รีวิว ⚡️ น้ำหอมแบรนด์ไทยที่ติดใจอยู่ตอนนี้

       เริ่มกันที่แบรนด์แรกค่ะ    
       Butterfly Thai perfume

       1. กลิ่นพลับพลึงแพร์
ตัวนี้เป็นกลิ่นโปรดที่ใช้เองค่ะ แนวหวานๆ ฟรุตตี้ๆ แน่นๆ หน่อย ไม่ฟอรัลเท่าไหร่ ดูสดใสๆ แก่นซ่าดีค่ะกลิ่นนี้ แต่ฉีดเยอะไม่ได้ เดินออกจากบ้านทียามหมู่บ้านก็ทักค่ะ เพราะกลิ่นชัดมาก วันไหนร้อนๆ มีฉุนเวียนหัวพอสมควร

       2. กลิ่นใบกระวาน
กลิ่นนี้เป็นกลิ่นโปรดที่ไม่ได้ใช้เองค่ะ กลิ่นนี้สำหรับแน้งว่าเป็นกลิ่นสไตล์ผู้ชายค่ะ รู้วึกสะอาด สดชื่น มีกลิ่นเปรี้ยวเตะจมูกแต่มีหวานนิดๆ ผสมกับกลิ่นใบกระวานค่ะ แต่ที่ชอบคือไม่ได้รู้สึกว่า มันกลิ่นแรงเกินไป มันแอบรู้สึกมีสเน่ห์ เซ็กซี่เล็กๆ 555555555 

       น้ำหอมของ Butterfly Thai Perfume เบสเขาเป็นน้ำมันค่ะ ซึ่งถ้าร้อนๆ ก็จะมีความเหนียวเหนอะหนะตัวได้ ที่สำคัญถ้าฉีดโดนเสื้อผ้าจะเป็นคราบได้ค่ะ เพราะเพื่อนเราก็แอบเป็นคราบเพราะใช้บ่อย แต่ความทนนี่คือทนมากกกก ติดเสื้อผ้าซักแล้วกลิ่นก็ยังอยู่นะคะ
       ปล. แบรนด์นี้เขาทำกลิ่นได้ออกมาเหมือนเคาท์เตอร์แบรนด์หลายตัวอยู่นะคะ อย่างเช่น กฤษณากำยาน เราว่าคล้ายตัว English pear ของโจมาโลน + narciso rodriguez for her อยู่ค่ะ แต่เราว่าของฝั่งไทยดูกลิ่นแน่นๆ แรงๆ กว่า

ความทน : 8/10
ราคา : 259/10ml., 959/60ml.

     มาต่อกันที่แบรนด์ที่ 2 คือ 'MITH' The original taste นี่ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ทำน้ำหอมออกมาได้หอมมากกกกกกกก และกลิ่นเยอะมากกกกก ซึ่งบ่งบอกความเป็นไทยได้จากชื่อแบรนด์ ซึ่งก็คือ MITH = Made in Thailand
       ทางแบรนด์มีช็อปอยู่ที่เซนทรัลเวิร์ลชั้น 3 นะคะ เราจะได้กลิ่นอ่อนๆ เพราะนอกจากน้ำหอมแล้ว ก็ยังมีพวกเครื่องหอม เทียนหอม ต่างๆ ด้วยค่ะ
       ซึ่งแน้งก็โดนไปอีก 3 ขวด 3 กลิ่น 3 สไตล์ด้วยกันค่ะ

       1. Lovely pear
กลิ่นนี้พนักงานให้เทสกลิ่นแรกเลยแล้วแบบ เอ้ะ ทำไมรู้สึกถูกจริต ความหวานอ่อนๆ เปรี้ยวๆ รู้สึกซุกซนอ่ะค่ะ เลยเก็บไว้ในใจก่อน และก็หันกลับไปบอกว่าเอา lovely pear ไซส์ใหญ่ 1 ขวดนะคะ
กลิ่นนี้รู้สึกว่าฉีดได้ทุกวันเลย ฉีดง่าย ดูแบบไม่ต้องคิดเยอะ คิดไม่ออกก็อ่ะตัวนี้ละกันน

       2. Mellow musks 
กลิ่นนี้ได้มาจากการรีเควสว่า ขอหวานๆ ขนมๆ ก็เลยได้มา กลิ่นแรกคือจูปาจุ้ปส์สีชมพูอ่ะค่ะ มันหวานหอมมาก่อนเลย แล้วค่อยอ่อนลงเป็นหวานอมเปรี้ยว แต่ยังมีความเป็นสาวหวานชุดชมพูใส่หูกระต่าย ในใจแอบกลัวจะเวียนหัวเวลาที่ใช้ในวันที่อากาสร้อน แต่พนักงานบอกว่า ลูกค้าหลายคนคิดใจแน้งเลยเอามาลองก่อน 1 ขวดไซส์ 10 ml ค่ะ ซึ่งแพคเกจน่ารักมากกกก เป็นกล่องทรงกระบอกสีน้ำเงินแล้วใส่น้ำหอมข้างในอีกที คือพกพาง่ายไม่ต้องกลัวแตกด้วยค่ะ

        3. Pepper & grapefruit
กลิ่นนี้อ่านชื่อแล้วเอ้อมีความ pepper & grapefruit เลยขอลองดม พอได้กลิ่นก็คือ ขอขวดนี้ไซส์เล็ก 1 ขวดนะคะ (จนพี่ลูกค้าอีกคนหันมาเอ้ะว่าทำไมเลือกน้ำหอมไวมาก) เลยตอบไปว่า ได้กลิ่นแล้วนึกถึงแฟนก่อนเลย มันแนวๆ ผู้ชายอ่ะค่ะ คล้าย burburry ซักตัวนึงจำชื่อไม่ได้ พนักงานบอกว่าตัวนี้คือ Best seller ฝั่งผู้ชายเลยค่ะ 

       น้ำหอมของ MITH หอมมีเอกลักษณ์ดีนะคะ ซึ่งมันจะไม่ไทยมาก จะต่างกับฝั่ง butterfly ที่เขาตั้งชื่อไหนก็กลิ่นแบบนั้นเลย แต่ของ MITH จะมีกลิ่นที่หลากหลายกว่า ซึ่งก็แล้วแต่คนชอบค่ะ

ความทน : 7/10 (แน้งว่าไม่ค่อยทนซักเท่าไหร่)
ราคา : 299/10ml , 700++/50ml
ราคาของน้ำหอมจะไม่เท่ากันนะคะ แล้วแต่กลิ่นด้วย

        อยากให้ทุกคนได้ลองไปเทสกลิ่นกันนะคะ ในเคาท์เตอร์ของ MITH มีอีกแบรนด์นึง คาดว่าน่าจะเป็นเครือเดียวกันก็คือ PROAD (โปรด) ส่วนตัวว่าราคาเอาเรื่องอยู่นะคะ ประมาณ 1,700-2,000++ แต่หอมมากค่ะแอบไปดมมา
        ใครไม่รู้จะใช้น้ำหอมอะไรหรืออยากลองอะไรใหม่ๆ ก็ลองน้ำหอมแบรนด์ไทยบ้างนะคะ เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจค่ะ น้ำหอมไทยมีหลายแบรนด์มากๆ ไว้เดี๋ยวจะมารวบรวมให้ชม ให้ดม กันอีกทีนะคะ