ไปเกาหลีต้องหิ้ว! LAGOM : สกินแคร์มินิมอลจากปรัชญาสวีดิช ผิวดีได้ไม่ต้องใช้เยอะ ลองแล้วรักเลย
aimmellow 101 27 GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^" LAGOM = Not too little, not too much. "
ลา - กอม เป็นปรัชญาสวีดิชที่แปลว่า ไม่มากไป ไม่น้อยไป กำลังดี
แต่หยุดก่อน วันนี้เราไม่ได้จะมาเลคเชอร์คลาสปรัชญาจ้ะ เราจะมารีวิวสกินแคร์สายมินิมอลที่ส่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเกาหลี!
แบรนด์นี้ชื่อว่าแบรนด์ LAGOM (ลา-กอม นะ ไม่ใช่ ลาก-อม 555) เป็นแบรนด์สกินแคร์จากเกาหลีที่กวาดรางวัลมาเยอะมากกกก ราคาไม่แรง ได้แรงบันดาลใจจากคอนเซปต์ 'ลา กอม' หรือ 'ความพอดี' เอามาครีเอทเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว คิดค้นโดยทีมหมอ 12 คน กับวิทยาศาสตร์ 12 สาขา ร่วมกับเฮดเมคอัพอาร์ติสท์ จนได้สกินแคร์ที่ทั้งส่วนผสม เนื้อสัมผัส 'เหมาะเจาะพอดี' ที่จะทำให้ผิวแข็งแรงและทำงานตามกระบวนธรรมชาติ แต่ก็ใช้ง่าย สบายผิว โดยหัวใจหลักคือ ? พลังความชุ่มชื้น ?
แบรนด์นี้ชื่อว่าแบรนด์ LAGOM (ลา-กอม นะ ไม่ใช่ ลาก-อม 555) เป็นแบรนด์สกินแคร์จากเกาหลีที่กวาดรางวัลมาเยอะมากกกก ราคาไม่แรง ได้แรงบันดาลใจจากคอนเซปต์ 'ลา กอม' หรือ 'ความพอดี' เอามาครีเอทเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว คิดค้นโดยทีมหมอ 12 คน กับวิทยาศาสตร์ 12 สาขา ร่วมกับเฮดเมคอัพอาร์ติสท์ จนได้สกินแคร์ที่ทั้งส่วนผสม เนื้อสัมผัส 'เหมาะเจาะพอดี' ที่จะทำให้ผิวแข็งแรงและทำงานตามกระบวนธรรมชาติ แต่ก็ใช้ง่าย สบายผิว โดยหัวใจหลักคือ ? พลังความชุ่มชื้น ?
ความต่างกับสกินแคร์อื่นๆ คือ LAGOM จะไม่แค่เคลือบผิวให้เรา 'รู้สึกว่าชุ่มชื้น' แบบปุบปับ แต่จะเติมน้ำซึมลึกจนเซลล์กักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ ต่อให้ล้างหรือเช็ดเครื่องสำอางออก ความชุ่มชื้นก็จะไม่หายไปจากผิว ~ ซึ่งเป็นผลมาจากส่วนผสมหลักของเค้าที่ชื่อว่า Aqualicia ®
Aqualicia ® คือส่วนผสมหลักที่ทำให้ LAGOM แตกต่าง
ปกติถ้าพูดถึงเรื่องผิวชุ่มชื้น ส่วนผสมที่เราได้ยินบ่อยๆ ก็จะเป็น Hyaluronic Acid, Glycerol, Ceramide ซึ่งพวกนี้จะช่วยเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ที่ชั้น Epidermis หรือเซลล์ผิวชั้นนอก พอเวลาล้างหน้าหรือเครื่องสำอางตัวนั้นออก ความชุ่มชื้นที่ผิวก็อาจจะลดลงเพราะส่วนผสมส่วนที่ไม่ซึมเข้าผิวมันละลายออกไปแต่ Aqualicia ® ที่เป็นส่วนผสมหลักของลากอม มีการวิจัยว่าช่วยกระตุ้นโปรตีนที่ชื่อว่า Aquaporin ในชั้นเยื่อของเซลล์ที่เป็นเหมือนประตูคอนโทรลการเข้าออกของน้ำในชั้นผิว ทำให้น้ำผ่านเข้าไปได้ แล้วก็กักเก็บความชุ่มชื้นไว้อีกที เลยทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ล้ำลึกและยาวนาน จนดูใส ฉ่ำ สุขภาพดีจ้า
ทุกโปรดักท์ของลากอม ทั้งเมคอัพ สกินแคร์ ก็จะมีส่วนผสม Aqualicia ® หมดเลย
ที่สำคัญ ทุกตัวผ่านการทดสอบว่าเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ไม่มีสารก่อการระคายเคือง เอมผิวแพ้ง่าย + ไปเลเซอร์หลุมสิวมาแบบหน้าลอกทั้งหน้า ลองใช้ก็ไม่แสบไม่คัน เหยยย มันเริ่ดอ่ะลากอมมมม!
แล้ว LAGOM SCIENCE - ความพอดี - สกินแคร์ เกี่ยวกันตรงไหน ?
LAGOM บอกว่าผิวคนเราก็ต้องการการพักผ่อนและการดีทอกซ์อยู่เรื่อยๆ เหมือนเวลาเราเลือกกินคลีน กินอาหารออร์แกนิกให้สุขภาพดีเพื่อเลี่ยงสารเคมีร่างกายจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก สกินแคร์ของลากอมเลยเป็น 'จุดกึ่งกลางความพอดีที่ผิวจะได้รับสารอาหารบำรุงผิวแบบล้ำลึก แต่ก็ได้พักผ่อนไปพร้อมๆ กัน' ตัดความเคมีที่ไม่จำเป็นออก เหลือส่วนผสมบำรุงแน่นๆ เอาไว้ เน้นให้ผิวชุ่มชื้น แข็งแรง สุขภาพดีในระยะยาว
แกะสกินแคร์ LAGOM มาลองกัน !
เมาท์คอนเซปต์เยอะ มาลองเลยดีกว่าว่าจะดีเหมือนคำเคลมมั้ย :P
มีทั้งหมด 6 ชิ้นด้วยกัน แบ่งเป็น Cleanser ล้างหน้า 2 เนื้อ + กันแดด 1 ตัว + Mist Toner 1 ตัว + มอยส์เจอไรเซอร์อีก 2 เนื้อจ้า
LAGOM CELLUP MICRO FOAM CLEANSER & GEL TO WATER CLEANSER ( ซื้อเป็นคู่ 37,000 KRW ~ 960 บาท)
ทุกครั้งที่ล้างหน้า ผิวเราจะเสียความชุ่มชื้น ยิ่งใครชอบโฟมที่ล้างแล้วหน้าเอี๊ยดๆ ผิวคงบอกว่า... หิวน้ำไม่ไหวแล้วจ้าาาามนุษย์ ขอความชุ่มชื้นให้ฉันที 5555 แต่โฟมล้างหน้าของ LAGOM ล้างแล้วหน้านุ่ม ไม่ตึง ผิวรู้สึกชุ่มชื้นมากกกกMAIN INGREDIANTS : Aqualicia ©, Coconut Aid, Saponaria officinalis leaf extract, soapberry extract
- หลอดซ้าย Cellup Gel To Water Cleanser : อันนี้คือเจ๋งสุดและเอมใช้อันนี้เป็นหลัก ตอนบีบออกมาเนื้อจะเป็นเจล แต่พอเกลี่ยลงบนผิวจะกลายเป็นน้ำแล้วเราไม่ต้องล้างน้ำอีกแล้วก็ได้! ก็ใช้ทิชชู่ซับออกได้เลย ใช้ล้างได้ทั้งเมคอัพและล้างหน้าทั่วๆ ไป แต่เค้าแนะนำว่าถ้าผิวใครแพ้ง่ายนวดเสร็จก็ล้างน้ำอีกทีจะดีกว่าจ้า (เอมก็ล้างน้ำ) จากที่ลองคือเลเซอร์หน้ามาแห้งหนักมากๆ แต่ใช้แล้วไม่แสบ ไม่ตึง ไม่ระคายเคืองผิวเลย เบสเค้าเป็นมอยส์เจอร์ 90% กักความชุ่มชื้นให้หน้าได้ดีจริงๆ
- หลอดขวา Cellup Micro Foam Cleanser : อันนี้เป็นเนื้อโฟม เวลาใช้ให้บีบใส่มือก่อนแล้วใส่น้ำ ถูๆ นวดๆ จนเป็นฟองแล้วค่อยวนที่หน้า ฟองจะเนียนนุ่มละมุนหน้า รู้สึกเหมือนเข้าสปาแพงๆ ฟองเค้าจะไม่ได้เป็นฟองน้ำแบบบั้บเบิ้ลเป่าฟองนะ เนื้อเหมือนฟองครีม อู๊ยคือดี 555
LAGOM CELLUS SUN GEL SUNSCREEN SPF 50+ PA+++ ( ราคา 25,000 KRW ~ 650 บาท )
กันแดดที่ใจบอกว่าใช่เลย! ใครไปเกาหลีไปสอยมาลองนะ เอมชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้แล้วก็ใช้มาตลอดเลยช่วงนี้ ?? เนื้อน้ำกึ่งเจล ค่อนข้างเหลว บีบออกมาเป็นสีขาว แต่พอเกลี่ยจะซึมเนียนกับผิวไปเลย ไม่มีสี ไม่วอก ไม่ลอย ผิวเข้มใช้ได้ (ได้แบบได้จริงๆ นะไม่หลอก 5555) ที่สำคัญคือ SPF50 แต่ไม่มัน ไม่เยิ้ม ไม่เหนียว ไม่ทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบ แต่งหน้าต่อได้เลย เป็นหนึ่งในกันแดดเนื้อดีสุด สบายผิวสุดตั้งแต่เคยใช้มาเลย ทำสูตรมาดี๊ดีอีกอย่างที่เลิศมากคือเอมใช้ช่วงที่เลเซอร์หลุมสิวมาแล้วหน้าแห้งลอกหนักก็ไม่เกาะเป็นคราบขุยขาวๆ + ไม่แสบหน้า + ออกแดดแรงก็ไม่รู้สึกแสบ เค้าปกป้องผิวได้ดีแต่อ่อนโยนต่อผิวมาก คิดว่าทั้งผิวแห้ง ผิวมัน เลิฟแน่นอน
MAIN INGREDIANTS : Aqualicia ®, Sunscreen: Octinoxate 7.00%, Octocrylene 5.00%, Octisalate 4.00%
LAGOM CELLUS MIST TONER ( ราคา 25,000 KRW ~ 650 บาท )
ตัวนี้เกิดมาเพื่อทีมผิวแพ้ง่าย ผด แดง คัน ระคายเคือง ~ มันคือไอเท็มกู้ชีพ โทนเนอร์แบบมิสต์ไว้ลงเป็นขั้นแรกของสกินแคร์ แต่ 1 ชิ้นเป็นได้ถึง 3 อย่าง!!! ใช้เป็นเหมือนสเปรย์น้ำแร่ ฉีดแล้วแตะๆ ตบๆ ให้ซึมเข้าผิวก็ได้, ใช้สเปรย์ใส่สำลีเช็ดเป็นโทนเนอร์ปกติก็ได้, หรือจะใช้สเปรย์ลงสำลีแผ่นชุ่มๆ ทำเป็นมาสก์แปะหน้าเวลาผิวระคายเคืองก็ได้- ช่วยบูสต์ความชุ่มชื้นหลังล้างหน้า + ปรับค่า pH ผิวให้สมดุล
- ช่วย anti-dust ปกป้องผิวจากฝุ่น มลภาวะไม่ให้เกาะผิวด้วยประจุบวกในส่วนผสม
- มีสารสกัดจากชาเขียวช่วยปลอบประโลมผิวระคายเคืองไปในตัว
- เวลาเกลี่ยๆ บนหน้าแล้วจะรู้สึกฟินิชผิวเนียนๆ เหมือนช่วยปรับเทกซ์เจอร์ผิวไปในตัวด้วย เวลาหน้าสดแล้วจะรู้สึกผิวเนียนๆ รู้สึกผิวดี อิอิ
LAGOM CELLUS MILD MOISTURE CREAM (ราคา 38,000 KRW ~ 990 บาท)
มาต่อที่ตัวเด่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเจล Mild Moisture จะให้ความชุ่มชื้นเลเวลเบา แต่มีทีเด็ดที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองด้วย เนื้อไม่เหนียว ใช้ง่าย ไม่มัน แต่งหน้าต่อได้เลย ยิ่งใช้ยิ่งเพลิน #เติมน้ำให้ผิววนไปค่ะ- ส่วนผสมช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว จะฟอร์มตัวบางๆ เหมือนชั้นผิวของเรา ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น + ปกป้องผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย + ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิว
- มี Green tea cellus extract ช่วยปลอบประโลมผิวระคายเคือง กระตุ้นกระบวนการของผิวให้ทำงานได้ดี
- มี Aqualicia ® ที่ช่วยกระตุ้นโปรตีน Aquaporin ให้เปิดรับความชุ่มชื้นเข้าไว้ล้ำลึกในเซลล์ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานจ้าา
MAIN INGREDIANTS : Aqualicia ®, Green Tea Cellus Culture Extract, ß-glucan, Witch Hazel Extract, Cantella Asiatica Extract
LAGOM CELLUS DEEP MOISTURE CREAM (ราคา 34,000 KRW ~ 880 บาท)
ตัวสุดท้ายผิวชุ่มชื้นจัดเต็มมากกกและช่วยเสริมชั้นผิว เสริม Skin Barrier ด้วย เอมชอบมากๆๆๆ ชอบตัวนี้กว่าตัว Mild Moisture นะ ช่วงหน้าลอกๆ ทาลงไปได้เลย ไม่แสบ รู้สึกทันทีเลยว่าผิวชุ่มชื้นมากแล้วก็ล็อคความชุ่มชื้นไว้ให้ผิวได้นาน แต่เนื้อไม่หนักผิว ไม่อุดตันเลย ถ้าเทียบเนื้อกับตัว Mild Moisture ตัวนี้เป็นเจลเหลวกว่าแต่จะมีความมันนิดๆ จาก Jojoba Seed Oil- เป็นครีมความชุ่มชื้นสูงที่ไม่อุดตันผิว ซึมไว ทาแล้วยังรู้สึกสบายผิว
- มี Green Tea Callus Culture Extract เหมือนตัว Mild Moisture ช่วยฟื้นฟูผิวเสีย กระตุ้นการทำงานของผิวเช่นกัน
- มี Aqualicia ® ที่ช่วยกระตุ้นโปรตีน Aquaporin ให้เปิดรับความชุ่มชื้นเข้าไว้ล้ำลึกในเซลล์ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานจ้าา
AND THAT'S LAGOM
หมดแล้วจ้า กับเหล่าน้อง 'LAGOM ลา-กอม' ไอเท็มสัญชาติเกาหลีเอาคอนเซปต์ปรัชญาสวีดิชมาใส่ในสกินแคร์ทุกชิ้น เป็นความเรียบง่ายที่ได้ผลดี + ดูดีด้วย อิอิถ้าไปเกาหลี ซื้อตัวไหนดี ?
ถ้าให้เอมเลือกแนะนำ- เน้นชุ่มชื้นขั้นสุด : Sun Gel + Cellus Deep Moisture + Cellup Gel To Water Cleanser เพราะว่าให้ผลดีแล้วเนื้อก็ค่อนข้างแปลกใหม่มากๆ
- แต่ถ้าใครไม่ชอบอะไรเยิ้มๆ เลย : น่าจะเลิฟ Sun Gel + Cellus Mild Moisture + Micro Foam Cleanser
ใครสนใจ ไปเกาหลีแล้วแวะไปช็อปได้ที่ร้าน LOHB, CHICOR, On And The Beauty, LACO ได้เลย ถ้าซื้อเป็นเซ็ตเค้าจะมีราคาคู่ ราคาเซ็ตพิเศษ ถูกกว่าซื้อแยกกันด้วย หรือส่องที่เว็บ Lagomkorea.com และ IG : Lagomkorea ได้เลยจ้า
ใครอ่านจบตบมือให้เลย!
บอกหน่อยว่า อยากลองตัวไหนของ LAGOM มากสุดกันคะ?