5 เหตุผลที่แพรและคุณแม่ขอชูป้ายไฟใ้ห้กับ Lhamour
theplair 61 15หากถามถึงสกินแคร์ที่ชอบและใช้ซ้ำบ่อยมาก
แบบว่าขึ้นกระปุกที่ 3-4 ก็คงไม่พ้น Lhamour แบรนด์สกินแคร์จากมองโกเลีย
ที่เน้นน้ำมันซีบัคธอร์นที่ออแกนิกเป็นมิตรต่อผิว
และที่สำคัญคือมันเห็นผลและความแตกต่างได้ชัดเจนได้อย่างน่าประทับใจ
ซึ่งแพรกับคุณแม่เป็นเอฟซี แบรนด์นี้แบบเทใจไปเต็มๆ
เพราะอะไรแพรก็สรุปมา 5 ข้อง่ายๆ เลย
นอกจากนี้ยังเป็นแฮนด์เมดอีกต่างหาก ที่คัดสรรส่วนผสมชั้นเริ่ด
ดีต่อผิวพรรณและต่อจิตใจ ไม่ว่าจะเป็น ซีบัคธอร์น ที่เติบโตได้ดีในสภาพหนาวจัด
เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีสูง
มีโอเมก้า 3 6 7 9 ออร์แกนิก 100% ด้วย
2. ได้ผลจริง เหมาะกับทุกสภาพผิว
เคยเครียดเพราะมีแผลเป็น รอยดำ ที่มุมปากจากการโดนน้ำมันกระเด็น
คันจากอาการแพ้น้ำทะเล จนมีเป็นตุ่มคัน เกาเป็นแผลและมีน้ำเหลืองไหลหลายวัน พอได้ Rose Hip Face Oil ทาหน้ารอยแผลเป็นจางหายใน 2 เดือน
Body Butter สยบอาการระคายเคืองต่างๆ ปลอบประโลมผิวได้ในชั่วคืน
แม่เราผิวแห้งมีริ้วรอยยิ่งเลิฟเข้าไปใหญ่
ไม่ได้โม้เราทดลองแล้วจริงๆ ไปอ่านต่อแบบเต็มๆ ได้ที่ https://www.jeban.com/topic/280487
เอาจริงเหมือนยกสปามาไว้ที่บ้านเลย
ไม่ว่าจะทั้ง Anti-Pollution Face Oil , Body Butter และ Body Oil
จะมีกลิ่นตะไคร้ธรรมชาติที่ไม่โป๊ะไม่ปลอม มาจากส่วนผสมของเขาจริงๆ
โดยไม่ได้ใส่น้ำหอม กลิ่นดีก็ช่วยปรับอารมณ์ตอนเย็นให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว
4. Reusable - ออยล์ขวดเก่าอย่าทิ้ง
ข้อนี้ดีมากเลยค่ะ เพราะเราสามารถเอาบรรจุภัณฑ์ที่เราใช้หมดแล้ว
ไม่จำเป็นต้องเป็นของแบรนด์เขานะคะ
มาเติมที่ LHAMOUR Corner โซน Ecotopia ชั้น 4 ศูนย์การค้า Siam Discovery
ซึ่งจะเติมทั้ง Face oil สองสูตร และ Body Oil อีก 3 สูตรได้เลย
เซฟถึง 20% ต่อ 1 มล. เมื่อเทียบกับซื้อเป็นขวดปกติ
หรือใครอยากลองเทสก่อนก็ไปแวะไปเติมนิดหน่อยก็ได้
พอได้เต็มแล้วมันรู้สึกดีจริงๆ
ที่ไม่ต้องทิ้งแพ็กเกจสกินแคร์ตัวโปรดของเราให้เป็นขยะด้วย
ถ้าให้เลือกเพียง 1 ชิ้นนะคะ แพรขอเลือก face oil เลยสูตรอะไรก็ได้
ที่นอกจากทาหน้าได้แล้ว ยังผสมโลชั่นทาตัวได้เหมือนกัน
หรือทาเพียวๆ ตรงจุดที่เสียดสีบ่อย เช่นขาหนีบ ข้อพับก็ช่วยได้เยอะเช่นกัน
แต่ที่ทำประจำเลยคือหลังจากทาที่หน้าแล้ว
แพรจะใช้มือที่มีน้ำมันติดอยู่ลูบที่ปลายผมเลย เลิฟจริงๆ