[Review] My Skincare Routine ฉบับในวันที่แย่ แต่ยังมีหน้าเราที่ดี
turtle.yolq
66
27
สวัสดีค่ะทุกคน คือจริงๆ ก็แอบเขินชื่อหัวกระทู้นิดหน่อย แต่ก็อาศัยความมั่นหน้าเข้าสู้ 5555
เข้าเรื่องคือ วันนี้เราจะมาอัพเดทมายสกินแคร์รูทีน ที่ช่วงนี้ใช้แล้วลงตัวแม้แต่วันที่แย่ๆ ก็ยังมีผิวหน้าที่ดี หมายถึง แบบว่าช่วงที่เรานอนน้อย นอนไม่หลับข้ามวันข้ามคืน ผิวทั้งหน้าก็ยังรอด
จะมีอะไร และใช้แล้วเป็นยังไงบ้างมาดูกันเลยค่ะ เย่ <3
ภาพรวมน้องๆ ทุกชิ้นค่า จะขอไล่เรียงลำดับตามที่ใช้นะคะ
BANILA CO Clean It Zero Cleansing Balm (890.-)
หนึ่งในคลีนซิ่งที่พูดถึงบ่อยมากก ใช้จนใกล้หมดกระปุกแล้วแจ้ เป็นคลีนซิ่งเนื้อเชอร์เบทสัญชาติเกาหลี ที่ทำความสะอาดได้แบบออลอินวัน เนื้อสัมผัสตอนแรกจะเป็นบาล์มสีขาว พอนวดวนแล้วจากบาล์มจะละลายกลายเป็นออยล์ ใช้น้ำลูบแล้ววนอีกจะเป็นน้ำนม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ (จากน้ำหอมถ้าไม่มั่นใจลองไปเทสต์ที่ช็อปก่อนเด้อ) ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีมากกก หลุดง่าย+หลุดหมด แม้แต่มาสคาร่าที่ทนเว่อร์ แล้วราคาพอเทียบกับใช้ได้นานคือคุ้มฝุดๆ
THREE Balancing Foam (1440.-)
ต่อให้คลีนซิ่งจะลบเมคอัพได้ดีแค่ไหน ก็ต้องต่อด้วยโฟมล้างหน้าเสมอน้า เพื่อให้มั่นใจว่าผิวเราสะอาดจริงๆ นางเป็นโฟมล้างหน้าสัญชาติญี่ปุ่นที่ มีส่วนผสมจากธรรมชาติสูง เน้นเรื่องการปรับสมดุลผิว เนื้อโฟมเป็นสีขาวแน่นๆ แต่สัมผัสนุ่ม ละมุนผิว กลิ่นหอมผ่อนคลายแอบออกแนวสปาสมุนไพร หลังล้างออกแล้วผิวสะอาดกรึ๊บ รู้สึกโล่งฝุดๆ แต่ก็ช่วยคงสมดุลหน้าไว้ ไร้ความมันส่วนเกิน แต่ไม่แห้งตึงเลย เราชอบมากก และใช้ได้นานเว่อร์ เพราะใช้แค่ทีละนิดก็เอาอยู่แล้วเด้อ
THREE Thailand Skincare (2,200.-)
เคยรีวิวฉบับจัดเต็มไปแล้ว และก็ยังใช้ต่อมาเรื่อยๆ นางเป็นโลชั่น Aroma U&R ตัวลิมิเต็ด จาก THREE เนื้อสัมผัสเป็นโลชั่นเหลวใส ไม่มีสี แต่มีกลิ่นอโรม่าจาก Essential Oil ถึง 4 ตัว ซึมไว ทาแล้วเย็นเบาๆ ช่วยปรับอุณหภูมิ และปรับสมดุลผิว แค่เทลงสำลีแล้วซับผิวเบาๆ เราใช้ตัวนี้แทนโทนเนอร์มาได้เกือบเดือน ชอบที่ไม่ต้องใช้สำลีเสียดสีหน้าแต่ก็ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงขั้นถัดไปได้ดีพอๆ กัน ผิวชุ่มชื้นเบาๆ และรู้สึกสดชื่นยาวนาน แต่มีแอลกอฮอล์น้า ใครที่ไม่มั่นใจแนะนำให้ไปลองเทสต์ที่เคาท์เตอร์ก่อนเด้อ
ขอบอกก่อนว่า 3 ตัวนี้ไม่ได้ใช้พร้อมกันเด้อ
เดี๋ยวจะบอกวิธีใช้ในภาพถัดไปนะคะ ขอเริ่มตั้งแต่ตัวหน้าสุดเด้อ
Fyne Bha Clarifying Serum (990.-)
เห็นพี่ที่เราตามอยู่เขาพูดถึงบ่อยมาก แล้วอดใจไม่ไหวเด้อ นางเป็นเซรั่ม BHA เข้มข้น 2 % สัญชาติไทยที่ดีงามและอ่อนโยนมากก เนื้อสัมผัสจะเป็นเซรั่มใส ไม่มีสี แอบกึ่งเจลหน่อยๆ และไม่มีกลิ่น ใช้แล้วไม่อุดตันหรือระคายเคืองเลย สามารถใช้ได้ทุกวันเช้า-เย็น ไม่มีความยิบยับตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ รู้สึกเลยว่า ช่วยเรื่องสิวดี สิวหายไวขึ้น (ปกตินานๆขึ้น และก็นานๆหาย) ไม่ทิ้งรอยไว้ให้ช้ำใจ+ช่วยลดรอยดำจากสิวเก่าๆ รู้สึกช่วยให้ผิวเนียนนนนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น และรูขุมขนดูจางลงด้วยเด้อ ใครที่กำลังเป็นสิว หรืออยากอยู่ให้ห่างจากสิวแนะนำตัวนี้เลย
THE ORDINARY AHA30%+BHA2% (ประมาณ 250 ไม่รวมส่ง+ภาษี)
ตัวนี้พรีมาใช้นานอยู่ บอกเลยว่าต้องใช้แบบระวังมากกก นางเป็นกรด AHA สัญชาติแคนาดาที่แรงมากจริงๆ แม่มาดามเกรียนและพี่ปูเป้ยังไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่เด้อ เนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มกึ่งเจลคล้ายตัวบนแต่ตัวนี้สีจะแดงเหมือนเลือด กลิ่นบอกไม่ถูกแต่ก็ได้กลิ่นค่อนข้างชัด ใช้แล้วจะรู้สึกยิบยับที่ผิว หลังใช้รู้สึกเลยว่า เซลล์ผิวที่ตายแล้วหายไป ทำให้ผิวดูใส+สว่างขึ้นเหมือนผ่านการทำทรีตเม้นต์ หลังใช้ต้องทากันแดดดีๆ ผิวไวต่อแสงขึ้นพอสมควร
JUV Serum Brightening Vit C+ (1090.-)
เคยรีวิวไปแล้วตอนนี้ก็ยังใช้อยู่เรื่อยๆ นางเป็นเซรั่มวิตซี สัญชาติไทย ไม่ใช่วิตซีเพียวๆ แต่ใช้วิตซีเป็นตัวหลัก เนื้อสัมผัสมีความคล้ายน้ำนม กลิ่นเปรี้ยวๆ คลีนๆ สามารถใช้ได้ทุกวันเช้า-เย็น แต่ช่วงแรกๆ จะรู้สึกยิบยับบ้าง รู้สึกเลยว่าผิวนุ่มมาก ถ้าทาตอนเช้าเป็นมอยเจอร์เบาๆ ช่วยป้องกันมลภาวะเช่นฝุ่นได้ ใช้ติดต่อกันผิวจะดูเปล่งปลั่งมากขึ้น เท่าที่ใช้ รู้สึกได้ว่านางจะเน้นเรื่องชุ่มชื้น + สว่างกระจ่างใส
ด้วยความที่นางเป็นกรดเลยอาจจะไม่เหมาะที่จะใช้พร้อมกัน เพราะเสี่ยงผิวเกิดการระคายเคืองได้ เลยขอมาบอกวิธีการใช้เบื้องต้น ตัว THE ORDINARY AHA นานๆ ใช้ทีเพื่อไม่ให้ผิวบางเกินไป เราขยับจากสัปดาห์ละครั้งมาเป็น 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง และครั้งนึงใช้ไม่เกิน 10-15 นาทีแล้วล้างออก ส่วน FYNE BHA และ JUV เราใช้ติดต่อกันทุกวัน โดยใช้ JUV ในตอนเช้าส่วนตัว FYNE ลงช่วงเย็นต่อด้วยตัวอื่น หรือถ้าวันไหนขยันก็จะ ใช้ FYNE พักหน้าประมาณ 10-20 นาทีแล้วตามด้วย JUV แล้วต่อด้วยตัวอื่น ไม่ต้องล้างออก ส่วนคนที่ผิวแพ้ง่ายและไม่มั่นใจแนะนำให้ใช้แยกเวลากัน เช้าตัวนึง เย็นตัวนึง หรือสลับวันกัน ถ้าคิดว่าผิวแข็งแรงพอก็อาจจะค่อยลองใช้วิธีลง BHA ตามด้วย วิตซีเด้อ
WELL IT 3Days Repair Cream (ไม่ทราบราคาได้ฟรีมา)
อีกสิ่งที่ดือในวันที่ดือ (ดือ=ดี) ได้มาฟรีตอนช่วงไปเวิร์คช็อปแต่งหน้ากับจีบัน หาข้อมูลไม่เจอเลยแม่แถมอ่านกล่องบ่ออกอีก TwT พอรู้แค่นางเป็นครีมเวชสำอางสัญชาติเกาหลีที่เน้นเรื่องกระจ่างใส + เติมเต็มริ้วรอย เนื้อสัมผัสเป็นครีมสีขาวเข้มข้น แต่ไม่หนักหรือเหนอะผิว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ชัวร์ว่ามีน้ำหอมมั้ย เขาบอกแค่ ใส่สารแอคทีฟมา 13 ตัว ผิวแพ้ง่ายใช้ได้เด้อ เท่าที่อ่านสารแอคทีฟคือ ค่อนข้างเป็นตัวที่อ่อนโยน+ช่วยปลอบประโลมผิวด้วย ใช้ดีสมชื่อ คือ ทาติดต่อกัน 3 วันขึ้นไปผิวจะแน่นมาก อิ่มฟู รูขุมขนดูจางลงจริงๆ เรื่องผิวขาวใสไม่มั่นใจนะ แต่เรื่องผิวฟูคือดีมากกก เรื่องที่เครียดคือ หมดแล้วซื้อไหน 555
ST.IVES Smooth&Glowing Pudding Cream (439.-)
ครีมในวันที่ไม่อยากจะขยับตัวเยอะแยะ ก็จะลงแค่ BHA แล้วต่อด้วยครีมตัวนี้เลย นางคือมอยส์เจอร์ไรเซอร์จากแอปริคอตธรรมชาติ 100% เนื้อพุดดิ้งนุ่มนิ่ม สีเหลืองส้มอ่อนๆ มีกลิ่นผลไม้เปรี้ยวสดชื่น พอกๆ หน้าแทนมาสก์ได้เลย ทาแล้วความชุ่มชื้นจะซึมลงผิวบางส่วนและคลุมผิวด้านนอกบางส่วน แต่ไม่เหนอะหนะ ตื่นมาแล้วผิวจะนุ่มชุ่มชื้น โกลว์ใส เด้งและดูมีชีวิตชีวามากเลย
AESOP Blue Chamomile Facial Hydrating Masque (2050.-)
อีกออฟชั่นเสริมที่ใช้มาตลอดและขาดไม่ได้ นางเป็นมาสก์หน้าที่ช่วยเติมน้ำลงสู่ผิวอย่างเร่งด่วน ที่มีส่วนผสมหลักจาก Blue chamomile ช่วยเรื่องปลอบปละโลมผิว+ปรับสมดุล เนื้อสัมผัสเป็นเจลสีขาวขุ่น มีความเข้มข้นและชุ่มชื้นสูง แต่พอปาดแล้วแทบกลายเป็นน้ำ กลิ่นหอมละมุน ได้ฟีลธรรมชาติตามสไตล์ Aesop 1-2 สัปดาห์มาสก์ที ครั้งนึงใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือใช้เป็น overnight mask นอนแล้วตื่นมาหน้าฟู ฉ่ำ อิ่มน้ำสุดๆ
VICHY Mineral 89 Eyes (990.-)
อายครีมตัวใหม่จาก VICHY ที่ช่วยปรับสมดุลผิว + เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ร่องลึกดูจางลงเหมือนคนนอนมาครบ 8 ชั่วโมง ฟังดูแล้วตอบโจทย์เรามั่กกก ได้มาจากการร่วมกิจกรรมในเว็บจีบัน เนื้อสัมผัสเป็นครีมน้ำหนักเบาขุ่นๆ เหมือนน้ำ และไม่มีกลิ่น เท่าที่ลองใช้รู้สึกเลยว่าผิวใต้ตาดูกระชับขึ้น + เรียบเนียน พวกร่องใต้ตาดูฟูเหมือนได้รับการเติมเต็มจริงๆ ส่วนเรื่องรอยคล้ำใต้ตา ส่วนตัวว่าเขาไม่ได้ปรับให้ดูขาว หรือเปลี่ยนสี แต่เหมือนทำให้ใต้ตาดูไบรท์ขึ้นประมาณนี้เด้อ คนนอนน้อย หรือมีริ้วรอยรอบดวงตาคือตอบโจทย์เลย เดี๋ยวมารีวิวเต็มอีกทีเด้อ
FYNE Hybrid Light Hydrating Sunscreen Broadspectrum SPF 50 PA+++ (1290.-)
ดูแลผิวด้วยสกินแคร์ดีแล้วอย่าลืมทาครีมกันแดดเด้อ นางเป็นครีมกันแดดแบบ Physical และ Chemical ช่วยป้องกันผิวจาก UVA/UVB/HEV Infrared/มลภาวะ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม/แอล/มิเนอรัลออยล์/ฯลฯ รวมถึงซิลิโคน คนเป็นสิว+แพ้ง่ายน่าจะใช้ได้เลย เนื้อสัมผัสเป็นครีมสีขาวนุ่มละมุน และให้ความชุ่มชื้นเหมือนสกินแคร์ แต่ปาดลงผิวแล้วไม่มีสี เมคอัพไม่เพี้ยน เราใช้แล้วกันแดดได้ดีมากก ผิวหน้าไม่หมองลง รักตรงที่เนื้อเบาสบาย และไม่อุดตัน ถึงจะกันน้ำหนักๆ แบบลงทะเลไม่ได้ แต่กันเหงื่อระหว่างวันก็รอดเด้อ
ทุกวันนี้ไม่เครียดเรื่องปัญหาผิวเลย เครียดอย่างเดียวคือ กลัวหมดพร้อมกันนี่แหละแม่
เดี๋ยวเงินซื้อมิพอ TwT วันนี้ก็ขอจบกระทู้เกือบจะมหากาพย์ไว้เท่านี้นะคะ
ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าเด้อ สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3