Review : Skincare วัยรุ่น แบบชุ่มชิ้นสุขภาพดี
lukchit 40 11เราอยากมาแชร์สิ่งดีๆให้กับทุกคน บอกก่อนว่าเราอายุ 21 เป็นคนผิวผสม แพ้ง่ายและอุดตันง่ายจ้า เราเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายที่สู้รบกับโปรเจกต์ปีสุดท้ายมาอย่างมากมาย เชื่อว่ามีอีกหลายๆคนที่เผชิญอยู่ ทั้งอดหลับอดนอน ความเครียดรอบกาย 555 เลยอยากจะแชร์สกินแคร์ที่ใช้อยู่ และทำให้ผิวดีขึ้นพร้อมต่อการเผชิญศึกอีกมากมาย
ปล. มีหลายชิ้นที่เป็นของเราซื้อเอง บางชิ้นเป็นของพี่และแม่ หรือบางชิ้นก็หารกันใช้ด้วยกัน อย่าตกใจว่าทั้งหมดเป็นของเราคนเดียวนะ 5555
-Eucerin Acne&Make up Cleansing Water (400 ml./1350฿) สำหรับเราเป็นรีมูฟเวอร์ที่ขาดไม่ได้เลยจริง เคยลองเปลี่ยนใจไปใช้ตัวอื่นก็ดีไม่เท่าตัวนี้ ตัวนี้สามารถทำความสะอาดได้หมดจดเช็ดแล้วผิวไม่ลื่นๆและไม่ได้ทำให้หน้าแห้งตึงๆ และที่สำคัญสำหรับเราคือสิวมันลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ถ้าใครเป็นมีปัญหาสิวเราแนะนำตัวนี้สุดๆ
-La roche-posay effaclar foaming gel (400 ml./1100฿) โฟมล้างหน้าสำหรับเราขอแค่ล้างสะอาด หน้าไม่แห้งตึง ไม่แพ้สิวไม่ขึ้นก็เพียงพอ ซึ่งตัวนี้ก็ตอบโจทย์ ล้างสะอาด ไม่แห้งตึง และยังเหมาะสำหรับคนเป็นสิวนะ เนื้อเป็นเจลใสแต่ถูไปแล้วก็เป็นฟองนิดหน่อย กลิ่นก็โอเค
-Foreo luna mini 2 (6450฿) ตอนแรกที่ออกมาใหม่ๆ เราคิดแบบเครื่องล้างหน้าอะไรแพงมากกกกกกกกกกก มากจริงๆ แต่พอมาลองใช้จริงๆ แบบว้าวๆๆๆๆๆ ใช้ปุ๊บรู้สึกเลยว่าแตกต่างกับการล้างหน้าด้วยมือจริงๆ หน้ามันจะลื่นๆฟีลเดียวกับเราใช้มาส์กที่ทำความสะอาดผิวหรือสครับอะ ฟีลดีโคตรรรรรรร แต่ราคามันแพงจริง แต่ถ้าลองเทียบราคากับเราซื้อพวกมาส์กหรือสครับ ก็อาจจะไม่ได้ต่างกัน อันนั้นใช้หมดก็ทิ้ง แต่อันนี้ก็ใช้ไปอีกนานๆ แต่เราก็ไม่ได้ใช้ทุกวันนะ ใช้แค่วันเว้นวันบ้าง เว้นสองวันบ้าง และที่สำคัญสิวอุดตันเราน้อยลง และตรงจมูกที่เป็นสิวเสี้ยนก็เรียบขึ้นเยอะเลย
-La roche-posay effaclar foaming gel (400 ml./1100฿) โฟมล้างหน้าสำหรับเราขอแค่ล้างสะอาด หน้าไม่แห้งตึง ไม่แพ้สิวไม่ขึ้นก็เพียงพอ ซึ่งตัวนี้ก็ตอบโจทย์ ล้างสะอาด ไม่แห้งตึง และยังเหมาะสำหรับคนเป็นสิวนะ เนื้อเป็นเจลใสแต่ถูไปแล้วก็เป็นฟองนิดหน่อย กลิ่นก็โอเค
-Foreo luna mini 2 (6450฿) ตอนแรกที่ออกมาใหม่ๆ เราคิดแบบเครื่องล้างหน้าอะไรแพงมากกกกกกกกกกก มากจริงๆ แต่พอมาลองใช้จริงๆ แบบว้าวๆๆๆๆๆ ใช้ปุ๊บรู้สึกเลยว่าแตกต่างกับการล้างหน้าด้วยมือจริงๆ หน้ามันจะลื่นๆฟีลเดียวกับเราใช้มาส์กที่ทำความสะอาดผิวหรือสครับอะ ฟีลดีโคตรรรรรรร แต่ราคามันแพงจริง แต่ถ้าลองเทียบราคากับเราซื้อพวกมาส์กหรือสครับ ก็อาจจะไม่ได้ต่างกัน อันนั้นใช้หมดก็ทิ้ง แต่อันนี้ก็ใช้ไปอีกนานๆ แต่เราก็ไม่ได้ใช้ทุกวันนะ ใช้แค่วันเว้นวันบ้าง เว้นสองวันบ้าง และที่สำคัญสิวอุดตันเราน้อยลง และตรงจมูกที่เป็นสิวเสี้ยนก็เรียบขึ้นเยอะเลย
ขอเริ่มที่ -Shiseido treatment softener Enriched lotion (150 ml./2000฿) ตัวนี้จริงๆมี 2 สูตร อีกอันจะเป็นสำหรับคนผิวมันเนื้อเค้าจะใสกว่าเหลวกว่า แต่แอลกอฮอล์ตัวนั้นแรงชัดเจนมากก เราเลยชอบตัวสำหรับผิวแห้งนี้มากกว่า อันนี้เนื้อโลชั่นจะนุ่มๆ ที่สำคัญที่ซื้อเลยเพราะกลิ่น กลิ่นหอมมากกกกกกก ไม่ได้หอมแบบน้ำหอมอะ มันหอมแบบสบายๆ ส่วนตัวใช้แล้วความชุ่มชื้นอาจจะไม่ได้ขนาดนั้น แต่ว่าหน้านุ่มขึ้นมากก เหมือนเค้าบอกมันจะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะมั้ง ถ้าเราจำไม่ผิด เราชอบนะมันสบายผิวลงครีมตัวต่อไปง่ายขึ้น ช่วงไหนเครียดก็กดแล้วเอามาดมก่อน ละค่อยทา 5555
-Acseine moistbalannce lotion (360 ml./2100฿) เราจะใช้ตัวนี้เป็นหลักเลย เนื้อจะเป็นน้ำใสๆ เหมือนน้ำเปล่า มีความนุ่มๆ เติมน้ำให้ผิวได้ดีมากๆ เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งแล้วไม่รู้จะใช้อะไรอะ เพราะมันเป็นแบนรด์สำหรับคนผิวแพ้ง่ายอะ ราคาเหมือนจะแรง แต่ถ้าเทียบปริมาณแล้วเราว่าปกติมาก อาจจะหาซื้อยากหน่อย เพราะมีขายที่ไอคอนสยามที่เดียว
-Jurlique Activating water essence (150 ml./ ราคาน่าจะ 2000 กว่ามั้ง) เนื้อตัวนี้ก็เป็นน้ำเหมือนกัน กลิ่นก็หอมมากแต่แอบชอบกลิ่นชิเซโด้มากกว่า สำหรับเรามันชุ่มชื้นนะ ทำใหผิวฟูๆอิ่มน้ำด้วย แต่ข้อที่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เวลาใช้ลงบนหน้า เหมือนมันจะซึมเร็วหรือระเหยเร็วอะไรสักอย่าง มันทำให้เวลาเราลงเซรั่มตัวอื่นๆมันเกลี่ยไม่ค่อยไปอะ เหมือนทาเซรั่มบนหน้าที่มันแห้งๆอะ เลยทำให้เราไม่ค่อยชอบตัวอื่นๆมันจะยังเหลือความชุ่มชื้นบนผิวให้เกลี่ยครีมตัวต่อไปได้อะ
-La roche-posay effaclar H lotion (200 ml./800฿) ตัวนี้เราจะใช้เฉพาะช่วงที่เรามีสิวเท่านั้นอะ หรืออยากจะเช็ดหน้าอีกรอบหลังล้างหน้า อันนี้เราจะใช้วิธีใช้สำลีแล้วเช็ดเป็นโทนเนอร์เอา ความชุ่มชื่นก็กลางๆ แต่เค้าบอกว่ามันจะช่วยปรับสมดุลผิว เราเลยจะใช้ช่วงที่เป็นสิวเท่านั้น
-Origins mega mushroom treatmet lotion (200 ml./1800฿) อันนี้เป็นตัวดังที่หลายๆคนใช้ สำหรับเราช่วงแรกๆใช้แล้วเหมือนจะดันให้สิวอุดตันขึ้นมาละมั้ง เรา่ใช้ๆหยุดๆ ลองอยู่หลายครั้งจนคิดว่าจะไม่ใช้แล้ว แต่พอมาลองอีกทีช่วงที่หน้าเป็นผดๆหรือมีแดงๆคันๆ เอามาใช้มันกลับช่วยทำให้ผดดีขึ้น อาการแดงๆก็หายไป แล้วก็ไม่ได้ทำให้สิวอุดตันขึ้นด้วย แต่เราก็ยังไม่กล้าใช้ติดกันหลายๆวัน เพราะก็กลัวมันเป็นเหมือนเดิม
-Acseine moistbalannce lotion (360 ml./2100฿) เราจะใช้ตัวนี้เป็นหลักเลย เนื้อจะเป็นน้ำใสๆ เหมือนน้ำเปล่า มีความนุ่มๆ เติมน้ำให้ผิวได้ดีมากๆ เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งแล้วไม่รู้จะใช้อะไรอะ เพราะมันเป็นแบนรด์สำหรับคนผิวแพ้ง่ายอะ ราคาเหมือนจะแรง แต่ถ้าเทียบปริมาณแล้วเราว่าปกติมาก อาจจะหาซื้อยากหน่อย เพราะมีขายที่ไอคอนสยามที่เดียว
-Jurlique Activating water essence (150 ml./ ราคาน่าจะ 2000 กว่ามั้ง) เนื้อตัวนี้ก็เป็นน้ำเหมือนกัน กลิ่นก็หอมมากแต่แอบชอบกลิ่นชิเซโด้มากกว่า สำหรับเรามันชุ่มชื้นนะ ทำใหผิวฟูๆอิ่มน้ำด้วย แต่ข้อที่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เวลาใช้ลงบนหน้า เหมือนมันจะซึมเร็วหรือระเหยเร็วอะไรสักอย่าง มันทำให้เวลาเราลงเซรั่มตัวอื่นๆมันเกลี่ยไม่ค่อยไปอะ เหมือนทาเซรั่มบนหน้าที่มันแห้งๆอะ เลยทำให้เราไม่ค่อยชอบตัวอื่นๆมันจะยังเหลือความชุ่มชื้นบนผิวให้เกลี่ยครีมตัวต่อไปได้อะ
-La roche-posay effaclar H lotion (200 ml./800฿) ตัวนี้เราจะใช้เฉพาะช่วงที่เรามีสิวเท่านั้นอะ หรืออยากจะเช็ดหน้าอีกรอบหลังล้างหน้า อันนี้เราจะใช้วิธีใช้สำลีแล้วเช็ดเป็นโทนเนอร์เอา ความชุ่มชื่นก็กลางๆ แต่เค้าบอกว่ามันจะช่วยปรับสมดุลผิว เราเลยจะใช้ช่วงที่เป็นสิวเท่านั้น
-Origins mega mushroom treatmet lotion (200 ml./1800฿) อันนี้เป็นตัวดังที่หลายๆคนใช้ สำหรับเราช่วงแรกๆใช้แล้วเหมือนจะดันให้สิวอุดตันขึ้นมาละมั้ง เรา่ใช้ๆหยุดๆ ลองอยู่หลายครั้งจนคิดว่าจะไม่ใช้แล้ว แต่พอมาลองอีกทีช่วงที่หน้าเป็นผดๆหรือมีแดงๆคันๆ เอามาใช้มันกลับช่วยทำให้ผดดีขึ้น อาการแดงๆก็หายไป แล้วก็ไม่ได้ทำให้สิวอุดตันขึ้นด้วย แต่เราก็ยังไม่กล้าใช้ติดกันหลายๆวัน เพราะก็กลัวมันเป็นเหมือนเดิม
ต่อกันที่ -La roche-posay effaclar duo+ (40 ml./990฿) เราไม่รู้ว่าเราเรียงขั้นตอนถูกมั้ย แต่ถ้าตัดสินใจระหว่างเนื้อสัมผัสไม่ได้ เราจะใช้วิธเลือกจากความกังวลก่อน ตัวนี้เป็นตัวที่ช่วยเรื่องสิวโดยเฉพาะ เราจะทาบริเวณที่มีสิว หรือเป็นสิวบ่อยๆ มันไม่ได้ทำให้สิวหายแต่อย่างใด แต่มันช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวใหม่ เราใช้แล้วเห็นผลอะ มันทำให้สิวขึ้นน้อยลงมาก
-Kiehl's clearly corrective dark spot solution (50 ml./3020฿) เราจะใช้เฉพาะจุดเท่านั้น มันทำให้รอยสิวจางไวแบบมากๆ ประมาณ 2 อาทิตย์อะ จางแบบเห็นได้ชัดเลย แต่บางวันเราก็ทาทั่วหน้านะ
-Physiogel soothing care anti redness serum (30 ml./1200฿) อันนี้ขาดไม่ได้เลยย เพราะเราเป็นคนที่ผื่นขึ้นง่ายมาก แล้วมันไม่ใช้เป็นผื่นเล็กๆกระจายๆอะ มันจะเป็นตุ่มเหมือนมดกัดคันๆ พอใช้ตัวนี้มาเรื่่อยๆ มันหายอะ แบบไม่เคยเป็นแบบนั้นอีกเลย หรือเป็นก็นานๆเป็นที ชุ่มชื้นดีด้วย กลิ่นยาๆหน่อย เราจะใช้ประจำนะ สลับกับตัวอื่นๆบ้าง เดี๋ยวนี้มันชอบมี 1 แถม1 อะ คุ้มมาก
-Estee lauder advance night repair (50 ml./4700฿) เราใช้เฉพาะวันที่รู้ว่าจะนอนดึกๆ หรือช่วงหน้าโทรมๆนะ ดีมากเหมือนกัน ชุ่นชื้นดี ไม่เหนียว ตื่นมาหน้าอิ่มฟู ชุ่มชิ้น แอบช่วยทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย
-Clarins double serum (50 ml./ 4000 กว่าๆ) อันนี้เราใช้แบบอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งอะ เนื้อจะเป็นออยล์ผสมน้ำอะ ตอนแรกไม่กล้าใช้เพราะกลัวอุดตัน แต่เรานานๆใช้ที ก็เลยไม่เป็นไร เราชอบอะกลิ่นก็หอม ช่วยให้หน้าอิ่มฟู ชุ่มชื้น แถมทำให้รอยย่นเล็กๆของเราตื้นขึ้นด้วย
-Clarins hydra essential bi phase serum (30 ml./2800฿) แต่อันนี้เป็นอันแถมเวลาซื้อของที่เคาเตอร์ครบยอดอะ เนื้อจะเหมือน double serum เลย เป็นออยล์กับน้ำผสมกัน วันไหนที่ต้องการเติมน้ำให้ผิวเยอะๆ ต้องให้อันนี้เลยชุ่มชื้นมาก กลิ่นหอม ตื่นมาผิวนุ่มชุ่มชื้นมากกกก
-Physiogel soothing care anti redness serum (30 ml./1200฿) อันนี้ขาดไม่ได้เลยย เพราะเราเป็นคนที่ผื่นขึ้นง่ายมาก แล้วมันไม่ใช้เป็นผื่นเล็กๆกระจายๆอะ มันจะเป็นตุ่มเหมือนมดกัดคันๆ พอใช้ตัวนี้มาเรื่่อยๆ มันหายอะ แบบไม่เคยเป็นแบบนั้นอีกเลย หรือเป็นก็นานๆเป็นที ชุ่มชื้นดีด้วย กลิ่นยาๆหน่อย เราจะใช้ประจำนะ สลับกับตัวอื่นๆบ้าง เดี๋ยวนี้มันชอบมี 1 แถม1 อะ คุ้มมาก
-Estee lauder advance night repair (50 ml./4700฿) เราใช้เฉพาะวันที่รู้ว่าจะนอนดึกๆ หรือช่วงหน้าโทรมๆนะ ดีมากเหมือนกัน ชุ่นชื้นดี ไม่เหนียว ตื่นมาหน้าอิ่มฟู ชุ่มชิ้น แอบช่วยทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย
-Clarins double serum (50 ml./ 4000 กว่าๆ) อันนี้เราใช้แบบอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งอะ เนื้อจะเป็นออยล์ผสมน้ำอะ ตอนแรกไม่กล้าใช้เพราะกลัวอุดตัน แต่เรานานๆใช้ที ก็เลยไม่เป็นไร เราชอบอะกลิ่นก็หอม ช่วยให้หน้าอิ่มฟู ชุ่มชื้น แถมทำให้รอยย่นเล็กๆของเราตื้นขึ้นด้วย
-Clarins hydra essential bi phase serum (30 ml./2800฿) แต่อันนี้เป็นอันแถมเวลาซื้อของที่เคาเตอร์ครบยอดอะ เนื้อจะเหมือน double serum เลย เป็นออยล์กับน้ำผสมกัน วันไหนที่ต้องการเติมน้ำให้ผิวเยอะๆ ต้องให้อันนี้เลยชุ่มชื้นมาก กลิ่นหอม ตื่นมาผิวนุ่มชุ่มชื้นมากกกก
-La roche posay toleriane ultra (40 ml./960฿) อันนี้เราใช้มาแทบจะครบทุกเนื้อที่มีแล้วมั้ง ทั้ง ultra,ultra-light,fluid,อันที่สำหรับกลางคืนหลอดสีฟ้า แต่เราชอบหลอดสีฟ้ามากสุด เนื้อมันจะอยู่ระหว่าง light กับธรรมดา แต่ก็ใช้ได้ทุกตัวอยู่ที่อยากซื้อตัวไหน เพราะเราใช้แค่กลางคืน ก็เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย แค่ต้องการให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น หรือถ้าไม่ใช่ laroche เราก็จะซื้อ physiogel เพราะเราขอแค่ความชุ่มชิ้นก็พอไม่ทำให้ผิวอุดตันเป็นสิว สำหรับครีมแค่นี้ก็พอสำหรับเราแล้ว
-Shiseido waso beauty sleeping mask (80 ml./1500 บาท) เราใช้แค่อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เนื้อจะเป็นเจลสีเขียว มีเม็ดบีทส์ กลิ่นแอลกอฮอล์แอบแรงเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์มันดีอะ ทาแบบหนานิดนึง แต่จะหนึบๆที่ผิวหน่อยนะส่วนตัวไม่ติด ตื่นมาคือแบบหน้าฟูอิ่มแบบขั้นสุดจริงๆ ชุ่มชื้นมากๆ
-St.Ives bright & radiance hydrating gel (45 ml./ 439฿) เนื้อเจลขุ่นๆสีชมพูอ่อน กลิ่นหอมดี เราใช้เฉพาะตอนเช้าวันที่ไม่ได้ออกจากบ้านอะ ความชุ่มชื้นกลางๆ ซึมเร็ว เรื่องกระจ่างใจก็เฉยๆ ถ้าใครอยากลองเหมือนเคยเห็นเป็นซองที่เซเว่นนะ ลองดูก่อนก็ได้เพราะกลิ่นน้ำหอมแรงอยู่
-Tomei anti acne care (5 ml./170฿) เป็นครีมแต้มสิวที่ดีจริงๆ ใช้มาเกิน 10 หลอดอะ มันช่วยให้สิวที่เหมือนกำลังจะขึ้นหายเร็วมาก ถ้ารู้สึกว่าจะขึ้นให้แต้มหน้าไว้เลย มันยุบเร็วมากอาจจะไม่ได้ข้ามขึ้น แต่มันไม่ได้อักเสบไปมากกว่าเดิม ส่วนที่ขึ้นมาแล้วก็หายไวอยู่นะ ถ้าเทียบกับตัวอื่นๆที่เคยใช้ และที่สำคัญไม่ทำให้ผิวตรงที่เป็นสิวแห้งลอกด้วย เราเลยชอบมาก แต่ถ้าหมดแล้ว เราอาจจะไปลอง DDC acne serum อันนั้นก็น่าลอง ถ้าใครลองใช้แล้วเป็นไงลองคอมเม้นมาคุยกันได้นะ
-Shiseido waso beauty sleeping mask (80 ml./1500 บาท) เราใช้แค่อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เนื้อจะเป็นเจลสีเขียว มีเม็ดบีทส์ กลิ่นแอลกอฮอล์แอบแรงเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์มันดีอะ ทาแบบหนานิดนึง แต่จะหนึบๆที่ผิวหน่อยนะส่วนตัวไม่ติด ตื่นมาคือแบบหน้าฟูอิ่มแบบขั้นสุดจริงๆ ชุ่มชื้นมากๆ
-St.Ives bright & radiance hydrating gel (45 ml./ 439฿) เนื้อเจลขุ่นๆสีชมพูอ่อน กลิ่นหอมดี เราใช้เฉพาะตอนเช้าวันที่ไม่ได้ออกจากบ้านอะ ความชุ่มชื้นกลางๆ ซึมเร็ว เรื่องกระจ่างใจก็เฉยๆ ถ้าใครอยากลองเหมือนเคยเห็นเป็นซองที่เซเว่นนะ ลองดูก่อนก็ได้เพราะกลิ่นน้ำหอมแรงอยู่
-Tomei anti acne care (5 ml./170฿) เป็นครีมแต้มสิวที่ดีจริงๆ ใช้มาเกิน 10 หลอดอะ มันช่วยให้สิวที่เหมือนกำลังจะขึ้นหายเร็วมาก ถ้ารู้สึกว่าจะขึ้นให้แต้มหน้าไว้เลย มันยุบเร็วมากอาจจะไม่ได้ข้ามขึ้น แต่มันไม่ได้อักเสบไปมากกว่าเดิม ส่วนที่ขึ้นมาแล้วก็หายไวอยู่นะ ถ้าเทียบกับตัวอื่นๆที่เคยใช้ และที่สำคัญไม่ทำให้ผิวตรงที่เป็นสิวแห้งลอกด้วย เราเลยชอบมาก แต่ถ้าหมดแล้ว เราอาจจะไปลอง DDC acne serum อันนั้นก็น่าลอง ถ้าใครลองใช้แล้วเป็นไงลองคอมเม้นมาคุยกันได้นะ
-Physiogel daile defence uv protection spf 50+ (60 ml.890฿) เป็นกันแดดที่เราชอบมาก ตอนเช้าเราจะใช้ lotion+effaclar duo แล้วทากันแดดเลย เนื้อจะเป็นครีมสีขาว เหลวนิดนึง ทาแรกๆหน้าจะขาวหน่อยนะ แต่รอสักแปปมันก็ซึม กันแดดได้ดีในชีวิตประจำวันทั่วไป แต่ถ้าออกแดดจัดๆ ก็ทามากกว่าปกติมันก็จะเหนียวนิดนึง แต่ก็ไม่ได้รำคาญหรืออะไร ให้ความชุ่มชื้นดี แต่ถ้าใครผิวมันละไม่ชอบให้หน้ามันๆอาจจะไม่ชอบนะ และก็พอตกบ่ายก็แอบเป็นคราบนิดๆตามร่องได้บ้าง แต่เอานิ้วเกลี่ยก็หาย แต่ส่วนตัวเฉยๆไม่ได้ซีเรียสเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แค่เอามือลูบๆก็ปกติ นี่ก็หลอดที่ 3 ละ
หมวดสุดท้ายแล้วว หน้าดีแล้ว ปากก็ต้องสวย ขอเริ่มที่
-ฺBobbi brown lip balm spf 15 (15g./1000 ฿) ลิปบาล์มตัวโปรดของเรา ต่อให้ปากแห้งลอกเลือดออกแค่ไหน ขอแค่เอาเล็บควักขึ้นมาทาหนาๆ ตื่นเช้ามาเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นกับปากเราทั้งนั้น ใช้ตอนเช้าก็ดี ด้วยความที่เนื้อจะแข็งๆหน่อยนะ ต้องใช้นิ้ววนเยอะๆ ถึงจะติด แต่พอทาแล้วมันติดปากอะ อาจจะด้วยความที่เนื้อมันแข็ง ความชุ่มชื้นดีมากกก หมดแล้วก็จะซื้อ
-Laneige lip sleeping mask (20g./700 ฿ ) ตัวดังตัวเด็ดของใครหลายๆคน เราใช้แล้วมันก็ดีนะ แต่เราใช้ตอนกลางคืนอะ เราว่าเนื้อมันแอบไม่ค่อยติดปากเท่าไหร่นะ แบบมันลื่นๆอะ แต่ความชุ่มชื่นก็ดีเหมือนกัน กลิ่นดี ราคาดี แต่เราแอบชอบ Bobbi brown มากกว่านิดนึง
-Clarins lip oil สี Tangerine มั้ง ปริมาณและราคาไม่รู้ อันนี้เราได้แถมมาเหมือนกัน ทาแล้วแบบวาวเป็นลิปกลอสเลย เพราะด้วยความเป็นออยล์ด้วยแหละ ความชุ่มชื่นก็ดีนะ กลิ่นอันนี้หอม มีสีนิดนึง แต่ให้ซื้ออันใหญ่ก็ไม่อะ เพราะมันแอบหนึบๆบนปากอะ เราไม่ค่อยชอบ
-Kiehl's butterstick lip treatment spf 30สี simply rose (4g./800฿) อันนี้เราก็ชอบ เนื้อดีมากก ทาแล้วจะนุ่มๆปากไม่ค่อยหนึบ ไม่ได้วาวมาก สีสวย ธรรมชาติ ส่วนตัวเคยลอง dior lip glow อันนั้นก็ดีนะแต่เนื้อจะมีความหนัก เหนียวกว่านิดนึง แต่ก็ชุ่มชื้นกว่านิดนึง แต่ก็ถ้ามีโอกาสก็ซื้อใช้ทั้งคู่อะ 5555
-Eucerin Aquaphor soothing skin balm (7g./100 กว่าบาท) บาล์มครอบจักรวาลที่เราเชื่อว่าทุกบ้านต้องมีไม่ว่าจะยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ เนื้อจะคล้ายวาสลีน แต่ตัวนี้จะบางกว่า ไม่เหนียวหนึบ ความชุ่มชื้นดีกลางๆ เราว่าน่าจะเหมาะกับคนที่แพ้ง่ายมากๆนะ
-ฺBobbi brown lip balm spf 15 (15g./1000 ฿) ลิปบาล์มตัวโปรดของเรา ต่อให้ปากแห้งลอกเลือดออกแค่ไหน ขอแค่เอาเล็บควักขึ้นมาทาหนาๆ ตื่นเช้ามาเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นกับปากเราทั้งนั้น ใช้ตอนเช้าก็ดี ด้วยความที่เนื้อจะแข็งๆหน่อยนะ ต้องใช้นิ้ววนเยอะๆ ถึงจะติด แต่พอทาแล้วมันติดปากอะ อาจจะด้วยความที่เนื้อมันแข็ง ความชุ่มชื้นดีมากกก หมดแล้วก็จะซื้อ
-Laneige lip sleeping mask (20g./700 ฿ ) ตัวดังตัวเด็ดของใครหลายๆคน เราใช้แล้วมันก็ดีนะ แต่เราใช้ตอนกลางคืนอะ เราว่าเนื้อมันแอบไม่ค่อยติดปากเท่าไหร่นะ แบบมันลื่นๆอะ แต่ความชุ่มชื่นก็ดีเหมือนกัน กลิ่นดี ราคาดี แต่เราแอบชอบ Bobbi brown มากกว่านิดนึง
-Clarins lip oil สี Tangerine มั้ง ปริมาณและราคาไม่รู้ อันนี้เราได้แถมมาเหมือนกัน ทาแล้วแบบวาวเป็นลิปกลอสเลย เพราะด้วยความเป็นออยล์ด้วยแหละ ความชุ่มชื่นก็ดีนะ กลิ่นอันนี้หอม มีสีนิดนึง แต่ให้ซื้ออันใหญ่ก็ไม่อะ เพราะมันแอบหนึบๆบนปากอะ เราไม่ค่อยชอบ
-Kiehl's butterstick lip treatment spf 30สี simply rose (4g./800฿) อันนี้เราก็ชอบ เนื้อดีมากก ทาแล้วจะนุ่มๆปากไม่ค่อยหนึบ ไม่ได้วาวมาก สีสวย ธรรมชาติ ส่วนตัวเคยลอง dior lip glow อันนั้นก็ดีนะแต่เนื้อจะมีความหนัก เหนียวกว่านิดนึง แต่ก็ชุ่มชื้นกว่านิดนึง แต่ก็ถ้ามีโอกาสก็ซื้อใช้ทั้งคู่อะ 5555
-Eucerin Aquaphor soothing skin balm (7g./100 กว่าบาท) บาล์มครอบจักรวาลที่เราเชื่อว่าทุกบ้านต้องมีไม่ว่าจะยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ เนื้อจะคล้ายวาสลีน แต่ตัวนี้จะบางกว่า ไม่เหนียวหนึบ ความชุ่มชื้นดีกลางๆ เราว่าน่าจะเหมาะกับคนที่แพ้ง่ายมากๆนะ