คำถามยอดฮิตที่ตลอดชีวิตแป้งต้องเจอจากการเป็นคนผิวเผือก | Pangculalla
Pangculalla 38 17
สวัสดีค่ะ วันนี้แป้งจะมาแชร์ข้อมูลและไขข้อสงสัยให้กับหลายๆ คนที่ยังไม่รู้จักแป้งนะคะ มีทั้งหมด 6 คำถามด้วยกันค่ะ ถ้าใครขี้เกียจอ่านเข้าไปดูในคลิปกันได้เลยน้า
สำหรับคนที่ชอบอ่านเราก็มาเริ่มที่ข้อ 1 กันเลยค่ะ “แป้งเป็นคนประเทศอะไร ?” แป้งเป็นคนไทยแท้ 100% นะคะ บ้านเกิดของแป้งอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ค่ะ
ข้อ 2 “ทำไมแป้งถึงขาวขนาดนี้ ?” แป้งเป็นคนที่มีความบกพร่องของเม็ดสีผิวค่ะ หรือที่เรียกกันว่า Albino หรือคนเผือกนั่นเองค่ะ และด้วยความที่แป้งไม่มีเม็ดสีเมลานีนเหมือนคนอื่น ก็เลยทำให้แป้งที่ผิวที่ขาวกว่าคนปกติ คิ้ว ผม ขนตา แล้วก็ขนตามตัวก็จะไม่เป็นสีดำ แม้แต่ตาดำแป้งก็ไม่มีนะคะ
ข้อ 3 “เกิดมามีผิวเผือกแบบนี้ดูแลตัวเองยากมั้ย สุขภาพอ่อนแอกว่าคนผิวสีปกติหรือเปล่า ?” ในเรื่องของดูแลตัวเองก็แน่นอนค่ะว่าคนผิวเผือกจะต้องดูแลยากกว่าคนปกติ เพราะว่าผิวไม่มีเม็การเมลามีน เพราะฉะนั้นแป้งก็จะผิวไหม้ได้ง่ายถ้าเกิดว่าแป้งต้องตากแดดเป็นมาเวลานานมากๆ นะคะ แล้วก็มีความเสี่ยงมีจะเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากกว่าคนผิวสีปกติด้วย
และอีกประเด็นนึงที่แป้งรู้สึกว่าดูแลตัวเองยากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษเลยก็คือเรื่องสายตาของแป้งค่ะ เพราะว่าแป้งไม่มีตาดำ เพราะฉะนั้นตาของแป้งก็จะแพ้แสงด้วย แล้วแป้งก็ยังมีปัญหาหาในเรื่องของกร้วมเนื้อตาสั่นด้วยนะคะ ถ้าใครเคนได้ดูคลิปขอฃแป้งหลายๆ ก็จะสังเกตเห็นได้ว่าตาแป้งตะอยู่ไม่นิ่งแบบคนอื่นๆ ค่ะ แต่ว่าแป้งไม่แน่ใจนะคะว่าเรื่องกร้ามเนื้อตาสั่นคนผิวเผือกจะเป็นเหมือนกันทั้งหมดมั้ย แต่แป้งกับพี่ชายแป้งเป็นค่ะ
การมีปัญหาเรื่องกร้ามเนื้อตาสั่นนี่แหละค่ะที่ทำให้แป้งรู้สึกว่าใช้ชีวิตรำบากที่สุด เพราะว่ามันทำให้แป้งมองไกลไม่ได้ แล้วก็มองอะไรที่เล็กๆ ไม่ได้ มันจะเป็นอารมณ์เหมือนกล้องรุ่นเก่าๆ ที่จับโฟกัสได้ยากๆ อะค่ะ มันก็ไม่ได้เห็นเป็นภาพเบลอๆ นะคะ แต่ถ้าจะให้อ่านข้อความ อ่านป้ายตามทางก็คือแป้งไม่สามารถอ่านได้ หรือแม้แต่การอ่านหนังสือที่มีตัวหนังสือเล็กปป้งก็ต้องใช้แว่นขยายในการช่วยอ่านค่ะ ไม่งั้นก็คือแป้งจะไม่สามารถอ่านได้เลย
ส่วนเรื่องสุขภาพนะคะ แป้งเคยได้ยินมาว่า คนเผือกจะอายุสั้นกว่าคนปกติ แล้วก็จะมีสุขภาพที่อ่อนแอกว่าคนปกติ แต่สำหรับตัวแป้งเองแป้งขอไม่คอนเฟิร์มเรื่องนี้ค่ะ เพราะตอนเด็กๆ แป้งสุขภาพแข็งแรงมาก แทบไม่ป่วยเลย ปีนึงป่วยไม่เกิน 2 ครั้ง แต่ก็ยอมรับนะคะว่าพอโตมาแป้งก็ป่วยบ่อยขึ้นนะคะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะสรุปได้ว่าสุขภาพอ่อนแอกว่าคนปกติอะค่ะ อันนี้แป้งว่ามันน่าจะขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคน แล้วก็ขึ้นอยู่กับการใส่ใจในการดูแลสุขภาพของแต่ละคนมากกว่านะคะ
และอีกประเด็นนึงที่แป้งรู้สึกว่าดูแลตัวเองยากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษเลยก็คือเรื่องสายตาของแป้งค่ะ เพราะว่าแป้งไม่มีตาดำ เพราะฉะนั้นตาของแป้งก็จะแพ้แสงด้วย แล้วแป้งก็ยังมีปัญหาหาในเรื่องของกร้วมเนื้อตาสั่นด้วยนะคะ ถ้าใครเคนได้ดูคลิปขอฃแป้งหลายๆ ก็จะสังเกตเห็นได้ว่าตาแป้งตะอยู่ไม่นิ่งแบบคนอื่นๆ ค่ะ แต่ว่าแป้งไม่แน่ใจนะคะว่าเรื่องกร้ามเนื้อตาสั่นคนผิวเผือกจะเป็นเหมือนกันทั้งหมดมั้ย แต่แป้งกับพี่ชายแป้งเป็นค่ะ
การมีปัญหาเรื่องกร้ามเนื้อตาสั่นนี่แหละค่ะที่ทำให้แป้งรู้สึกว่าใช้ชีวิตรำบากที่สุด เพราะว่ามันทำให้แป้งมองไกลไม่ได้ แล้วก็มองอะไรที่เล็กๆ ไม่ได้ มันจะเป็นอารมณ์เหมือนกล้องรุ่นเก่าๆ ที่จับโฟกัสได้ยากๆ อะค่ะ มันก็ไม่ได้เห็นเป็นภาพเบลอๆ นะคะ แต่ถ้าจะให้อ่านข้อความ อ่านป้ายตามทางก็คือแป้งไม่สามารถอ่านได้ หรือแม้แต่การอ่านหนังสือที่มีตัวหนังสือเล็กปป้งก็ต้องใช้แว่นขยายในการช่วยอ่านค่ะ ไม่งั้นก็คือแป้งจะไม่สามารถอ่านได้เลย
ส่วนเรื่องสุขภาพนะคะ แป้งเคยได้ยินมาว่า คนเผือกจะอายุสั้นกว่าคนปกติ แล้วก็จะมีสุขภาพที่อ่อนแอกว่าคนปกติ แต่สำหรับตัวแป้งเองแป้งขอไม่คอนเฟิร์มเรื่องนี้ค่ะ เพราะตอนเด็กๆ แป้งสุขภาพแข็งแรงมาก แทบไม่ป่วยเลย ปีนึงป่วยไม่เกิน 2 ครั้ง แต่ก็ยอมรับนะคะว่าพอโตมาแป้งก็ป่วยบ่อยขึ้นนะคะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะสรุปได้ว่าสุขภาพอ่อนแอกว่าคนปกติอะค่ะ อันนี้แป้งว่ามันน่าจะขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคน แล้วก็ขึ้นอยู่กับการใส่ใจในการดูแลสุขภาพของแต่ละคนมากกว่านะคะ
ข้อ 4 “เพราะอะไรถึงเกิดมาเป็นแบบนี้ เคยมีญาติพี่น้องหรือมีกรรมพันธุ์ที่เป็นแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า ?” ในบรรดาญาติพี่น้ององแป้งเท่าที่แป้งรู้จักก็ไม่มีใครเป็นแบบนี้นะคะ นอกจากแป้งกับพี่ชาย แต่แป้งไม่แน่ใจว่ารุ่นก่อนๆ ที่แป้งไม่รู้จะมีใครเป็นบ้างหรือเปล่า
สาเหตุที่แป้งเป็นแบบนี้นะคะ เพราะว่าพ่อกับแม่แป้งมียีนด้อยเหมือนกันทั้งคู่ค่ะ พอยีนด้อยมาเจอกันยีนด้อยก็จะทำให้เกิดบางอย่างที่ผิดปกติขึ้นมาค่ะ
สาเหตุที่แป้งเป็นแบบนี้นะคะ เพราะว่าพ่อกับแม่แป้งมียีนด้อยเหมือนกันทั้งคู่ค่ะ พอยีนด้อยมาเจอกันยีนด้อยก็จะทำให้เกิดบางอย่างที่ผิดปกติขึ้นมาค่ะ
ข้อ 5 “ถ้าแป้งมีลูก ลูกของแป้งจะเกิดมาเป็นแบบแป้งหรือเปล่า ?” อย่างที่แป้งพูดไปในข้อ 4 นะคะว่าสาเหตุที่แป้งเกิดมาเป็นแบบนี้เป็นเพราะยีนด้อยมาเจอกับยีนด้อย เพราะฉะนั้นถ้าแป้งมีลูกค้าก็มีทั้งโอกาสทั้งที่ลูกจะเกิดมาเป็นแบบแป้งและไม่เป็นแบบแป้งค่ะ คือตัวแป้งเกิดมาเป็นแบบนี้แล้วก็คือแป้งเป็นยีนด้อย 100% ถ้าอีกฝ่ายนึงไม่ได้มียีนด้อยหรือยีนแฝงลูกของแป้งก็จะเกิดมามีผิวสีปกติ แต่ถ้าอีกฝ่ายนึงมียีนด้อยหรือยีนแฝงลูกของแป้งก็จะเกิดมาเป็นแบบแป้งค่ะ
อย่างพี่ชายของแป้งตอนนี้แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ตัวพี่สะไภ้ของแป้งเขาไม่มียีนด้อยหรือยีนแฝง ลูกของพี่ชายแป้งก็เกิดมามีผิวสีปกติค่ะ แล้วก็มีสุขภาพที่แข็งแรงดีด้วยนะคะ
อย่างพี่ชายของแป้งตอนนี้แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ตัวพี่สะไภ้ของแป้งเขาไม่มียีนด้อยหรือยีนแฝง ลูกของพี่ชายแป้งก็เกิดมามีผิวสีปกติค่ะ แล้วก็มีสุขภาพที่แข็งแรงดีด้วยนะคะ
และข้อสุดท้ายนะคะ อันนี้เป็นเราให้คำปรึกษาค่ะ “ถ้ามีลูกเป็นคนผิวเผือกต้องดูแลยังไง ?” คนผิวเผือกไม่ได้เลี้ยงยากเลยนะคะ เพียงแค่เราต้องเข้าใจก่อนค่ะว่าเขาไม่เหมือนคนอื่น เนื่องจากว่าเขามีผิวที่ไวต่อแสงกว่าคนอื่นๆ ก็แค่ตวรที่จะหลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดเเป็นเวลานาน หรือถ้าจำเป็นที่จะต้องตากแดดจริงๆ ก็ควรที่จะมีการป้องกันผิวด้วย เช้น การใส่เสื้อแขนยาว การกางร่ม แล้วก็การทาครีมกันแดดค่ะ โดยเฉพาะครีมกันแดดนะคะเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าจะออกแดดหรือไม่ออกก็ควรทาทุกวัน ห้ามลืมเลยนะคะ เพราะว่าแดดเมืองไทยแรงมาก ถึงเราจะหลบอยู่ในร่มแต่รังสีจากแดดก็ยังสามารถเข้ามาทำร้านผิวเราได้ค่ะ
นอกจากเรื่องของแสงแดดแล้ว เรื่องของความร้อนก็มีผลนะคะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำให้ผิวไหม้เหมือนกันตากแดด แต่ว่าผิวก็จะแดงและแสบร้อนค่ะ ไม่เกี่ยวกับความขี้ร้อนนะคะ คือแป้งเป็นที่อยู่ในที่ร้อนได้ ความรู้สึกแป้งทนได้ แต่ผิวแป้งมันทนไม่ได้ อย่างตอนเด็กๆ ที่โรงเรียนก็จะมีกิจกรรมพวกยุวกาชาติหรือเนตรนารีกันใช่มั้ยคะ พวกนี้คือต้องทำกิจกรรมกลางแดด แต่ว่าคุณครูให้แป้งเป็นเราพิเศษให้เข้าไปอยู่ในร่ม ซึ่งร่มในตอนนั้นที่มีก็จะเป็นพวกหลังคาสังกะสีกับเต็นท์ผ้าใบ ความคิดของคนอื่นก็คือแป้งสบายได้หลบอยู่ในร่ม และตัวแป้งเองตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกร้อนหรือทรมานอะไร แต่พอกลับมาถึงบ้านปุ๊บพอถอดชุดออกมาคือแบบเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะว่าผิวส่วนที่อยู่นอกเสื้อผ้าจะแดงมากๆ คล้ายเวลาโดนน้ำร้อนลวกแต่ไม่ได้ลวกนานจนถึงขั้นพุพองอะค่ะ และก็จะมีอาการแสบร้อนด้วย แต่บางครั้งในชีวิตจริงแต่ให้เราระวังได้ดีแค่ไหนยังไงก็ต้องมีพลาดกันบ้าง ก็เองเป็นว่าถ้าลูกของใครเกิดอาการแสบร้อนผิว หรือผิวพุพองขึ้นมาแนะนำว่าให้ใช้อโลเวร่าเตลทาผิวนะคะ เพราะว่าเขาช่วยดูดซับความร้อนออกจากผิวได้ดีมากๆ
แล้วก็เรื่องสายตานะคะ อันนี้ต้องลงทุนนิดนึงค่ะ ห้ามซื้อแว่นกันแดดราคาถูกเด็ดขาด ต้องซื้อแว่นกันแดดที่เป็นแว่นกันแดดจริงๆ เท่านั้น พวกแว่นดำราคาถูกๆ แป้งก็เห็นว่ามีบางอันที่เขาบอกว่ากันแดดได้จริง แป้งแป้งก็ไม่มั่นใจนะคะว่ากันได้จริงมั้ย แต่ที่แป้งจะพูดถึงก็คือส่วนมากมันจะเป็นแค่กระจกย้อมสี ซึ่งเวลาเราใส่มันก็จะช่วยลดแสงลงได้ แล้วรูม่านตาของเราก็จะขยายได้มากขึ้น แต่ตัวแว่นมันไม่สามารถกรองรังสียูวีได้ เพราะฉะนั้นรังยูวิมันก็จะเข้าไปทำร้ายตาเราได้แบบเต็มๆ เลยค่ะ ก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะเป็นจอประสาทตาเสื่อม หรืออาจจะตาบอดไปเลยก็ได้นะคะ แต่สำหรับแว่นกันแดดที่กันแดดได้จริงๆ ที่เชื่อถือได้ ราคามันก็จะสูงนิดนึง แต่ว่าพอเราใส่ไปแล้วเวลาที่รูม่านตาเราขยาย ตัวเลนส์ก็จะสามารถกรองรังสีให้เราได้ ตาของเราก็จะไม่ถูกทำร้ายค่ะ
ประเด็นที่สำคัญๆ สำหรับคนผิวเผือกก็มีแค่ 2 ประเด็นนี้แหละค่ะ ก็คือ ผิว และ ตา นะคะ อ๊ะ....ใช่! มีอีกอย่างคือ คนที่เกิดมาเป็นผิวเผือกมักจะโดนล้อและโดนแกล้งมากกว่าเด็กคนอื่นๆ นะคะ สิ่งสำคัญก็คิอการให้กำลังใจค่ะ ถ้าพอแม่เขเาใจและคอยให้กำลังใจอยู่อยู่เสมอจะทำให้ลูกมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปได้มากที่สุด และก็จะไม่คิดท้อแท้ที่ตัวเองเกิดมาไม่เหมือนใคร
ใครกำลังจะมีลูกถ้ากลัวว่าลูกจะเกิดมามีผิวเผือกแบบนี้ก็สามารถไปตรวจก่อนที่จะมีลูกได้นะคะ ที่แป้งแนะนำแบบนี้ไม่ใช่เพราะแป้งรังเกียจหรือไม่เห็นคุณค่าในตัวเองนะคะ แต่แป้งมองว่าการทำเกิดมาเป็นแบบนี้มันก็ใช้ชีวิตยากอยู่เหมือนกัน ด้วยเหตุผลหลักคือเรื่องของสายตา ซึ่งมันไม่สามารถรักษา มีแค่เรื่องตาเรื่องเดียวเลยที่ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากให้ลูกเป็นแบบแป้ง นอกนั้นแป้งก็ไม่รู้สึกแะไรนะคะ แป้งคิดว่าเราก็คือคนปกติ แค่เราต้องรักตัวเองและดูแลตัวเองให้มากกว่าปกติแค่นั้นเองค่ะ
นอกจากเรื่องของแสงแดดแล้ว เรื่องของความร้อนก็มีผลนะคะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำให้ผิวไหม้เหมือนกันตากแดด แต่ว่าผิวก็จะแดงและแสบร้อนค่ะ ไม่เกี่ยวกับความขี้ร้อนนะคะ คือแป้งเป็นที่อยู่ในที่ร้อนได้ ความรู้สึกแป้งทนได้ แต่ผิวแป้งมันทนไม่ได้ อย่างตอนเด็กๆ ที่โรงเรียนก็จะมีกิจกรรมพวกยุวกาชาติหรือเนตรนารีกันใช่มั้ยคะ พวกนี้คือต้องทำกิจกรรมกลางแดด แต่ว่าคุณครูให้แป้งเป็นเราพิเศษให้เข้าไปอยู่ในร่ม ซึ่งร่มในตอนนั้นที่มีก็จะเป็นพวกหลังคาสังกะสีกับเต็นท์ผ้าใบ ความคิดของคนอื่นก็คือแป้งสบายได้หลบอยู่ในร่ม และตัวแป้งเองตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกร้อนหรือทรมานอะไร แต่พอกลับมาถึงบ้านปุ๊บพอถอดชุดออกมาคือแบบเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะว่าผิวส่วนที่อยู่นอกเสื้อผ้าจะแดงมากๆ คล้ายเวลาโดนน้ำร้อนลวกแต่ไม่ได้ลวกนานจนถึงขั้นพุพองอะค่ะ และก็จะมีอาการแสบร้อนด้วย แต่บางครั้งในชีวิตจริงแต่ให้เราระวังได้ดีแค่ไหนยังไงก็ต้องมีพลาดกันบ้าง ก็เองเป็นว่าถ้าลูกของใครเกิดอาการแสบร้อนผิว หรือผิวพุพองขึ้นมาแนะนำว่าให้ใช้อโลเวร่าเตลทาผิวนะคะ เพราะว่าเขาช่วยดูดซับความร้อนออกจากผิวได้ดีมากๆ
แล้วก็เรื่องสายตานะคะ อันนี้ต้องลงทุนนิดนึงค่ะ ห้ามซื้อแว่นกันแดดราคาถูกเด็ดขาด ต้องซื้อแว่นกันแดดที่เป็นแว่นกันแดดจริงๆ เท่านั้น พวกแว่นดำราคาถูกๆ แป้งก็เห็นว่ามีบางอันที่เขาบอกว่ากันแดดได้จริง แป้งแป้งก็ไม่มั่นใจนะคะว่ากันได้จริงมั้ย แต่ที่แป้งจะพูดถึงก็คือส่วนมากมันจะเป็นแค่กระจกย้อมสี ซึ่งเวลาเราใส่มันก็จะช่วยลดแสงลงได้ แล้วรูม่านตาของเราก็จะขยายได้มากขึ้น แต่ตัวแว่นมันไม่สามารถกรองรังสียูวีได้ เพราะฉะนั้นรังยูวิมันก็จะเข้าไปทำร้ายตาเราได้แบบเต็มๆ เลยค่ะ ก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะเป็นจอประสาทตาเสื่อม หรืออาจจะตาบอดไปเลยก็ได้นะคะ แต่สำหรับแว่นกันแดดที่กันแดดได้จริงๆ ที่เชื่อถือได้ ราคามันก็จะสูงนิดนึง แต่ว่าพอเราใส่ไปแล้วเวลาที่รูม่านตาเราขยาย ตัวเลนส์ก็จะสามารถกรองรังสีให้เราได้ ตาของเราก็จะไม่ถูกทำร้ายค่ะ
ประเด็นที่สำคัญๆ สำหรับคนผิวเผือกก็มีแค่ 2 ประเด็นนี้แหละค่ะ ก็คือ ผิว และ ตา นะคะ อ๊ะ....ใช่! มีอีกอย่างคือ คนที่เกิดมาเป็นผิวเผือกมักจะโดนล้อและโดนแกล้งมากกว่าเด็กคนอื่นๆ นะคะ สิ่งสำคัญก็คิอการให้กำลังใจค่ะ ถ้าพอแม่เขเาใจและคอยให้กำลังใจอยู่อยู่เสมอจะทำให้ลูกมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปได้มากที่สุด และก็จะไม่คิดท้อแท้ที่ตัวเองเกิดมาไม่เหมือนใคร
ใครกำลังจะมีลูกถ้ากลัวว่าลูกจะเกิดมามีผิวเผือกแบบนี้ก็สามารถไปตรวจก่อนที่จะมีลูกได้นะคะ ที่แป้งแนะนำแบบนี้ไม่ใช่เพราะแป้งรังเกียจหรือไม่เห็นคุณค่าในตัวเองนะคะ แต่แป้งมองว่าการทำเกิดมาเป็นแบบนี้มันก็ใช้ชีวิตยากอยู่เหมือนกัน ด้วยเหตุผลหลักคือเรื่องของสายตา ซึ่งมันไม่สามารถรักษา มีแค่เรื่องตาเรื่องเดียวเลยที่ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากให้ลูกเป็นแบบแป้ง นอกนั้นแป้งก็ไม่รู้สึกแะไรนะคะ แป้งคิดว่าเราก็คือคนปกติ แค่เราต้องรักตัวเองและดูแลตัวเองให้มากกว่าปกติแค่นั้นเองค่ะ
ก็หมดไปแล้วนะคะสำหรับคำถามยอดฮิตของแป้ง แป้งก็หวังว่ากระทู้นี้จะได้ช่วยไขข้อข้องใจให้กับใครหลายๆ คนนะคะ แล้วก็หวังว่ากระทู้จะมีประโยชน์กับคนที่มีลูกผิวเผือกแบบแป้งด้วยค่ะ แป้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยนะคะ ใครที่อยากทราบอะไรเพิ่มเติมหรืออยากปรึกษาเรื่องเลี้ยงดูลูกที่เป็นผิวเผือกแบบแป้ง Inbox มาที่ FB : Pangculalla Chanel ได้เลน แป้งยินดีพฤดูคุยและตอบคำถามทุกคนเลยนะคะ และถ้าใครชอบกระทู้ของแป้งก็อย่าลืมกด Follow เพื่อติดดูกระทู้ใหม่ๆ ของแป้งด้วยนะคะ