[All In #2] รวบตึง Sephora Lip หมดหน้าตักทั้ง 9 รุ่น by หนูคิส

26 4

ฮายยยย ซิสสสส


วันนี้คิสมารีวิว + สวอชกับลิป Sephora อีกรอบนะคะ


คราวที่แล้วรีวิวทั้งหมด 9 รุ่น คือคิดว่าคงหมดแล้ว หรืออาจจะซื้ออีกนิดหน่อย


ไปๆมาๆ ตอนนี้ไหลวนกลับมาเพิ่มอีก 9 รุ่นจนกลายเป็น 18 รุุ่นไปแล้ว บ้าจริง


ซึ่งก็ว่ากันตามตรงว่าซื้อเพราะคิดว่าไหนๆก็เดินทางมาสายนี้(สายสะสมลิป Sephora)ไปแล้ว ซื้อไปให้หมดเท่าที่จะซื้อได้ จะได้ไม่คาใจตายตาหลับ ดีไม่ดีช่างมัน ผลก็เลยรู้สึกหน่อยๆว่า มีหลายตัวที่ผิดหวัง


คิดว่าเหตุผลน่าจะเพราะแรกๆคิสซื้อด้วยการอ่านรีวิวเป็นหลัก ตัวไหนที่ฝรั่งเค้ารีวิวแล้วว่าดีคิสก็จะซื้อ ผลก็ค่อนข้างตรงเลยละ คือเหมือนเอาหัวกะทิมาแล้ว


พออยากได้แบบซื้อสะสม ซื้อเก็บ เลยกลายเป็นของที่ได้มีทั้งแบบเฉยๆ ห่วยแตก ไปจนถึงดีมากกกกกกก จนประทับใจสุดๆก็มี


เรื่องลิปของ Sephora ที่มาที่ไปก็ตามอ่านกันที่โพส  [All In #1] รวบตึง Sephora Lip หมดหน้าตักกับทั้งหมด 9 รุ่นที่มี by หนูคิส ค่ะ


วันนี้มาต่อกันเลยเนอะ ไปฮะ

และสำหรับของที่จะรีวิวในวันนี้ คิสเริ่มจากเนื้อบางสุดก่อนเลยนะ

พร้อมยางงง ม๊า!!



1. Colop Adapt Lip Balm


Shade: Unique Pink

Texture: Gel-like balm

Net Wt. 2.7 g.

Made in Italy

Price: 420 thb


ลิปมันเปลี่ยนสีที่ออกมาเป็นรุ่นแรกได้ไม่นานก็มีรุ่นสองตามมาติดๆ (รุ่นใหม่จะเป็นปลอกสีชมพูกับสีคอรัล ราคา 590- ตอนนี้มีวางขายทั้ง 2 แบบอยู่ แต่พลาสติกรุ่นใหม่จะดูของเล่น) คิสค่อนข้างแคร์แพคเกจด้วยเลยเลือกแบบแข็งแรงมา และก็คิดไม่ผิดเลย เพราะคิสค่อนข้างจะชอบรุ่นนี้เลยค่ะ

รุ่นแรกจะมีแค่สีเดียวเป็นสีชมพู เนื้อกึ่งบาล์มกึ่งเจลทาง่าย เปลี่ยนสีตามอุณหภูมิริมฝีปาก สารภาพตรงๆว่าคิดไว้ก่อนแล้วว่าตัวนี้"ห่วย" รีวิวใน sephora.com ค่อนข้างแย่มาก บล๊อคเกอร์ก็ยังว่าแย่กัน ส่วนเมืองไทยแทบจะหารีวิวอ่านไม่ได้ แต่ก็ยังจะซื้อในราคาที่ค่อนข้างแพง ซื้อเพราะกระเหียนกระหือรือล้วนๆ ไม่มีวัวปน

พอมาใช้ อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คิดเอาไว้นี่หว่า กลิ่นหอมน่ากิน สีสวยเป็นธรรมชาติและติดทนในระดับที่น่าพอใจ เอาว่ามันดีกว่า catrice ที่บางคนบอกว่าเป็น dupe ของ dior แน่นอน เพราะ Catrice เนื้อแย่มากๆ ราคาแพงโดยใช่เหตุ ตัวนี้ของ Sephora ก็ไม่ได้ถูก แต่ทาแล้วเกลี่ยง่าย รู้สึก comfy สบายปาก ทาเลเยอร์ได้เรื่อยๆแบบปากไม่แห้ง และถามว่าไฮเดรทได้ดีมากๆเลยมั๊ย ไม่ค่ะ ไม่ได้ดีแบบการทาลิปบาล์มแน่นอน อยากได้แบบไฮเดรทดีๆ คิสว่าต้องเป็นของ Fresh อันนั้นคือเนื้อดีมาก buttery มากๆ รู้สึกว่า hydrated จริงๆ

ถ้าให้แนะนำสาวๆคนอื่นแบบไม่กลัวซวยย้อนหลังก็จะแนะนำให้ซื้อรุ่นใหม่ค่ะ hype ต่างกันค่อนข้างเยอะ ส่วนตัวคิสเองคงจะไม่ซื้อรุ่นใหม่ค่ะ สะสมให้ฟินเฉยๆ

2. Kiss Me Gloss


Shade: 5 Strawberry Passion

Texture: Watery Tint&gloss

Net Wt.: 8 ml 

Made in Luxemburg

Price: 230 thb


ตัวนี้ซื้อมาแบบขำๆ แต่ดันชอบมากๆ แบบงงเลยด้วยว่าทำไมถึงทำออกมาขายได้ในราคาของเล่นเด็กแบบนี้

ตัวนี้เป็นลิปกรอสรูปไข่ที่น่ารักมากๆ เป็นกรอสเนื้อบาง ไม่เหนียวเหนอะและสีเจลๆที่ทาแล้วได้ลุคฉ่ำๆ ไม่เป็นสก๊อยปากแตก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสีก็ไม่ได้ติดทนอะไร ทาได้เรื่อยๆตลอดทั้งวัน กลิ่นหอมเหมือนขนม คิสแนะนำสำหรับผู้หญิงที่ชอบแต่งหน้าเบาๆอ่อนๆ ไม่ชอบลุคที่ดูดุ ดูแรง ตัวนี้เหมาะมากๆ

และสำหรับใครที่ไม่ชอบลุคแมทๆ ปากแห้งๆ สีแน่นๆ แต่ก็ไม่ชอบความเหนียวของกรอส(ซึ่งก็ต้องบอกว่ารุ่น gloss ของ Sephora มันก็เหนียวเหมือนจารบีมากๆ อันนี้ไม่เป็นนะ) เรื่องการ Hydrate ก็ดีใจระดับพอใช้ กำลังดี เทียบกับราคาคิสพอใจมากๆ ซื้อซ้ำแน่ๆ ถ้าคิสมีปัญญาใช้หมดในชาตินี้

3. Kiss Me Balm


Shade: 8 Peach Melba

Texture: Tinted Balm

Net Wt. 5.8 g.

Made in China

Price: 230 thb


อันนี้เป็นลิปบาล์มที่ทำเป็นรูปไข่ไซส์เดียวกันกับตัวบนเลย แต่เป็นลิปไข่จริงๆแบบลิป eos ที่เป็นลิปเงาะ เนื้อพิคเมนท์แบบ creamy เป็นทินท์อ่อนๆครีมๆ ทาได้เรื่อยๆเหมือนลิปเด็ก เหมาะกับน้องๆมัธยมที่อยากแต่งหน้าไปเรียน ทาลิปมีสี ยังไม่ต้องทาลิปไคลี่กันนะคะ เดี๋ยวเนื้อปากสวยๆจะพังก่อนเวลา ทาพวกลิปบาล์มแบบนี้ไปก่อน

ตัวนี้ทาง่าย สะดวกรวดเร็ว เวลาหลบครู หลบผู้ชายทาจะดีมาก 1-2-3 เสร็จแล้ว ผู้ชายมองเราไม่ทันค่ะ หันมาอีกที ปากมันเหมือนเพิ่งกินข้าวมันไก่ตอนไทยได้ตลอดทั้งวันต้องตัวนี้ละ

กลิ่นหอมขนมๆฟรุตตี้นิดๆ แต่ด้วยความที่เนื้อคงมีอะไรสักอย่างเยอะ คิสว่ามันมีกลิ่น waxy อ่อนๆ แต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้สึก แต่เอาว่าเก็บในที่เย็นได้ก็ดี ในประเทศไทยก็แนะนำให้เก็บในห้องครูใหญ่แล้วค่ะ คงจะเย็นที่สุด -  -"

ข้อเสียมีนะ แพคเกจมันก๊องแก๊งตามราคามาก หมุนเกลียวทีแทบจะแหลกคามือ คิสเลยเอาไว้หัวนอน เหมาะกับเวลาทาตอนไม่มีสติสตัง ไม่ต้องโฟกัสอะไร ใช้สัญชาติญาณนำทาง มืดๆก็ทาได้ ใหญ่ขนาดนี้ก็ต้องโดนลิปสักมุมละ

ส่วนถ้าจะใช้กลางวันอาจจะต้องมีสติเวลาทานิดๆ ไม่งั้นจะพื้นที่จะคุมลำบากค่ะ แต่มันก็บาล์มมีสี ทาแล้วเลอะก็เช็ดออกได้ง่ายมากๆอยู่ดี

4. Rouge Shine (Silver Case)


Shade: #59 My Wedding Dress

Texture: Creamy-Sheer

Net Wt. 3.9 g.

Made in France

Price: 490 thb



ช่างเป็นลิปรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งปริมาณ ราคา ประเทศผลิต เฉดสี กลิ่น

เพราะนี่เป็นรุ่นเดิม รุ่นเดียวกับใน Rouge Shine ปลอกดำที่คิสเคยรีวิวเอาไว้ใน All In#1 ครั้งแรก แต่เนื้อคนละเรื่องกัน ซึ่งก็ดีทั้ง 2 แบบ แต่ไม่เหมือนกัน

อย่างแรกคือกลิ่น รอบแรกคิสซื้อมาได้ของอิตาลี กลิ่นบัดซบที่สุดเหมือนนั่งข้างๆผู้ชายญี่ปุ่นในออฟฟิต มันเหมือนเหมือนกลิ่นบุหรี่หมักมาเป็นสิบปีอัดแท่งแล้วทาปาก เนื้อดีมั๊ย ดีมากกก ไชน์ แต่เนื้อสวย พิคเมนท์ดีมากๆๆๆๆ รักสุดๆ ถึงได้งอกออกมาเป็นแท่งนี้

แล้ว Sephora ก็มีการเปลี่ยนแปลง พัฒนาขึ้น แต่เนื้อพิคเม้นท์จะไม่ชัดเหมือนเดิม ค่อนข้าง Sheer จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็น Tinted Balm แต่ทาออกมาแล้วสวยกำลังดี ถ้าเทียบกับ Adapt lip balm ตัวบนแล้ว คิสแนะนำตัวนี้ตรงที่ hydrated ดีกว่า เนื้อสวยกว่า กลิ่นดีกว่า(กลิ่น Ashy มีอยู่ แต่อ่อนลงไปมากๆ) / Case สีเงินมีลอกและมีรอยง่ายนะคะ คิสยังไม่ได้เชคว่าเคสสีดำรุ่นใหม่ reformula ไปแล้วรึยัง ถ้าเจอปลอกดำ เทสกลิ่น เทสเนื้อแล้วชอบ คิสแนะนำสีดำค่ะ สีเงินมอมแมมง่ายมาก

ส่วนเรื่องความติดทน เหมือนกันทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ไม่ทนค่ะ Rouge Shine ก็ตามนั้น แต่คิสไม่ติดขัดอะไรค่ะ เนื้อแบบนี้มันก็แบบนี้ละ ทาได้เรื่อยๆ อย่ายิ่งทายิ่งแห้งก็พอ อันนั้นทาแล้วปากนุ่มๆ ฉ่ำๆได้ทั้งวัน ยอม

และสำหรับสีที่คิสเลือกมาสีนี้คิสชอบมากกกกกกกกกกกกกกก เป็นสีชมพูอมคอรัลนิ๊ดดดเดียวที่ทาแล้วได้ลุคสดใสเป็นร่างทรงม้ายูนิคอร์นเลยค่ะ

(อันนี้คิสเอารุ่น Rouge Shine ตัวเก่ามาสวอชเทียบเนื้อให้ดูนะคะ เป็นตัวบนค่ะ)

5. Outrageous Rouge Extreme Liquid Lipstick 


Shade: #1 Rose Seduction

Texture: Liquid

Net Wt. 5 ml

Made in Italy

Price: 5xx thb (I got at 3xx)


ขอ 3 คำให้ลิปรุ่นนี้คือ "ชั้น-ผิด-เอง"


โกรธตัวเองมากที่ซื้อมา เอาไปซื้อไก่ดิบโยนให้ผู้ด้อยโอกาสในสวนลุมยังสบายใจกว่า เลวร้ายมากกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่เคยเจอลิปที่ไหนแย่เท่านี้มาก่อนจริงๆ

คิสซื้อเพราะเห็นมันเหลืออยู่ 3 อันที่สุดใน Shop และคิสมั่นใจว่าจะไม่เห็นมันอีกแน่ๆ คิสไม่เจอรุ่นนี้มาราวๆ 1-2 ปี อยู่ดีๆมันมาโผล่ให้เห็น คิสก็ซื้อเลยจ้า

หวังว่ามันคงเป็น 3 ชิ้นที่เหลือในจักรวาลนี้แล้วนะ เพราะคิสไม่อยากให้ใครเจอเรื่องแบบนี้เลย พิคเมนท์ดี สีสวยมาก MLBB ตรงตามตำรา แต่....





กลิ่นผะอืดผะอมที่สุด

มันไม่ใช่แค่กลิ่นเคมี ไม่ใช่กลิ่นฟรุตตี้ราคาถูก ไม่ใช่กลิ่นกัมมี่ที่น่าเวียนหัว ไม่ใช่กลิ่นซิตรัสที่คิสเกลียด ไม่ใช่กลิ่นบุหรี่เพื่อนผู้ชายชาวญี่ปุ่นคนนั้น

มันเป็นกลิ่นที่เหมือนรวมทุกความเลวร้ายบนโลกนี้มาไว้ในที่ๆเดียวกัน

นี่คิสก็ดมไปรีวิวไปนะคะ อยากให้มารับรู้โดยพร้อมเพรียงกัน เซโรงังมากค่ะตอนนี้

นึกถึงกลิ่นท่อกทม.เวลาที่ฝนตก หันไปข้างๆกลิ่นอะไรหว่า อ่อ รถขยะมาแล้วนี่เอง....เอ๊ะ เสียงอะไรดังจริงๆ รถดูดคลี่มาจากไหน....อุ๊ย ควันอะไร หันไป รถเข็นปลาหมึกปิ้ง!!

พอจะนึกออกปะคะ ปั้นๆทั้งหมดรวมๆกัน วางทิ้งเอาไว้ก่อน พักไว้ หมักรอก่อนนะ

แล้วนำมันมาผสมกับกลิ่นดินน้ำมันค่ะ

เป็นไงคะ ขมคอกันเลยใช่ปะคะ



คิสบอกเลยว่านี่มันคืออาวุธทางเคมีที่ฝ่ายรักษาความมั่นคงของเกาหลีเหนือยังไม่รู้ค่ะ ทรงพลานุภาพที่สุดในรูปแบบเหลว พกพาสะดวก ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณพร้อมจะทำร้ายใครได้ด้วยของหน้าตาแบบนี้ ป้ายใส่จมูกใครรับรองไม่เกิน 10 นาทีค่ะ ออกฤทธิ์คล้ายๆยาสลบ

ส่วนเรื่องผลว่าทาแล้วเป็นไง สีสวย ติดทน ระหว่างวันเฟลคเป็นขุ่ย แล้วทาซ้ำได้ไม่ได้ ตอบไม่ได้เลย คิสไม่รู้ ทารอบเดียวและจะไม่มีวันทำร้ายตัวเองอีกค่ะ ขอตายด้วยเหตุผลที่ดีกว่านี้จริงๆ

ปล. ปรกติ Sephora จะมี Sample ไม่ว่าจะจัดรายการลดราคาหรือไม่ ตัวนี้หาไม่ได้ เท่ากับว่าประเทศไทยยังมีคนครอบครองอีกอย่างน้อย 2 คนแน่ๆ รบกวนมาคอนเฟริมกับคิสทีค่ะว่าคิสไม่ได้คิดไปเอง หรือคุณอยากจะอธิบายกลิ่นนี้เพิ่มเติมด้วยอะไร ลองส่ง SMS มาให้คิสค่ะ คิสมีรางวัลเป็นลิปรุ่นนี้ให้คุณเพิ่มอีก 1 แท่ง ถถถถถถถถ

6. Flash Jumbo Lip Pencil 


Shade: ##01 Swift Nude

Texture: Cream

Net Wt. 2.6 g.

Made in Switzerland

Price: 3xx thb


ตัวนี้เรียกว่ามากู้หน้าตัวบนอย่างแท้จริง เพราะดีเริศมากๆ และเป็นตัวที่คิสเกือบมองข้ามมากที่สุดด้วย(เรียกว่าตัวบนคิสตั้งใจซื้อ แต่ตัวนี้ไม่คาดหวังอะไรทั้งสิ้น)

สีสวยมาก ดีมาก รักมาก คุณสมบัติเพียบพร้อม เป็นสีแมทที่ทาง่าย ไม่ต้องลงบาล์มก่อน สีชมพูแบบ MLBB คล้ายๆกับ kinda sexy มาก

ตัวนี้คิสเลือกเป็นลิปที่คิสเป็น 1 ใน Hall of Fame เอาไว้ด้วย

[Hall of Fame] ที่สุดของแจ้กับลิปที่โปรดจนขาดไม่ได้ 5+1 items by หนูคิส

สำหรับรีวิวย้อนหลังอ่านได้ที่

[MEGA Review 2/2] คัด Top35 ระดับมิชลินจาก for National Lipstick Day by หนูคิส

7. Contour&Color(Liner&Lipstick Duo)


Shade: #02 Pink

Texture: Solid

Net Wt. 0.8+0.3 g.

Made in Italy

Price: 540 thb


บอกเลยว่าความเห็นที่อ่าน กับที่คิสเจอคนละเรื่องกันเลยค่ะสำหรับตัวนี้

อ่านแล้วค่อนข้าง positive คิสก็สั่ง

ผล?? คิสว่าเนื้อมัน uneven มากๆ ทาแล้วต้องลบทิ้ง ทาเล่นอยู่บ้าน คิสขอทาลิปบาล์ม burts bee ยังสวยกว่าเยอะค่ะ  พอไปใช้ฝั่งไลเนอร์ สีก็ไม่ได้ทำให้สามารถขึ้นไลเนอร์ได้ สีอ่อนมากๆ อ่อนจนเกินไป

แล้วทำไมเลือกสีนี้มา?? เพราะคิสว่ามันเป็นสีชมพูค่ะ สาบานเลย เพราะคิสสั่งด้วยคำว่า "pink" แล้วไลเนอร์สีชมพูคิสยังไม่มี

พอได้ของสีเป็นสีพีชส้มซีดๆ งงมากๆว่าที่ผ่านมาคิสตาบอดสี หรือว่า pink ของจริงมันต้องเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ เรื่องทาแล้วซีดไม่ว่า คิสผิดเองเรื่องเลือกสี  แต่เนื้อสีพิคเม้นท์แย่เกินกว่าจะเป็นไลเนอร์ ปาดแล้วก็สีและเนื้อไม่สม่ำเสมอกันจนไม่สามารถทาได้ แต่รีวิวคนอื่นกลับค่อนข้างดี คิสคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเรื่องการเลือกสีด้วย ไลเนอร์กับสีอ่อนเป็นอะไรที่อันตรายมากๆค่ะ

ใครอยากซื้อลิปไลเนอร์คิสคิดว่าต้องทดลองเนื้อ solid ไปมั๊ยยังไง ทาแล้วดึงเนื้อปากเรารึป่าว ทาแล้วลอกมั๊ย ขุ่ยมั๊ย(ทากับมือก็รู้แล้วค่ะ เนื้อห่วยมันดูออก) สีเข้มๆไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ สีอ่อนจะชัดมาก

ตัวนี้คิสผิดหวังมากเป็นพิเศษ เพราะของตลาดนัด ของถูกๆยังทำได้ดีกว่านี้(คิสมีใช้ของ Daiso 60 บาท ดีกว่านี้อีกค่ะ)

8. Lipstories


Shade: #25 First Class

Texture: Creamy Matte

Net Wt. 4 g.

Made in Italy

Price: 390 thb


ช่างเป็นแบรนด์ที่ทำลิปสติกออกมาได้ชวนเป็นโรคไบโพล่ามาก

ดีชั่วสลับกันไปอย่างแท้จริง!!

ตัวนี้คิสขอยกให้เป็น Dupe ของ Mac เลยก็ได้ ด้วยเนื้อที่ดีเลิศเกินเบอร์ เกินราคาไปมากๆ ดีแซงซ้ายอีกแล้วคั๊บท่าน

มีเนื้อให้เลือกจุใจ ราคาสุดแสนจะเป็นมิตร พลาดเรื่องเดียวคือแพคเกจที่รักษ์โลกซะเหลือเกิน คิสชอบแบบทำลายโลก แต่ให้อยู่ด้วยกันไปนานๆค่ะ ให้มันเป็นขยะรกโลกนี้ละ เป็นกระดาษแบบนี้ อากาศเมืองไทย?? เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก พกแบบนี้มีเห็ดได้กินเช้าเย็นแน่นอนค่ะ

คิสไม่อยากให้ของใช้เสื่อมเร็วก่อนเวลา แต่ด้วยความราคามันดีต่อใจก็รับได้ค่ะ แนะนำทุกคนให้ไปถอยด้วยประการทั้งปวง รุ่นนี้ของเค้าดีจริงๆ เนื้อเนียน ติดทน(พอประมาณ) ไม่เป็นขุ่ย กลิ่นดี พิคเมนท์แน่น กราบบบบบ

9. Nano Lip Liner


Shade: 03 Classic Red

Texture: Solid

Net Wt. 0.025 oz.

Made in Czech Republic

Price: 2xx thb


ลิปไลเนอร์แท่งจิ๋วที่คิสว่าดีสมราคาทุกประการ เป็นไลเนอร์สีแดงบลูเบสที่สาวๆทุกคนควรมีไว้ติดตัว เวลาทาลิปแดงแบบกริบๆเขียนไลเนอร์ก่อนจะช่วยคนที่ลิปส์ไม่ค่อยได้รูปดูสวยได้ จะใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้อะนะ

อันนี้ขนาดเล็กจิ๋ว แต่พิคเมนท์ชัดเจน ไม่ต้องวอร์มก่อนใช้ ปาดแล้วเนื้อนุ่มเขียนง่าย ไม่ไหล ไม่เป็นขุ่ย เหลาง่าย ติดทน ไม่มีกลิ่นอะไรมา irritate ขั้วหัวใจ

สรุปคือดีค่ะ ถ้ายังมีขายต่อก็ซื้อ ของแพงคิสก็ใช้ค่ะ แต่ใช้แบบงกๆ ตัวนี้ปาดได้แบบไม่ยั้งมือ ของถูกกว่านี้คิสก็ใช้ ของdaisoก็ใช้ได้ แต่มันจะต้องเขียนไปนิดๆก่อนถึงจะสีสวย(เหมือนต้องวอร์มเนื้อ) แล้วก็เนื้อจะแข็งพอสมควร ตัวนี้เขียนง่ายกว่าเยอะ

คิสใช้ตัว barrel ดินสอเขียนแบบมาต่อจะได้ใช้ได้นานๆจับสะดวกๆด้วย เผื่อใครใช้ลิป ดินสอเขียนคิ้วอะไรใกล้หมด ก็ต่อกันใช้ให้คุดกุดให้หมดจดจนหยดสุดท้ายค่ะ

หมดแล้วสำหรับลิป sephora หมดทั้ง 18 รุ่นที่คิสใช้


ยังมีลิปอีกหลายรุ่นค่ะที่คิสยังอยากได้ไม่จบไม่สิ้น ลิป outrageous lip gloss effect, stain gloss รุ่นใหม่, stain metal, ultra shine gel ตัวใหม่ แต่คงไม่ใช่ตอนนี้แน่ๆ อาจจะอีกสักครึ่งปีแล้วค่อยเจอกันอีกรอบค่ะ


หวังว่าสาวๆจะถูกใจกันนะคะ ใครมีรุ่นไหนแล้วชอบไม่ชอบยังไงบอกคิสบ้างน้า บั๊ยค่า


^____^


King of Eugenie

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :)

Line ID: kingofeugenie
FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE