[Review] SISLEY Phyto Teint Ultra Eclat รองพื้นม้าลายตัวเทพรุ่นใหม่ ถูกลงแล้วคุณภาพลดไหม? มาดู!

สวัสดีค่ะ ชาวจีบันนิสต้าที่น่ารักทุกคนนน หลังจากที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปร่วมงาน Jeban.com x Sisley และได้รองพื้นม้าลายตัวเทพกลับมาลองจริงจังที่บ้าน วันนี้เราเลยจะขอหยิบเจ้ารองพื้นตัวนี้มารีวิวให้ทุกคนได้ดูกันว่า รองพื้นม้าลายตัวใหม่ที่เขาว่า ลดราคากันถึงหลักพัน จะลดความเทพลงมั้ยนะ? ถ้าอยากรู้ก็ตามเรามากันเลยค่า เย้ <3

Sisley Phyto-Teint Ultra Éclat (2,800.-)

รองพื้นงานผิวตัวเทพรุ่นใหม่ล่าสุด จาก SISLEY ที่พัฒนามาจากรองพื้นฝาดำ ตัวที่ใครๆ ต่างก็ยกให้เป็นรองพื้นเทพในตำนาน เพราะด้วยความที่เป็นรองพื้นที่ได้ฟินิชลุคงานผิวสวยแบบธรรมชาติแบบ like 2nd skin คือ สวยจนเหมือนได้ผิวใหม่ + มีการบำรุงเต็มที่เหมือนทาสกินแคร์ ใครใช้ก็ต้องติดใจไปไหนไม่รอด แต่ในขณะนั้นมีราคาค่อนข้างสูงมาก ตั้ง 4,000 บาท โอ้ววว สูงจริง พอไปฟังในงาน เขาบอกว่า เพราะสมัยก่อน(ไม่มั่นใจว่ากี่ปี) ทั้งเรื่องการหาส่วนผสม และกระบวนการผลิตต่างๆ ไม่สะดวกเท่าในปัจจุบัน ราคาเลยออกมาประมาณนั้น เรื่องที่ว่า เขาลดราคาจาก 4,000 บาท มาเหลือเพียง 2,800 บาท ก็ไม่ใช่เรื่องลดคุณภาพลงเลยเด้อ 

คุณสมบัติของรองพื้นที่เพิ่มขึ้น : 

1) ช่วยเพิ่มความเปล่งประกายให้ผิวดูใสและดูมีมิติมากขึ้น 

ด้วยเรเดียนซ์-แอคทิเวติ้ง คอมเพล็กซ์จาก ซิงค์, ค็อปเปอร์ และ แมงกานีส 

2) เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมากขึ้น ทำให้ผิวดูอิ่ม + สุขภาพดี + เปล่งปลั่งตลอดวัน 

ด้วยไฮเดรติ้ง-บูสเตอร์ จากโมฟ และการ์ดีเนีย

3) นอกจากจะเป็นเมคอัพแล้ว รองพื้นตัวนี้ยังเป็นอีกตัวช่วยที่เสมือนเป็นเกราะป้องกันผิว

จากมลภาวะ ไม่ทำให้ผิวเกิดการอ็อกซิเดชั่น + ไม่หมองระหว่างวัน จากเมล็ดบัควีท

4) ปรับนวัตกรรมใหม่ช่วยให้เบลอผิว + กระจ่างใสมากกว่าเดิม เพิ่มเติมคือใส่แร่ธาตุ

ลงไปทำให้รู้สึกว่า บางเบาจนสบายผิว เหมือนผิวหายใจได้มากยิ่งขึ้น

ส่วนสีของรองพื้นเราว่าแอบมีให้เลือกไม่เยอะมาก แต่ก็น่าจะเพียงพอกับสาวไทย สีทั้งหมดมี 6 เบอร์ เบอร์ 0 จะค่อนข้างเข้ากับผิวขาว นอกนั้น 0+ ถึง 3 จะแอบเข้ากับผิวขาวกลางๆ – ผิวเข้มเลยค่ะ ส่วนตัวเราใช้สีเบอร์ 1 ivory ตอนปาดลงบนแขนแอบคิดว่า เข้มเหมือนกัน แต่พอทาบนผิวหน้าเหมือนนางปรับสีตัวเองเบาๆ ให้เข้ากับผิวแล้วไม่ทำให้ผิวดูหมองลง ถ้ามีโอกาสลองไปปาดเล่นดูเนื้อและสีที่เคาท์เตอร์ก่อนนะคะ 

เนื้อสัมผัส เป็นเนื้อเหมือนกึ่งเจลกึ่งโลชั่นที่ปาดเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ และสบายผิว แถมเนื้อค่อนข้างชุ่มชื้นเหมือนใส่ออยล์มาด้วยทั้งที่จริงๆ เขาเป็นสูตร Oil-Free สามารถใช้ได้กับทั้งนิ้วมือ แปรง และฟองน้ำ แต่ตัวนี้จะแอบแนะนำให้ใช้คู่กับแปรงจะได้ผิวที่สวยแบบพอดีสุดๆ ค่ะ ส่วนฟินิชที่ได้เราว่าออกแนวกลางๆ ไม่แมตต์เกินไป และก็ไม่ถึงขั้นโกลว์ฉ่ำ มีความเล่นแสงเบาๆ เหมือนผิวเฟรชๆ แบบพึ่งอาบน้ำและลงสกินแคร์ อย่างที่บอกไปว่าสีมีความกลืนเข้ากับผิวไปเลย จะเห็นได้เลยว่า ผิวด้านซ้ายและด้านขวาแทบไม่ต่าง ต่างกันแค่ความเนียน + ความเล่นแสงที่เพิ่มขึ้นมา

แสงไม่เคยเท่ากันเลยนะ TwT

ความรู้สึกหลังใช้ คือ เนื้อเกลี่ยง่าย ปาดปื๊ดๆ ไวๆ ก็สวย ส่วนฟินิช ก็ อื้อหือออ งานผิวสวยธรรมชาติที่แท้ทรู นางมีความกลืนและเนียนไปกับผิวเลย แต่ช่วยเบลอผิวเหมือนสร้างฟิลเตอร์บางๆ ให้ผิวดูดีขึ้นเหมือนเป็นผิวของตัวเองที่ดีกว่าเดิม ถ้าอยากปกปิดเพิ่มก็ทาคอนซีลเลอร์เอาเด้อ เรื่องที่เด่นสุดน่าจะเป็นเรื่องกลบรูขุมขน เราว่าทำได้ค่อนข้างดีเลย ผิวเรียบเนียน + ไม่ถึงขั้นหน้าฉ่ำ แต่ก็ดูเปล่งประกายเล่นแสงเหมือนเป็นผิวที่อิ่มน้ำ ชุ่มชื้นมาจากข้างใน เรื่องความคุมมันหรือติดทน เราเป็นชาวผิวผสม คิดว่าเขาไม่ค่อยเน้นเรื่องคุมมัน แต่เรื่องติดทนนานเราว่าทำได้ค่อนข้างดี ใช้ไปประมาณ 3-5 ชั่วโมงจะรู้สึกว่าผิวผ่องมากก สวยฝุดๆ  8 ชั่วโมงก็ยังโอเคอยู่ถ้าไม่ไปถู ใครที่ไม่ชอบให้ผิวดูวาว ก็ซับหน้าระหว่างวันนิดหน่อยผิวก็กลับมาสวยเด้งแล้วเด้อ  และก็ถ้าไม่ได้ใช้ชีวิตโลดโผนแอดเวนเจอร์ตลอดวันก็คือรอดแบบสวยๆ ค่า สรุปคือ คุณภาพสมราคา ถ้างบพอก็ซื้อเถอะแม่

คลิปทดสอบความอึดถึกทนในวันที่ลุยมากๆ ค่ะ ตั้งแต่ออกจากบ้านนั่งมอไซ เดินทั้งสำเพ็งผ่านคลองถมไปโบ๊เบ๊ไปถนนหลานหลวง ต่อด้วยไปเดิน MBK และหลังจุฬา กลับบ้านมาถ่ายอีกทีตอน 4 ทุ่มค่ะ TwT

ใครที่สนใจก็ลองไปเทสกันดูได้ที่เคาท์เตอร์ของ Sisley ทุกสาขาเลย
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณบ้านจีบัน และ Sisley ที่ให้โอกาสน้องไปร่วมงานนะคะ
และขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆ เลยค่ะ ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า รักรักรัก <3