Reviewe แชมพูสำหรับผู้ชาย MARO 3D Volume Up Shampoo

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน.....

หายไปหลายวันคิดถึงกันบ้างไหม.....หุหุหุหุ วันนี้ก็เป็นนศุกร์ที่ 7 อากาศก็จะชื้นๆ ฝนตกไปเมื่อคืน อย่างไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ พอดีที่ผ่านมาผมก็ทำงานทุกวัน ก็เลยห่างๆ ไป แต่วันนี้ผมก็มีผลิตภัณฑ์สัญชาติญี่ปุ่นเหมือนเช่นเคยมา Review ให้ทุกท่านติดตาม และหาซื้อมาทดลองใช้กันดู นั้นก็คือแชมพู MARO 3D จากที่ผมได้ทำลองใช้ได้ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนไปทำงานที่อังกฤษ พอดีเพื่อนชาวญี่ปุ่นซื้อมาให้ (แอบเห็นเขาขายกันที่ 5-6 ร้อยกว่าเยน สำหรับขนาด 460 ml.) เพื่อนบอกว่าดี กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นตอนนี้ แต่มีมานานละ....ห้าาาาาาาา.. ) จากที่ได้ใช้สิ่งแรกที่รู้สึกคือ เนื้อแชมพูจะเป็นสีใสๆ และกลิ่นหอมของไม้โอ๊ค สระสะอาด ล้างออกง่าย หลังเป่าผมแล้วจะรู้สึกว่าผมดูหนาขึ้น จัดทรงได้ง่าย ไม่ลีบแบน หรือชี้ฟูเลย  อันนี้จริงๆ นะไม่ได้อวยเลยจริงๆ หุหุหุหุ .... ซึ่งปกติผมจะเป็นคนที่ชอบมักจะแพ้แชมพู เลยจะใช้แต่ยี่ห้อเดิมๆ มาตลอดไม่เคยเปลี่ยน ส่วนอาการแพ้ของผมก็คือสระเสร็จพอข้ามวัน นับไป 24 ชม. จะมีเหมือนสิวเม็ดใหญ่ๆ พอเอามือไปโดนจะเจ็บมาก ขึ้นที่หัว 1-2 เม็ดเลย  ขอบอกเจ็บมากกก สาาาาาาา..... ไม่ใช่ล้างไม่สะอาดนะครับ เคยปรึกษาเพื่อนที่เป็น Doc แล้วมันบอกว่าคืออาการแพ้  ที่นี้เรามาดูว่ามันทำไมถึงเป็นที่นิยมในตอนนี้กัน

MARO 3D Volume Up Shampoo สำหรับผู้ชายนั้น เป็นวัตกรรมใหม่ของประเทศญี่ปุ่นที่มียอดขาย 6.3 ล้านขวดภายใน 2 ปี (บอกแล้วว่ามีมานาน ห้าาาา.....) ช่วยเพิ่มวอลลุ่มของผม ทำให้ผมดูหนาขึ้นถึง 1.5 เท่า เพียงแค่สระครั้งแรกก็สามารถเห็นผลได้ทันที ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก ปกป้องและฟื้นบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดีถึงแกนผม โดยรวมเอา Shampoo + Conditioner + Styling Base เข้าไว้ด้วยกันในขวดเดียว เพียงแค่สระ เป่า เซ็ท ก็ได้ทรงผมมีมิติที่เซ็ทง่ายกว่า พร้อมเริ่มวันใหม่ในทุกโอกาสด้วยความมั่นใจด้วย 3 คุณสมบัติดังนี้ครับ.

1. 3D Fiber Ex เทคโนโลยีพิเศษเฉพาะของ Maro 3D Volume up Shampoo ที่ใช้เส้นใยธรรมชาติ ในการช่วยยกโคนผมให้มีวอลลุ่มขึ้นถึง 1.5 เท่า

2. World’s 1st Defenscalp Formulation สูตรปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมสูตรแรกของโลกที่ช่วย ลดฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) พบมากบริเวณหนังศีรษะและรากผม ยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นผมที่งอกขึ้นแบบผิดปกติ ทำให้ผมร่วงเยอะ จนทำให้เกิดภาวะผมบางและหัวล้านในที่สุด

3. 3D Core Hair Protein ผสาน 3 คุณค่าของโปรตีนจากธรรมชาติ ได้แก่ โปรตีนถั่วเหลือง โปรตีนน้ำนม และกรดกูลตามิค ที่จะช่วฟื้นบำรุง และเสิรมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม ล้ำลึกถึงแกนผม

ที่นี้เรามาพูดถึงข้อดี ข้อเสียของผลิตภัณฑ์ ตัวนี้กันบ้างว่ามีอะไรกัน

ข้อดี

1. มีกลิ่นหอมของไม้โอ๊ค  และเนื้อแชมพูเป็นแบบใสๆ

2. สระออกง่าย  ไม่แพ้  ไม่คัน 

3. เพิ่ม  Volume ให้กับผม สำหรับคนที่ผมบาง หรือผมธรรมดาที่ต้องการเพิ่มปริมาณเส้นผมให้หนาขึ้น ไม่มัน ไม่แห้ง ใช้ได้กับทุกสภาพผม 

4. มีแบบ Refill

5. หาซื้อได้ง่าย ใน Shopping Online  หรือร้านค้าชั้นนำในไทยก็มีขายอยู่  (ราคา+เพิ่ม (ภาษีนำเข้า) อีกประมาณ 50%)  แพงงงงงงงเนอะ หึหึหึหึหึ

ข้อเสีย

1. อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นไม้โอ๊ค

2. เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย แต่คุณผู้หญิงซื้อใช้ได้นะ ไม่ว่ากัน ห้าาาาาาา

3. มีหลากหลายแบบ แต่เมืองไทยนำเข้ามาแบบเดียว (ผมเคยใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้ แต่เป็นแชมพูแบบอื่น และครีบอาบน้ำด้วยนะ ไว้ Review ให้อ่านกันครับ) 

4. ราคาในไทยแพงไปหน่อยถ้าเทียบกับที่ญี่ปุ่น (ครึ่งต่อครึ่ง) ราคาไทย  495 บาท 

แล้วเจอกันใหม่ในการ Review ผลิตภัณฑ์ในกระทู้หน้าครับ....

BEAMs

Friday/7/Jun/2019