อาทิตย์ที่ผ่านมา หลายๆ คนอาจจะได้เห็นข่าวน้องวาฬฝั่งทะเลอ่าวไทยที่มีถุงพลาสติกอยู่ในท้องถึง 8 กิโล รวมกว่า 80 ใบ!

เจ้าหน้าที่พยายามจะช่วยไว้ แต่สุดท้ายน้องวาฬก็ไม่รอด

ถ้ามองลึกลงไป เราก็จะพบว่าต้นเหตุครั้งนี้ก็มาจากเราทุกคนเลยนะ :(  
ถ้าพูดถึงพลาสติก หลายคนอาจจะนึกถึงแค่ หลอด ถุงพลาสติก กล่องโฟม

แต่จริงๆ แล้ว แพ็คเกจเครื่องสำอาง หรือครีมที่พวกเราใช้ไม่หมด ก็ส่งผลกระทบที่น่ากลัวต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำ ไม่แพ้ถุงพลาสติก 8 กิโลในท้องวาฬในข่าวเลยล่ะ

พลาสติกในเครื่องสำอาง

ถ้าแบ่งแยกตามขนาด ในเครื่องสำอางที่เราใช้กันทุกวันนี้ มีพลาสติกอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน คือ

• Macroplasic มาโครพลาสติก - พลาสติกชิ้นใหญ่ๆ ถุงพลาสติก ขวด หลอด ส่วนต่างๆ ของแพ็คเกจ (ที่เข้าไปอยู่ในท้องของน้องเต่า น้องวาฬ ยังไงล่ะ T^T) พวกนี้ใช้เวลานานมากกกกกกว่าจะย่อยสลาย และในปีๆ นึงมีเป็นหลายพันล้านชิ้นจากอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเลย

• Microplastic ไมโครพลาสติก - พลาสติกชิ้นจิ๋วๆ ที่เส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 5 มม. อาจจะมาจากการผลิตโดยตรง เช่น เม็ดบีดส์ สครับ ในสกินแคร์ที่เราใช้ หรือมาจากแพ็คเกจชิ้นใหญ่ที่แตกหักเป็นชิ้นจิ๋วๆ นั่นเอง นี่ล่ะ ตัวร้ายเลย!

เครื่องสำอาง ทำร้ายธรรมชาติมากกว่าที่คิด 

เครื่องสำอางทำร้ายธรรมชาติด้วยเหรอ? แต่ถ้าเราลองมองเครื่องสำอางที่เรากวาดซื้อกันมา แยกเป็น 2 ส่วน แบบนี้

• แพ็คเกจเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นขวด ถุงพลาสติก ชิ้นส่วนพลาสติกต่างๆ กล่อง ฝาปิด ตัวล็อค รวมไปถึงหมึกพิมพ์บนกล่องที่มีสารเคมีปนอยู่ด้วยนะ
• สารเคมีต่างๆ ในเครื่องสำอาง ... พอใช้ไม่หมด เททิ้งไป ก็ไปรวมอยู่ในดิน ในน้ำ ที่ไหลลงไปรวมกันในทะเลยังไงล่ะ 

หลายคนอาจจะเริ่มเก็ทแล้วว่ามันจะทำลายสิ่งแวดล้อมยังไง... แต่นอกจากสองอย่างนี้ ยังมี 'ไมโครพลาสติก' ที่ทำร้ายสัตว์ทะเลและธรรมชาติแบบน่ากลัวสุดๆ ไปเลย

สารอันตรายในเครื่องสำอางมีอะไรบ้าง ? 

ถ้าจะมาไล่ดูกันจริงๆ ก็มีเพียบเลยค่ะ แต่วันนี้ขอให้ดูตัวเด่นๆ ที่ทำร้ายธรรมชาติ สัตว์และพวกเรากันดีกว่า ใครอยากมาสาย สวยรักษ์โลก ก็ลองเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารตามด้านล่างนี้กันได้นะ เพียงลดวันละนิดก็เท่ากับช่วยโลกแล้ว :)

 

พาราเบน (Parabens) : เป็นสารกันเสียชนิดหนึ่ง มีทั้งในอาหาร เครื่องสำอาง ไม่ว่าจะรองพื้น ไพรเมอร์ ลิปสติก ฯลฯพาราเบนช่วยฆ่าเชื้อต่างๆ ไม่ให้ผลิตภัณฑ์เสียเร็ว แต่พอเราทิ้งไป มันไม่สลายตัว แต่ไปรวมกับน้ำ กลายเป็นสารพิษตกค้าง ถ่ายทอดไปสะสมในเนื้อเยื่อสัตว์ ตั้งแต่หมีขั้วโลก นกทะเลต่างๆ ปลาทะเล

• ไตรโคลซาน (Triclosan/TCS) : เป็นสารกันเสียชนิดหนึ่ง พบมากในสบู่ แชมพู น้ำยาซักผ้า ยาสีฟัน ครีมกันแดด ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นกาย 
เป็น 1 ในสารตกค้างที่พบมากที่สุด สะสมอยู่ทั้งในตะกอนและในน้ำ ที่แย่กว่านั้นคือเมื่อไปผ่านกระบวนการบำบัดน้ำเสีย เจอกับคลอรีน กลับทำให้มันกลายเป็นสารพิษที่ร้ายกว่าเดิม ทนทานกว่าเดิม T^T
ผลกระทบต่อสัตว์ : เป็นพิษต่อสาหร่ายทะเล, ทำลายระบบฮอร์โมนของปลา, ทำลายตัวอ่อนของปลาม้าลาย, 
ผลกระทบต่อคน : ต่อมไธรอยด์ทำงานผิดปกติ, ทำลายระบบฮอร์โมน, อนุมูลอิสระเสียสมดุล, ก่อให้เกิดมะเร็งตับ

• UV-filters : พบในพวกกันแดด หรือ ช่วยให้สีและกลิ่นของเครื่องสำอางคงตัว
เมื่อเราอาบน้ำ ว่ายน้ำ ถ้าทาครีมที่มี UV-fliters มันก็จะละลายลงไป
ผลกระทบ :
เป็นผลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่บริโภคน้ำปนเปื้อนสารเข้าไป (รวมถึงคนด้วยนะจ๊ะ)

• ไมโครพลาสติก (Microplastic) - พลาสติกที่เส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 5 มม. อาจเป็นพวก เม็ดบีดส์ สครับ รวมถึงพลาสติกที่แตกเป็นชิ้นเล็กๆ พบมากในสครับ ยาสีฟัน แชมพู สบู่ บับเบิ้ลบาธ
ไมโครพลาสติกดูดซับสารพิษได้ดีมากและใช้เวลานานในการย่อยสลาย ทำให้เป็นแหล่งสะสมสารพิษชั้นดี ส่งผ่านสารพิษไปยังสัตว์ทะเลแทบทุกชนิด ทั้ง ปลา วาฬ โลมา หมีขาว
ผลกระทบ : สัตว์บางตัวกินเข้าไปเพราะนึกว่าเป็นอาหาร สารพิษก็เข้าไปสะสมในเนื้อเยื่อ เซลล์ไขมัน สัตว์อาจตายหรือกลายพันธุ์ ถ้าคนบริโภคน้ำนั้นเข้าไปก็ได้รับสารพิษเช่นกัน

• น้ำหอม/กลิ่นสังเคราะห์ (Synthetic Fragrances) - กลิ่นหอมๆ อยู่ในเครื่องสำอางแทบทุกชิ้น ไม่ว่าจะ รองพื้น ครีมทาผิว สบู่ แชมพู และน้ำหอมเอง (แต่บางแบรนด์ที่เป็นกลิ่นหอมจากธรรมชาตินี่โอเคนะจ๊ะ)
แน่นอนว่ากลิ่นหอมๆ ก็ทำให้เราอยากซื้อ แต่กลิ่นสังเคราะห์พวกนี้ ถึงจะไม่เห็นด้วยตา แต่มันไม่สามารถสลายไปในกระบวนการกำจัดน้ำเสีย
ผลกระทบ : สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีระบบป้องกันสารพิษของตัวเอง แต่กลิ่นสังเคราะห์พวกนี้ ถ้าไม่ทำร้ายสัตว์โดยตรง ก็จะเข้าไปทำลายระบบป้องกันสารพิษของสัตว์
​
​

สรุปว่า เครื่องสำอาง ทำร้ายธรรมชาติยังไง ?

สารเคมีจากเครื่องสำอางที่เราใช้ไม่หมด โดยส่วนมากไม่สามารถย่อยสลายหรือถูกกำจัดโดยระบบทำลายน้ำเสีย ของเสียได้ พอทิ้งไปก็อาจจะไหลรวมไปอยู่ในดิน ในน้ำ สะสมเป็นสารพิษที่เป็นมลภาวะและทำร้ายสัตว์ สะสมในเนื้อเยื่อสัตว์ ทำลายระบบฮอร์โมน มีผลต่อตัวอ่อนและการสืบพันธุ์สัตว์ รวมถึงคนด้วยนะ

ส่วนไมโครพลาสติกยิ่งร้ายใหญ่ นอกจากจะไม่ย่อยสลายง่ายๆ แล้ว ยังซึมซับและสะสมสารพิษได้ดีมาก ส่งต่อสารพิษไปให้สัตว์ทะเล สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทั้งปลา นก วาฬ โลมา หมี ไส้เดือนทะเล แพลงก์ตอน ฯลฯ รวมถึงมนุษย์เราที่บริโภคน้ำเข้าไป มันก็จะไปสะสมสารพิษในร่างกาย อาจทำให้เกิดเซลล์กลายพันธุ์ หรือเป็นสาเหตุของมะเร็งได้เลย

เราจะ สวยรักษ์โลก ลดการทำลายธรรมชาติจากเครื่องสำอางยังไงได้บ้าง ?

• อย่าซื้อตุน! ใช้เท่าที่จำเป็น จะได้ไม่เปลืองทรัพยากรพลาสติกของโลกที่ใช้เวลาเป็นร้อยเป็นพันปีในการย่อยสลาย
• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นขวดแก้ว แทนขวดพลาสติก เพราะสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100%
• ใช้ให้หมดจนหยดสุดท้าย จะได้ไม่เหลือสารเคมีทิ้งไปทำลายธรรมชาติ 
• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารเคมี (Organic) จะได้ไม่มีสารตกค้าง แถมยังอ่อนโยนต่อผิวด้วยนะ
• นำแพ็คเกจไปคืนทางแบรนด์ที่รับ เพื่อรีไซเคิลต่อไป

ใครอยาก สวยรักษ์โลก ให้ครบสูตร ใช้เครื่องสำอางหมดแล้วก็ลองดูว่ามีชิ้นไหนที่เอาแพ็คเกจไปคืนทางแบรนด์ได้บ้าง หลายที่มีโครงการรีไซเคิลแพ็คเกจ เราสามารถเอาแพ็คเกจเปล่าไปแลกของฟรีกลับมาใช้ได้ด้วยนะ คุ้มสุดๆ แถมช่วยรักษาธรรมชาติด้วย

เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวอย่างเครื่องสำอางในชีวิตประจำวัน แค่เราช่วยกันลดพลาสติก สารเคมี รักธรรมชาติวันละนิด สัตว์น่ารักๆ และธรรมชาติสวยๆ จะได้อยู่กับเราไปนานๆ น้า :D  

HAPPY WORLD ENVIRONMENT DAY - 5 June ค่าาา :D