ค้นหามอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิว พร้อมนวดมือแบบฟินๆกับ La Mer
offochu 54 21 GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^ถ้าพูดถึง La Mer เชื่อเลยว่าต้องเป็นทั้งแบรนด์โปรดและแบรนด์ในฝันของหลายๆคนใช่มั้ยคะ?
แน่นอนว่าเป็นแบรนด์สุดรักของออฟด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่โปรดักซ์ที่เราหลงรักนะคะ รวมไปถึง service ทั้งการใช้บริการที่เคาน์เตอร์และหลังใช้บริการ ที่ออฟประทับใจมากๆ จนเป็นลูกค้าของลาแมร์ไปโดยปริยาย อิอิ ซึ่งวันนี้จะเล่าถึงการมาใช้บริการ Discover Your Perfect Moisturizer เราเลือกมาที่สาขาโรบินสัน พระราม9 ค่ะ เพราะใกล้ออฟฟิศมากที่สุด เลิกงานแล้วเดินชิลๆมาได้เลย ไม่ต้องรีบ 555555
ความประทับใจแรกคือพอเราทราบกิจกรรมจากทางจีบัน เลยโทรหาที่เคาน์เตอร์เลยค่ะ พี่บีเอรับสายด้วยน้ำเสียงดี ฟังแล้วสบายใจ ถามความสะดวกของเราว่าจะมาใช้บริการวันไหน พร้อมลงคิวนัดใช้บริการให้เรียบร้อยจ้า
โดยพี่บีเอที่เรามาใช้บริการชื่อว่า พี่ฟ้า ได้ต้อนรับอย่างดี และทุกครั้งที่เรามาที่นี่บีเอจะต้อนรับด้วยน้ำแร่ Mont Fleur เย็นๆดื่มแล้วชื่นใจทุกครั้ง (แต่ครั้งนี้เราไม่สบายเลยขอเป็นแบบไม่เย็นค่ะ5555) ซึ่งพี่ฟ้าก็จัดให้ พร้อมกับแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เราจะทำทรีตเมนท์และค้นหามอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวเรากันค่ะ
เริ่มจากการทำความสะอาดมือและแขนกันก่อน ใช้ The Cleansing Micellar Water คลีนซิ่งน้ำเทใส่ลำสีแล้วเช็ดทำความสะอาด หลังจากนั้นลงด้วย The Treatment Lotion โลชั่นลูกรักของเรา 55555 เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวค่ะ พี่ฟ้าจะเริ่มนวดแบบเบามือ จนทรีตเม้นท์ซึมลงผิวค่ะ
มาถึงไฮไลท์ของงานนี้คือบรรดามอยส์เจอไรเซอร์ทั้ง 5 แบบ ที่พี่ฟ้าให้นำมาให้เราได้ลอง โดยทุกครั้งที่เราสังเกตเวลาพี่เอจะตักครีมจะต้องมีไม้พายตักด้วยคามประณีตตลอด ซึ่งรู้เลยว่ามีการเทรนงานที่ดีจริงๆ เพื่อความสะอาดและรักษาครีมให้เป็นมาตรฐาน
ขอชมเลยว่าเคาน์เตอร์ลาแมร์นี่หาฝุ่นไม่ได้เลย แบบสะอาดและสบายตาไปหมด ซึ่งทุกๆขั้นตอนพี่ฟ้าจะอธิบายดีมาก พร้อมให้แชะภาพขั้นตอนทำทรีตเมนท์แบบจุกๆ ตามใจตากล้องของเราเลยค่ะ
จะเอาช็อตไหน มุมไหนรีเควสพี่ฟ้าได้เลย ซึ่งพี่ฟ้าอธิบายว่าครีมของลาแมร์เป็นชนิดเดียวกัน แต่จะมีให้เลือกตามสภาพผิว แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า
ขอชมเลยว่าเคาน์เตอร์ลาแมร์นี่หาฝุ่นไม่ได้เลย แบบสะอาดและสบายตาไปหมด ซึ่งทุกๆขั้นตอนพี่ฟ้าจะอธิบายดีมาก พร้อมให้แชะภาพขั้นตอนทำทรีตเมนท์แบบจุกๆ ตามใจตากล้องของเราเลยค่ะ
จะเอาช็อตไหน มุมไหนรีเควสพี่ฟ้าได้เลย ซึ่งพี่ฟ้าอธิบายว่าครีมของลาแมร์เป็นชนิดเดียวกัน แต่จะมีให้เลือกตามสภาพผิว แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า
ซึ่งในแต่ละสูตรจะเรียงลำดับตามนี้ค่ะ
- Crème de la Mer ครีมในตำนานที่แท้ เป็น In My Dream มาตั้งแต่เด็กๆเลยก็ว่าได้ มีเท็กเจอร์ที่เข้มข้นที่สุดให้ช่วยผิวกระจ่างใส ดูแลผิวในระยะยาว เรียกว่าเป็นควีนของลาแมร์เลยก็ว่าได้ พี่ฟ้าแนะนำว่าการใช้ครีมนี้จะต้องวอร์มก่อนนะคะ เพื่อเลี่ยงการอุดตัน วอร์มจนเป็นเนื้อใส ไม่ต้องกลัวว่าครีมจะหายไปไหนนะ ครีมยังอยู่บนผิวมือเราค่ะ แล้วใช้ฝ่ามือประคบลงใบหน้า ลูบไล้ตามจุดต่างๆให้ทั่วใบหน้า เหมาะกับคนผิวแห้งมากๆ
- The Moisturizing Soft Cream สูตรนี้ก็คือครีมเดอลาแมร์ในเวอร์ชั่นเบาลงมาอีกสเต็ปค่ะ เนื้อนุ่มมากๆ เหมาะกับคนผิวผสมค่ะ
- The Moisturizing Soft Lotion เป็นซอฟต์ครีมแต่มาในรูปแบบโลชั่น ซึ่งแบบขวดเหมาะกับการพกพาด้วย พี่ฟ้าบอกว่ามีลูกค้าพกไปฟิตเนสด้วยค่ะ ^^
- The Moisturizing Cool Gel Cream เนื้อเจลเย็นๆที่ตอบโจทย์ผิวออฟมากๆเลย เพราะเราผิวมัน ชอบอะไรที่บางเบาแต่ยังคงความชุ่มชื้นอยู่ ทาลงซึมง่ายดีค่ะ
- The Moisturizing Matte Lotion โลชั่นเนื้อแมทท์ที่พี่ฟ้าแนะนำให้ใช้ตอนเช้า สำหรับคนที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ และต้องการความแมทท์ ดีต่อผิวมันอีกแล้ว 5555
จากที่ได้ลองเนื้อสัมผัมทั้งหมดครบ เราชอบ The Moisturizing Cool Gel Cream มากที่สุดเลยค่ะ อย่างที่บอก ออฟผิวมันมาก จะเลือกแต่สกินแคร์ที่ไม่ทำให้เหนอะหน้า ยิ่งอากาศบ้านเราด้วย เลยชอบเนื้อเจลมากที่สุดค่ะ คิดว่าน่าจะสบายผิวทั้งกลางวันและกลางคืน
ในตอนที่พี่ฟ้าตักครีมจะอธิบายประวัติความเป็นมาของลาแมร์ เหมือนเล่าสู่กันฟังมากกว่าค่ะ (ออฟชอบนะกับการที่เราได้รู้สตอรี่ความเป็นมาของแต่ละแบรนด์) ว่ากว่าจะมาเป็นครีมดีๆที่โด่งดังไปทั่วโลก ต้องใช้ระยะเวลา 12 ปีเต็ม
โดยทดลองกับ ดร.Max Huber นักฟิสิกส์ที่เขาได้ประสบเหตุการณ์ในห้องทดลอง (เจ๋งอ่ะครีมมาจากนัฟิสิกส์) ผ่านการทดลองจากตัว ดร.เองถึง 6 พันกว่าครั้ง โดยค้นพบทางชีวภาพจากการหมักบ่ม ของสาหร่ายซีเคลป์ จนได้มาเป็นน้ำ Miracle Broth™ ที่เป็นส่วนผสมในโปรดักซ์ของลาแมร์ แทบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้
หลังจากที่เราได้ลองเนื้อครีมทั้ง 5 แบบแล้ว พี่ฟ้าก็ได้นวดครีมทั้งหมด โดยไล่นวดจากนิ้วมือ พี่ฟ้าจะนวดทีละนิ้ว ผ่อนคลายมากเลยค่ะ จากนั้นก็นวดฝ่ามือ ยิ่งโดยเฉพาะข้างขวา เพราะเราทำงานใช้คอม มือจับแต่เม้าส์ไม่ต่ำกว่า7ชม. เจอแบบนี้คืออยากหลับเลย เพลินมากจ้า 555555
แล้วสเต็ปสุดท้ายคือนวดแขนจ้า น้ำหนักมือของพี่ฟ้าคือดีมากอ่ะ มีการถามตลอดว่าอยากให้เน้นตรงไหน รึถ้านวดแรงไปบอกเขาได้ เนี่ยไม่ประทับใจได้ไง อิอิ
โดยทดลองกับ ดร.Max Huber นักฟิสิกส์ที่เขาได้ประสบเหตุการณ์ในห้องทดลอง (เจ๋งอ่ะครีมมาจากนัฟิสิกส์) ผ่านการทดลองจากตัว ดร.เองถึง 6 พันกว่าครั้ง โดยค้นพบทางชีวภาพจากการหมักบ่ม ของสาหร่ายซีเคลป์ จนได้มาเป็นน้ำ Miracle Broth™ ที่เป็นส่วนผสมในโปรดักซ์ของลาแมร์ แทบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้
หลังจากที่เราได้ลองเนื้อครีมทั้ง 5 แบบแล้ว พี่ฟ้าก็ได้นวดครีมทั้งหมด โดยไล่นวดจากนิ้วมือ พี่ฟ้าจะนวดทีละนิ้ว ผ่อนคลายมากเลยค่ะ จากนั้นก็นวดฝ่ามือ ยิ่งโดยเฉพาะข้างขวา เพราะเราทำงานใช้คอม มือจับแต่เม้าส์ไม่ต่ำกว่า7ชม. เจอแบบนี้คืออยากหลับเลย เพลินมากจ้า 555555
แล้วสเต็ปสุดท้ายคือนวดแขนจ้า น้ำหนักมือของพี่ฟ้าคือดีมากอ่ะ มีการถามตลอดว่าอยากให้เน้นตรงไหน รึถ้านวดแรงไปบอกเขาได้ เนี่ยไม่ประทับใจได้ไง อิอิ
มาดูเคล็ดลับผิวมือสวยของบีเอลาแมร์กันค่ะ คือเราสังเกตตลอดเวลาไปเคาน์เตอร์ลาแมร์ มือบีเอจะผ่องมากๆ ผิวดูเต่งกันทุกคน ซึ่งเราก็แอบถามว่า ทำไมมือสวยกันจังเลยคะ ด้วยความที่บีเอจะต้องบริการลูกค้า ทำให้สัมผัสครีมลาแมร์อยู่เป็นประจำ เลยเป็นผลพลอยได้นี่เอง มือเลยสวยสุขภาพดีทุกคนจ้า
ลองคิดสิว่า เห้ย ขนาดมือบีเอยังสวยเพราะครีมอ่ะ แล้วผิวหน้าเราจะไม่สวยได้ไง! อิอิ
ไม่ใช่เพราะครีมแล้วจะอะไรล่ะ ถูกมั้ย 555 (คือชีหาเรื่องซื้อแฮนด์ครีม55555)
ลองคิดสิว่า เห้ย ขนาดมือบีเอยังสวยเพราะครีมอ่ะ แล้วผิวหน้าเราจะไม่สวยได้ไง! อิอิ
ไม่ใช่เพราะครีมแล้วจะอะไรล่ะ ถูกมั้ย 555 (คือชีหาเรื่องซื้อแฮนด์ครีม55555)
มาถึงขั้นตอนสุดท้าย ได้มาพบกับไอเท็มที่ทำให้มือของบีเอลาแมร์ดูเต่งตึง 555
โดยเป็น The Hand Treatment ทรีทเมนท์ฟื้นฟูบำรุงมือด้วยความชุ่มชื้นเข้มข้น เนื้อครีมเนียนนุ่มแล้วหอมละมุนมาก พี่ฟ้าบรรจงทาครีมให้อย่างเบามือ แล้วนวดตามซอกนิ้วต่างๆ คือละเอียดมากๆ เป็นสปามือดีๆนี่เอง ?
ผิวมือสวยไปแล้ว ตบท้ายด้วยผิวกายกันค่ะ ด้วย The Body Crèam เนื้อครีมที่เข้มข้นมอบให้ความชุ่มชื้นยาวนาน (คือกลับมาห้อง ผิวยังชุ่มชื้นดีอยู่เลย ไม่อยากอาบน้ำเลย เสียดายครีมง่ะ ? 5555 ) สัมผัสของครีมมีความเนียนนุ่มมากก ทาแล้วผิวดูเงานิดๆ
โดยเป็น The Hand Treatment ทรีทเมนท์ฟื้นฟูบำรุงมือด้วยความชุ่มชื้นเข้มข้น เนื้อครีมเนียนนุ่มแล้วหอมละมุนมาก พี่ฟ้าบรรจงทาครีมให้อย่างเบามือ แล้วนวดตามซอกนิ้วต่างๆ คือละเอียดมากๆ เป็นสปามือดีๆนี่เอง ?
ผิวมือสวยไปแล้ว ตบท้ายด้วยผิวกายกันค่ะ ด้วย The Body Crèam เนื้อครีมที่เข้มข้นมอบให้ความชุ่มชื้นยาวนาน (คือกลับมาห้อง ผิวยังชุ่มชื้นดีอยู่เลย ไม่อยากอาบน้ำเลย เสียดายครีมง่ะ ? 5555 ) สัมผัสของครีมมีความเนียนนุ่มมากก ทาแล้วผิวดูเงานิดๆ
จากการที่ออฟไปใช้บริการ Discover your Perfect Moisturizer ในวันนั้นขอบอกต่อความประทับใจกับ La Mer ในหลายๆด้าน ชื่นชมการให้บริการของพนักงานทุกท่าน ซึ่งทำให้เรารับความอบอุ่น ลืมการกลัวเข้ามาที่shopไปได้เลยค่ะ จากตอนแรกคิดว่าจะต้องซื้อของก่อน แต่ไม่ใช่เลย ลาแมร์เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าไปลองสินค้าจริงๆ
โดยที่เราไม่รู้สึกเขอะเขินหรืออึดอัดแต่อย่างใดค่ะ ไม่บีบให้เราซื้อของก่อนด้วย อันนี้ล่ะที่เราว่าลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการแบบนี้ เพราะสินค้าเคาน์เตอร์แบรนด์มีราคาสูง การที่เราจะเปย์ของสักชิ้น ไม่ใช่แค่การอ่านรีวิวแน่นอนค่ะ ต้องเข้ามาลองเนื้อสัมผัสก่อนตัดสินใจซื้อ
ซึ่งลาแมร์เป็นแบรนด์ที่ดูแลลูกค้าดีมากเลยค่ะ นี่ล่ะที่จะดึงดูดให้ลูกค้าได้เข้ามาทำความรู้จักมากขึ้น ? ก่อนจะกลับขอพี่ฟ้าแชะภาพไว้สักหน่อย เผื่อใครผ่านมาที่พระราม 9 จะได้รู้จักพี่ฟ้า พี่เขาให้บริการดีจริงๆค่ะ
โดยที่เราไม่รู้สึกเขอะเขินหรืออึดอัดแต่อย่างใดค่ะ ไม่บีบให้เราซื้อของก่อนด้วย อันนี้ล่ะที่เราว่าลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการแบบนี้ เพราะสินค้าเคาน์เตอร์แบรนด์มีราคาสูง การที่เราจะเปย์ของสักชิ้น ไม่ใช่แค่การอ่านรีวิวแน่นอนค่ะ ต้องเข้ามาลองเนื้อสัมผัสก่อนตัดสินใจซื้อ
ซึ่งลาแมร์เป็นแบรนด์ที่ดูแลลูกค้าดีมากเลยค่ะ นี่ล่ะที่จะดึงดูดให้ลูกค้าได้เข้ามาทำความรู้จักมากขึ้น ? ก่อนจะกลับขอพี่ฟ้าแชะภาพไว้สักหน่อย เผื่อใครผ่านมาที่พระราม 9 จะได้รู้จักพี่ฟ้า พี่เขาให้บริการดีจริงๆค่ะ
ก่อนจะกลับขอนำภาพมาฝากกันนะคะ รูปจะเยอะหน่อยๆ 555 หากเพื่อนๆคนไหนสนใจแบรนด์ลาแมร์ ลองแวะเข้าไปที่เคาน์เตอร์ได้เลยนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าต้องซื้อของก่อน เราเชื่อว่าพนักงานลาแมร์ยินดีต้อนรับลูกค้าเสมอ แล้วจะหลงรักแบบเรา
??