ฮาวทูจัดกระเป๋าไปเที่ยว 17 วัน น้ำหนัก 20 กิโลกรัมถ้วน
NickyOkawa 26 8
สวัสดีค่ะ NickyOkawa มาอีกแล้วกับกระทู้ย้าวยาววววววว
#รูปเยอะโหลดโหดโปรดทำใจ
#รูปว่าเยอะแล้วพิมพ์ยิ่งเยอะกว่า
นั่นคือ วิธีการจัดกระเป๋าสไตล์นิกกี้ เวอร์ชั่นไปเที่ยวยุโรป
อากาศหนาวปานกลาง ระยะเวลา 17 วัน
และน้ำหนักกระเป๋าที่โหลดได้เพียง 20 กิโลกรัมเท่านั้น
จะทำยังไง แบกยังไงให้ของครบ และใส่ชุดหลากหลายได้ ไปดูกันค่ะ
#รูปเยอะโหลดโหดโปรดทำใจ
#รูปว่าเยอะแล้วพิมพ์ยิ่งเยอะกว่า
นั่นคือ วิธีการจัดกระเป๋าสไตล์นิกกี้ เวอร์ชั่นไปเที่ยวยุโรป
อากาศหนาวปานกลาง ระยะเวลา 17 วัน
และน้ำหนักกระเป๋าที่โหลดได้เพียง 20 กิโลกรัมเท่านั้น
จะทำยังไง แบกยังไงให้ของครบ และใส่ชุดหลากหลายได้ ไปดูกันค่ะ
กระเป๋าเดินทาง
กระเป๋าเดินทางที่ใช้เป็นใบประจำคือยี่ห้อ Ju-On (ตลกทุกครั้งที่เห็นชื่อแบรนด์)
ขนาด 24 นิ้ว ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซื้อจาก Flynow Outlet หัวหิน
ไปกันมาทุกทริป หวังว่าจะไม่ตายที่ทริปนี้
เพราะถนนปูหินนี่ปราบเซียนทั้งส้นรองเท้าและล้อกระเป๋า
มีผ้าคลุมกระเป๋าด้วย จะได้เด่นๆ หาง่าย ไม่หลงทางไปประเทศอื่น
ซื้อจากไดโซะ ราคา 60 บาท แต่ช่วงที่ซื้อไม่มีลายเรียบๆ เลย
ใช้แล้วก็แอบเขินเพราะหน้าล้ำไปมาก
หรือถ้าไม่ชอบผ้าคลุม ก็ผูกเชือกหรือห้อยแท็กกระเป๋าก็ได้ค่ะ
อย่างนิกกี้ใช้เป็นอันดอกไม้น่ารักๆ จากบ้าน Jeban
เขียนขื่อ อีเมล ประเทศไทย เผื่อมันหลงทาง
แต่ถ้าลองจัดของแล้วมันล้นเกิน นิกกี้จะขยับไปใช้กระเป๋าของคุณแม่
American Tourister รุ่น Lightrax ขนาด 25 นิ้ว และเอาของบางส่วนออกค่ะ
เพื่อนที่ไปด้วยจะเอาใบ 28 นิ้วไป จริงๆ นิกกี้ก็มี แต่มันหนักมาก
ใส่ของแล้วน้ำหนักเกินแน่นอน แถมทริปนี้เป็นการไปเที่ยวเอง
ไม่ได้ไปกับทัวร์ เลยตัดสินใจไม่เอากระเป๋าใหญ่สุดไปค่ะ
กระเป๋าแครี่ออน
เป็นกระเป๋าแม่ลูกอ่อนจากร้านหนังสือ SE-ED เลือกใบนี้เพราะช่องเยอะมาก
ด้านหน้ามี 3 ช่องแยก ด้านหลังมีช่องซิปอีก
ข้างในก็ใส่ของได้เยอะแบบไปเที่ยว 1-2 คืนยังได้เลย
เสียตรงที่พับเก็บเป็บใบเล็กๆ ไม่ได้ และไม่มีที่เสียบก้านกระเป๋าเดินทาง
นิกกี้เลยเอามา DIY เย็บกระเป๋าผ้าแบนๆ ที่ได้แถมมาจากนิตยสารเข้าไปเอง
ในนี้จะใส่ของขึ้นเครื่องที่จำเป็น เช่น ขวดน้ำ กระเป๋า gadget ยาดม มาส์คชีท
กระเป๋าเมคอัพ หมอนรองคอ และของกินเล็กน้อย
ถ้ามีที่เหลือเยอะ จะเอาเสื้อผ้าสำรองใส่ลงไป 1 ชุดค่ะ
เผื่อกระเป๋าเดินทางหายจะได้มีชีวิตไปต่อได้
อีกอย่าง ทริปนี้นิกกี้ต้องไปนอนกรุงเทพฯ ล่วงหน้า 1 วัน
เลยจะเอาของที่ใช้ในคืนก่อนเดินทางใส่ในนี้
จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายกับกระเป๋าเดินทางที่เราแพ็กมาอย่างดีแล้ว
กระเป๋าจัดระเบียบ
กระเป๋าใส่เสื้อผ้า ตัวนี้ทำให้จัดเสื้อผ้าได้สะดวก หรือจะใช้ถุงสุญญากาศก็ได้ค่ะ
กระเป๋าใส่ชุดชั้นใน อันนี้ A Must ใช้เถอะค่า นิกกี้เห็นกางเกงในเสื้อชั้นในคนอื่นที่สนามบินมาหลายหนแล้ว
กระเป๋ารองเท้า ถ้าไม่มีก็ใส่ถุงพลาสติกอะไรก็ได้ค่ะ เอาไว้กันเปื้อนเสื้อผ้า
กระเป๋า Toiletries แชมพู สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เจลล้างหน้า น้ำมันใส่ผม
กระเป๋าสกินแคร์ ใส่เป็นถุงซิปล็อกก็ได้ค่ะ เผื่อมีอะไรแตกก็จะไม่หก
กระเป๋าเมคอัพ บางทีเราแบ่งเป็นใบใหญ่และใบเล็กแยก
ใบใหญ่โหลด ส่วนใบเล็กเอาขึ้นเครื่องค่ะ
แต่บางทีก็เอาขึ้นเครื่องทั้งหมด เพราะกลัวหายแล้วหน้าพัง
กระเป๋ายา ทริปนี้เราเป็นคนเตรียมยาค่ะ เลยเอาไปเยอะหน่อย
กระเป๋า Gadget รวมพาวเวอร์แบงค์และสายชาร์จต่างๆ ไว้ในที่เดียวกัน
อันนี้ก็ต้องเอาขึ้นเครื่องค่ะ โหลดไม่ได้
กระเป๋าเที่ยวระหว่างวัน และกระเป๋าอื่นๆ
เอากระเป๋าสีดำแบบ cross body ไป 1 ใบ พยายามให้มันเข้าได้กับทุกชุด
ใบนี้สารภาพว่าถอยมาใหม่ค่ะ ชื่อแบรนด์ Tallulah รุ่น Dion
ซื้อเพราะสนใจแบรนด์นี้ และถามแม่ค้าว่าใบไหนใหญ่สุดคะ
ราคา 1,990 บาท แต่จัดงานเซลล์บ่อยมาก ใครอยู่กรุงเทพฯ
จะซื้อได้ราคาถูกกว่าเราที่ต้องออนไลน์สถานเดียว
ใส่กล้อง Canon M100 โทรศัพท์ไอโฟนรุ่นพลัส แบตสำรอง
เงินนิดหน่อย บัตร ของจุกจิก ได้ครบ
ส่วนตัวว่ามันวัสดุโอเคอยู่ แต่แอบเล็กไปหน่อย หยิบของยากถ้าใส่เต็ม
แต่ก็เลือกใบนี้ไปกับทริปนี้แล้วค่ะ เวลาเดินเที่ยวคงต้องเอากล้องห้อยคอ
และถ้าใครเน้นประเทศช็อปปิ้ง แนะนำให้เอาเอากระเป๋าผ้าพับได้ไปเผื่อของงอก
เพราะถุงพลาสติกหายากและต้องเสียเงินซื้อค่ะ
เลือกชุดที่จะใส่ไป
บางคนเลือกเอาชุดที่ใส่สบาย บางคนเอาชุดใหม่ที่เพิ่งถอยมา
บางคนเน้นชุดโทนขาวดำครีมเทาล้วน
ส่วนตัวใส่แล้วไม่รอด ดูจืดๆ ซีดๆ และไม่มีความกลมกลืนกับคนยุโรปแต่อย่างใด
#มองจากมาญอร์ก้าก็ยังรู้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน
ฉะนั้นนิกกี้เลยเลือกชุดที่จะทิ้งค่ะ 555555555555555555555
เป็นซิกเนเจอร์ ทุกทริปต้องมีการทิ้งเสื้อผ้า อันนี้ได้โอกาสทิ้งประมาณ 8 ชิ้น
โดยเลือกให้เข้ากับอากาศ ประเทศที่เราจะไปอุณหภูมิค่อนข้างเหวี่ยง
อุณหภูมิ 5-22 องศา (แต่ส่วนตัวนิกกี้เรียกว่าหนาวมาก)
พอได้ชุดจะทิ้งแล้ว ก็มาเลือกชิ้นอื่นๆ เพื่อแมตช์ให้เข้ากัน
เอาไปกี่ชุดดี
ไป 5 วันเอาไป 5 ชุด เป็นเรื่องง่ายมาก
แต่ไป 17 วัน จะเอาไป 17 ชุด น้ำหนัก 50 กิโลคงไม่พอ
มีวิธีการคำนวณง่ายๆ คือ ไปกี่วัน ให้เอาเสื้อผ้าไปได้เท่านั้น บวกได้ไม่เกิน 3 ชิ้น
ฉะนั้น นิกกี้ควรเอาชิ้นหลักๆ ไปได้แค่ 20 ชิ้นค่ะ รวมเสื้อโค้ตและชุดนอนแล้ว
สรุปจะเป็นเสื้อนอก 3 ชิ้น เสื้อผ้าที่จะใส่แล้วทิ้ง 8 ชิ้น
เสื้อผ้าชิ้นหลัก 7 ชิ้น รวมเป็น 18 ชิ้น
พอมีพื้นที่เหลือ เลยเอาเลกกิ้งไป 3-4 ชิ้น โดยเลือกที่เนื้อผ้าแตกต่างกัน
เช่น แบบถุงน่อง แบบบาง แบบฮีทเทค และแบบบุขนที่ใส่แล้วอุ่นจนร้อน
เคล็ดลับอีกอย่างคือ เลือกชิ้นสารพัดประโยชน์ เช่น กระโปรงที่ใส่ได้สองด้าน
เสื้อแบบบราท็อปในตัว หรือเดรสเชิ้ตที่กระดุมผ่าหน้า ใส่เป็นเดรสหรือเสื้อคลุมก็ได้
ได้ชุดแล้วก็ม้วนๆ กองกันไว้ค่ะ เตรียมจัดเข้ากระเป๋า
ใช้ถุงสุญญากาศ
เพิ่งเคยใช้ค่ะ ดีสมคำร่ำลือ นิกกี้ซื้อจาก Daiso 60 บาท
แต่เนื้อพลาสติกจะบางๆ ใช้งานไม่กี่ครั้งอาจจะขาดได้
วิธีก็ไม่ยากค่ะ ใส่ของเข้าไป รูดตัวล็อกจนเหลือช่องว่างนิดเดียว
จากนั้นใช้มือรีดเอาลมออก หรือนั่งทับเอา
แต่เวิร์คสุดคือใช้เครื่องดูดฝุ่น รับรองความแบน
หมายเหตุ มันลดปริมาตรเสื้อผ้าได้ แต่ลดน้ำหนักไม่ได้ ใส่ไปกี่โลก็หนักเท่าเดิม
ฉะนั้น อย่าหอบไปเยอะจนเกินจำเป็น ยกเว้นคุณจ่ายเงินซื้อน้ำหนักเพิ่มแล้ว
ชุดชั้นใน ถุงเท้า รองเท้า
(ขออนุญาตงดรูปของส่วนตัว)
ชุดชั้นใน แนะนำให้เอารุ่นไร้โครงไปค่ะ สบาย ไม่กินที่ เพราะบราที่ไม่ใส่แล้ว
นิกกี้จะส่งไปที่แบรนด์ชั้นในแทน เพราะเขาจะเอาไปกำจัดและรีไซเคิลให้ถูกวิธี
กางเกงใน ปกติชอบใส่กางเกงในแบบ boy leg เหมือนบ็อกเซอร์ของผู้ชาย
เวลาเดินทางก็จะเปลี่ยนเป็นกางเกงชั้นในตัวเล็กแบบปกติแทนค่ะ ค่อยประหยัดที่
เสื้อชั้นในกางเกงในเอาไปแค่ 10-12 วันค่ะ เพราะจะซักเอา
ถุงเท้า เป็นของอย่างเดียวที่จะเอาไปครบทุกวัน เพราะถ้ามีการซักผ้า
เราไม่กล้าซักรวมกับเสื้อผ้าอ่ะ เป็นคนเท้าเหม็น เหงื่อออกเยอะ
เพื่อสุขอนามัยและลมหายใจของเพื่อนร่วมทริป เปลี่ยนทุกวันค่ะ
ถุงเท้าคู่ไหนเริ่มยานหรือมีรูเล็กๆ เราเอาไปทริปนี้ ใส่แล้วทิ้งเลย
รองเท้า เป็นคนชอบมีปัญหากับรองเท้า ใส่ๆ อยู่มีคนเหยียบขาดก็เจอมาแล้ว
เลยจะเอาไปเผื่อ รองเท้าผ้าใบสีดำที่ใส่ไปเลย 1 คู่ รองเท้าบู๊ต 1 คู่
เพราะนานๆ จะมีโอกาสได้ใส่ แต่ถ้าน้ำหนักเกิน อาจจะเอาคู่นี้ออกค่ะ
ซื้อมา 100 บาท ยูเนี่ยนมอลล์สมัยห้างร้างและขายของมือสองด้านหน้า ทนโคตร
ถ้ามีที่เหลือ อาจจะเอารองเท้าแฟลตหรือรองเท้าแตะไปอีกคู่
กระเป๋าเงิน
เนื่องจากไปประเทศที่มีโจรล้วงกระเป๋าเยอะติดอันดับต้นๆ ของโลก
ฉะนั้น จึงมีกระเป๋าคาดเอวซ่อนเงินกับกระเป๋าคล้องคอ มาใช้เก็บเงินและบัตรสำคัญ
กระเป๋าคาดเอว ใส่เงินจำนวนหนึ่ง พาสปอร์ต และบัตรเครดิต
กระเป๋าคล้องคอใบเล็ก ใส่เงินอีกจำนวนหนึ่ง และบัตร Travel Card ที่แลกเงินมา
ถ้าไม่อยากซื้อ ซองกันน้ำที่ใช้ใส่มือถือตอนสงกรานต์ก็โอเคนะคะ
ใส่พาสปอร์ตได้ แต่มันเสียตรงขอบมุมมันแข็ง บาดเนื้อได้ค่ะ
หรือกระเป๋าคาดเอวที่ใช้ใส่มือถือตอนออกกำลังกาย ราคา 100 บาท
ก็ใส่ของได้เยอะเช่นกัน ซ่อนไว้ในเอวอาจจะดูอ้วนๆ แต่ก็ดีกว่าโดนล้วงกระเป๋านะ
อย่าเก็บเงินเยอะๆ ไว้ที่เดียวค่ะ ถ้าหายแล้วทริปนั้นจะล่มจมทันที
สกินแคร์
ได้เวลาขนเทสเตอร์และของจิ๋วขวดเล็ดขวดน้อยที่สั่งสมมาใช้แล้วค่ะ
แต่ถ้าอันไหนไม่เคยใช้ ห้ามเอาไปลองในทริปนะคะ
เกิดแพ้หน้าแหกขึ้นมา จะเที่ยวแบบกร่อยมากๆ
ใครมีมาส์คชีทตุนไว้เยอะๆ เอาไปใช้เลย ประหยัดเนื้อที่สุดๆ แถมยังช่วยฟื้นฟูผิวได้ดี
อีกอย่างที่ต้องเอาไปเผื่อก็คือ ทิชชู่เปียก เพราะต้องใช้งานหลายอย่าง
โดยเฉพาะเวลาเข้าห้องน้ำ หลายประเทศไม่มีฝักบัวชำระเน้อ
เมคอัพ
เอาอันที่เล็กที่สุด ใช้ดี พกพาสะดวก และทำหายได้ ไม่ร้องไห้เพราะความเสียดาย
นิกกี้ไปหลายเมือง เปลี่ยนที่นอนบ่อย ถ้าทำอายแชโดว์ Burberry หายคงตีอกชกตัว
รองพื้นแบบขวดแก้วตัดออก ลิปสติกแท่งหนักก็เก็บไว้บ้านค่ะ
นิกกี้เคยพกกระป๋องแปรงแต่งหน้าของ Sigma พร้อมแปรง 20 อันไปเที่ยวตลอด
ตอนนี้เหลือแค่นี้ ใส่ถุงผ้าไม่ก็กระเป๋าแบนๆ จบ
ของจำเป็นที่เอาไปแล้วอาจจะมีประโยชน์
หมอนรองคอ เป็นคนนั่งหลับแล้วคอพับเหมือนคนตกหมอนตลอด จำเป็นมากค่ะ
น้ำหอม กลิ่นสดชื่นๆ สะอาดๆ เคยไปเจอโรงแรมเหม็นอับ เปิดหน้าต่างระบายก็ไม่ได้ สรุปได้โบกประตูไปมา และใช้น้ำหอมพรมที่นอน ถึงผ่านคืนนั้นมาได้
ผ้าปิดตาและที่อุดหู เป็นคนนอนหลับยากขั้นสุด
อแดปเตอร์แปลงไฟ ตามแต่ประเทศที่ไป
รางปลั๊กสามตา แนะนำว่าเอาไปคนละอันเลยค่ะ เดี๋ยวนี้แต่ละคนพกกล้อง มือถือ โน้ตบุ๊ค ดรายเป่าผมอีก ไปหลายคนพกอันเดียวใช้ไม่พอค่ะ
เครื่องชั่งน้ำหนักแบบพกพา น่าจะมีประโยชน์สำหรับคนน้ำหนักจำกัด
ส่วนตัวเพิ่งถอยมาสดๆ ร้อนๆ แต่พังตั้งแต่ยังไม่ออกประเทศเลย ฮือ
ถุงพลาสติก เผื่อใส่นั่นใส่นี่ ใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้วเพื่อกลิ่นอับปนเสื้อใหม่ก็ได้
ถุงแกงและยางวง ได้ไอเดียจากพันทิป แต่ยังไม่เคยพกเลย ต้องลองดูค่ะว่าจะได้ใช้งานจริงมั้ย
กรรไกร โหลดใต้ท้องเครื่องไปได้นะคะ เผื่อตัดถุงขนมของกินป้ายเสื้อผ้าที่ซื้อใหม่
ไม้แขวนเสื้อ 2-3 อัน ช่วยได้ทั้งแขวนเสื้อโค้ตไม่ให้ยับ และตากเสื้อผ้าที่ซักแล้วค่ะ
ผ้าเช็ดตัวไมโครไฟเบอร์ ช่วยซับน้ำทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น และบางคืนต้องนอน AirBNB ค่ะ
ผ้าถุงเย็บหัวยางยืด 5555 อันนี้ส่วนตัว เป็นคนนุ่งผ้าเช็ดตัวไม่เป็น เหน็บแล้วหลุด
เอาไปแล้วแต่งตัวง่ายขึ้น ถ้าใครนอนพวก Hostel ช่วยกันทัศนะอุจาดด้วย
เชือกผ้าแบน อันนี้พ่อขอให้เอาติดไปด้วย รัดกระเป๋าเดินทางที่แตกได้ ใช้ตากผ้าในห้องจำนวนเยอะๆ ก็ดี
มาจัดกระเป๋ากัน
สรุปก่อนวันเดินทาง นิกกี้เปลี่ยนไปใช้กระเป๋าเดินทาง
American Tourister นะคะ เพราะใหญ่กว่าใบสีแดงนิดนึง
เริ่มต้นที่ฝั่งซ้าย จะเป็นกระเป๋าเล็กกระเป๋าน้อย ของจุกจิก
ค่อยๆ วางเหมือนเล่นเกม Tetris ลงล็อก จะมีกระเป๋ารองเท้าที่ใส่ถุงเท้า
กระเป๋ายา หมวก กระเป๋าเมคอัพใหญ่ กระเป๋าสกินแคร์ ใจจริงกลัวสองอันนี้หาย
แต่แครี่ออนมันเต็มมากแล้วค่ะ เลยต้องจำใจโหลดลงเครื่องบิน
หลายคนอาจจะสังเกตของกิน เพื่อนร่วมทริปเพิ่งไปตุรกีมา
บอกเลยว่าให้เราเอามาม่ากับของกินไปเผื่อ เพราะอาจจะไม่ถูกใจอาหาร
และบ้านเมืองอื่น ร้านอาหารไม่เปิดเช้าตรู่เท่าไหร่ค่ะ
คนติดอาหารเช้าแบบนิกกี้ ขาดใจตายแน่นอน ต้องเอาไปเผื่อ
กินหมด กระเป๋าก็จะเบาลงไปได้อีกหน่อย เอาไว้ใส้ของที่ช็อป
มาจัดกระเป๋า (ต่อ)
ขออภัยที่รูปจัดกระเป๋ามันมืด เพราะไม่ได้ตั้งใจเซ็ตฉากเท่ารูปอื่นค่ะ
ใกล้วันเดินทางเต็มที เลยรีบถ่ายรีบลงกระทู้ก่อนขี้เกียจทำ
ฝั่งขวาบ้างค่ะ มีแต่เสื้อผ้าเป็นหลัก พอจบทริปคือทิ้งเสื้อผ้าไป 8 ชิ้น
มีที่ใส่ของกลับมาแน่นอน แต่คิดว่าคงไม่ซื้ออะไรมากนักค่ะ (หวังว่านะ)
เอาผ้าปูสำหรับโยคะไปด้วย ตั้งใจว่าจะออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายบ่อยๆ
ไม่งั้นกลับมา ตัวแข็งโป๊กแน่นอน ลำบากครูผู้สอนอีก
ส่วนของใช้ในห้องน้ำ จะอยู่ฝั่งนี้ เพื่อให้เสื้อผ้าช่วยคุ้มครองมันไปค่ะ
เป็นอันจบกระทู้การจัดกระเป๋าของนิกกี้แล้ว
ถ้าใครชอบและเห็นว่ามีประโยชน์
ช่วยกดหัวใจหรือคอมเมนท์ให้กันหน่อยนะคะ
รอดูแฟชั่นป้าๆ ขนเสื้อผ้าไปทิ้งที่ยุโรปได้เลยค่า คิดว่าจะอัพลง Beauty Check ทุกลุคแหละ