สิ่งที่เราคาดหวังจะได้เห็นจากวงการบันเทิงในปี2020

48 7


Rihanna จะขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีพันล้านหรือไม่ ? แล้วพวกเราจะได้เห็นผลงานเพลงของเธอในปีนี้รึเปล่า !?



ดังที่ทราบกันว่า Riri ประสบความสำเร็จล้นหลามทั้งในฐานะศิลปินและนักธุรกิจหญิง    แต่ในปีหลังๆมานี้  ภาพความเป็นนักธรกิจได้เปล่งประกายเจิดจ้าไม่หยุดยั้งจนแฟนๆทวงถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า  "  อัลบ้มใหม่อนู่ไหรจ๊ะ ?"


Forbes รายงานว่า ตั้งแต่Riri สร้างอาณาจักร Fenty จนกล้าแกร่งกอบโกยรายได้มหาศาลในเวลาไม่นาน ทรัพย์สินของเธอก็พุ่งพรวดขึ้นมาเป็น 600 ล้านเหรียญ เจ้าตัวได้ให้ประกาศกับ The New York Time Style Magazine   ไว้ว่า

"ชั้นไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะทำเงินได้มากขนาดนี้   ดังนั้นจำนวนตัวเลขไม่ได้มีผลอะไรให้ชั้นหยุดทำงานไปได้หรอกค่ะ      ในตอนนี้ชั้นกำลังทุ่มเททำงานเพื่อสิ่งที่ชั้นชื่นชอบและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น" 

ในปี 2019   Riri ถูกยกให้เป็นศิลปินหญิงที่รวยที่สุด  เธอแซงหน้า Madonna     Céline Dion  และ Beyonce    และได้บรรยายถึงคุณค่าของเงินว่า


" การมีเงินนั้นหมายความว่า ชั้นสามารถดูแลครอบครัวได้ และยังช่วยเสริมการต่อยอดธุรกิจที่ชั้นอยากจะทำด้วย และมันยังมีความหมายต่อการสร้างงานให้กับคนอื่นๆ เงินของชั้นไม่ได้มีไว้เพื่อชั้นค่ะ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ชั้นได้ช่วยเหลือผู้อื่นน่ะ"


คุณคงได้เห็นภาพของ Riri ที่กุมบังเหียนธูรกิจแบบคลุกวงใน เราไม่ได้เห็นภาพสวยๆจาก Fenty ในโฆษณาและ social media เท่านั้น แต่ตัวเจ้าของแบรนด์บินไปทั่วโลกเพื่อสาธิตสินค้าให้ลูกค้ากรี๊ดกร๊าดด้วยตัวเอง และยังมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่เธอยืนยันว่า "ปั้นมากับมือ"

แต่ก็นั่นแหละ เธอต้องทุ่มเวลาและแรงกายแรงใจให้กับธุรกิจเต็มที่ขนาดนี้ คุณอาจจะไขว้เขวว่า เอ๊ะ หรือปี 2020 ก็ยังต้องรออัลบั้มใหม่ต่อไปอีกเรื่อยๆ การสร้างสรรค์ศิลปะมันต้องใช้เวลาพอสมควร พอมีงานเพลงก็ต้องโพรโมทและออกทัวร์ และยังต้องดูแล Fenty ไปด้วย ลองจินตนาการดูแล้ว ถ้าเธอต้องไปทัวร์ต่างประเทศ จะพอมีเวลาเหลือไปปัดบรอนเซอร์ให้แฟนๆด้วยรึเปล่า ??








ทิศทางในเรื่อง mental health ของศิลปินคนดังเกาหลีใต้ จะเป็นอย่างไร 

ข่าวความสูญเสียจากวงการบันเทิงเกาหลีทำให้หลายคนต้องจิตตกและประหวั่นพรั่นพรึ่งที่จะได้ยินเรื่องเศร้าเหล่านี้ซ้ำอีก   แต่ยิ่งถกเถียงกันเท่าไรก็ยังไม่มีมาตรการจัดการกับเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม    ต้นสังกัดอาจจะตามฟ้องพวกที่ทำร้ายศิลปินด้วยคำพูดร้ายกาจ  แต่มันก็เหมือนกับความพยายามเก็บเศษขยะในท้องทะเล    ทำมากเท่าไรก็ไม่หมดไปสักที    ยิ่งนานวันก็ยิ่งส่งผลเสีย    คำถามที่เราอยากจะได้ยินคำตอบจริงๆก็คือ  จะมีผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องและคนในสังคมร่วมมือกันเพื่อเหลือ  -  ป้องกัน  - แก้ไขตั้งแต่รากปัญหานี้หรือไม่


กลายเป็นว่า แฟนๆของศิลปินเกาหลีมีความวิตกกังวลและหวาดระแวงมาก  เพราะไอดอลหลายคนเคยแสดงท่าทางให้เห็นอย่างชัดเจนว่า "ไม่โอเค"  พวกเค้าเป็นลมระหว่างแสดง  มีสีหน้าที่ดูเลื่อนลอยเหนื่อยล้าจากชีวิตการทำงานที่กดดัน    แม้จะมีการเปิดเผยด้านมืดของอุตสาหกรรมบันเทิงอันนี้ออกมา  แต่ก็ดูเหมือนว่านายทุนจะยังไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพทั้งทางจิตใจและร่างกายของศิลปิน   ตัวแฟนคลับเองจึงต้องระดมเสียงเพื่อเรียกร้องให้ต้นสังกัดปฏิบัติกับหนุ่มสาวคนดังเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น    ยกตัวอย่าง Blinks  ที่ต้องการให้ YG ให้ความเป็นธรรมกับสาวๆ  BLACKPINK



การเปิดใจรับ Diversity - Inclusivity ใน Hollywood



ความสำเร็จของผลงานที่คัดสรรนักแสดงหลากหลายเชื้อชาติตลอกปีที่แล้วก็ทำให้หลายฝ่ายมั่นใจมากขึ้นว่า   แนวคิดเดิมๆที่เลื่อกันว่า "ผิวขาวเท่านั้นที่จะดึงดูดยอดขายได้"  ได้ล้าหลังไปแล้ว



แต่กระนั้น  เส้นทางสู่การยอมรับก็ยังมีอุปสรรค     คนบันเทิงที่ไมไ่ด้มีผิวขาวได้ยอมรับว่า  ต้องดิ้นรนเพื่อจะได้รับโอกาส  และตัวเลือกของพวกเค้าถูกบีบให้แคบจนยากที่มองเห็นหนทางก้าวหน้าในวงการได้
Mena Massoud  พระเอกดาวรุ่งจาก  Aladdin หนัง Disney พันล้านได้ยอมรับว่า  ไม่มีใครเรียกให้เขาไปauditionบทหนังเลย 

"ผมไม่อยากจะปิดปากเงียบในเรื่องนี้ต่อไปแล้วครับ ผมอยากจะให้ทุกคนได้รู้ว่า เรื่องราวมันไมไ่ด้สวยงามเสมอไป ถึงผมจะแสดงAladdin คนอาจจะคิดว่าผมทำเงินได้เป็นล้าน ผมคงได้รับข้อเสนอต่างๆ แต่ไมันไม่มีอะไรแบบนั้นเเกิดขึ้น ผมไมได้ audition บทหนังเลยตั้งแต่จบเรื่องAladdin"

พระเอกหนุ่มเชื้อสายอียิปต์เปิดใจว่า เขาไม่ได้คาดหวังสิ่งที่ยิ่งใหญ่อ่างการได้บท Batman แต่อย่างน้อยก็คิดว่าน่าจะมีการติดต่อให้ทดสอบหน้ากล้องบ้าง "พวกคุณจะให้โอกาสผมบ้างไม่ได้เหรอครับ" เขาโอดครวญ


Dev Patel  พระเอกหนุ่มอังกฤษเชื้อสายอินเดียที่เป็นแรงบันดาลใจของนักแสดงPOC รุ่นใหม่   เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์และขึ้นแท่นเป็นนักแสดงคุณภาพจากหลากหลายบทบาท



หลังจาก Kumail Nanjiani รับบทเล็กๆในหนังเรื่องต่างๆมานานหลายปี   เขาสร้างชื่อเสียงได้สำเร็จจากการเขียนบทและแสดงนำใน The Big Sick หนังรักที่ซาบซึ้งคมคายที่เข้าชิงรางวัล Oscar และทำกำไรได้สวยงามแม้จะเป็นหนังอินดี้ฟอร์มเล็ก    เราเชื่อว่า ในอดีต หลายคนอาจจะไม่จินตนาการถึงพระเอกเชื้อสายปากีสถานเล่นหนังรัก Hollywood     แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้ผู้คนได้อิงกับความจริงมากขึ้น     เราเห็นคู่รักที่มีเชื้อชาติผสมผสานไปทุกหนทุกแห่ง   คงไม่มีเหตุผลใดที่ Hollywood  จะนำเสนอแต่เรื่องราวของเรื่องราวความรักของ race เดียวกัน  แต่มีความหลากหลายเพิ่มเข้ามาเหมือนกับในชีวิตจริง
ไม่นานมานี้ Kumail  ทำ internet ร้องฮือจากภาพกล้ามเป็นมัดๆที่เค้าเฝ้าทุ่มเท training  เพื่อรับบทหนึ่งในทีม superhero จากการทุ่มทุนสร้างของ Marvel   และได้แสดงร่วมกับนักแสดง A List อย่าง Angelina Jolie  Salma Hayek    รวมไปถึงดาวดังจาก Game Of Thrones     ทั้ง Richard Madden   และ Kit Harington      ในปีนี้ หลายคนน่าจะตื่นเต้นที่ได้เห็น hero ที่มีเชื้อสายเอเชียน  รวมไปถึงบทบาทในหนังดังในแนวอื่นๆเช่นกัน


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE