกสีผิวและดูเป็นธรรมชาติ ให้ลุคสาวสุขภาพดีมีเลือดฝาด เนื้อครีมของเขานุ่ม เกลี่ยง่ายและให้สีชัดมาก เราใช้ครีมบลัชแตะเบาๆทั้งพวงแก้มแค่พอมีสีระเรื่อ ครีมบลัชจะติดทนนานกว่าแบบฝุ่นทำหน้าที่เหมือนเป็นรองพื้นแบบสี แม้ว่าระหว่างวันเมคอัพแบบฝุ่นจะเลือนหายไปแต่สีของครีมบลัชยังอยู่ ที่สำคัญกันน้ำ กันเหงื่อ ไม่เลือนหายระหว่างวัน และเราจะลงตัวนี้ที่เปลือกตาด้วย ใช้แทนอายเบสไปเลย (เราเปลือกตาไม่มันลงได้) เพื่อเป็นรองพื้นของสีที่จะลงต่อไปติดทนขึ้น

STEP

: แป้งผสมรองพื้นจะติดทนกว่าแป้งฝุ่น และเมื่อเจอน้ำแร่จะยิ่งติดทนมากขึ้น ( BSC )

ใช้แปรงปัดแป้งลงบนหน้าเบาๆให้ทั่วๆหน้า ส่วนที่ต้องการปกปิดพิเศษใช้มุมพัฟแตะแป้งแล้วแตะบริเวณที่ต้องการ

5.BSC C-Cover Light Powder (บีเอสซี ซี คัฟเวอร์ ไลท์ พาวเดอร์)

เราจะเซทผลิตภัณฑ์ประเภทครีมทั้งหมดด้วยแป้งผสมรองพื้นของบีเอสซี เราใช้แปรงหัวใหญ่แตะที่แป้งบาๆ แล้วเคาะเอาส่วนเกินออกก่อน แล้วแตะๆ ให้ทั่วหน้าเพื่อไม่ให้แป้งหนาจนเกินไป เราเลือกแป้งผสมรองพื้นเพราะเกาะหน้าดีกว่าแป้งฝุ่นธรรมดาและเพิ่มการปกปิกอีกขั้น แต่อย่าลงเยอะ ถ้าต้องการปกปิดเป็นพิเศษให้ใช้มุมของพัฟแตะแป้งแล้วกดเฉพาะจุดที่ต้องการปกปิด 

STEP

: ฉีดน้ำแร่กันจ้า ( Mont Fleur )

ฉีดน้ำแร่ให้ทั่วหน้า ไม่ต้องกลัวเปียกนะจ๊ะ

6.Mont Fleur Mineral Water Spray (มองท์เฟลอ มิเนอรัล วอร์เตอร์ สเปรย์)

เราจะเซททุกอย่างด้วยน้ำแร่อีกที และซับเอาส่วนเกินออก เพื่อให้เมคอัพติดทนมากขึ้น น้ำแร่เองก็สำคัญนะคะ หลังฉีดน้ำแร่จะไม่ดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว มีแร่ธาตุช่วยลดอุณภูมิของผิวและดึงความมันส่วนเกินออกจากใบหน้า ใช้ได้ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังแต่งหน้า หรือระหว่างวันใช้ซับหน้าได้ เพื่อให้ความสดชื่นและซับมันส่วนเกินและเหงื่อโดยไม่ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื่น

STEP

: ลงสีตาด้วยบลัชออนโลด ( Illamasqua Powder Blusher สี Hussy )

ใช้แปรงหัวพุ่มปัดให้ทั่วเปลือกตาเลยนะจ๊ะ

7.Illamasqua Powder Blusher #Hussy (อิลลามาสก้า พาวเดอร์ บลัชเชอร์ สีฮัซซี่)

แต่งตาเราจะใช้บลัชแบบฝุ่นของอิลลามาสก้า สีฮัซซี่ โทนสีชมพูอมส้ม สีนี้จะคล้ายกับสี Rude ของบลัชครีมมาก เราชอบมากเพราะใช้ได้กับทุกสีผิว ตอนนี้เทรนตาสีชมพูกำลังมานะยู ลงให้ทั่วเปลือกตา หลังจากที่ลงครีมบลัชไว้ก่อนหน้า เน้นให้เข้มช่วงใต้รอยพับ แล้วเกลี่ยส่วนบนให้ฟุ้ง อย่าลืมลงขอบตาล่างด้วย อย่าเพิ่งตกใจนะคะ ตาอาจจะดูตุ่ยๆ ช้ำๆเหมือนเพิ่งจะร้องไห้หนักมาก

STEP

: ลงสีเมทัลลิคเพื่อความเป็นประกาย บริ้ง บริ้ง ( Gino McCray สี Embia )

แตะเฉพาะบริเวณกลางตานะจ๊ะ

8.Gino McCray Makeup Eye Shadow #19 Embia (จิโน่ แม็คเครย์ เมคอัพ อายชาโดว์ สี เอ็มบีอา)

เราเพิ่มความวิบวับให้ดวงตาดูโดดเด่นด้วยอายชาโดว์แบบกลิทเตอร์ สีของเขาจะเป็นสีทองแดง สีสนิม แตะลงไปที่กลางตาไม่ต้องเกลี่ยให้ทั่วนะคะ เพื่อให้ตามีมิติมากขึ้น เมื่อสีผสมกับสีชมพูอมส้มของบลัชเชอร์ของอิลลามาสก้าที่ลงไปก่อนหน้าจะทำให้เราได้สีพีช ไม่ว่าคุณจะมีผิวขาว ผิวเหลืองหรือผิวสองสีก็สามารถแต่งลุคนี้ได้ค่ะ

Tips 3

เมคอัพลุคสีชมพูส้มหรือสีพีชสามารถแมชได้กับหลายลุค ดูหวานละมุน และเด็กลงด้วยนะจ๊ะ สาวๆ สีผิวแบบไหนก็แต่งได้ทั้งนั้นเลยจ้า

STEP

: เขียนอายไลน์เนอร์กันค่ะ เลือกที่กันน้ำและไม่เลอะระหว่างวันนะคะ ( Bobbi Brown )

ใช้แปรงหัวเล็กๆ เขียนให้ทับโคนขนตามากที่สุดนะคะ

9. Bobbi Brown Long-Wear Gel Eyeliner (บ็อบบี้บราวน์ ลองแวร์ เจล อายไลน์เนอร์)

อายไลน์เนอร์ก็ต้องกันน้ำ กันเหงื่อ กันน้ำมัน ด้วยเหมือนกัน! เราเลือกอายไลน์เนอร์แบบเจลของ บ็อบบี้บราวน์เพราะเขียนง่าย และกันน้ำ กันเหงื่อมาก แม้วันที่เปลือกตามันก็ไม่เป็นแพนด้า ติดทนนาน เราจะเขียนแค่บางๆ และแนบขนตาที่สุดเท่าที่ทำได้ ทับแนวขนตาเพื่อให้ขนตาดูแน่น และชัดขึ้น อาจจะลากหางตาออกมานิดหน่อย ให้รอยพับชัดขึ้นอีกนิด ส่วนตาล่างใช้ส่วนที่ติดอยู่ที่ปลายแปรงแตะบริเวณหางตาเบาๆ แค่ให้หางตาชัดขึ้น ดูกลมโตขึ้นเท่านั้น ถ้าใครอยากให้ดูหวานๆ ไม่คมมาก ไม่ต้องเขียนใต้ตาล่างก็ได้นะคะ

STEP

: ปัดมาสคาร่ากันเถอะเรา เลือกที่ไม่เป็นแพนด้า ไม่หลุดระหว่างวันนะคะ ( Lancome )

ปัดมาสคาร่าทั้งตาบนและตาล่างเลยค่ะ มาสคาร่าต้องกันน้ำนะคะ

10.Lancome Grandiose Waterproof Mascara (ลังโคม แกรนดีโอส วอร์เตอร์พรูฟ มาสคาร่า)

มาสคาร่าสำคัญมากในหน้าฝน สาวๆต้องแน่ใจว่ากันน้ำ กันเหงื่อ ไม่เลอะระหว่างวันนะจ๊ะ มาสคาร่าของลังโคมตัวนี้กันน้ำ กันเหงื่อ กันแม้กระทั่งคลีนซิ่งสูตรน้ำ แนะนำว่าตอนลบให้ใช้อายรีมูฟเวอร์เช็ดก่อนนะคะไม่งั้นขนตาอาจจะหลุดออกมาได้ หน้าฝนนี้ไว้ใจเขาได้เลยค่ะไม่แพนด้าแน่นอน ปัดแล้วขนตา หนา ยาวขึ้น เด้งชูสะบัด รำแพนสวยทั้งวันไม่ง้อขนตาปลอมเลยค่ะ แปรงของเขาก็ออกแบบมาให้ใช้ง่าย ไม่ทำให้เลอะหน้าตอนปัด

STEP

: เพิ่มประกายให้ตานิดนึง ( Maybelline )

แตะกริตเตอร์ไลนเนอร์ที่หัวตานะคะ

11.Maybelline Lovebag Big Eyes Liner (เมเบลลีน เลิฟแบค บิ๊กอายส์ ไลน์เนอร์)

จบการแต่งตากันเถอะ อายไลน์เนอร์สีขาวหรือสีโทนสว่างจะช่วยให้ตาดูหวานขึ้น ตอนใช้ค่อยๆแตะบริเวณหัวตาแล้วใช้นิ้วเกลี่ยให้ทั่วๆ กลิตเตอร์ไลน์เนอร์ของเมเบลลีนมีพิกเมนท์ค่อนข้างใหญ่ กระจายแสงดี ทำให้ตาดูโตขึ้น ดวงตาดูไบร์ขึ้นและตาดูหวานมากๆเลย หรือจะกรีดยาวตลอดเส้นขอบตาล่างก็ได้นะจ๊ะ เหมือนเพิ่มพื้นที่ให้ดวงตาเราดูโตขึ้น ไบรท์ขึ้น และขนตาชัดขึ้นด้วย
เย้ ตามาแล้ว~~~~~ >.<

Tips 4

สาวญี่ปุ่นชอบให้ตาดูบริ้งค์ๆ มีประกาย แก้มชมพูระเรื่อ และปากชุ่มฉ่ำ ดูเป็นสาวสุขภาพดี เพราะเชื่อว่าสาวสุขภาพดีจะมีเสน่ห์มาก

STEP

: งานปัดแก้มต้องมา ( Illamasqua )(ตัวเดิมจ้า)

ปัดแก้มให้สูงขึ้นมานิดนึงนะจ๊ะ ให้สูงจนถึงขอบตาล่างเลยจ้า

12.Illamasqua Powder Blusher #Hussy (อิลลามาสก้า พาวเดอร์ บลัชเชอร์ สีฮัซซี่)

ปัดแก้มกันค่ะ เราเลือกใช้ปัดแก้มเนื้อฝุ่นสีฮัซซี่(ตัวเดียวกับตา)สีของเขาชัดมาก ปัดนิดเดียวก็ชมพูแล้ว เป็นโทนชมพูอมส้มสีเดียวกับตัวครีมบลัชเชอร์ เป็นโทนชมพูอมส้ม เหมาะกับทุกสีผิวและสีผม ปัดแล้วดูสดใสเป็นธรรมชาติ เทรนของสาวญี่ปุ่นเขาจะเน้นสีของแก้มค่อนข้างชัด แลดูเขินอายตลอดเวลา เหมือนแก้มเด็กในหน้าหนาว แต่เทรนปัจจุบันนิยมปัดเป็นวงกลมบริเวณใต้ตา ส่วนตัวเราไม่ถนัดแบบนั้น ขอปัดแบบธรรมดาดีกว่า แต่ปัดให้สูงกว่าปกตินิดนึงตามแบบสาวญี่ปุ่นจ้า ช่วยให้หน้าดูเด็กขึ้นด้วยนะ

Tips 5

ถ้าสาวๆ ทำสีผมสีน้ำตาล เมคอัพสีส้มหรือชมพูอมส้มแบบนี้จะทำให้ใบหน้าของสาวๆ ดูสว่างขึ้น เข้ากับสีผมและไม่ทำให้หน้าดูซีดด้วย

STEP

: ไฮไลท์แอนด์เฉดดิ้งเพื่อความคมชัดทุกมิติ ( Gino McCray )

ใช้แปรงปักเฉดดดิ้งบริเวณกรอบหน้าและจมูก ตามภาพเลยนะจ๊ะ

13.Gino McCray Mariposa Strobing Powder (จิโน่ แม็คเครย์ มาริโพซา สโตรบิงก์ พาวเดอร์)
สร้างมีติกันดีกว่า เราเลือกพาเลท3สีของจิโน่ แม็คเครย์ เพราะสีที่ 1เป็นสีขาวครีม เนื้อฝุ่นชิมเมอร์น้อยมาก เราใช้ตัวนี้เพื่อลบส่วนเกินจากอายชาโดว์และทำให้บริเวณใต้คิ้วให้ดูเด่นขึ้น สูงขึ้นอีกนิด สีที่สองเป็นสีแชมเปญชิมเมอร์มากกว่าสีที่1 เหมาะกับลงเป็นไฮไลท์ สีไม่ขาวโดดจนเกินไป ดูเข้ากับสีผิวและสีบลัช ตอนลงจะใช้แปรงหรือนิ้วก็ได้นะจ๊ะ สุดท้ายคือบรอนเซอร์แบบแมทเฉดดิ้งหน้าให้มีมิติมากขึ้น ลงตามรูปเลย สาวๆต้องลงอย่างเบามือนิดนึงนะจ๊ะ และพยายามเกลี่ยให้ฟุ้งนิดนึงเพื่อไม่แยกส่วนกันชัดเจน จะเป็นธรรมชาติมากกว่า

STEP

: เราจะใช้ลิป 2 ตัวเพื่อให้ปากมีสีชมพูระเรื่อ

ใช้ลิปทินท์ทาบริเวณด้านในของปากและใช้ลิปสติกทาด้านนอกค่ะ

14. Bobbi Brown Nourishing Lip Color สี Rose petals (บ็อบบี้ บราวน์ นูริชชิ่ง ลิป คัลเลอร์ สีโรส พีทัล) และ L’oreal Color richExtraordinaire #111 (ลอลิอัล คัลเลอร์ริช เอ็กส์ตร้าออดิแนริ สี #111)

สุดท้ายแล้ว^_^ เราจะทาสีลิปโทนชมพูเทรนนี้กำลังมา เราจะลงลิป 2 ตัว ตัวแรกที่ลงคือบ็อบบี้ บราวน์ นูริชชิ่งลิปก่อนเพราะเราปากแห้งมากถ้าลงลิปแมทก่อน ปากเราจะแห้งแตก ลอกเป็นแผ่นเลย สาวญี่ปุ่นเน้นริมฝีปากฉ่ำวาวมากกว่าส่วนอื่นนะคะ แต่เราว่าอากาศบ้านเราจะพาให้หน้าดูฉ่ำเกินไป ขอวาวแค่กำลังดี ลิปตัวนี้ของบ็อบบี้บราวน์เป็นเนื้อครีม เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย สีสุภาพ ให้ความชุ่มชื่นพร้อมบำรุงด้วยในตัว ไม่ทำให้ปากแห้ง แล้วเพิ่มความแซ่บแบบสาวไทยด้วยลอลิอัลคัลเลอร์ริช เอ็กส์ตร้าออดิแนริ ตัวนี้เป็นลิปเนื้อแมท เราใช้แทนลิปทินท์เพราะติดทนนานมาก สีแน่น เม็ดสีชัด ให้ลุคแบบกำมะหยี่ แม้ว่าจะทำให้ปากแห้ง แต่รับรองเลยว่าตัวนี้ติดทนนานจริงๆ ถ้าสาวๆ ชอบความแมท สามารถลงตัวนี้เดี่ยวๆ เกลี่ยให้ฟุ้งแบบสาวเกาหลีก็ได้นะคะ 

Finish Look 

จะได้ลุคใสๆ หวานๆ ดูสดใส แบบสาวญี่ปุ่น พร้อมสู้ลมสู้ฝนแล้วจ้า ถึงแม้ว่าระหว่างวันจะมีเหงื่อ อากาศชื้น เหนียวเหนอะหนะ แต่ไม่มีปัญหาเพราะเราลงเมคอัพบางๆ ทำให้ไม่รู้สึกหนักหน้า และเมคอัพที่ใช้ก็กันน้ำทั้งนั้น เรามาพิสูจน์กันดีกว่าว่า เราจะสวยคงทนแม้ตอนเปียกฝนรึเปล่า เราจะใช้น้ำธรรมดาฉีดบนหน้าให้ชุ่มเลย ลองดูสิว่าจะมีอะไรไหลตามน้ำบ้าง

Tips 6

สิ่งที่สาวๆควรมีติดไว้ในกระเป๋ายังชีพเลยคือ ครีมบลัชเชอร์และลิปทินท์ค่ะ 2 อย่างนี้มีประโยชน์มาก ถ้าวันไหนเกิดขี้เกียจแต่งหน้า หรือจะไปออกกำลังกาย ไปว่ายน้ำ ไปทะเล ไม่สะดวกแต่งหน้าแต่ไม่อยากให้หน้าซีด ดูป่วย ใช้ 2 สิ่งนี้แต้มบนหน้าให้พอมีสีสัน เท่านี้ก็ดูดีขึ้นมาแล้วค่ะ อีกอย่างยังกันน้ำ กันเหงื่อได้อีกด้วย หนุ่มๆก็ใช้ได้นะคะ แต้มแค่บางๆ เพื่อให้หน้าไม่ซีด ดูป่วยจนเกินไป ถ่ายรูปอัพลง IG เป็นหนุ่ม Healthy ให้สาวๆกรี๊ดไปตามๆกัน 


beautgreat

beautgreat

FULL PROFILE