ถ้าไม่อยากหน้าพังโปรดอ่าน แชร์วิธีรักษาผิวแพ้ง่าย 4 ขั้นตอน
toeyyu 21 9เพื่อนที่รู้จักเป็นกันเยอะมาก ไอเราก็มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ส่วนนึงก็คิดว่าน่าจะมาจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ๆกันนี้แหละ เลยขอมารีวิววิธีดูแลตัวเอง แม้ว่าสาเหตุของผิวแพ้ง่ายเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกันค่ะ แต่หลักๆในความคิดเรา คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองผิวบ่อย ๆ มีอาการอักเสบของผิวซ้ำ ๆ โครงสร้างของผิวก็เลยถูกทำลายจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ พาลไปทำให้ภูมิคุ้มกันของผิวอ่อนแอลง ผิวอ่อนแอลงก็เกิดอาการต่าง ๆ ของผิวแพ้ง่าย TT
ดังนั้นใคร ๆ ก็มีโอกาสเป็นผิวแพ้ง่ายได้ ที่เคยอ่านเจอมาคือ ผู้หญิงก็มักจะเป็นบ่อยกว่าผู้ชายน้า เพราะใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางมากกว่าไงค่ะ
วันนี้ขอมาแชร์ 4 ขั้นตอนที่ทำง่ายๆ แต่ให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น ผ่านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะกับคนที่ผิวบอบบางนั้นเองค่ะ มีอะไรบ้าง ไปชมกันเน้ออ
1.การรักษาผิวให้สะอาดอยู่เสมอจ้า ทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งตกค้างให้หมดในทุกๆ วัน เป็นการเตรียมผิวเพื่อพร้อมรับการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป ให้เลือกใช้ make up remover สำหรับเครื่องสำอางกันน้ำ หรือ waterproof ไปเลยค่ะ
ตัวที่ใช้อยู่และคิดว่าดีย์ต่อใจไม่เปลี่ยนไปไหนคือ Biore Makeup Remover Cleansing Milk เป็นสูตรเก่านานนมที่ใช้มานานแล้ว เพราะสะอาดจริง ใบหน้าไร้คราบในทันที ตัวนี้เค้าเป็นโลชั่นน้ำนมค่ะ แบรนด์คุณภาพจากประเทศญี่ปุ่นที่คุ้นตากันมานาน ช่วยกำจัดเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าได้อย่างอ่อนโยน ชอบเป็นพิเศษเพราะลดการเสียดสีบนผิวหน้า ตัวนี้ล้างออกด้วยน้ำได้ทันที ไม่ต้องใช้สำลีเช็ด ทำให้ปกป้อง ph Balance ตามธรรมชาติบนผิวหน้าของเราได้ดี ยังมี Moist&Fresh Balance คืนความชุ่มชื้นขณะนวด ให้ผิวสะอาดเอี้ยม อ่อนนุ่ม ไม่แห้ง ไม่ตึงหลังล้าง เลยไม่ระคายเคืองผิวเลย ตอบโจทย์มากๆเลิฟมากค่ะ
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว ให้เพื่อนๆหลีกเลี่ยงกลุ่มที่เป็นสบู่เพราะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น แห้งกรังบางลงไปอีก เอาแบบเข้าใจง่ายๆ ให้เพื่อนๆเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม ที่เขียนว่า soap free และมีค่า pH ที่เหมาะสมใกล้เคียงกับผิวมากที่สุด แม้ได้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับตัวเองแล้วแต่อย่าลืมหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นนะคะ เพราะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น ที่สำคัญหลีกเลี่ยงกลุ่มที่มี scrub หรือสารขัดผิวต่าง ๆ ด้วยยิ่งดีต่อใจ ต่อหน้ามากจ้า
ตัวนี้แชร์เพื่อนบ่อยมาก ชื่อ La roche-posay effaclar purifying foaming gel
เป็นโฟมล้างหน้าเนื้อเจลสูตรอ่อนโยนพิเศษเลยค่ะ ฟองเค้าน้อย แต่ทำความสะอาดผิวหน้าได้เลิศสุด หลักๆช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ขจัดสิวอุดตันได้ด้วยสูตร Soap-free กระซิบสักนิด สูตรนี้ไม่ผสมแอลกอฮอล์นะจ้ะ คือต่อใจไปอี๊กก ทั้งยังมีค่า pH 5.5 ที่ใกล้เคียงกับผิวมากๆ สำหรับตัวนี้ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับผิวมันที่ระคายเคืองง่ายด้วยนะ เพราะใช้แล้วหน้าไม่มันระหว่างวันเลย ตัวนี้พนักงานยังเคลมว่าสามารถใช้คู่การรักษาของหมอได้อีกด้วยค่ะ ใช้ต่อไม่รอแล้วน้า
3. ขั้นตอนที่สาม ก็คือการลงสกินแคร์ โดยส่วนตัวจะซีเรียสมากๆ พยามบอกเพื่อนๆที่มาปรึกษาตลอดว่าให้หลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนประกอบของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารกันเสีย (พาราเบน)จะดีงามพระรามแปด แม่สกินแคร์อื่นๆจะบอกเล่าสรรพคุณเลิศเลอแค่ไหนให้ปล่อยผ่านทันที อย่าได้แตะต้องหากมีส่วนผสมเหล่านี้
ถ้าอยากให้หน้าดีวันดีคืน นอกจากจะเลือกกลุ่มที่ไม่มีน้ำหอมและสารกันบูดแล้ว การส่องดูที่ส่วนประกอบยิ่งเห็นว่ามีสารต้านการอักเสบ ตัวนี้ละคะจะยิ่งช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น และช่วยการรักษาหน้าที่ได้ผลดีอีกด้วยนะคะ
สำหรับสกินแคร์ที่จะมาบอกต่อ บอกเลยว่าใช้มานานมาก จนไม่อาจนับจำนวนได้ ชื่อ Neeracha Organic moisturizer เป็นแนวครีมบำรุงผิวสูตรออแกนิค 100% ไม่มีส่วนผสมสารเคมีใดๆให้ต้องนอนก่ายหน้าผากอีกต่อไป แถมตัวนี้เลิฟจริงๆเพราะเค้าจะฟื้นฟูผิวจากการอักเสบ ระคายเคืองได้ดีมาก แต่ยังมอบความนุ่มชุ่มชื้นให้ผิว ให้ดูกระชับอ่อนเยาว์ สุขภาพดีด้วยคุณค่าของสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด จะขอยกตัวอย่างเช่น
สารสกัดจากทับทิมพันธุ์ดี ที่อุดมไปด้วย สารAnthocyaninซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ ตัวนี้ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยทั้ง 7 ประการ ลดการผลิตของเม็ดสี ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส
Organic Glycerin ที่สกัดจากพืช ดูดซับน้ำจากอากาศเข้ามาสู่ผิว ทำให้ผิวไม่แห้งตึง ชุ่มชื้นสุขภาพดี การันตีโดยสถาบันECOCERT ว่าอ่อนโยนมากสําหรับผิวแพ้ง่าย
หลายคนที่ลองแบรนด์ออแกนิคตัวอื่นมา ชอบบ่นว่ากลิ่นมันจะแปลกๆ เหมือนต้นไม้ใบหญ้าเพราะออแกนิคแท้ๆเค้าไม่ได้ผสมน้ำหอมกันนะสิ แต่บอกเลยว่าครีมneeracha ตัวนี้เค้ามีส่วนผสมของ Essential oil ที่มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะจากพืชพรรณธรรมชาติ อย่างRose Geranium, GrapefruitEucalyptus,Petitgrainและ Rosemarryผสมผสานเข้าด้วยกัน ตอนใช้แล้วจะเกิดกลิ่นหอมอย่างลงตัวที่ช่วยให้ผ่อนคลายมากๆอีกด้วยค่ะ แถมหอมได้แบบฟินๆไม่ต้องกลัวแอลกอฮอล์อีกด้วย
และเทคโนโลยีล่าสุดจากธรรมชาติ Liquid crystal structure ที่นำสารอาหารบำรุงเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก ก็พูดอยู่ว่าไทยแลนด์เป็นเมืองร้อน หลายคนอาจจะไม่โอเคกับการทาครีมเนื้อข้นๆ เหนียวๆ ทาแล้วเหนอะหน้า จะทาเฉพาะตอนนอนในห้องแอร์เท่านั้น กลางวันไม่ทาครีม คนรักผิวทนไม่ได้ค่ะ! งั้นใช้ตามจขกท.ได้เลยนะคะ ลองตัวนี้แล้วจะติดใจแน่นอน ทาได้ทั้งกลางวันกลางคืนรัวๆไปค่ะ
จุดเด่น เนื้อครีมเนียนละเอียดแทรกซึมลงผิวล้ำลึก ลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เป็นสาเหตุของฝ้า กระ จุดด่างดำ เสร็จแล้วปุ๊ปยังช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ริ้วรอยลดลง ถือว่าเป็นเครื่องสำอางออแกนิคที่มีคุณสมบัติครอบจักรวาลมากจริง มาเทียบกับราคาแล้วเลิฟมากกก ซื้อต่อไม่รอแล้วค่ะ!!
4. สุดท้ายคือ ครีมกันแดด แนะนำให้ใช้เสมอนะคะ แต่คนผิวแพ้ง่ายให้เลือกกลุ่มที่เป็น Physical sunscreen (ตัวนี้จะมีส่วนผสมหลักเป็นสารจากธรรมชาติ อย่างสาร Titanium dioxide และ zinc oxide ที่ช่วยสะท้อนรังสี UVA, UVB ให้ออกจากผิว สาวๆ ที่ผิวแพ้ง่ายแนะนำให้ใช้อันนี้ค่า เพราะเราก็ใช้แบบนี้อยู่เหมือนกัน) ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่ากลุ่ม chemical sunscreen นั้นเองจ้า
กันแดดที่ใช้อยู่ตอนนี้เลยคือ Provamed sunface spf 50+ pa+++ non chemical sunscreen
เพราะอย่างที่เกริ่นเน้อ ปราศจากสารเคมี (Non Chemical Sunscreen) พัฒนาและค้นคว้าโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เนื้อครีมนิ่มละเอียด บางเบา ซึมเร็ว กลมกลืนทุกสีผิว ช่วยปกปิดริ้วรอยได้ด้วย ทำให้เมคอัพสว่างใสขึ้น ไม่ทำให้หน้ามันวาวระหว่างวัน ไม่อุดตันรูขุมขน ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB สูงสุดถึง 50 เท่า สูตรกันน้ำ เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายอย่างมาก
แนะนำว่าให้ทาทั่วใบหน้าและลำคอก่อนออกแดด ประมาณ 15 นาทีน้า อันนี้สำคัญๆ
เป็นไงกันบ้างค่ะ กับการดูแลผิวแพ้ง่ายนั้นไม่ยากเลยใช่ไหม อาศัยการเข้าใจตัวเองและดูแลผิวแบบพื้นฐานก็เพียงพอแล้ว เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ราคาแพงหรือเคาเตอร์แบรนด์บางตัวแต่มีสารเคมีที่ไม่ตอบโจทย์คนหน้าแพ้ ก็เหมือนการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ไม่มีความจำเป็นเท่าการดูแลผิวโดยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับใบหน้าของเราในทุก ๆ วัน