⚡️ ลิปที่เป็นกระแสที่สุดในขณะนี้ ⚡️ DIOR Lip Glow To The Max

ในที่สุดก็ได้มาแล้วน้าค้าาา ตามคำเรียกร้องจากแฟนเพจว่า อยากให้รีวิวให้หน่อย และเทียบว่าแตกต่างจากรุ่น Original ยังไง รุ่น To The Max ก็ตาม Concept เค้าเลยค่ะ คือ “Color & Glow” จะเห็นว่าจะให้สีชัดขึ้น และยังมีความโกลวสวยกำลังดีทำให้ริมฝีปากดูฉ่ำสุขภาพดี เหมือนลิปสีที่ไม่ต้องพึ่งกระจกเวลาทา แต่เนื้อมันจะไม่ได้ intense แบบลิปสีทั่วไปนะ คือ มันจะเหมือน Lip Glow Original ทุกอย่างแต่สีชัดขึ้น และมีวิ้ง Shimmer Pearlescent pigments หลากหลายสีที่ละเอียดมากกกก ทำให้เกิดเป็นประกายมุกค่ะ และดูริมฝีปากฉ่ำ มีลูกเล่นมากขึ้นค่ะ

ตัว swirl ที่เป็นการเบลนของ 2 สี ไม่ใช่แค่ส่วนบนของหน้าลิปนะคะ แต่เป็นทั้งแท่งเลย ซึ่งจะแยกตัวสีส่วนนึงเหมือนตัว Original ส่วน Swirl อีกเส้นจะเป็นส่วนของ Pearl pigment ค่ะ

อันนี้เนตแต่งหน้าด้วย Dior หมดเลยค่ะ และทา LipGlow to the max สี Rosewood จะเห็นว่าเป็นสีสุภาพแนวชมพูกุหลาบตุ่นๆ แต่มีความเงาของมุกทำให้ริมฝีปากดูอิ่มค่ะ

ชอบความ Swirl ของลิปตลอดทั้งแท่งค่า ดูสดใส น่ารัก ^^

Swatch ชัดๆ อันนี้แบบโดนแสงแดดนะคะ จะมีความเงาแบบนี้ อันนี้เนตทำเทียบกับ Original ให้แล้ว

แท่ง และ packaging ก็คงเป็นเหมือน Lip Glow ปกติค่า

เจอหน้าเนตกันอีกครั้งกับสีโปรดที่สุดของรุ่นนี้ค้า เชียร์มากกกกก เพราะเหมาะกับบุคลิกเนตด้วย 212 Rosewood จ้า

#แตกต่างจากรุ่นOriginalตรงไหน? ตามความเห็นเนตคือ สีชัดมากขึ้น มีประกายมุก แต่ความเหมือนคือ ยังคง Concept ที่ทาแล้วยังคงเปลี่ยนสีไปตามอุณหภูมิริมฝีปากเราค่ะ และบำรุงดีเหมือนเดิม

#สรุปจะซื้อแบบไหนดี เนตมองว่า แล้วแต่เพื่อนๆ เลยค่ะ เพราะบำรุงดีเหมือนกัน ขึ้นกับ finish look ว่าอยากได้แบบไหน สายใสๆ ไม่ชอบดูเยอะ ก็จัด Original 001 Pink หรือ 004 Coral แต่หากสายอยากมีอะไรขึ้นมาหน่อย แต่อยากดู warm tone แนะนำ 011 Rose Gold ค่ะ ส่วนสายที่อยากสดใส เน้นสี แต่ไม่วาว ให้ไป 102 Matte Raspberry (สีนี้ทาแล้วผิวขาวขึ้นด้วย) ใครชอบแนว Cool tone ให้ไป Holo Pink/ Holo Purple ประกายมุก #สุดท้าย ใครชอบสีชัดเจน แต่อยากได้ความเงาประกายมุก ก็ไป To the MAX เลยจ้า ^^