รีวิวคอลซีลเลอร์รักษาสิว Clearnose สูตรใหม่ แตกต่างจากสูตรเดิมแค่ไหนต้องดู!
after.afternoon 14 3สวัสดีค่าเพื่อนๆชาวจีบันทุกคน
วันนี้นุ่นจะมารีวิวไอเท็มดีงามที่สาวๆหลายคนควรต้องมีติดบ้านกันให้อุ่นใจนั่นก็คือ คอลซีลเลอร์รักษาสิวสูตรใหม่จาก Clearnose นั่นเอง!
ต้องบอกก่อนว่านุ่นเคยรีวิวตัวเก่าแบบละเอียดไปแล้วในปีที่แล้ว ซึ่งก็เป็นคอนซีลเลอร์รักษาสิวที่เนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้น ทำให้ปกปิดพวกรอยสิวและรอยดำรอยแดงต่างๆได้ค่อนข้างดีกว่าตัวอื่นๆที่นุ่นเคยใช้มา แถมช่วยให้สิวยุบสิวแห้งได้จริง แต่ระยะเวลาการยุบก็จะขึ้นอยู่กับขนาดและการอักเสบของสิวด้วย ส่วนใหญ่ก็จะประมาณสองสามวัน
แต่ทางแบรนด์เค้าเพิ่งออกสูตรใหม่มา เป็นสูตรที่อัพเกรดให้ดีขึ้นจากตัวเก่า ซึ่งเค้าเคลมว่าสูตรใหม่นี้มีการปรับให้ช่วยในเรื่องของการเบลอรูขุมขนและควบคุมความมันส่วนเกินได้อีกด้วย! บอกเลยว่าตอบโจทย์ประเทศบ้านเราสุดๆ
ซึ่งหลังจากได้ลองมาเกือบเดือนนุ่นก็ไม่พลาดที่จะทำรีวิวเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสูตรให้เพื่อนๆได้ดูกัน
อย่างแรกมาดูแพคเกตกันก่อน สูตรใหม่เค้าจะมีคำว่า UPGRADED FORMULA ด้านบนของกล่องและตัวผลิตภัณฑ์ ดูความแตกต่างได้ไม่ยากค่ะ
ซึ่งสูตรใหม่นี้ก็ยังคงมีแค่ 2 สีเช่นเดิมคือ 101 และ 102 แต่ทั้งสองสีนั้นออกโทนเหลืองเลยค่อนข้างที่จะเข้ากับผิวของสาวไทยอยู่ค่ะ
ตัวใหม่นี้ทางแบรนด์ส่งมาให้ทดลองและแน่นอนว่าผิวแบบนุ่นใช้ 101 ไม่รอดแน่ๆ 555 แต่ก็ไม่ลืมนำสวอชทั้งสองสีมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ
บางแบรนด์ปรับสูตรผลิตภัณฑ์เดิมแล้วบางทีสีก็เพี้ยนไปจากเดิมที่เคยใช้ แต่ตัวนี้นุ่นลองเอาทั้งสองสูตรของสี 102 มาเทียบกันดู ก็พบว่าสีเหมือนเดิมเด๊ะ แต่มุมแสงของรูปอาจจะเพี้ยนไปนิดนึง
ยังไงใครเคยใช้สีเดิมตัวเก่าแบบไหนสูตรใหม่ก็สีนั้นเลยค่า
มาเริ่มลงกันเลยดีกว่า
วิธีลงที่นุ่นว่าเหมาะกับตัวนี้ที่สุดก็ยังคงเป็นการบีบใส่หลังมือและวนเนื้อผลิตภัณฑ์ก่อน
เพราะอย่างที่บอกว่าตัวนี้เค้ามีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เข้มข้นมาก การบีบลงไปตรงๆบนผิวเลยจะทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้หนาและเกลี่ยให้เนียนยากและใช้เวลาเกลี่ยนานกว่าค่ะ
เพื่อเทียบประสิทธิภาพของทั้งสองสูตร นุ่นจะทาสูตรเก่าและใหม่อย่างล่ะครึ่งหน้า เฉพาะบริเวณทีโซนที่มักจะมีความมัน และตรงรอยสิวค่ะ
เมื่อดูเปรียบเทียบทั้งสองข้างแล้ว ระดับการปกปิดจะใกล้เคียงกันทั้งสองสูตรเมื่อสังเกตที่ใต้ตา
ส่วนเรื่องของเบลอรูขุมขนนุ่นว่าไม่ได้ต่างกันจนว้าวขนาดนั้น เพราะสูตรเก่าก็คือมีความเรียบเนียนดีในระดับนึงอยู่แล้ว สูตรใหม่เลยรู้สึกว่าเบลอได้มากกว่าไม่เท่าไหร่
ทีนี้เรามาดูการปกปิดรอยสิวกันบ้าง บอกแล้วว่าเนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้นจริง ปิดได้ดีมากก
แต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยก็ขอถ่ายรูปคู่สินค้าแบบฉบับวิถีเน็ตไอดอลซะหน่อย 555
วันนี้ก็จะแต่งง่ายๆแบบ Everyday Look เรื่องผิวนุ่นลงแค่คอนซีลเลอร์และตามด้วยแป้งพัฟนะคะ เพราะฉะนั้นระดับการคุมมันการหลุดลอกต่างๆอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ล่ะสภาพผิว การลงผิว รวมถึงสภาวะต่างๆที่เพื่อนๆไปเจอมาด้วย
เอาเป็นว่ามาติดตามกันที่ผลลัพธ์ดีกว่าว่าระดับการคุมมันของสูตรใหม่เทียบกับสูตรเก่าแล้วจะเด็ดดวงสมกับที่ต้องไปหาไปตำกันหรือเปล่าค่า
3 ชั่วโมงผ่านไป...
ช่วง 3 ชั่วโมงนี้นุ่นไปทำธุระที่ห้างแปปนึงก็จะเจออากาศที่ร้อนบ้างแอร์บ้างแต่ไม่ถึงขั้นเหงื่อออกมากมายค่า
สูตรเก่า หน้าดูมีความฉ่ำวาวสุขภาพดี
สูตรใหม่ ยังแมทอยู่อย่างชัดเจน ถือว่าเริ่ด
8 ชั่วโมงผ่านไป...
(มืดๆหน่อยเพราะถ่ายไฟในห้องตอนกลางคืน)
ช่วงนี้คืออยู่บ้านทำขนมหน้าเตา มีร้อนบ้างเย็นบ้างเหงื่อไม่ออกค่า ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็จะมาประมาณนี้
สูตรเก่า มีน้ำมันช่วงหน้าแก้มและจมูกอย่างเห็นได้ชัด ช่วงจมูกมีหลุดไปบ้าง
สูตรใหม่ ช่วงจมูกหลุดไปบ้างเหมือนกัน แต่ความมันคือโอเคเลย ไม่เยิ้มและไม่มากเท่าสูตรเก่า
ซึ่งต้องบอกว่าถ้าดูหน้าโดยรวมจริงๆฝั่งสูตรเก่านี้คือไม่ได้แย่เลยนะคะสำหรับ 8 ชั่วโมง เพราะปกติ 6 ชั่วโมงทีโซนนุ่นก็เยิ้มจนทอดไข่ได้แล้ว แต่สูตรใหม่นางแตกต่างและคุมมันอย่างเห็นได้ชัด ประทับใจมากกกก
มาดูเปรียบเทียบกันชัดๆว่าคุมมันมากกว่าจริงไม่ได้โม้เลยค่า
บอกเลยว่าพอได้มาใช้สูตรใหม่แล้วคือเก็บสูตรเก่าเข้ากรุไปเลยค่า เพราะมันตอบโจทย์คนผิวผสมค่อยมันมากตรงทีโซนอย่างนุ่นได้ดีมากๆ ตอนนี้คือเอามาให้เป็นเบสแทนรองพื้นไปแล้ว พร้อมตบทับด้วยแป้งพัฟก็คือเอาอยู่ทั้งวันสบายๆและวันพิเศษๆเลย เริ่ดมาก
สำหรับเพื่อนๆที่มีผิวผสมค่อนมันหรือผิวมันแล้วเป็นสิวหรือผดขึ้นบ่อยๆ นุ่นแนะนำเลยค่ะ มันดีย์จริงๆ (อวยหนักมากเพราะใช้เองชอบเองเว่อร์ 555)
แต่สำหรับเพื่อนๆที่มีผิวแห้งเป็นสิวใช้สูตรใหม่อาจจะแห้งไป ลองสูตรเดิมน่าจะดีกว่าค่า(แต่นุ่นก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เค้าขายแค่สูตรใหม่หรือขายทั้งสองสูตรนะคะ ยังไงลองไปดูตามวัตสัน อีฟน่าจะชัวร์กว่าค่า)
ยังไงขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่อ่านกันจนจบนะคะ คราวหน้านุ่นจะมีอะไรมาอัพเดตหรือรีวิวให้ดูกันอีกต้องคอยติดตามน้า