My Party My Rules ปาร์ตี้นี้ฉันสวยสุด จนเพื่อนร้องถาม

49 12

สวัสดีคะชาวจีบันทุกคน 


เจ เองคร่า ^^ ต้องบอกเลยว่า บ้านจีบันนี้เขาขยันหา Content ขยันแจกของรางวัลให้ได้ตื่นเต้นกันตลอดเลยคะ ล่าสุดก็มีกิจกรรมส่งท้ายปี ซึ่งมีโจทย์ที่ว่า " My Party My Rules ปาร์ตี้นี้ฉันสวยสุด " แค่ชื่อโจทย์ก็ปลุกความมั่นใจให้สาวๆทุกคนได้ Create ลุคปาร์ตี้ของตัวเองเพื่อร่วมสนุกกันแล้วสิ งานนี้มือใหม่หัดทำ How to อย่างเจก็ขอเข้าร่วมสนุกด้วยคนนะคะ ^^ 

STEP

: Moisturizer + Sun Skin

ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญของการแต่งหน้ามากคะ การเตรียมผิวด้วยการลงสกินแคร์นั้น ต้องเลือกให้เหมาะกับช่วงเวลาและสถานที่ที่เราจะไป โดยเจเลือกใช้มอยเจอไรเซอร์ที่มีเนื้อที่บางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเจนั้นคือการลงกันแดด ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ก่อนการแต่งหน้าทุกครั้งเจจะลงกันแดดเสมอ เพราะผิวไม่ได้เผชิญแค่เพียรังสียูวีเท่านั้นคะ ไหนจะแสงสีฟ้าที่เป็นหนึ่งในสามของแสงขาวจากแสง UV หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยเฉพาะจากหลอด LED นั้นเป็นแสงสามารถมองเห็นได้และมีพลังงานสูง รวมถึงมลภาวะต่างๆ ก็สามารถทำร้ายผิวเราได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นเพื่อนๆอย่าลืมทากันแดดเป็นอันขาดนะคะ โดยกันแดดที่เจเลือกใช้ในวันนี้เป็นของ d Program ที่ได้ไปสอยขนาดจริงมาหลังจากได้ขนาดทดลองจากจีบันมา ชอบมากคะ เนื้อสัมผัสเขาบางเบา และสามารถป้องกันผิวได้เป็นอย่างดีคะ

STEP

: Primer

หลังจากที่บำรุงผิวกันแล้ว ก็ตามมาด้วยขั้นตอนของการปรับสภาพผิวให้มีพร้อมลงรองพื้นในขั้นตอนต่อไป โดยเจใช้ Primer ของ Benefit Cosmetics ( The POREfessional Face Primer ) ลงตามบริเวณ T-ZONE ตัวนี้ช่วยคุมมัน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน และยังช่วยให้รองพื้นติดทนนานมากยิ่งขึ้นคะ

STEP

: Foundation

ขั้นตอนการลงรองพื้นนั้น เจเลือกใช้รองพื้นของ L'OREAL PARIS ( Infaillible 24HR Stay Fresh Foundation ) ที่ช่วยบอกลาในเรื่องผิวที่ไม่ชุ่มชื่น แก้ปัญหายิ้มแล้วรองพื้นแตกเป็นร่อง ช่วยคืนความชุ่มชื้น เบาสบายผิว ปกปิดได้ดี เพราะว่าเจนั้นเป็นคนผิวแห้งเป็นพื้นฐานคะ เลยจะให้ความสำคัญกับรองพื้นที่อาจจะทำให้เริ่มรอยแตกหรือมีความเมทจนเกินไปคะ ^^ เจเริ่มจากกดเนื้อรองพื้นลงบริเวณหลังมือก่อน จากนั้นใช้นิ้วมือวอร์มเนื้อรองพื้นก่อน ตามด้วยปาดเนื้อรองพื้นลงใบหน้าลงทีละข้างของใบหน้า โดยเจจะไม่ปาดไปพร้อมกันทั้งสองข้างนะคะ เพราะว่าต้องการที่จะค่อยๆเกลี่ยและเบลนรองพื้นให้เรียบเนียนไปทีละข้าง โดยเจใช้ Blender เป็นตัวช่วยในการเกลี่ยรองพื้นคะ ขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่เราควรให้เวลากับเขานิดหนึ่งนะคะ เพื่องานผิวที่สมบูรณ์ เรียบเนียนคะ

STEP

: Eye Shadow

มาถึงขั้นตอนการแต่งดวงตาให้เป็นประกายของเจกันแล้วนะคะ ในลุคนี้เจเลือกใช้ NYX Ultimate Edit Petite Shadow Palette ที่เป็น พาเลทไซส์มินิ ขนาดพกพา สีชัดแน่น ติดทน โดยสีที่ใช้นั้นเป็นสีโทนน้ำตาล เพราะอยากให้ดวงตามีความหวานอุ่นๆ มาเริ่มจากการเบลนสีที่ 1 ให้ทั่วเบ้าตาเพื่อเป็นเบสของสีตาคะ เจจะไม่ต้องลงสีหนักมากไปนะคะ ลงแค่พอให้กลบสีของเปือกตาเท่านั้นและจะลงสีนี้ที่บริเวณขอบตาด้านล่างด้วยคะ จากนั้นตามต่อด้วยสีที่ 2 ที่เป็นสีที่น้ำตาลที่เข้มขึ้น โดยเราจะลงสีนี้ที่บริเวณหางตาของเรา เบลนสีให้ฟุ้งขึ้นไปบนเปลือกตาและลงมาที่ขอบตาล่าง พยายามเบลนสีที่ 1 และ 2 ให้กลืนเข้าด้วยกันคะ มาถึงสีที่ 3 สีนี้จะมีส่วนผสมของ Glitter เพิ่มความเป็นประกาย โดยเจจะใช้สีนี้ทาลงบริเวณกลางเปือกตาไล่มายังหัวตาคะ การทา Glitter ของเจนั้นจะใช้นิ้วมือในการปาดสีที่ต้องการและค่อยๆแตะลงบริเวณเปือกตา เจว่าการใช้นิ้วมือนั้นช่วยให้เม็ดสีของ Glitter ติดได้ชัดเจนขึ้นคะ

STEP

: Brow

สำหรับงานคิ้วของลุคนี้ เจเลือกใช้พาเลทฝุ่นเขียนคิ้ว ของ KATE Designing Eyebrown 3D ( EX-4 ) เพราะอยากให้คิ้วมีความฟุ้ง ละมุน เบาๆ ไม่หนักจนเกินไป ซึ่งพาเลทเขียนคิ้วของ KATE นี้ก็ใช้งานง่ายมากๆคะ เจเริ่มวาดบริเวณท้องคิ้วก่อน จุดที่วาดท้องคิ้วเจเริ่มบริเวณที่ถัดจากหัวคิ้วเราไปคะ โดยการใช้แปรงหัวตัดวาดเพื่อจัดขอบล่างของคิ้ว จากนั้นลากให้เลยออกมาจากบริเวณส่วนหางคิ้วจริงเพียงเล็กน้อย และใช้หัวแปรงอีกด้านแตะสีฝุ่นมาเบลนตามแนวทรงคิ้วของตัวเอง โดยส่วนบริเวณด้านบนคิ้ว เจจะไม่ลงน้ำหนักในการเบลนมากนัก เพราะต้องการให้มีความฟุ้งที่เบาๆ เดี๋ยวเราจะมาเก็บงานคิ้วด้วยการปัดขนคิ้วอีกทีหนึ่งคะ

STEP

: Eye Linner

อายไลเนอร์เจเลือกใช้เจ้าลูกรักของเจคะ ไม่ว่าจะงานไหนๆก็หยิบมาใช้ทุกครั้งนั้นคือ Mistine Maxi Black Eyeliner ที่ให้สีที่ดำ หัวของเขามีความกรีดงาน คมชัด กันน้ำกันเหงื่อได้ดี ติดจนมากจริงๆคะ โดยเจเริ่มกรีดที่บริเวณหัวตาลากให้ชิดขอบตามากที่สุดจนไปให้เลยหางตาเป็นแนว Wing ที่หนาขึ้นเพียงเล็กน้อย ส่วนขอบตาล่างนั้นเจใช้เจ้าอายไลเนอร์ตัวเดิมในการกรีดลากให้ชิดขอบตาล่างให้มากที่สุดอีกเช่นกัน ( ซึ่งสามารถใช้แทนดินสอเขียนขอบตาได้เลยนะคะ ) และใช้ Cotton Buds ในการเบลนขอบตาล่างให้ฟุ้งๆ ที่ทำแบบนี้เพราะไม่ต้องการให้ขอบตาล่างมีความเป็นเส้นขอบตาที่ชัดมากจนเกินไป แค่เพียงเสริมให้ดวงตาของเราคมขึ้นก็พอคะ

STEP

: Contour + Foundation

ในส่วนของการคอนทัวร์และลงแป้งเจก็มีขั้นตอนตามนี้คะ เริ่มจากลงคอนทัวร์ก่อนโดยใช้ KATE Designing Eyebrow 3D ที่สามารถนำมาใช้เป็นคอนทัวร์ได้เช่นกันคะ เจลงบริเวณสันจมูก ข้างแก้ม กรอบหน้าคะ หลังจากคอนทัวร์เสร็จแล้วเจจะทำการลงแป้งต่อเลย และด้วยว่ารองพื้นที่เจเลือกใช้สำหรับลุคนี้ให้งานผิวที่ดี เบา สบายผิว ในขั้นตอนของการลงแป้งเจจึงเลือกใช้เป็นแป้งโปร่งแสงอัดแข็ง ที่ไม่มีสี ไม่เปลี่ยนสีรองพื้น บางเบาของ Srichand Translucent Compact Powder คะ ใช้แปรงหัวพุ่มๆปัดแป้งไปที่บริเวณใต้ตา หน้าแกม และ T-ZONE ของใบหน้าแค่เบาๆพอ ขั้นตอนนี้เหมือนเป็นการเซตรองพื้นของเราไว้นั้นเองคะ

STEP

: Mascara + Brow

ในลุคนี้เจจะไม่ติดขนตานะคะ อยากให้เป็นความสบายๆที่ไปกับเพื่อน เน้นไปที่ปัดขนตาแน่นๆไปคะ การปัดขนตาของเจ เริ่มจากการปัดขนตากันก่อนนะคะ เจใช้มาสคาร่าของ BQ Cover Mascara ที่มีความติดทน ปัดง่าย และเป็นอีกหนึ่งมาสคาร่าลูกรักของเจคะ มาเริ่มจากการปัดขนตาบนก่อนคะ ( สำหรับในวันนี้เจขออนุญาตไม่ดัดขนตานะคะ พอดีเจขึ้นไปถอดขนตาที่ต่อมา น้องขนตานั้นมีหลุดบ้างและที่พึ่งขึ้นมาใหม่ยังอ่อนและบางอยู่เลยขอปล่อยน้องเขาไว้แบบนั้นก่อน ) การปัดขนตาเจจะปัดที่บริเวณโคนขนตาก่อน แล้วค่อยๆงัดจากโคนขึ้นมาถึงบริเวณปลายขนตาวิธีนี้จะช่วยให้ขนตานั้นขนตั้งขึ้นไม่ตกง่ายคะ เมื่อปัดขนตาบนเสร็จมาต่อที่ขนตาล่างก็เช่นกันคะ เจค่อยงัดทีนี้น้อยๆเส้น เพื่อกันการเกาะกันของขนตาล่าง จบกับงานขนตากันไป ไหนๆก็มาในส่วนงานขนๆกันแล้ว เจขอจัดการปัดขนคิ้วให้ตั้งๆแบบแม่ชมกันเลยนะคะ โดยเจเลือกใช้ Maybelline Hyper Curl Waterproof Mascara Brown ที่มีสีน้ำตาล ปัดขนคิ้วบริเวณหัวคิ้วให้ตั้งขึ้น ตามด้วยกปัดขนคิ้วบริเวณส่วนกลางให้เรียงเป็นเส้นตามแนวคิ้วจนถึงหางคิ้วคะ เมื่อทำเสร็จทั้งสองข้างแล้ว เทคนิคการทำให้ขนคิ้วตั้งทั้งวันอีกวิธีหนึ่งของเจที่ทำบ่อยๆคือการนำสเปรย์ที่ให้ในการเซตผมนั้น ฉีดลงที่ฝ่ามือของเราเพียงเล็กน้อย จากนั้นให้นิ้วมือแตะสเปรย์ที่ฝ่ามือเล็กน้อยลูปไปตามแนวขนคิ้วที่เราปัด โดยต้องรอให้มาสคาร่าที่เราปัดขนคิ้วแห้งไปก่อนนะคะ ขอบอกเลยว่า เทคนิคนี้ดีงามจริงๆ ขนคิ้วตั้งได้ทั้งวันเลยคะ ^^

STEP

: Lipstick

ลุคนี้เจใช้ลิปสติกของ L’Oreal Infallible Pro Matte Liquid Lipstick สี Les Chocolate ( 848 ) ทาเป็นเบสก่อน โดยทาให้ทั่วริมฝีปากทั้งบนและล่าง เกลี่ยเนื้อลิปให้เรียบเนียนเท่ากันและเบลนให้เลยขอบปากแบบเบลอๆ เจไม่เน้นขอบปากชัดมากคะ สำหรับลิปสติกรุ่นนี้ เจชอบที่เนื้อสัมผัสของเขาเนียนดี เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอม ถือว่าติดทนได้ดีในระดับหนึ่งเลยคะ เพราะหากมีการรับประทานอาหาร ดื่มน้ำก็อยากมีหลุดออกมาเป็นเรื่องปกติคะ

STEP

: Blush

งานแก้มของเรานั้น เจให้แปรงปัดแก้ม แตะที่สีของบลัช โดยเจเลือกใช้สี S5 My Gigi ของ 4U2 - You Heart Me Blush เป็นสีที่ส้มๆกำลังดี gs เหมาะกับลุคนี้คะ โดยเจปัดแค่เบาๆวนๆเล็กน้อยในบริเวณพวงแก้มคะ

STEP

: Highlight

Hightlight ในวันนี้นั้น เจเลือกใช้ Wet n Wild MegaGlo Highlighter สี E321B ที่มีความเป็นสีไข่มุกประกายทองๆ และก่อนการลง Highlight สิ่งสำคัญมากๆที่เจทำคือ เจจะส่องกระจกโดยหันหน้าเข้าหาแสง เพื่อดูว่าแสงตกแระทบบริเวณใดบ้างของใบหน้า เพราะรองพื้น คูชั่น หรือแป้งที่เราลงบนใบหน้าแต่ละตัวนั้น มีส่วนผสมที่แตกต่างกัน ให้ความฉ่ำวาวไม่เท่ากัน การเล่นแสงเล่นไฟมากน้อยต่างกัน เจเลยต้องทำสิ่งนี้ทุกครั้ง เพื่อให้การลง Highlingt ของเรานั้นตรงจุดที่แสงตกกระทบและกลมกลืนกับลุคที่เราแต่งไปคะ บริเวณที่เจลงก็ตามที่วงไว้เลยคะ เหนือคิ้วทั้งสองข้าง โหนกแก้ม สันจมูก ปลายจมูก คาง และบริเวณกระจับปากคะ

STEP

: Keep make up details

ด้วยลุควันนี้แล้วเจอยากให้ปากไม่จัดจ้านเกินไปหรือเบาจนเกินไป เจเลือกใช้สี 14M Monica ของแบรนด์อะไรเจก็จำไม่ได้แล้วต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่สีแบบนี้มีหลายแบรนด์ที่ผลิตออกมา เพื่อนๆสามารถหาซื้อได้คะ เขาจะให้สีที่ออกแดงกล่ำๆ ไม่ฉูดฉาดเกินไป ที่บริเวณข้างในริมฝีปากทั้งบนและล่าง จากนั้นใช้นิ้วค่อยๆเบลนสีของลิปออกมาจนเลยขอบปาก เน้นให้บริเวณข้างในริมฝีปากให้มีเข้มกว่าและค่อยๆไล่สีออกมาคะ หลังจากเก็บสีที่ปากเรียบร้อยแล้ว เจก็นำ Hightlight มาแตะที่บริเวณริมฝีปากล่างนิดหน่อยคะ เพื่อเพิ่มความวาวให้ปากดูมีมิติขึ้นคะ

STEP

: Setting Spray

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้วคะเพื่อนๆ นั้นคือการเซตทุกอย่างที่เราแต่งลงไปบนใบหน้าของเรา ขั้นตอนนี้เจใช้สเปรย์น้ำแร่อาเวน เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์จากแหล่งน้ำแร่โดยตรง ที่มีความอ่อนโยน ไม่ระคายเคือง สบายผิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่ Sensitive อย่างเรา เลิฟมากๆคะ เจใช้ฉีดก่อนลง Skin Care ทั้งเช้าเย็น และหลังแต่งหน้าทุกครั้งคะ โดยไม่ต้องฉีดสเปรย์เข้าใกล้ใบหน้าของเรามากจนเกินไปนะคะ ฉีดวนๆเล็กน้อยให้ทั่วใบหน้าก็พอคะ ขั้นตอนนี้จะทำให้ Make up ของเรานั้นดูเข้ากันและติดทนนานมากยิ่งขึ้นคะ

ขอลองกับแสงแดดธรรมชาติดูบ้าง ฉ่ำวาวเล่นแสงแบบสุดๆไปเลยคะ

สำหรับรูปเซตนี้ เจถ่ายภายในห้องคะ โดยรูปถ่ายในการทำ How to ครั้งนี้ เจใช้กล้องหน้าของโทรศัพท์มือถือ iPhone 11 Pro Max แทนการใช้กล้องโปรเพราะกะทันหันมากๆ  แต่ก็ไม่มีการปรับแสงหรือสีอะไรแต่อย่างใด เพื่อให้ทุกอย่างออกมาได้ตรงตามที่แต่งออกมาคะ ^^

จบไปแล้วนะคะสำหรับลุค The Party With The Girls Gang ที่เจมีความตั้งใจมากๆที่จะ Create มันออกมา มีความตื่นเต้นอยู่มากqกับการทำ How to ครั้งแรก ซึ่งถือว่าเป็นมือใหม่เลยก็ว่าได้กับบ้านจีบัน ^^ อย่างไรก็ตามเจเชื่อว่า Make up ไม่มีผิดถูกคะ ทุกคนสามารถเรียนรู้เทคนิคต่างๆและนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง อาจจะเล่นอะไรที่แตกต่างออกไป มันก็ถือเป็นงานศิลปะที่มีความสร้างสรรค์เฉพาะตัวคะ ยังไงเจก็ขอฝากลุคนี้เป็นอีกลุคที่ชวนให้เพื่อนๆได้ลองกล้าทำแบบเจน๊า อาจจะติดการอธิบายที่เยอะมากๆ เพราะตั้งใจอยากบอกต่อให้ละเอียดครบถ้วน และหากขาดตกในส่วนใดไปก็ขอโทษด้วยนะคะ ^^ 


สุดท้ายต้องขอขอบคุณบ้านจีบันที่มีกิจกรรมดีดีเสมอและเป็นพื้นที่ให้พวกเราทุกคนให้แลกเปลี่ยน แบ่งปัน แชร์เรื่องราวดีดีให้กันและกันคะ :")


Triam Chit

Triam Chit

สวัสดีคะ เราชื่อ เจ มีลูกชายเป็นแมวเปอร์เซีย ชื่อ Sugar


สภาพผิว : ผิวแห้งขาดน้ำ ผิวบอบบางแพ้ง่าย
สภาพผม : ผมตรง เส้นเล็ก ผมทำสีน้ำตาล

Contract Line : triamchit573
Instagram : Triam Chit
Facebook : Triam Chit

และขอฝากติดตามตามเพจ แม่ไอ้ก้า ด้วยน๊า 🌈🤍💕

FULL PROFILE