คืนสุขภาพดีให้ผม … รีวิว 5 Hair Serum สำหรับคนผมเสีย ผมร่วง ต้องได้ต้องโดน!!
yungyingnaka 14 3Hair Serum ที่รีวิวมีดังนี้ …
วิธีทดสอบประสิทธิภาพ
- บีบผลิตภัณฑ์ลงบนฝ่ามือ ทดสอบเนื้อสัมผัส
- ทดสอบทาลงบนเส้นผมขณะแห้ง ใช้ผมจำนวนช่อเท่าๆ กัน ชโลมปริมาณ 1 หยด ทดสอบการซึมซาบ และความเหนอะหนะ
- ทิ้งไว้ 40 นาที แล้วใช้ฟิล์มซับความมัน แปะไว้บนเส้นผม เพื่อทดสอบความมันตกค้างที่จะเกิดขึ้นระหว่างวัน
คำเคลม: เซรั่มบำรุงเส้นผมแบบลีฟออน ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างเมล็ดคอเรียนเดอร์ พืชที่อุดมไปด้วยโอเมก้า ช่วยฟื้นบำรุงเส้นผม เสริมความแข็งแรง และลดการเปราะขาดง่าย โคโค่นัท ออยล์ และโชยาออยล์ ช่วยบำรุงอย่างล้ำลึกให้ผมนุ่ม ชุ่มชื่น ตรงสลวย เนื้อเซรั่มบางเบา ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ชโลมได้ทั้งศีรษะจนสุดปลายผม ปราศจากซิลิโคน พาราเบนและสีสังเคราะห์
จุดที่ปัง: เนื้อเซรั่มบางเบาสมอย่างที่เคลม ชโลมลงเส้นผมปุ๊ป ซึมปั๊บ ความอ่อนโยนต้องให้ ไม่รู้สึกระคายเคืองหนังศีรษะ ชอบที่ใช้ได้ทั้งศีรษะ ไม่ต้องเว้นโคนผม ทำให้บำรุงได้ทั่วถึงดี
จุดที่แอบพัง: กลิ่นฉุน รุนแรงมากๆ เป็นกลิ่นแนวพฤกษา แต่เราว่ามันฉุนจนแสบจมูก ทาบนผมแล้วระหว่างวันได้กลิ่นแบบนี้ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แพคเกจเป็นหัวบีบแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าใช้งานยากค่ะ
คำเคลม: ออยล์สูตรเข้มข้น อุดมไปด้วยสารสกัดจากน้ำมันของดอกไม้ถึง 6 ชนิด เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคาโมมิเลีย และอื่นๆ ช่วยให้เส้นผมสลวย เงางาม มีน้ำหนัก สุขภาพดี บำรุงผมที่แตกปลายให้กลับมาสุขภาพดี เหมาะสำหรับคนผมเสียมาก ไม่มัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ
จุดที่ปัง: กลิ่นดีงามมาก หอมอ่อนๆ เวลาทาบนผม ระหว่างวันได้กลิ่น ผู้ดี๊ ผู้ดีค่ะ แพคเกจหรูหราเว่อร์วังมากออยล์เข้มข้น ทาแล้วรู้สึกเลยว่าผมนุ่มสุดๆ ถ้าชโลมเน้นปลายผม ตัวนี้แก้ผมแตกปลายได้ดี
จุดที่แอบพัง: ตัวนี้ไม่สามารถชโลมทั่วศีรษะได้ ควรเว้นช่วงโคมผม ด้วยความมันของออยล์ เราใช้แล้วถ้าไม่เว้นโคนผม ผมร่วงจ้า ออยล์ตัวนี้ทาแล้วไม่ค่อยซึม มีความมันทิ้งไว้บนเส้นผมเยอะมาก ระหว่างวันผมมันเหมือนคนไม่สระผมมาสามวันได้ มีความจับตัวเป็นก้อนๆ ไม่สบายศีรษะเท่าไหร่
คำเคลม: แฮร์เซรั่มเข้มข้น เน้นเรื่องความอ่อนโยน เพราะเป็นเวชสำอาง ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น Pro-Vitamin B5 ช่วยบำรุงเกล็ดผมและบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง Ginkgo Biloba Extract ช่วยบำรุงเส้นใยในเส้นผมให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วงของเส้นผม Vitamin E บำรุงผิวชั้นนอกของเส้นผมให้ชุ่มชื้น ปกป้องเส้นผมจากมลภาวะและแสงแดด สามารถชโลมได้ทั่วศีรษะ ไม่ต้องเว้นโคนผม ปลอดภัย เพราะไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะ
จุดที่ปัง: ความอ่อนโยน ตัวนี้คือเดอะเบสท์ ใครเป็นสาวแพ้ง่ายแนะนำเลย กลิ่นหอมละมุนๆ ถูกจริตมากชอบที่ไม่ต้องเว้นโคนผม ชโลมไปโลดทั่วศีรษะ เป็นเซรั่มเข้มข้น แต่ไม่ทำให้ผมมัน และหลุดร่วง ทาปุ๊บ ซึมปั๊บ ไม่ทิ้งความมันให้เหนอะหนะ ถ้าผมเสียเวลาใช้ให้เน้นปลายผมเป็นพิเศษ ผมแตกปลายหนักๆ ตัวนี้เอาอยู่ ใครผมร่วง มีปัญหาหนังศีรษะอ่อนแอ อยากแนะนำให้ลองแชมพูและครีมนวดของสมูทอี และตามด้วยแฮร์เซรั่มตัวนี้ เราใช้แล้วผมร่วงน้อยลง หนังศีรษะสตรองขึ้น ผมสุขภาพดีขึ้นด้วย ส่วนผสมคล้ายๆ กัน น่าจะอยู่ในไลน์โปรดักช์เดียวกันนะ เป็นแฮร์เซรั่มที่ขวดเล็ก เหมาะแก่การพกพา ใช้เเล้วผมหอม นุ่มลื่นทั้งวัน
จุดที่แอบพัง: อยากให้ทำขวดใหญ่กว่านี้มาขายด้วย เพราะปริมาณ 30 ml. สำหรับเราที่ใช้ทุกวัน หมดเร็วมาก
คำเคลม: ออยล์บำรุงเส้นผม สูตรสำหรับผมแห้งเสีย สารสกัดเข้มข้นจากโรซ่า คานิน่า (ดอกกุหลาบป่า) เน้นเรื่องการเติมความชุ่มชื่นให้เส้นผม ฟื้นบำรุงอย่าล้ำลึก สัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ผมตรงสลวย จัดทรงง่าย และมีน้ำหนัก ชโลมผมได้ตั้งแต่กึ่งกลางถึงปลายผม ละเว้นบริเวณโคนผม
จุดที่ปัง: ขวดสวยน่าใช้ มีความหรูหราเบอร์สิบ ออยล์มีความบางเบา ชโลมแล้วซึมซาบสู่เส้นผมเร็วดี ให้ความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นดอกกุหลาบชัดเจน หอมละมุน ติดผมดีมากๆ ใช้แล้วผมนุ่มดีเลย
จุดที่แอบพัง: แอบติที่ไม่สามารถทาทั่วทั้งศีรษะได้ ไม่แน่ใจว่า เพราะแบรนด์กลัวเรื่องความมัน หรือว่าไม่อ่อนโยนเท่าที่ควร แต่เราไม่แพ้ตัวนี้นะ ตัวนี้ไม่รู้ว่าใช้แล้วผมร่วงมั้ย เพราะเราเว้นโคนผม ตามที่เค้าบอก และกลิ่น ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นกุหลาบ ต้องข้ามไปเลย เพราะน้องกุหลาบกลิ่นชัดมากจริงๆ จ้า บังเอิญเราชอบก็รอดไป
คำเคลม: น้ำมันบำรุงเส้นผมสูตรสำหรับผมแห้งเสีย เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ อุดมด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ 8 ชนิด เช่น Macadamia Oil, Argan Oil, Olive Oil และอื่นๆ ช่วยเรื่องฟื้นบำรุงผมแห้งเสียอย่างล้ำลึก อ่อนโยน เพราะปราศจากสารเคมี ไม่มีพาราเบน แอลกอฮอล์ ซิลิโคน และสารเคมีทุกชนิดที่จะเป็นอันตรายต่อเส้นผม ชโลมได้ตั้งแต่กึ่งกลางจนถึงปลายผม เว้นบริเวณโคนเส้นผม
จุดที่ปัง: กลิ่นหอมผู้ดี เนื้อเซรั่มเข้มข้น เหมาะกับคนที่ผมแตกปลายหนักๆ ฟื้นบำรุงผมได้ดี ใช้แล้วผมนุ่ม แพคเกจน่าใช้ ชอบความอ่อนโยน และการร่วมเอาน้ำมันธรรมชาติมาถึง 8 ชนิด ให้ฟิลออร์แกนิคๆ
จุดที่แอบพัง: ตัวนี้ชโลมลงผมแล้วเหมือนไม่ซึมอ่ะ ทิ้งไว้ซักพัก ผมก็ยังจับตัวเป็นก้อนๆ อยู่ (ตามภาพ) เหนอะหนะ ไม่สบายศีรษะ ไม่เหมาะสำหรับใช้ตอนเช้า เพราะผมจะมันระหว่างวันหนักมาก ไม่โอเคจ้า เราใช้ตอนกลางคืน ตื่นมาคือต้องสระผมใหม่ เคยทาแล้วระวังไม่ดี ไปโดนโคนผมบ่อยๆ ผมร่วงค่ะ ร้องไห้หนักมาก
ทิ้งไว้ 40 นาที แล้วใช้ฟิล์มซับความมัน แปะไว้บนเส้นผม เพื่อทดสอบความมันตกค้างที่จะเกิดขึ้นระหว่างวัน … มาดูว่าแบรนด์ไหนทิ้งความมันระหว่างวันไว้น้อยที่สุด
จัดอันดับความมันระหว่างวัน
อันดับ 1 >> Smooth E แทบไม่มีความมันระหว่างวัน ใช้ตัวนี้ไม่ต้องสระผมทุกวัน ผมก็ไม่มันเยิ้ม ไม่เป็นก้อน เริ่ดสุด
อันดับ 2 >> Botanicals และ Schwarzkopf มีน้ำมันออกมาบ้าง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ สาวผมแห้งไม่ต้องสระผมทุกวันก็ได้
อันดับ 3 >> L’oreal Elseve และ Hair System by Watsons มันเยิ้มเหมือนหัวชโลมน้ำมันเลยจ้า ขนาดเราเป็นคนผมแห้ง ยังคิดว่าสองตัวนี้ไม่ค่อยซึมซาบ แถมทิ้งความมันระหว่างวันให้รำคาญใจ แง่ๆ
ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่ค่อนเก็ทว่าแฮร์เซรั่มมันสำคัญกับผมยังไง ผ่ามมมมมม!!! ดูเลยจ้า … รูปซ้ายเป็นก่อนที่จะใช้แฮร์เซรั่ม ผมชี้ฟู แตกปลาย รูปขวา คือใช้แฮร์เซรั่มมาแล้ว เกือบเดือน ผมดูสุขภาพดี เรียบ ตรงสลวย มีน้ำหนักขึ้นจ้า
ก่อนไปขอสรุปว่า แฮร์เซรั่มมันสำคัญมากเลยนะสาวๆ ทำความสะอาดผมด้วยการสระแล้ว บำรุงด้วยครีมนวด และให้อาหารผมด้วยแฮร์เซรั่ม 3 ขั้นตอนง่ายๆ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเสียเวลาเลยนะจ๊ะ เราเจ็บมาก่อน 555 ส่วนแฮร์เซรั่มที่เรา Approved แล้วว่าจะได้ไปต่อในฐานะลูกรักมี 2 ตัว อันดับหนึ่งคือ Smooth E เพราะอ่อนโยน ช่วยลดอาการขาดหลุดร่วง หนังศีรษะแข็งแรงขึ้น ฟื้นบำรุงผมแตกปลายได้ดี ชโลมทั่วศีรษะได้ ไม่ต้องเว้นโคนผม ง่ายต่อการใช้งาน แทบไม่ทำให้ผมมันเยิ้มระหว่างวัน มีความมันจิ๊ดเดียวเท่านั้น และอันดับสอง Schwarzkopf เนื้อออยล์บางเบา ซึมซาบเร้วดี กลิ่นหอมกุหลาบ ละมุนๆ บำรุงผมให้นุ่มดี แต่ข้อเสียคือเวลาใช้ต้องเว้นช่วงโคนผม ยุ่งยากนิดนึง และแอบมีความมันระหว่างวันมากกว่าสมูทอีนิดนึง ผมแห้งมากๆ น่าจะตอบโจทย์ค่ะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ไปแล้ว บายจ้า ><”