ไขปริศนากลไกผิว ทำไมโดนแดดเเล้วสีผิวถึงคล้ำขึ้น? เเล้วไวเทนนิ่งช่วยปรับสีผิวได้อย่างไร?

7 1
สวัสดีค่ะ เราชื่อนียานะคะ นียาเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องกับกับเครื่องสำอางเเละสกินเเคร์มานานค่ะ
พอดีช่วงก่อนหน้านี้นียาเห็นว่าแดดบ้านเรานี่มันร้อนนนนนน ร้อนเกินเบอร์มากค่ะ น้องๆ ที่รู้จักกันหลายคนเจอเเดดเเล้วผิวก็คล้ำขึ้น ก็มาปรึกษานียาเรื่องสีผิวเละไวเทนนิ่ง นียาเลยรวบรวมข้อมูลความรู้จากหลายๆ แหล่ง มาสรุปอธิบายให้น้องๆ ฟังกันเเบบง่ายๆ เเล้วเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์กับสาวๆ จีบันเลยขออนุญาตเอามาเเชร์กันค่ะ

หากข้อมูลตกหล่นหรือผิดพลาดตรงไหน นียาต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยค่ะ
ยังไงเพื่อนๆ สามารถท้วงติงเเละเเลกเปลี่ยนความรู้กันได้นะคะ 

มาเริ่มกันเลยนะคะ
.
.
.
.
สีผิวของเราอยู่ตรงไหน อะไรยังไง
อย่างที่เราทราบนะคะ ผิวของเราเเบ่งออกเป็น 3 ชั้น ไล่จากบนสุดลงไปก็คือ ชั้นหนังกำพร้า -> ชั้นหนังเเท้ -> ชั้นไขมัน  ซึ่งจุดที่สร้างสีผิวของเราจะอยู่ที่ชั้นล่างสุดของชั้นหนังกำพร้าค่ะ
ที่ชั้นล่างสุดของชั้นหนังกำพร้านี้เอง นอกจากจะมีเซลล์สร้างเม็ดสีผิวที่เราเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า   “ เมลาโนไซต์ ” (Melanocyte) แล้ว ยังเป็นบริเวณที่ผลิตเซลล์ผิวใหม่ด้วยค่ะ เซลล์ผิวที่เพิ่งกำเนิดใหม่เหล่านี้หลังจากได้รับการปล่อยเม็ดสีจากเซลล์สร้างเม็ดสีผิว “ เมลาโนไซต์ ” แล้ว  จากนั้นเซลล์ผิวเหล่านี้ก็จะถูกดันตัวขึ้นไปเรื่อยๆจากเซลล์ผิวที่ถูกผลิตขึ้นมาใหม่ในชั้นล่างสุดสู่ด้านบนสุดของผิว แล้วจากนั้นจะค่อยๆ ผลัดตัวเองออกไปเมื่อครบ 28 วันค่ะ แต่เมื่ออายุมากขึ้น หรือ มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม  กระบวนการนี้ก็จะเสื่อมช้าลง ทำให้ผิวด้านบนสุดของเราหมองคล้ำ ด่างดำ หยาบกร้าน มีริ้วรอย หรือพูดง่ายๆ คือ ดูเหี่ยวดำแก่กรอบนั่นเอง ( ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมาะสมก็ เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ เผชิญความเครียด ดื่มน้ำน้อย รับประทานอาหารไม่มีประโยชน์ เผชิญมลภาวะ ขี้เกียจล้างหน้า ขี้เกียจอาบน้ำ เป็นต้นค่ะ)

เซลล์สร้างเม็ดสีผิว “ เมลาโนไซต์ ” หน้าตาจะคล้ายๆ ปลาหมึก มีเเขนยืดยาว ทำหน้าที่ผลิตเม็ดสีที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อ “เมลานิน” ( Melanin ) เเล้วลำเลียงออกไปตามแขนยืดยาวนี้ จากนั้นก็ปล่อยเม็ดสีปล่อยเข้าสู่เซลล์ผิวของเราค่ะ โดยเซลล์สร้างเม็ดสีผิว “ เมลาโนไซต์ ” 1 เซลล์จะทำหน้าที่ปล่อยเม็ดสีสู่เซลล์ผิวของเราประมาณ 35 เซลล์ค่ะ
.
.
.
.
เเล้วอะไรที่เป็นตัวกำหนดว่าเราจะต้องมีผิวสีอะไรล่ะคะ?

เชื้อชาติและกรรมพันธ์ของเราค่ะ โดยเม็ดสีผิว หรือ “เมลานิน” นั้นไม่ว่าจะมีเชื้อชาติอะไรจะมีอยู่ 2 ชนิด นะคะ  คือ เม็ดสีเข้มกับเม็ดสีอ่อน เม็ดสีเข็ม ชื่อว่า “ยูเมลานิน (Eumelanin)” เเละ เม็ดสีอ่อน ชื่อว่า “ฟีโอเมลานิน (Pheomelanin)”  โดยคนผิวเข้มก็จะมีเม็ดสีเข้มมากกว่าเม็ดสีอ่อน ซึ่งนั้นทำให้คนผิวเข้มจะสามารถทนแดดได้ดีกว่าคนผิวสีอ่อน

ถ้าสังเกตดีๆ นะคะ จะเห็นว่าคนยุโรปที่มีสีผิวขาวมากๆ เนี่ย เวลาออกเเดดผิวจะไหม้แสบแดงง่ายกว่าคนเอเชียหรือคนแอฟริกันที่มีผิวออกเหลืองหรือออกน้ำตาลเข้ม นอกจากนี้คนที่มีผิวขาวมากๆยังมีริ้วรอยง่ายกว่าสีผิวอื่นๆ อีกด้วย อย่าลืมว่าแสงแดดหรือรังสียูวีนั้นนอกจากทำให้ผิวคล้ำ เป็นมะเร็งผิวหนัง ยังทำลายเส้นใยโครงสร้างผิวในชั้นหนังแท้ ทำให้มีริ้วรอยดูแก่ก่อนวัยอีกด้วย….แง๊

.
.
.
.
ทำไมสีผิวของเราจึงเข้มขึ้นเข้มขึ้นเข้มขึ้น………...? 

อันที่จริงนอกจากแสงแดดหรือรังสียูวีที่สามารถกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีผิว “เมลาโนไซต์ ” ปล่อย เม็ดสีผิว “ เมลานิน ” เข้าสู่เซลล์ผิวของเรามากยิ่งขึ้นเรื่อยๆแล้ว  ก็ยังมีปัจจัยอื่น เช่น ฮอร์โมน มลภาวะ ความเครียด อนุมูลอิสระ การอักเสบ การเสียดสี ที่สามารถกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีผิว “เมลาโนไซต์ ” ปล่อย เม็ดสีผิว “ เมลานิน ” เข้าสู่เซลล์ผิวของเรามากขึ้นได้ด้วย เช่น เมื่อโดนแมลงสัตว์กัดต่อย บางทียังไม่ทันจะได้เกา รีบทายาก็แล้ว ป๊าดยังอุตสาห์เป็นรอยดำอยู่ดี บริเวณของร่างกายที่มีการเสียดสีบ่อยๆ ผิวบริเวณนั้นอาจมีสีคล้ำกว่าผิวบริเวณอื่นได้  นอกจากนี้บางคนอาจมีปัญหาผิวคล้ำในบางจุด หรือเป็นฝ้ากระจุดด่างดำในช่วงตั้งครรภ์หรือหลังรับประทานยาบางชนิดที่เกี่ยวกับฮอร์โมนได้

.
.
.
.
ไวเทนนิ่งมีกลไกการทำงานอย่างไรจึงทำให้ผิวของเรากระจ่างใสขึ้นได้?

การทำงานของไวเทนนิ่งอธิบายได้ง่ายๆคือ   “ของเก่าก็เอาออกไป ของใหม่ก็ไม่ให้เกิด”

ของเก่าก็เอาออกไป = ผิวด้านบนสุดที่ดูเหี่ยวดำแก่กรอบนั้นควรถูกผลัดออกไป โดยเวลาที่เหมาะสมคือทุกๆ 28 วัน

ของใหม่ก็ไม่ให้เกิด = ควบคุมการผลิตเม็ดสี ไม่ให้มีการปล่อยออกไปสู่เซลล์ผิวในปริมาณมากเกินจำเป็น โดยควบคุมการผลิตเอนไซม์ “ไทโรซิเนส” (Tyrosinase) เอนไซม์ซึ่งทำหน้าที่ในการผลิตเม็ดสี "เมลานิน"  นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีส่วนผสมหลายชนิดที่สามารถเข้าควบคุมการลำเลียงเม็ดสี และ การส่งถ่ายเม็ดสีเข้าสู่เซลล์ผิวได้อีกด้วย

สรุปแล้วการใช้ไวเทนนิ่งเพื่อปรับสีผิวให้สว่างขึ้น กระจ่างใสขึ้น มันก็ช่วยได้จริงค่ะ เเต่จะใช้เวลามากน้อยเเค่ไหน หรือได้ผลลัพท์เเตกต่างชัดเจนขนาดไหน ก็ต้องเเล้วเเต่สภาพผิวดั้งเดิมของเเต่ละคนด้วย

เเละที่สำคัญนะคะ เมื่อใช้ไวเทนนิ่งเเล้วอย่าลืม! ว่าต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันเเดดควบคู่กันไปด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดก็ถือว่าศูนย์เปล่าเลยนะคะ TT
.
.
.
.
จบไปเเล้วค่ะสำหรับความรู้เกี่ยวกับสีผิวเเละไวเทนนิ่งฉบับรวบรัดของนียา ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ เพิ่งเคยเขียนอะไรเเบบนี้ลงกระทู้เป็นครั้งเเรกเลยค่ะ ถ้าชอบหรืออยากให้นียามาเเชร์เรื่องอะไรอีกก็คอมเมนท์บอกกันได้นะคะ

ถ้าใครชอบดูเป็นคลิปก็สามารถดูได้ข้างล่างเลยนะคะ
ติดตามนียาได้ทุกช่องทางเพียงเสิร์ชว่า "มณียามาแชร์" หรือ "AllBeautyTV" ค่ะ ^^


ManeeyaAllbeauty

ManeeyaAllbeauty

FULL PROFILE