ทริคแต่งหน้าผิวฉ่ำ Glass Skin ในไทยยังไงไม่ให้เยิ้ม! ของคุณ Jung Saem Mool
natiprada 115 41
อยากได้ผิวฉ่ำๆ แบบ Glass Skin เหมือนคนเกาหลี แต่อากาศประเทศไทยช่างไม่เป็นใจเอาซะเลย ผิวฉ่ำสวยที่มีได้จริงแค่ในห้องแอร์เท่านั้น ใช้ชีวิตจริงไม่ได้ เพราะปัญหาเรื่องความร้อนเนี่ยแหละ ทำเอาหน้ามัน หน้าเยิ้ม รองพื้นไหล ได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังออกจากบ้าน!
ใครบอกว่าลุคผิวฉ่ำแบบ Glass Skin ทำในไทยไม่ได้
แต่ Jung Seam Mool ทำได้!!!
แต่อย่าเพิ่งตัดใจจากผิวฉ่ำวาว แบบ Glass Skin นะคะทุกคน! เพราะวันนี้แบมมีทริคที่ได้จากคุณ จองแซมมุล เจ้าของแบรนด์เมคอัพสายเกาสุดดัง อย่าง JUNG SAEM MOOL ที่จีบันได้ไป Makeup Class ตัวต่อตัว สุด Exclusive แต่งให้กับมือมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อวานนี้เลย ขอย้ำไว้ตรงนี้ว่า "คนไทยก็ Glass Skin ได้"
อย่างแรก เรามาทำความรู้จักผิวแบบ Glass Skin กันก่อนว่าคีย์หลักคืออะไร
Glass Skin คือ ผิวที่ดูใสดั่งกระจก ฉ่ำ วาว และดูสุขภาพดี คำนี้มาฮิตในช่วงปี 2017 โดยสาวเกาหลีใต้ที่ชื่อ Ellie Choi เธอได้แชร์เคล็ดลับและไอเท็มบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวเธอดูใสเหมือนกระจก หลังจากนั้นมาเทรนด์งานผิวที่ใช้ชื่อว่า Glass Skin ก็เริ่มฮิตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่จากสกินแคร์ แต่รวมถึงการแต่งหน้าด้วยเมคอัพ
Glass Skin คือ ผิวที่ดูใสดั่งกระจก ฉ่ำ วาว และดูสุขภาพดี คำนี้มาฮิตในช่วงปี 2017 โดยสาวเกาหลีใต้ที่ชื่อ Ellie Choi เธอได้แชร์เคล็ดลับและไอเท็มบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวเธอดูใสเหมือนกระจก หลังจากนั้นมาเทรนด์งานผิวที่ใช้ชื่อว่า Glass Skin ก็เริ่มฮิตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่จากสกินแคร์ แต่รวมถึงการแต่งหน้าด้วยเมคอัพ
ขั้นตอนที่ 1 Glass Skin การเตรียมผิวสำคัญที่สุด
- ก่อนแต่งหน้าควรบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ยิ่งเป็นลุคที่ต้องการความฉ่ำวาวแล้ว ยิ่งต้องเน้นความชุ่มชื้นให้มากๆ ซึ่งคุณจอง แซมมุล ลงเป็น Essential Mool Cream เพื่อเตรียมผิวให้แบมค่ะ
- จากนั้นลง Skin Setting Tone-up Sun Base โทนสีชมพู ปริมาณเท่าเม็ดถั่วแบบในภาพ และปาดลงไปที่ผิว ค่อยๆ Tap โดยการใช้ฟองน้ำเกลี่ย
ขั้นตอนที่ 2 สร้างผิววาวเหมือนกระจก ในแบบ Glass Skin
ขั้นตอนสำคัญที่สุดสำหรับการสร้างผิวให้ฉ่ำวาวด้วยเมคอัพอยู่ตรงนี้แล้ว! "รองพื้นตลับเหลี่ยม" Essential Star - Concealer Foundation ความเทพของรองพื้นรุ่นนี้คือมี "พัฟ" และ "แปรง" มาให้ในตัว ซึ่งรองพื้นรุ่นนี้ให้ลุคผิวเรียบเนียบเพอร์เฟค ฉ่ำวาว แต่ไม่ดูมันเยิ้ม
- ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางในการสอดพัฟให้ถนัดมือ
- เกลี่ยเนื้อรองพื้นจากกรอบหน้า > หน้าแก้ม > คาง
- ใช้วิธี Tap Tap ลงช้าๆ ถี่ๆ ห้ามลากพัฟเด็ดขาดนะคะ เพราะจะทำให้เป็นรอย
ขั้นตอนที่ 3 เทคนิกกลบรอยด้วยพัฟ
ปกติแล้วเวลาที่เราลงคอนซิลเลอร์เราจะใช้นิ้วมือ หรือ ใช้แปรงเล็กๆ ใช่ไหมคะ แต่เทคนิกของคุณจองแซมมุลจะใช้นิ้วกลางทิ้งน้ำหนักไปที่พัฟแทน และค่อยๆ กดเนื้อคอนซิลเลอร์มา Tap เบาๆ บริเวณที่ต้องการปกปิด อย่างพวกรอยสิว รอยแดง
ขั้นตอนที่ 4 เบลอรูขุมขน
- ใช้แปรงหัวเล็กค่อยๆ Tap! Tap! ลงตรงๆ บริเวณหน้าแก้ม และลากออกตามแนวรูขุมขน
ขั้นตอนที่ 5 เพิ่มความพุ่ง มีมิติให้ผิว!
ปิดท้ายด้วยสเต็ปให้ผิวดูพุ่ง มีมิติ และการเซ็ตแป้ง , ลงไฮไลท์ , คอนทัวร์
วิธีเซ็ตแป้งสำหรับสาวผิวมัน
- แนะนำให้ใช้เทคนิกยีแป้งฝุ่นให้เข้ากับไปในขนแปรง แบบคุณ จอง แซมมุล การทำแบบนี้จะช่วยให้แป้งเซ็ตตัว และ กระจายตัวในขนแปรงง่ายขึ้น ไม่จับตัวเป็นก้อน ให้ผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ค่อยๆ Tap Tap สั้นๆ ไม่ใช้การลาก ตั้งแต่บริเวณหน้าแก้ม > กรอบหน้า
เลือกไฮไลท์ให้เหมาะ
- ซึ่งปกติแล้วสายเกาหลีจะเน้นการลงไฮไลท์ที่เป็นเนื้อครีม หรือออยล์ไปเลย ด้วยความที่ประเทศเค้าอากาศแห้งและเย็นกว่าเรา คุณจอง แซมมุล เลยเลือกใช้ไฮไลท์แบบเนื้อฝุ่นแทน
- ลงบริเวณ หน้าผาก > โหนกแก้ม > สันจมูก > คาง เพื่อเพิ่มความพุ่งให้ใบหน้า
เสร็จแล้วค่าาา ผิวฉ่ำ สไตล์ Glass Skin ในแบบไทย บอกเลยว่าของจริงคือผิวสวยมากกกกก~ และไม่ฉ่ำเยิ้ม ไม่ดูมัน แต่ดูผิวสุขภาพดี หน้ามีความพุ่งออกมา!
สรุป 5 เทคนิกสำคัญที่ทำให้ผิวฉ่ำแบบ Glass Skin
- งานผิวยืนพื้น ต้องบำรุงผิวให้ดีไว้ก่อน ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบไหน มัน แห้ง หรือผิวผสม ความชุ่มชื้น อิ่มน้ำเป็นเรื่องสำคัญ
- ลงเบสเมคอัพก่อนทุกครั้ง เพื่อความติดทน หน้าไม่เยิ้มระหว่างวัน
- การเลือกรองพื้น , คุชชั่น เป็นสิ่งสำคัญ เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว สามารถปกปิด ให้ความฉ่ำวาว แต่ไม่มันเยิ้ม
- ยีแป้งให้กระจายตัวทั่วขนแปรง เพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน และให้ผิวที่ดูธรรมชาติ
- อย่าลืมไฮไลท์ คอนทัวร์ให้หน้าพุ่งกว่าเดิม