[เปิดกล่องลองเลย] แกะกล่องสุดคิวท์ Areeya Super Cat ลิควิดอายแชโดว์ & ทินต์เจล

22 4

สวัสดีค่าาา ยินดีต้อนรับกลับสู่กระทู้ของซินเด้แสนซนคนเบลอ เย้ เย้ เย้ วันนี้ซินมาพร้อมกลับกล่องที่น่ารักที่สุดในสามโลก Areeye Super Cat แบรนด์ไทยชื่อดังนั่นเอง ต้องขอบอกก่อนว่ากล่องนี้ได้มานานมากแล้ว แต่เพิ่งมีเวลามาแกะเล่นแกะลองให้เพื่อนๆชมกัน ไม่พูดเยอะ เข้าสู่เนื้อหากันเหล้ย



AREEYA SUPER CAT

พิกัด อีฟแอนด์บอย, บิวเทรียม, ร้านมัลตี้, ร้าน Hej และแฟนเพจของแบรนด์ เสิร์ชชื่อแบรนด์ Areeya

ราคา  อายแชโดว์ แท่งละ 420 บาท โปรปจบ. 170 บาท
         ทินต์เจล แท่งละ 350 บาท โปรปจบ. 149 บาท

ทางเราก็ไม่แน่ใจว่าตัวบ็อกซ์เซ็ตลิมิเต็ทยังมีวางจำหน่ายอยู่อีกไหม



เมื่อเปิดกล่องมาด้านในจะพบว่ามีลิควิดอายแชโดว์จำนวน 5 แท่ง และออยล์ทินต์เจล 4 แท่ง บรรจุใส่ในกล่องแข็งอย่างดี คือกล่องแบบสวยมาก วัสดุทนทานกำลังดี ลวดลายหน้ากล่องและในกล่องคือแบบสุดจัดปลัดอยากได้ ทางเราชอบลายของกล่องเวอร์ๆ



แพ็คเกจของทั้งเก้าแท่งทำจากวัสดุเดียวกัน มีความแข็งแรงประมาณหนึ่ง ฝาหมุนแน่นสนิท เพียงแต่แอบขัดใจตรงสีพิมพ์ลายบนแท่งของเบอร์ 5 มันหลุดมาขาวเหมือนของทินต์เลย ขัดใจน้อง 5555


เรามาดูที่ลิควิดอายแชโดว์กันก่อน

ดูจากภายนอกคือสีของเขาจะคล้ายๆกัน มีความคุมโทน ออกน้ำตาลๆหน่อยๆ และอย่างที่บอก เบอร์ 5 พิมพ์ลายขัดใจมากอ่ะ มันขาวแบบเด่นขึ้นมาเลย



ตัวแอปพลิเคเตอร์ของเขาเป็นแบบแบน คล้ายๆทรงของไม้พาย เนื้อมีความกำมะหยี่หน่อยๆ ด้ามจับก็ถนัดมือดี



สวอทช์ของทั้ง 5 สี เหมือนการไล่สีจากอ่อนไปเข้ม เบอร์ 1 จะเป็นขาวนวลๆมุกๆ, เบอร์ 2 มีความครีมๆเจือส้มหน่อยๆ, เบอร์ 3 เป็นสีน้ำตาลอมชมพู, เบอร์ 4 ก็คือน้ำตาลอิฐ และสุดท้าย เบอร์ 5 น้ำตาลเข้ม สีออกชาๆหน่อย



ตามธรรมเนียม ไหนๆเราก็ต้องเช็ดแล้ว.. ดังนั้นจึงขอทดสอบการติดทนสักหน่อย โดยรอบแรกเทน้ำลงไป พร้อมทั้งนำทิชชู่ชุบน้ำเช็ดตาม ไม่หลุดสักนิด

รอบสองนำคลีนซิ่งแพดมาเช็ด ซึ่งมันเป็นตัวที่ใช้พกพาเพื่อคลีนเมคอัพประเภทวอเตอร์พรูฟตั้งต่าง ก็คือไม่หลุด จุดๆนี้แอบกลัว แน่นไปนิดนะฮะ สุดท้ายทางเราใช้ตัวรีมูฟเวอร์ที่ออยล์เยอะๆมาเช็ดล้าง มันแน่นจริงอ่ะ ใครไม่ชอบทำความสะอาดก็อาจต้องคิดนิดหนึ่งก่อนใช้ 5555


อ้ะ ต่อมาเราก็ต่อกันที่ออยล์ทินต์เจลเลย

มองผิวเผินจากภายนอกก็คือคุมโทนอีกแล้ว มีเข้มสลับอ่อน สีพิมพ์ลายเหมือนกันล่ะ สบายใจ เอิ๊กกกก



ตัวแอปพลิเคเตอร์ระหว่างอายแชโดว์กับทินต์ มีความคล้ายๆกัน เพียงแค่ของทินต์มันมีความเจลๆ พอถ่ายรูปออกมาเลยเหมือนเยลลี่หน่อยๆ



สวอทช์ทั้ง 4 สีนะคะ เบอร์ 1 เป็นโทนส้มจี๊ด, เบอร์ 2 สีแดงก่ำ เบอร์กันดีนิดๆ, เบอร์ 3 แดงเจือชมพู กำลังสดใส, และเบอร์ 4 เป็นชมพูไปทางม่วง สีสวยทุกสีเบย



ทดสอบความติดทนกันค่ะ.. รอบแรกเทน้ำลงไป และใช้ทิชชู่ซับน้ำมาเช็ดตาม สีมีความเคลื่อนตัวออกค่ะ เหมือนตรงบนๆที่ยังเซ็ตตัวไม่ดีหลุดออก

รอบสองนำคลีนซิ่งแพดมาเช็ด เป็นคลีนซิ่งแพดสำหรับลดตัวคสอ.วอเตอร์พรูฟเช่นเคย ตัวทินต์อันนี้ไม่ดื้อเท่าไหร่ค่ะ รูดออกได้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งถ้าหากจะทำความสะอาดต้องเช็ดหลายๆรอบสักหน่อย


เรามาลองใช้กันนะคะ วันนี้ซินจะแต่ง 2 ลุค เอาแบบพอกล้อมแกล้ม

อายแชโดว์อันนี้เป็นเบอร์ 2 ผสมกับเบอร์ 4 เบอร์สองดูจะอ่อนไป เบอร์ 4 ก็เข้มไป อยากได้ตาโทนออกส้มๆธรรมชาติๆหน่อย ก็เลยผสมดู ผลที่ได้คือสีบั่บ ธรรมมะมากๆ ของจริงสีชัดวก่าในภาพหน่อย แต่เป็นสีที่แบบสุภาพและละมุนเฟร่อ ปลื้ม



ลิปก็เป็นเบอร์ 1 สีโทนส้มจี๊ดจ๊าดเลย จะบอกว่าเราทาทินต์แล้วสีติดแค่ด้านในปากจริงๆ ไม่มีความสามารถทาเต็มปากได้ มันออมเบร์อัตโนมัติอ่ะ 55 สุดท้ายก็เลยเอาลิปเนื้อเชียร์สีส้มๆหน่อยมาทั่วปากอีกที



ฟินิชลุคก็คือตาพี่ซอฟต์มาก ปากก็สดใสสุดๆ คือสีตาดูเบาไปเมื่อเจอสีปากนะฮะ 555 เป็น Everday Look แต่งไปจับจ่ายแถวบ้านได้ไม่เอิกเกริก


ต่อกับลุคที่สองเบย

ใช้อายแชโดว์เบอร์ 3 เป็นน้ำตาลชมพู ทางเราทาเบามือเด้อ กลัวหนักไปแล้วเอาไม่อยู่ ผลลัพธ์ที่ได้คือสีแบบหวานใสมาก ยังเป็นงานซอฟต์ๆอยู่ แต่งไปไหนก็ได้ ดูไม่เกินเบอร์



จับคู่กับทินต์เบอร์ 3 ชมพูค่อนไปทางแดง เช่นเคย ลิปทินต์เขาเราไม่สามารถทาทั่วปากได้ เพราะสีติดแค่ด้านใน ระบบออมเบร์อัตโนมัติ เราก็เลยหาลิปเนื้อเชียร์สีชมพูมาทารอบนอกทั่วปากค่ะ



โททอลลุคในวันนี้ ชมพูและชมพูและชมพู รูปด้านซ้ายเกิดจากการพยายามสรรหาท่าโพสที่แตกต่าง แต่ต้องเห็นสีตาชัด ก็เลยออกมาอย่างที่เห็น แต่งลุคนี้ค้างไว้ทั้งวันเพื่อทดสอบความติดทน จากนั้นเรามาสรุปกันค่ะ


สรุปผลหลังลองใช้ครั้งแรก

 Waterproof Liquid Eyeshadow

  • เนื้อมีความข้นมากกว่าเหลว สีชัด กลิตเตอร์เม็ดค่อนข้างเล็ก และสม่ำเสมอ  เซ็ตตัวไว พอเซ็ตตัวแล้วจะแห้งเลย
  • ติดทนมาก อย่างที่ทดสอบให้ดู ใช้จริง ระหว่างวันสีจางน้อยมากๆ
  • ล้างยากนิดหน่อย คือเราต้องให้เวลากับมันโดยการแปะรีมูฟเวอร์เฉพาะจุดค้างไว้นานขึ้น เพื่อที่จะเอาพี่คนนี้ออกให้เกลี้ยง
  • ส่วนตัวลองใช้แบบปาดไปที่ตาแล้วสีชัดเกินไป ดูหนาเกินไป สายธรรมมะอย่างเราเลยปาดที่มือก่อน แล้ววนๆขึ้นไปแตะบนเปลือกตา ฟินิชที่ได้จะดูเบากว่า

Oil Tint Gel

  • เป็นทินต์เนื้อเจลที่มีความเจ้มจ้น สีชัด ปาดนิดเดียวออกสีเลย เซ็ตตัวไว
  • สีเกาะได้ดีแค่บริเวณด้านในปาก ออมเบร์เฉ๊ย ใครที่ชอบทาแบบงานเกาๆอยู่แล้วก็เข้าทางเลย
  • ซินมีปัญหากับการเอามาทาแก้ม เพราะพี่เขาเป็นปื้นๆ คืออาจเพราะสีติดดีและเซ็ตไว พอจะแก้มันเลยยากมากๆ ไม่ว่าจะปาดบนแก้มเลยหรือปาดหลังมือแล้วใช้อุปกรณ์ช่วย ก็ยังทาแก้มไม่ได้ ใครใช้ตัวนี้กับแก้มได้รบกวนแนะนำด้วยค่ะ
  • ความติดทนให้สูงเลย กินข้าวก็ยังมีสีติดด้านในหลงเหลืออยู่ จนเย็นย่ำค่ำมืดสีก็ยังเหลืออยู่ 
  • การเช็ดล้างก็ง่ายกว่าตัวอายแชโดว์ แต่ก็ยังจำเป็นต้องใช้รีมูฟเวอร์เฉพาะจุดนะคะ


ส่วนตัวแล้วชอบความติดทนอยู่เด้อ แต่ก็คงไม่เหมาะที่จะหยิบมาใช้ทุกวัน เช่น วันทำงาน กลับบ้านมาเหนื่อยโพด เราก็อยากแบบเช็ดล้างไวๆอะเนาะ แต่ถ้าแบบวันที่ต้องไปเที่ยว ไปลุย คือแบบตอบโจทย์มาก ฟาดฟันกับทุกสภาพอากาศและเหงื่อของเราได้มากเวอร์ ใครที่กำลังมองหาไอเท็มสุดอึดก็ไปลองเทสต์กันได้ตามบิวเทรียมหรืออีฟแอนด์บอยนาจา

ส่วนวันนี้ต้องขอตัวไปก่อนแล้ว ขอบคุณทุกคอมเมนท์และการรับชม หวังว่ารีวิวของซินจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ




Cindie

Cindie

สวัสดีค่ะ นี่ " ซินดี้ " เอง
ชอบทำรีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน
❤ Makeup, Skincare, Movie, Food ❤
ติดตามเม้าท์มอยเพิ่มเติมกันได้ทางทวิตเตอร์

@LONELYCINDIE หรือเมล์มาที่ ✉
lonelycindie@gmail.com ขอบคุณค่ะ

FULL PROFILE