โอกินาว่า ไปง่ายกว่าที่คิด

จุดเริ่มต้นทริปนี้คือพี่ชายชวนเที่ยวค่ะ อยากไปญี่ปุ่นไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน แล้วไปเห็นโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปโอกินาว่าถูกมาก ก็เลยลองไปกันก่อนที่โรงเรียนเด็กๆจะเปิดเทอม

ถามว่าโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินถูกแค่ไหน ก็ตอบเลยว่าเจอถูกสุด เที่ยวละ 980 บาท
ตอนจอง เราไปจองกับโปรฯ เที่ยวละ 1430 แต่เอาจริงๆ ช่วงเวลาที่ไปมันไม่ได้ราคานั้นค่ะ 555 แต่ตั้งใจจะไปอยู่แล้ว ยังไงก็ซื้อตั๋วค่ะ

ทริปนี้เราไปกัน 5 คน ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 4คน + เด็ก 4 ขวบอีก 1คน
จำนวนวันเดินทาง: 4 วัน 3 คืน (11-14 พ.ค)
เดินทางโดย รถเช่าของ Times Car Rental

สถานที่ที่ได้ไปจริงในแต่ละวัน 

Day 1

พอไปถึงโอกินาวา ช่วงนั้นไปอากาศประมาณ 23-28 องศา ไม่ร้อนไม่หนาว สบายๆชิวๆค่ะ

เราไปถึงโอกินาวา 8 โมงเช้า รับรถเสร็จก็ตรงไปหาข้าวเช้ากินกันที่ ตลาดปลา Tomari (Fish market Tomari Iyumachi)  

•  ตลาดปลา Tomari เป็นตลาดท่าเรือที่โด่งดังแห่งหนึ่งในโอกินาว่า เป็นที่นิยมของคนท้องที่และนักท่องเที่ยว อยู่ใกล้ตัวเมือง naha และสนามบิน naha ค่ะ ด้านในเป็นตลาดติดแอร์ อาการเย็น เดินสบาย
• ด้านในสุดของตัวตลาด จะเป็นห้องที่สำหรับใช้แล่ปลาโดยเฉพาะค่ะ จะเห็นปลาทูน่า ปลาตัวใหญ่ๆในนั้นเพียบ ร้านข้างในก็มีของสดๆใหม่ๆ ปลาดิบที่แล่พร้อมทานก็มี แต่จะมีแค่ 1 ร้านที่ให้บริการทานในร้านได้และสามารถซื้อปลาดิบจากร้านอื่นเข้ามานั่งทานได้ด้วย
• สำหรับคนที่ไม่อยากนั่งทานที่ร้านนี้ ก็สามารถเลือกซื้อปลาดิบจากร้านอื่นๆแล้วไปยืนทานตามโต๊ะยาวที่ทางตลาดได้จัดเตรียมไว้อยู่3-4 จุดได้ตามสบายค่ะ

จากตลาดปลา ขับตรงไป 13 นาที ก็จะถึง Blue Seal Ice Park แวะทานไอศครีมกันก่อนได้นะคะ ที่นี่สามารถเข้าเรียนทำไอศครีมได้ด้วย

จากนั้น เราก็ขับรถเพื่อไป พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) 

+3

มื้อเย็นเราแวะกันที่ Papaiya  ไม่ไกลจากสวนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเท่าไหร่

• website: https://papaiya.gorp.jp มีที่จอดรถฟรีหน้าร้านค่ะ
• อาหารหลากหลายและอร่อยมาก ไม่ผิดหวังค่ะ  

อิ่มแล้วก็แวะไป lawson ซื้ออาหารตุนไว้สำหรับมื้อเช้า ก่อนจะแวะเข้าที่พักที่ Churaumi Village   เป็นบ้านพัก 2 ชั้น 2 ห้องนอน ห้องอาบนมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า จานชามมีเตรียมให้พร้อมใช้ เสมือนอยู่บ้านเราเอง  
 

Day 2

วันที่ 2 แวะให้คนขับได้เติมพลังกันที่ starbucks ก่อน  วิวดีค่ะ นั่งชมวิวทะเลได้ทั้งวัน

ขับเข้าตัวเมือง Naha มาถึง ปราสาทชูริ(Shuri Castle) ที่เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะโอกินาว่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

• ที่นี่มีกิจกรรม Stamp Rally ตามล่าปั๊มตราจุดต่างๆ ก็สนุกดีค่ะ เด็กน้อยที่มาด้วยจะได้ไม่เบื่อ  ระหว่างทางจะมีจุดให้ระบายสีปราสาทสำหรับเด็กด้วยค่ะ 
• มาปราสาทชูริทั้งที ก็ควรจะแวะมานั่งจิบชาชมสวนสวยๆของที่นี่ด้วยนะคะ  ขอบอกว่าบรรยากาศดีแต่ขนมดีกว่า 555  แนะนำให้มาลองค่ะ อย่างที่ลองสั่งมาทาน จะเป็นชุดน้ำชาและขนมแบบดั้งเดิม 4  อย่างในชุด (Hanabouru, Kunpen, Chiirunkou, Chinsukou)

เดินกันจนพอใจแล้วก็ไปกินข้าวเที่ยงกันค่ะ ที่
ร้านอาหาร Ryukyu Sabo Ashibiuna 

• ขับรถจากปราสาทชูริไป 7-8 นาที  จะมีที่จอดรถอยู่ก่อนถึง Lawson ค่ะ (ซึ่งทางร้านอาหารจะมีส่วนลดให้ด้วย)  ร้านจะอยู่ในซอย จะเห็นร้าน Lawson อยู่หน้าซอยค่ะ  
• ไม่แนะนำให้จอดหน้า Lawson  เพราะตรงนี้คิดค่าจอดแพงมาก คือฟรี 30 นาทีแรกแต่หลังจากนั้นทุกๆ 40 นาที คิด 3000 เยนค่ะ  ทริปนี้เราพลาด มาจอดตรงนี้โดนไป 9000 เยน  ดังนั้น แนะนำทุกคนที่เช่ารถ ระวังที่จอดรถที่มีแผ่นโลหะล็อคให้ดีนะคะ เช็คป้ายจอดรถให้ดีๆ ว่าเค้าคิดราคายังไง จะได้ไม่พลาดเหมือนเรา ??
•  ร้านเปิด 2 ช่วงเวลา คือ 11.30-13.30 และ 15.30-24.00   ใครอยากชมสวนเลือกนั่ง outdoors ได้เลยค่ะ แต่อยากนั่งเย็นสบายหรือมากันเป็นกลุ่มเลือก  indoors ดีกว่า
• ร้านนี้ ความอร่อยให้ 10 เต็ม 10 ไปเลยและไม่แพงเกินไปด้วยค่ะ

จบของคาว ไปต่อของหวานกันดีกว่าค่ะ

ร้าน Patisserie joie joie 326   

• Website:https://www.joiejoie326.com/    [Tel. 098-989-7326]
• ร้านเล็กๆ แต่คุณภาพเต็มร้อย อร่อยมากค่ะ ของหมดเร็วแต่ก็มีทยอยมาเติมเรื่อยๆ  ถ้ามาแล้ว อย่าลังเลค่ะ สั่งเลย ไม่งั้นลูกค้าที่มาทีหลัง ลูกค้าประจำเค้าจะมาเร็วเคลมเร็ว
• มีที่นั่งเล็กๆประมาณ 6-7 ที่ เค้กราคาไม่แพงอยู่ในช่วง 400-1000 เยนต่อชิ้น น้ำชาก็อร่อยค่ะ

พออิ่มแล้วเราก็เคลื่อนตัวไป Mihama American Village  ด้วยความที่มาถึงบ่าย แดดยังร้อนอยู่ พวกเราเลยไปเดินเล่น เล่นเกมกันก่อนจะไปนั่งชิงช้าเล่นกันชิวๆ สำหรับเรามันไม่ค่อยมีอะไร ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้  หลังจากนั่งชิงช้าตามที่ตั้งใจเสร็จก็กลับไป Check-in ที่พักในเมือง naha

2 คืนที่เหลือ เราจองห้องพักที่ Community & Spa Naha Central Hotel  อยู่ในใกล้แหล่งช็อปปิ้ง ใกล้ถนน Kokusai dori พอสมควรค่ะ สามารถเดินไปได้สบาย

• ห้องพักที่จองไว้ คือห้อง Superior Twin Room (25 ตร.ม.) กับ Deluxe Triple Room (28 ตร.ม.) ห้องกว้างสะอาด ไม่คับแคบ
•  มีที่จอดรถ แต่เสียค่าจอด 1500 เยนต่อวัน

หลังจากเก็บของที่รร.เสร็จแล้วก็ทุ่มกว่า พวกเราเลยเดินออกมากินที่ร้านราเมงที่เล็งไว้  Ramen Dambo Naha สาขา Makishi   

• ร้านนี้เคยคว้ารางวัลอันดับ1 รางวัลราเมงที่อร่อยที่สุดในคิวชู  มีไม่กี่เมนูแต่อร่อยทุกเมนูค่ะ
• ราเมง จะมี 3 อย่าง 2 แบบ คือ แบบที่ 1. แบบดั้้งเดิม แบบใส่งา(...goma) และแบบต้มยำ(rekka)ที่คนไทยสามารถกินชิวๆได้สบาย  แบบที่ 2. ก็คือแบบที่1 แต่เพิ่มหมูและไข่ต้ม
• นอกนั้นก็ยังมีเมนูที่เป็นข้าว เกี๊ยวซ่า ซึ่งลองแล้วอร่อยเหมือนกันค่ะ
• วิธีการสั่ง ก็คล้ายๆราเมงข้อสอบ ที่ต้องซื้อตั๋วจากตู้ก่อน แล้วพอยื่นให้คนขาย เค้าจะส่งกระดาษให้แผ่นหนึ่ง ในนั้นจะมีรายละเอียดว่าจะเอาเส้นนุ่มแค่ไหน เผ็ดระดับไหน จะใส่ผักชีหรือเปล่า เลือกเสร็จแล้วส่งคืนก็เป็นอันจบค่ะ
• เวลาในการรอคิวอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป 

Pork Tamago onigiri honten ร้านซูชิข้าวปั้นไส้หมูบด

วันนี้เราตั้งใจไปเที่ยว Okinawa World กันค่ะ
มีพิพิธภัณฑ์สวนงูฮาบุพาร์ค ถ้าพูดถึงตวามสนุกและความตื่นเต้น การแสดงของไทยเราดีกว่าแน่นอน
การแสดงไอซ่า (Aiza) เป็นการแสดงการร่ายรำของชาวพื้นเมืองโอกินาว่าที่ควรดูค่ะ พวกเราไปรอก่อนการแสดงครึ่งชั่วโมง ได้เห็นการซ้อมที่แตกต่างจากการแสดงจริง ทรงพลัง และประทับใจมากค่ะ
ถ้ำเกียวคุเซ็นโด หินงอกหินย้อยเกิดขึ้นจากปะการัง ลงถ้ำลุยเดินยาวๆ 30 นาทีค่ะ เริ่มจากทางเข้าไปขึ้นหลังสุดของ Okinawa world เลย

จากปลายถ้ำเกียวคุเซ็นโด พอขึ้นบันได้เลื่อนไปจะเป็นสวนผลไม้/Tropical Orchards เป็นโรงหลอมแก้ว-การทำเครื่องแก้ว จากนั้นจะเข้าสู่โซนหมู่บ้านจำลองสไตล์ริวกิวแบบดั้งเดิม มีงานฝีมือท้องถิ่นให้เลือกช็อปเลือกชม

แล้วก็มีบริการสวมชุดดั้งเดิมของชาวริวกิว 500 เยน ถ่ายรูป 30 วิ โดยใช้กล้องมือถือของเราค่ะ แต่ถ้ารูปของทางร้านดีกว่า สามารถซื้อเพิ่มในราคา 1000 เยน มีชุดทั้งผู้ชาย-ผู้หญิง-เด็กๆ ราคาแค่นี้ขอเชิญแวะไปใช้บริการกันนะคะ ถูกมากๆ

ข้างในมีร้านของฝาก ที่สามารถใช้บัตรส่วนลดที่ได้มาตอนซื้อตั๋วได้ด้วยค่ะ ไม่จำกัดขึ้นต่ำ

Okinawa Cave Cafe อยู่ตรงข้าม okinawa world  เลยค่ะ
บรรยากาศแปลกใหม่ดีค่ะ นั่งกินในถ้ำ อากาศไม่อับมาก ออกแนวเย็นๆชื้นๆซะมากกว่า ข้างในเดินชนถ้ำได้ แต่เหมือนต้องรอไกด์นะคะ
ตอนเราไปคนไม่เยอะมาก แต่กาแฟที่นี่ ขอผ่านจริงๆ ใน Okinawa world ก็ไม่โอเค

จบตรงนี้เราก็กลับเอารถไปจอดที่รร.ก่อนแล้วก็ออกมาเดินถนน Naha Kokusai Dori Shopping Street แวะช็อปของฝาก แวะดองกี้สักนิดจิตแจ่มใส 555

ด้วยความที่อยากกินชาบูกัน ก็เดินตามหาร้านหมูชาบูกัน ก็ไปเจอร้าน Helios Pub ถามว่าอร่อยไหม ก็อร่อยใช้ได้ค่ะ เนื้อหมูดี น้ำจิ้มดี แต่ผักไม่ค่อยมี แถมจัดเป็นชุด สั่งหมูเพิ่มอย่างเดียวไม่ได้ ขัดใจจริงๆ

ตลาดปลา Tomari (Fish market Tomari Iyumachi) 
กลับมาซ้ำส่งท้ายกันอีกรอบค่ะ

แวะช็อป Okinawa Outlet Mall ASHIBINAA  ได้รองเท้า Adidas มาคู่ เสื้อนิดหน่อย แต่ได้ตัวต่อจิ๊กซอมาหลายกล่องอยู่  ที่ญี่ปุ่นถูกมากๆๆๆ

จากนั้นก็แวะมื้อเที่ยงที่ oHacorte Bakery     ร้านนี้ควรมาค่ะ recommended อีกแล้ว บรรยากาศดี อาหารคาว+หวาน อร่อยทุกจาน

ห้าง duty free  T Galleria by DFS (MAP CODE: 33 188 297*63)

• ของแบรนด์มีพอสมควรค่ะ แต่ถ้าจะช็อปเครื่องสำอางญี่ปุ่นอย่าง Shu uemura/Shiseido/Three/Jill Stuart แนะนำว่าไปห้างท้องถิ่นอย่าง Ryubo department store  (MAP CODE‎: ‎33 156 203*50) ดีกว่าค่ะ
• ที่นี่ไม่มี Three/Jill Stuart 
• จำกัดการซื้อ อย่างเช่น Shu uemura ให้ซื้อผลิตภัณฑ์ 1 ตัวได้แค่ 3 ชิ้นต่อ 1 passport ต่อวัน และมีของจำกัด ครีมบำรุงบางไซต์จะไม่มีขายที่นี่ แต่มีขายแค่ที่ห้างท้องถิ่น 
• สรุปคือ ถ้าจะซื้อแบบเคานเตอร์ปกติ  ก็ต้องไปห้างท้องถิ่นดีกว่าค่ะ . 
• ของที่นี่ถูกกว่าเคานเตอร์ปกติอย่างเช่น Shu uemura lip laque supreme ปกติ 3456 เยน ที่นี่จะขาย 2800 เยน   แต่ก็มีของจัดรายการลด อย่าง Shu uemura shu uemura ultime8 cleansing oil 450 ml เหลือ 8900 เยน ประมาณ  2600 บาท (เมืองไทย 4500 บาทนะจ๊ะ)
• จ่ายเงินที่นี่ ไม่ต้องทำ tax refund แต่ต้องไปรับของที่สนามบินที่ DFS ก่อน 3 ทุ่มนะคะ โดยยื่นแค่ใบเสร็จรับเงินกับ passport ค่ะ

ทริปนี้ก็จบไปด้วยดี สนุกสนานและประทับใจอาหารมากค่ะ กลับเมืองไทยมาน้ำหนักขึ้นกระจายค่ะ 555
ขอบอกเลยว่า ถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาเที่ยวอีก ยังมีที่เที่ยวที่กินอีกเยอะที่ยังไม่ได้ไป

 ที่สำคัญ   เรารู้สึกว่าค่าของชีพที่นี่ถูกกว่าคันโต คันไซมาก อาหารดี อร่อย ไม่ผิดหวัง ไปกลับทริปนี้ใช้เงินประมาณ15000-20000
90% ของคนที่นี่ ที่เราคุยด้วย พูดภาษาอังกฤษได้ดี สื่อสารกันรู้เรื่อง

ข้อเสียก็คือ การช็อปเครื่องสำอาง ครีมบำรุง หรือของเด่นดังแนว cosme จะไม่หลายกหลายเท่าไร ของใหม่ๆอาจจะหาไม่เจอ


ทริปนี้ก็ขอแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ไปมาคร่าวๆเท่าที่จำได้ เท่าที่ถ่ายรูปมานะคะ
สำหรับใครที่อยากอ่านรายละเอียดลึกๆอย่่างพิกัดสถานที่หรืออยากได้ไฟล์แพลนเที่ยวที่เราทำก็ลองไปดูที่บล็อคเราหรือในกระทู้ที่ pantip ก็ได้ค่ะ ลงไว้ชื่อกระทู้ 'OKINAWA เที่ยวญี่ปุ่นในราคาเบาๆ ขับรถชิวๆตระเวนกินไปเรื่อย'