แป้งพัฟ VS แป้งฝุ่น ศรีจันทร์ ต่างกันยังไง??? ใช้ตัวไหนดีนะ!! รีวิว 🌙Srichand Translucent Compact Powder และ 🌙Srichand Translucent Powder | chubbydiaryth
chubby diary th 26 9
ฮัลโหลวววว สวัสดีจ้า สาว ๆ จีบันทุกคนนน บุ๋มมาอีกแล้วเน้อ เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันมั๊ยคะว่า แป้งโปร่งแสงแบบฝุ่น กับแบบอัดแข็ง(แป้งพัฟ) ของศรีจันทร์ต่างกันยังไง แล้วเราควรเลือกซื้อแบบไหนดี วันนี้บุ๋มเลยจะมารีวิวและเปรียบเทียบแป้งโปร่งแสง 2 ตัวนี้ทั้งแบบฝุ่นและแบบอัดแข็งให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันจ้า ก็คือ ศรีจันทร์ ทรานส์ลูเซนท์ พาวเดอร์ และ ศรีจันทร์ ทรานส์ลูเซนท์ คอมแพค พาวเดอร์ นั่นเองจ้า เดี๋ยวบุ๋มจะรีวิวแต่ละตัวแบบคร่าว ๆ ให้ดูก่อนเนอะ
?Srichand Translucent Compact Powder
(9 กรัม) ฿350
เริ่มจากแป้งโปร่งแสงแบบอัดแข็งกันก่อน ตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาจากแป้งฝุ่นรุ่นยอดนิยมของศรีจันทร์ เนื้อของเค้ามีความเนียนละเอียด เมื่อดูจากตลับจะเป็นสีออกขาวเหลือง แต่พอเกลี่ยที่ผิวจะโปร่งแสง ไม่มีสี ไม่เปลี่ยนสีของผิวเดิม หรือสีของรองพื้น บางเบาดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบนด้วย พัฟไม่หนาเกินไป มีความนุ่ม ใช้แล้วไม่เจ็บผิว มีหลายขนาดให้เลือก สะดวกในการพกพา ตัวนี้บุ๋มเพิ่งได้ลองใช้จ้า
?Srichand Translucent Powder (10 กรัม) ฿280
มาถึงแป้งฝุ่นโปร่งแสงคุมมันรุ่นยอดนิยมของศรีจันทร์กันบ้าง สาว ๆ หลายคนน่าจะเคยใช้กันแล้ว เนื้อของเค้าละเอียดบางเบา สีแป้งเป็นสีขาวเหลือง แต่พอทาไปแล้วไม่เปลี่ยนสีผิว สีรองพื้น ให้ผิวที่เป็นธรรมชาติสุด ๆ ตัวนี้จะมีฝาล็อคด้วยทำให้แป้งไม่หกเลอะเทอะเวลาพกพา ไม่มีพาราเบนและน้ำหอมเช่นกันจ้า ตัวนี้บุ๋มเคยใช้มาก่อนหน้านี้แล้ววว
หลังจากที่เราทำความรู้จักแป้งทั้ง 2 ตัวแบบคร่าว ๆ กันไปแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าทั้ง 2 ตัวต่างกันยังไงตรงไหนบ้าง??
เริ่มจากเนื้อแป้งกันก่อนเลย เนื้อแป้งของทั้งคู่มีความนุ่มเนียนละเอียด บุ๋มลองปาดลงไปที่แขนจะเห็นได้ว่า แป้งฝุ่นจะสีจะมีความขาวมากกว่าแบบอัดแข็ง แต่แบบอัดแข็งจะมีความวิ๊งเล็ก ๆ คล้าย ๆ ในไฮไลท์แต่ไม่ได้ชัดขนาดนั้น แต่ทั้ง 2 ตัวหลังจากเกลี่ยไปแล้ว ก็ไม่ได้หลงเหลือสีของแป้งให้เห็นแต่อย่างใดค่ะ
เมื่อทาลงไปที่ผิวก็จะเห็นได้ว่า ด้านที่เป็นแป้งอัดแข็งจะดูแมทมากกว่า ปกปิดได้มากกว่า และสว่างกระจ่างใสมากกว่า แลดูยึดเกาะผิวได้ดีมากกว่าด้านที่เป็นแป้งฝุ่น ทั้งคู่เป็นแป้งที่ไม่ผสมรองพื้น จึงไม่เน้นเรื่องการปกปิด ก็จะยังเห็นร่องรอยต่าง ๆ บนหน้าเหมือนเดิม เพื่อน ๆ น้อง ๆ คนไหนอยากให้ผิวดูเป๊ะหน่อย ก็ลงรองพื้น บีบี ซีซี คุชชั่นมาก่อนก็ได้จ้า แล้วค่อยทาแป้งฝุ่นตามไป เค้าก็จะช่วยเช็ตให้เครื่องสำอางของเราติดทนมากยิ่งขึ้นค่ะ ส่วนเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้แต่งหน้า แต่อยากให้ผิวแมทขึ้น หน้ามันหน้าเมือกน้อยลง หลังจากทาสกินแคร์แล้ว ก็สามารถใช้ทั้ง 2 ตัวนี้ทาลงไปได้เลยค่ะ ทาแป้งทั้ง 2 ตัวแล้ว หลังแต่งหน้าผิวจะเป็นยังไง ไปดูกันเลยย
ผิวหน้าของบุ๋มทาบีบีมาก่อน แล้วทาแป้งอัดแข็งครึ่งหน้า แป้งฝุ่นครึ่งหน้า หลังแต่งหน้าออกมาก็จะได้ผิวประมาณนี้จ้า จากนั้นบุ๋มก็ออกไปทำธุระนอกบ้านค่ะ ผ่านไปหลายชั่วโมงเลย (จำไมได้ว่า 8 หรือ 10 ชั่วโมง) สภาพผิวหน้าก็เป็นอย่างที่เห็นเลยจ้า ท๊าดา
ผิวหน้ามีความฉ่ำวาวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะฝั่งที่เป็นแป้งฝุ่น จะแลดูฉ่ำวาวมากกว่าแป้งอัดแข็ง บุ๋มได้ลองซับมันที่หน้าดู (เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ) ผลปรากฏว่า ทั้ง 2 ตัว คุมมันได้ดีพอ ๆ กันเลยค่ะ มีความมันติดกระดาษมาเท่า ๆ กันเลย แต่ถ้ามองด้วยตาเปล่า เหมือนแป้งฝุ่นจะดูมันมากกว่า แป้งอัดแข็งจะแลดูมันน้อยกว่า ให้ผิวที่ดูแมทกว่า ใบหน้าโดยรวมทั้ง 2 ด้านไม่มีอาการคราบใด ๆ เกิดขึ้น เดี๋ยวเรามาลองเติมแป้งกันนะคะ จะได้รู้ว่าถ้าเราใช้แป้งทั้ง 2 ตัวนี้เติมหน้าระหว่างวันแล้วจะรอดรึเปล่า??
หลังจากเติมแป้งไปแล้ว ผลปรากฏว่าทั้ง 2 ตัวสามารถใช้เติมระหว่างวันได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการคราบใด ๆ ค่ะ ส่วนตัวบุ๋มถ้าจะให้เลือกว่าชอบตัวไหนมากกว่ากัน คงเป็นตัวแป้งอัดแข็ง**ค่ะ เพราะเค้าใช้ง่าย พกง่ายกว่า มีกระจกให้ เนื้อแป้งยึดเกาะผิวได้ดีกว่า ช่วยกระจายแสง ให้ผิวดูกระจ่างใสได้ดีกว่า แต่แป้งฝุ่นก็ใช้ดีไม่แพ้กัน ให้ปริมาณเยอะกว่าแป้งอัดแข็ง ในราคาที่ถูกกว่าด้วย เพื่อน ๆ ชอบแบบไหนลองเลือกกันดูจ้า ทั้ง 2 ตัว หาซื้อได้ง่าย เหมาะแก่การพกพา ราคาไม่แรงด้วย เป็นสิ่งที่บุ๋มต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง ติดกระเป๋าไว้ตลอด ๆ เลย แล้วเพื่อน ๆ ละคะ ชอบแบบไหนกันบ้าง??
นอกจาก 2 ขนาดในรูปแล้ว แป้งอัดแข็งเค้ายังมีแบบรีฟิลของตลับมาตรฐาน ส่วนแป้งฝุ่นก็จะมีขนาดใหญ่ ให้ใช้กันได้ยาว ๆ แบบจุใจกันอีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ สงสัยตรงไหน แวะไปดูรีวิวแบบเต็ม ๆ ได้ที่ VDO ด้านล่างนี้เลยนะคะ วันนี้บุ๋มต้องไปแล้ว เจอกันบทความหน้าจ้า สวัสดีค่ะ