ช่วงหลายปีที่ผ่านมาทีนมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์สกินแคร์หลายแบรนด์

เลยทำมีประสบการณ์ มีความรู้ และเข้าใจเรื่องผิวมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ทีนเคยมีความคิดว่า “ถ้าอยากผิวสวยต้องใช้ครีมบำรุงราคาแพงๆ”
แต่ตอนนี้ทีนไม่คิดแบบนั้น เพราะเข้าใจแล้วว่า
พื้นฐานของผิวสุขภาพดี เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดที่ถูกขั้นตอน

หลายๆคนคิดว่าการล้างหน้าด้วยโฟมอย่างเดียวก็สามารถทำให้ผิวสะอาดแล้ว

ทีนบอกตรงนี้เลยว่า...ไม่จริงครับ ยิ่งคนที่แต่งหน้าทุกวันด้วยแล้ว ยิ่งต้องพิถีพิถันในการล้างหน้ามากเป็นพิเศษ ขนาดทีนเองวันไหนที่ไม่ได้แต่งหน้า ก็ยังต้องใช้ Cleansing ทำความสะอาดร่วมด้วย เพราะเราไม่สามารถรู้เลยว่าในระหว่างวันผิวหน้าเราต้องเผชิญกับมลภาวะ หรือสิ่งสกปรกในอากาศอะไรมาบ้าง 

วันนี้เลยอยากมารีวิว Cleansing oil ตัวหนึ่งที่เพื่อนสนิทแนะนำให้ลอง

(นางทำงานในวงการบันเทิง) ตอนแรกก็ไม่คิดจะใช้ เพราะส่วนตัวไม่ชอบ Oil

แต่ด้วยความเร้าหลือของนาง เราเลยตัดสินใจซื้อมาลองใช้

ซึ่งความรู้สึกเมื่อได้ลองใช้จะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในรีวิวนี้ครับ

"PURE CARE ROYAL OLIVE CLEANSING OIL"

คำเคลมจากทางแบรนด์  

คลีนซิ่ง ออยล์ สำหรับเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง ความมันส่วนเกิน

และสิ่งอุดตันรูขุมขน สูตรออยล์เมื่อสัมผัสกับน้ำแล้วจะกลายเป็นน้ำนม 

ด้วยอนุภาคของสารสกัดจากใบมะกอกบริสุทธิ์ทำความสะอาดล้ำลึก

พร้อมสัมผัสให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น อ่อนโยนแม้ผิวที่บอบบาง

ปราศจากการระคายเคืองผิว 

TEXTURE

• ออยล์เนื้อเบาให้ความรู้สึกสบายผิวขณะใช้

• เปลี่ยนเป็นน้ำนมเมื่อโดนน้ำ 

• กลื่นหอมอ่อนๆ

ส่วนผสม

• น้ำมันมะกอกสายพันธุ์โครเอเซียในโครงการส่วนพระองค์ : เป็นน้ำมันที่มีความคล้ายกับน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ทำให้ไม่เกิดการระคายเคืองผิวหลังการใช้

• สารโอยูโรปีน  และไฮดรอกซีไทโรซอล : เป็นสารสำคัญที่มีอยู่มากในใบมะกอก ทำหน้าที่แอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

• วิตามิน E ,A และ วิตามิน K : มีคุณสมบัติเพิ่มความยืดหยุ่นทำให้ผิวกระชับและเพิ่มความแข็งแรงแก่ชั้นผิวด้วย

7-FREE 

• Colorant free : ปราศจากสี

• Alcohol free : ปราศจากแฮลกอฮอล์

• Paraben free : ปราศจากสารกันเสีย

• Mineral oil free : ปราศจากน้ำมันปิโตรเลียม (oil texture เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดปัญหาสิว รูขุมขนอุดตัน หรือผิวหนังอักเสบ)

• Benzophenone free : สารอันตรายสำหรับคนที่ความรู้สึกไวต่อการระคายเคือง

• GMO free : ปราศจากการดัดแปลงพันธุกรรม

• Petrolatum free : oil เนื้อหนัก ไม่สบายผิว
  
  

วิธีใช้ 

• กด OIL 1-2 ปั๊มลงบนฝ่ามือ

• แต้ม 5 จุด (หน้าฝาก จมูก แก้มสองข้าง ปลายคาง)

• นวดวนเบาๆ จนเครื่องสำอางหลุดออกหมด

• ใช้น้ำพรบเบา เนื้อ OIL จะเปลี่ยนเป็นน้ำนม

• ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

• สามารถใช้ควบคู่กับโฟมล้างหน้า เพื่อความสะอาดหมดจรด

ขั้นตอนการใช้ 

Royal Olive Cleansing Oil

โฟมล้างหน้า -> โทนเนอร์ -> เซรั่ม -> เดย์ครีม/ไนท์ครีม -> กันแดด

ภาพด้านบนแสดงถึงประสิทธิภาพในการทำความสะอาด 

ดูจากรูปทีนคงไม่ต้องอธิบายเยอะใช่ไหมครับ

รูปมันตอบทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่ว่าจะแต่งหน้าจัดเต็มขนาดไหน 

ล้างออกหมดแน่นอน ฮ่าๆๆ

สรุปผลหลังใช้ 

อย่างแรกคือ ล้างทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ไม่ทิ้งความมันบนผิว

และไม่ก่อให้เกิดสิว กลิ่นหอมอ่อนๆ (กลิ่นดีมากกก)

โดยรวมทีนมองว่า Royal Olive Cleansing Oil มีความน่าสนใจตรงที่มีสารสกัดจากใบมะกอกสายพันธุ์โครเอเซียในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดามาเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้มีStoryที่ดี มีความน่าเชื่อถือในเรื่องของคุณภาพ มั่นใจได้ว่าปลอดภัยอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่ายด้วย 7 Free ได้รับรางวัลการันตรีจาก Cleo Beauty Hall Of Fame 2015 และ
สุดยอดคลีนซิ่งออยล์จาก Lisa Beauty Choice Awards 2018

สรุปเป็นข้อๆ จะได้อ่านง่ายดังนี้ครับ

• เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง และความมันบนใบหน้าได้ดี และผสมบำรุงด้วยในตัว

• ล้างสะอาดหมดจด ไม่ทำให้เป็นสิวอุดตัน

• กลิ่นหอมอ่อนๆ ชอบมาก

• เนื้อเบาไม่หนักหน้า 

• 7 Free

• Story ดีๆที่น่าสนใจ ใครที่ชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดยเฉพาะจากโครงการหลวง ลองดูนะครับเค้านำเอาส่วนผสมดีๆ มาใช้กับผิวเราจริงๆ 

• มีรางวัลการันตีถึง 2 รางวัลจากนิตยสารชื่อดังที่เราคุ้นเคย

 

สุดท้าย...สำหรับคำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้มั้ย?

คงให้คำตอบไม่ได้นะครับ เพราะผิวของแต่ละคนไวต่อส่วนผสม

หรือสารเคมีที่ต่างกัน ทีนบอกได้เพียงว่า

“ตัวเองใช้แล้วไม่เกิดอาการระคายเคืองอะไร” และผลลัพธ์ของการ

ใช้ผลิตภัณฑ์ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน รีวิวนี้เป็นเพียง

ความคิดเห็นส่วนตัวของทีนเพียงผู้เดียวเท่านั้นครับ

สวัสดีครับ