รีวิว Cellion แชมพู/ครีมนวด สำหรับคนผมร่วง #ร่วงแค่ไหนก็เอาอยู่
Sarii.Nashi 53 15สวัสดีค่าเพื่อนๆ ทุกคน //
ช่วงสมัยที่เราไว้ผมยาวเราประสบปัญหาผมร่วงหนักมาก ซึ่งพอตัดผมสั้นแล้ว ผมก็ยังร่วงอยู่! (อ้าว!!) เลยคิดว่า อืม มันไม่ได้อยู่ที่ความสั้นยาวของผมเราละ มันต้องมีสาเหตุอื่นแน่นอน หลังจากที่ซุ่มแก้ปัญหาผมร่วงของตัวเองมาสักพัก ในวันนี้เราก็พบคำตอบแล้วค่ะ มันมีสาเหตุมาจาก 2 สาเหตุใหญ่ๆ ก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ และ พฤติกรรมผิดๆ ของเรานี่เอง 5555 ซึ่งในวันนี้เราจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงให้เราได้ และวิธีดูแลผมที่ถูกต้องเพื่อลดปัญหาผมร่วงค่ะ เราตามไปดูกันเลยจ้าา
Cellion Hair Shampoo (310 ml) ราคา 1,290 บาท
เรามาดูคุณสมบัติเด่นๆ ของแชมพูตัวนี้กันค่ะ ความเก๋ก็คือ มีส่วนช่วยยับยั้งฮอร์โมน DHT ที่เป็นสาเหตุของอาการผมร่วง ป้องกันไม่ให้รูขุมขนบนหนังศรีษะถูกทำลาย ช่วยคืนสภาพหนังศรีษะทำให้การเจริญเติบโตของเส้นผมเป็นปกติ บำรุงรากผมแข็งแรง ผมดูหนาขึ้น ผมนุ่มลื่นพร้อมจัดทรงง่าย แถมยังช่วยลดความมันบนเส้นผม อ่อนโยนต่อหนังศรีษะ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ปราศจากสารทำร้ายเส้นผมและหนังศรีษะอีกด้วย
ซึ่งเราชอบดีไซน์ของขวดมากๆ ดีไซน์สวยมากกก ชอบขวดทรงนี้ เพราะเวลาทำร่วงแล้วขวดจะไม่กลิ้ง 5555 (ก็ อย่าทำร่วงเซ่!!)
และข้อนี้สำคัญมากๆ นั่นก็คือส่วนผสมนั่นเองค่ะ หากใครสระผมทีไรแล้วพบว่าผมร่วงหนักมาก แปลว่าเราอาจจะแพ้ส่วนผสมบางอย่างในแชมพู จึงแนะนำให้ลองเลือกแชมพูที่ไม่มีส่วนผสมเหล่านี้ดูค่ะ อย่างแชมพูของ Cellion นอกจากส่วนจะผสมอ่อนโยนแล้ว ยังไม่มีสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ถึง 8 ชนิด รายละเอียดดังนี้เลยค่ะว่าแต่ละสารคือสารอะไรบ้าง
No PEG: เป็นสารเคมีที่ทำให้เนื้อของผลิตภัณฑ์ดูข้นขึ้น
No Paraben: ไม่มีสารกันเสีย
No Sulfate: ไม่มีสารสังเคราะห์ที่ทำให้เกิดฟอง
No Silicon: ไม่มีซิลิโคน สารเคมีที่ทำให้เส้นผมมีความลื่นเป็นมันวาว
No Artificial Color: ไม่มีสีสังเคราะห์
No CMIT/MIT: ไม่มีสารกันเสียชนิดน้ำ
No Mineral Oil: ไม่มีขี้ผึ้งหรือแว็กซ์เหลว
No Benzophenone: คือสารในผลิตภัณฑ์กันแดด ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์กันแดดที่มักก่อให้เกิดการแพ้
หึหึ เมื่อก่อนเราคิดว่าคนเราจะใช้แชมพูอะไรก็ได้ แต่กลายเป็นว่าความอะไรก็ได้ของเรานั้นก็ไม่ดีเสมอไป T___T เข้าใจแล้วจ้า
Cellion Hair Treatment (310 ml) ราคา 1,290 บาท
ส่วนครีมนวดแบบทรีตเมนต์ก็มีคุณบัติเด่นๆ เหมือนกับตัวแชมพูเลยค่ะ คือ นอกจากจะมี Copper Peptide ยังมีสารสกัดธรรมชาติอีกหลายชนิด เช่น โปร-วิตามิน 5 น้ำมันจากเมล็ดคามาเลีย และน้ำมันจากต้นอาร์แกน ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้หนังศีรษะ ช่วยบำรุงเส้นผม ลดการหลุดร่วง กระตุ้นและเสริมสร้างรากผมให้แข็งแรงสุขภาพดี ซ่อมแซมส่วนที่แห้งเสียแตกปลายจากผมที่ผ่านการทำสีด้วยค่า
วิธีใช้: ชโลมทรีตเมนต์ลงบนผมที่เปียก นวดให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ 1-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ส่วนทรีตเมนต์เป็นเนื้อครีมสีขาว มีกลิ่นหอมโทนเดียวกับแชมพู ใช้แล้วเพลินมากๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งเราชอบที่หลังล้างแล้วผมนุ่มลื่นทันที แล้วก็ล้างออกง่ายด้วย
หลังใช้ติดต่อกัน 3 อาทิตย์
ส่วนอันนี้เป็นสภาพผมหลังสระและเป่าผมทันที (ยังไม่ได้หนีบและจัดแต่งทรงผม) ผมว่าผมดูเงางาม นุ่มลื่น มีน้ำหนัก ดูผมสุขภาพดีมากๆ แถมผมมันระหว่างวันน้อยลง ไม่ค่อยคันหัวเกาแกร่กๆ แบบเมื่อก่อนแล้ว ภาพรวมคือประทับใจมากๆ เข้าใจเลยว่าการเลือกส่วนผสมของแชมพูและครีมนวดมีความสำคัญยังไง และที่สำคัญอีกอย่างก็คือพฤติกรรมของเราเอง นั่นก็คือ ….
หลังสระผมเสร็จแล้ว ให้เป่าผมทันที ห้าม ต๊ะตอนยอน แล้วปล่อยผมเปียกๆ ชื้นๆ ต่อไป เพราะผมที่ชื้นนานๆ จะทำให้รากผมอ่อนแอ แล้วส่งผลให้ผมร่วงได้นั่นเองค่ะ ดีไม่ดีเป็นเชื้อราด้วยนะ ไม่คุ้มเลยค่ะ แนะนำให้เป่าผมหลังสระผมทันที เราจะสังเกตได้เลยว่าผมของเราจะร่วงน้อยลง ดูแข็งแรงขึ้นและไม่คันหนังศรีษะเท่ากับช่วงที่ปล่อยผมให้แห้งเอง
Tips: ใครที่ไม่ชอบไดร์เป่าผมร้อนๆ แนะนำให้เอาผ้าขนหนูคลุมผมไว้ก่อน แล้วเป่าผม ผ้าขนหนูจะช่วยกันความร้อนจากไดร์เป่าผมแล้วช่วยดูดน้ำจากผมออกไป พอผมหมาดแล้ว เราก็ค่อยเป่าผม โดยเป่าจากบนไล่ลงปลายผม ผมก็จะแห้งเร็วขึ้น และเรียงตัวอย่างสวยงามค่ะ เย่ๆๆ
สุดท้ายนี้ เอาจริงๆ แชมพูและครีมนวดราคาหลักพันก็เอาเรื่องสำหรับเราเหมือนกันนะ เพราะที่ผ่านมาคือใช้อะไรก็ได้ เน้นหลักสิบหลักร้อย ประหยัดไว้ก่อน 555 แต่พอใช้ของที่ราคาแพงขึ้นมา แต่คุณภาพดี ก็คุ้มค่าที่จะลงทุนเพื่อให้เรามีเส้นผมและหนังศรีษะสุขภาพดี แข็งแรงไปอีกนานๆ ค่า หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ ไว้พบกันใหม่รีวิวหน้านะคะ บ๊ายบายย //